People Unity News : 16 สิงหาคม 2566 ทำเนียบรัฐบาล-“พล.อ.ประวิตร” ประชุม กอนช. สั่งเตรียมรับมือผลกระทบจากสภาวะ “เอลนีโญ” เพิ่มมาตรการลดเสี่ยงพื้นที่ขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค พร้อมรณรงค์ทุกภาคส่วน ใช้น้ำประหยัดคุ้มค่า
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ครั้งที่ 2/2566 ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยที่ประชุมรับทราบสถานการณ์จากอิทธิพลของปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ที่กำลังประสบปัญหาเป็นอย่างมาก สืบเนื่องจากปริมาณฝนที่ตกน้อยในหลายพื้นที่ และแหล่งน้ำมีปริมาณน้ำจำกัดโดยเฉพาะน้ำอุปโภคบริโภค แม้ว่าปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการตาม “12 มาตรการรับมือฤดูฝน” อย่างต่อเนื่องและเต็มที่ จึงยังคงต้องเฝ้าระวังพื้นที่ที่มีความเสี่ยงขาดแคลนน้ำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบและก่อให้เกิดปัญหาภัยแล้งอย่างรุนแรงได้ และขณะเดียวกันปรากฏการณ์เอ็นโซ่ (ENSO) อยู่ในสภาวะเอลนีโญ และจะมีแนวโน้มที่มีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.66 ทำให้ประเทศไทยช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.66 จะมีปริมาณฝนต่ำกว่าปกติ
จากนั้น ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาเห็นชอบร่างมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 เพิ่มเติมเพื่อรองรับสถานการณ์ ”เอลนีโญ” ซึ่งประกอบด้วย 3 มาตรการที่สำคัญ ได้แก่มาตรการที่ 1)การจัดสรรน้ำให้เป็นไปตามลำดับความสำคัญที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด เกี่ยวกับการวางแผนการระบายน้ำ มาตรการที่ 2) ให้ควบคุมการเพาะปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง (ตลอดช่วงฤดูฝน) และให้มีการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกร และมาตรการที่ 3) ให้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ (ตลอดช่วงฤดูฝน) ได้แก่การใช้น้ำภาคการเกษตร เช่น การปลูกพืชใช้น้ำน้อย การปรับปรุงระบบการให้น้ำพืช และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการน้ำ เป็นต้น รวมถึงการประหยัดน้ำของทุกภาคส่วน ส่งเสริมให้โรงงานอุตสาหกรรมใช้ระบบ 3R เพื่อลดการใช้น้ำจากแหล่งต่างๆ และการลดการสูญเสียน้ำในระบบประปา และระบบชลประทาน ด้วย
พล.อ.ประวิตร กำชับ สทนช.และหน่วยงานต่าง ๆ เร่งประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจให้ประชาชน รับทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างทั่วถึง ทันเวลา เพื่อเตรียมความพร้อมและจัดลำดับความสำคัญในการใช้น้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค อย่างเพียงพอของประชาชนเป็นอันดับแรก น้ำที่เหลือจึงใช้เพื่อการอื่นๆ รวมถึงพื้นที่ EEC ที่มีความสำคัญด้วยต่อไป พร้อมรณรงค์ขอให้ประชาชน เกษตรกรและทุกภาคส่วนร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด และคุ้มค่าในโอกาสนี้ด้วย
Advertisement