People Unity News : “เฉลิมชัย” รับมือผลกระทบโควิด 19 เดินหน้า 2 โครงการ ออนไลน์มาร์เก็ตติ้งก์ เปิด “ตลาดเกษตรกร” บนแพลตฟอร์มแกร็บ จับมือค่ายยักษ์ใหญ่อาลีบาบาลุยโครงการ “เกษตรไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลก”
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายใต้การดำเนินงานของคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน E-Commerce ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร 4.0 เล็งเห็นถึงความสำคัญของแพลตฟอร์มดิจิทัล ว่า มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยเพิ่มช่องทางการกระจายผลผลิตให้เกษตรกรโดยใช้แพลตฟอร์มออนไลน์มาร์เก็ตติ้งก์ (Online Marketing) จึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรในภาคเอกชนและภาครัฐ โดยล่าสุดได้พัฒนาความร่วมมือกับ บริษัทแกร็บ ประเทศไทย (GRAB Thailand) ในการเพิ่มช่องทางการค้าขายออนไลน์ตามนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศ (Eat Thai First) ด้วยโครงการเปิด “ตลาดเกษตรกร (Farmer Mart)” บนแพลตฟอร์มแกร็บ (GRAB Platform) เป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน และอีกโปรเจ็กต์หนึ่งคือโครงการ “เกษตรไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลก” โดยความร่วมมือกับ บริษัท อาลีบาบา (Alibaba) เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเกษตร สถาบันเกษตรและเกษตรกรให้สามารถทำธุรกิจขายสินค้าเกษตรของไทยสู่ตลาดต่างประเทศบนแพลตฟอร์มอาลีบาบา
ด้าน ดร. เก่งการ เหล่าวิโรจนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “แกร็บ ประเทศไทย ขอเป็นอีกหนึ่งช่องทางการขายสินค้าเกษตร และจัดส่งผลไม้โดยตรงจากเกษตรกรสู่ผู้บริโภคโดยตรง ผ่านบริการ GrabMart ภายใต้ชื่อ “Farmers Market (ตลาดเกษตรกร)” ในแอปพลิเคชัน แกร็บ โดยได้เริ่มเปิดให้บริการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเริ่มเปิดตัวด้วยผลไม้ 5 ชนิด จาก 3 จังหวัด ได้แก่ มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง จากสหกรณ์การเกษตรบ้านร่องส้าน จังหวัดพะเยา ลิ้นจี่ฮงฮวยและลิ้นจี่จักรพรรดิ์ จากกลุ่มเกษตรทำสวนลิ้นจี่แม่สุก จังหวัดพะเยา มังคุดและทุเรียน จากสหกรณ์นิคมวังไทร จังหวัดระยอง และกล้วยหอมทอง จากสหกรณ์การเกษตรบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี โดยเริ่มนำร่องวางจำหน่ายในเฟสแรก ณ 2 จุดหลักได้แก่ ตลาด อ.ต.ก. และบองมาร์เช่ มาร์เก็ตพาร์ค และมีแผนจะขยายการจำหน่ายไปยังแหล่งกระจายสินค้าหลักทั่วกรุงเทพฯ และจะเพิ่มจำนวนผลไม้ เพิ่มจำนวนแหล่งผลิต และจะเพิ่มจุดให้บริการ ภายใน 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ ขอขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ได้มีนโยบายนำเทคโนโลยีมาช่วยเหลือเกษตรกรในการกระจายผลไม้และผลิตภัณฑ์อื่นๆของเกษตรกรสู่มือผู้บริโภคได้ทั่วประเทศ โดยถือเป็นความร่วมมือกันในการส่งผลไม้เป็นครั้งแรก และในอนาคตยินดีร่วมมือช่วยเหลือเกษตรกรไทยต่อไป” ดร. เก่งการ กล่าว
นอกจากนี้ นายศตพล จันทร์ณรงค์ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน E-Commerce ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “กระทรวงเกษตรฯ ยังได้ร่วมมือกับ Alibaba จัดทำโครงการ “เกษตรไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลกด้วย Alibaba.com” โดยโครงการดังกล่าวมุ่งสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มศักยภาพด้านการค้าออนไลน์ การค้าระหว่างประเทศ เพื่อเข้าถึงตลาดโลกผ่านแพลตฟอร์มอาลีบาบา ที่มีผู้ซื้อมากกว่า 260 ล้านคน จาก 190 ประเทศทั่วโลก ซึ่งโครงการนี้เปิดโอกาสให้สำหรับเกษตรกร กลุ่มสหกรณ์ และผู้ที่สนใจ สมัครเข้าร่วมโครงการ โดยผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับทุกองค์ความรู้เริ่มจากการวิเคราะห์โอกาสขายสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลก การใช้แพลตฟอร์มอาลีบาบา เพื่อเข้ากลุ่มผู้ซื้อในระดับ Global นอกจากนี้ยังได้รับคำปรึกษาด้านการจดทะเบียนสำหรับประกอบกิจการการค้าระหว่างประเทศ (incoterms) ช่องทางการชำระเงิน และระบบ Logistic โดยสอนผ่านสื่อออนไลน์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ มีผู้ประกอบการในประเทศไทยหลายรายที่ประสบความสำเร็จ จากการใช้แพลตฟอร์มอาลีบาบาเป็นช่องทางการขายสินค้าไทยไปยังตลาดโลก โดยกว่าครึ่งเป็นสินค้าเกษตรไทย อาทิ มันสำปะหลัง ข้าว กระเทียมดำ สับปะรด ข้าวโพด รวมทั้งสินค้าทางการเกษตรแปรรูป เช่น กระเทียมดำ น้ำตาล เป็นต้น คาดว่าโครงการนี้จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการโดยเฉพาะเกษตรกรไทยมีความเข้มแข็งและมีความพร้อม เพื่อก้าวสู่ตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน” นายศตพล กล่าว
ทั้งนี้ นางสาวสิรินันท์ ทองเพ็ญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอเจ อีคอมเมิร์ซ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทน อาลีบาบา ในประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการเกษตรไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลกด้วย Alibaba.com” มุ่งเน้นเสริมความแข็งแกร่ง เสริมสร้างศักยภาพให้เกษตรกรไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลกด้วยแพลตฟอร์มอาลีบาบา ซึ่งได้เล็งเห็นความสำคัญว่าเกษตรกรสามารถจำหน่ายสินค้าไปยังผู้ซื้อได้โดยตรงโดยใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ จะมีการสอนให้เกษตรกรรู้จักแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สามารถโชว์สินค้าของไทยไปทั่วโลก รู้เทคนิควิธีการโพสต์สินค้า จะทำอย่างไรให้ลูกค้าทั่วโลกเห็นสินค้าของเรา นอกจากนี้จะสอนวิธีการพูดคุย เจรจาในด้านธุรกิจ การต่อรองราคา ก็จะมีเทคนิควิธีการทั้งเรื่องของภาษา การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ การชำระเงินระหว่างประเทศ โดยจะสอนและให้ความรู้แก่เกษตรกรแบบครบวงจร ซึ่งก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้เกษตรกรจะมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับแพลตฟอร์มอาลีบาบา ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ระดับโลก และสามารถใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ บนแพลตฟอร์มอาลีบาบาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ