People Unity News : รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ราชบุรีมอบเงินเยียวยาเหยื่อคดีอาญา พร้อมเปิดคลินิกให้ความรู้ปชช. เผยสำนวนคดี “บิลลี่” เสร็จก่อนกำหนด 20 วัน ส่งศาลแล้วขอรอฟังอย่างเป็นทางการ พร้อมให้”รองกรวัชร์”คุมคดีต่อหาก กม. ให้ทำได้
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ที่วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายวิวัฒน์ นิติกาญจนา ที่ปรึกษารมว.ยุตธรรม และคณะได้ลงพื้นที่จ.ราชบุรี เปิดโครงการยุติธรรมสร้างสุข ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 2563 โดยนายสมศักดิ์ ได้ปฐากถาพิเศษหัวข้อ “ยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน” และมอบเงินเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา จากนั้นได้ไปตรวจเยี่ยม เรือนจำกลางเขาบิน และศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชน เขต 2 อ.เมือง จ.ราชบุรี
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงการลงพื้นที่จ.ราชบุรี ว่า กระทรวงยุติธรรมได้มาพบปะและเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา มอบเงินช่วยเหลือเป็นค่าทดแทนและค่าเสียหายกับจำเลยในคดีอาญาและผู้ด้อยโอกาสหรือคนจนที่อยากให้ช่วยในเรื่องของคดีความ เช่น การหาทนาย เงินค่าประกันตัว ตลอดจนคนที่ต้องการได้ความรู้ในเรื่องของกฎหมายต่างๆ เราได้เปิดคลีนิกและบูธ ในชื่อ ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข รวมทั้งเรื่องไกล่เกลี่ยข้อพิพาทหลังศาลมีคำสั่งแล้ว มีหลายคดีที่มาไกล่เกลี่ย นอกจากนี้ยังมีการมอบประกาศนียบัตร หลักสูตร อบรมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามพ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 จำนวน 100 ราย ซึ่งเราได้รับฟังข้อร้องเรียนและปัญหาต่างๆจากประชาชน และจำนำไปประมวลผลเพื่อช่วยเหลือและแก้ไขต่อไป
เมื่อถามถึงคดีของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกระเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้พาภรรยานายบิลลี่มาร้องเรียน พบปะและพูดคุยและขอร้องให้ช่วยดำเนินการ โดยเฉพาะประเด็นนที่ อยากให้ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดูแลคดีนี้ต่อไป ตนได้บอกว่า คดีนี้พ.ต.ท.กรวัชร์ ขอเวลา 3 เดือน กำหนดวันสุดท้ายคือ 2 ธ.ค. 2562 และวันนี้ได้ยินว่า สำนวนได้ส่งไปที่ศาลแล้วเมื่อเช้า จึงถือว่า พ.ต.ท.กรวัชร์ ได้ทำงภารกิจจบแล้วตามที่ได้รับปากไว้กับประชาชน ส่วนรายละเอียดของสำนวนตนยังไม่ทราบ ว่าจะมีหมายจับ หมายค้นอย่างไร ขอให้รอฟังคำสังศาลอย่างเป็นทางการ คดีนี้เป็นคดีใหญ่ที่ทุกคนสนใจและรอฟัง ศาลคงใช้เวลาพิจารณาเราไม่ทราบว่าจะเวลาขนาดไหน นอกจากนี้นี้ พ.ต.ท.กรวัชร์ ยังดูแลคดีนี้อยู่ เพราะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาในคดีมาตั้งแต่แรก และขณะนี้พ.ต.ท.กรวัชร์ยังมีตำแหน่งเป็นรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อได้รับการโปรดเกล้าฯ จึงจะขาดจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในช่วงนี้จึงยังดูแลคดีอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้สบายใจได้
“ผมได้บอกกับภรรยานายบิลลี่ไปว่า หากพ.ต.ท.กรวัชร์ ย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ ถ้ากฎหมายให้สามารถมาดูแลคดีนี้ต่อไปได้ จะดำเนินการให้ แต่ตนไม่แน่ใจว่าตามกฎหมายทำได้หรือไม่ เพราะไปเป็นผู้ตรวจ ต้องพ้นจากกรมไปแล้ว”
เมื่อถามว่า คดีนี้ถือว่าจบก่อนกำหนด นายสมศักดิ์ กล่าว่า ถือว่าเร็วกว่ากำหนดถึง 20 วัน ทำให้เราสามารถตอบคำถามของครอบครัวนายบิลลี่และความห่วงกังวลของผู้คนได้ทั้งหมด ตนต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันทำงานจนประสบผลสำเร็จ ส่วนศาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไปคงต้องรอติดตามกัน เชื่อว่าอีกไม่นานคดีนี้จะได้ข้อยุติ
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทางคณะผู้เข้าพบ ยังขอให้เร่งรัดกฎหมายอุ้มฆ่า ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของสภาแล้ว แต่เขากังวลเพราะได้ยินว่ามีเงื่อนไขของข้อเท็จจริงบางประการที่ต้องปรับปรุงและศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ทำให้กลัวว่ากฎหมายจะออกมาล้าช้าเกินไป ตนได้รับปากว่าจะทำให้ประหยัดเวลามากที่สุด ไม่ต้องห่วงว่าจะช้า จะทำให้เร็วที่สุดตามที่กฎหมายจะเอื้ออำนวย ขอให้ไม่ต้องกังวล
ทั้งนี้นายสุรพงษ์ กองจันทึก ทนายความ ในฐานะประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม นำน.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยานายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำกระเหรี่ยงบ้านโป่ง-บางกลอย เข้าพบยื่นหนังสือต่อนายสมศักดิ์หลังดีเอสไอขอศาลออกหมายจับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กับพวกรวม 4 ราย เพื่อขอให้ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับผิดชอบสอบสวนคดีฆาตกรรมนายบิลลี่ต่อ พร้อมเร่งรัดให้ออกพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราบการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย และออกมาตรการในการคุ้มครองปกป้องนักสิทธิมนุษยชน
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตนขอให้รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมเร่งดำเนินการใน 3 ประเด็น คือ ขอให้แต่งตั้งหรือมอบหมายให้พ.ต.ท.กรวัชร์ เป็นหัวหน้าชุดสอบสวนหรือเป็นผู้รับผิดชอบทำคดีฆาตกรรมนายบิลลี่ต่อไป แม้ผู้ที่รับช่วงต่อจะมีความสามารถแต่ไม่เคยทำคดีนี้มาก่อนต้องใช้เวลาศึกษา อาจทำให้คดีเกิดความล่าช้าไม่ต่อเนื่อง, ขอให้นำร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย เข้าสู่การประชุมของสภาผู้แทนราษฎร พร้อมให้เร่งตราเป็นกฎหมายโดยเร็ว และขอให้มีมาตรการป้องกันและคุ้มครองนักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชน โดยจัดทำข้อมูล white list เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยดูแล เนื่องจากก่อนหน้านี้กรมคุ้มครองสิทธิ์และเสรีภาพเคยยกร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว แต่หลังจากมีการเปลี่ยนอธิบดีคนใหม่เรื่องก็เงียบหายไปจึงอยากให้เร่งดำเนินการ
นายสุรพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ดีเอสไอขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมนายบิลลี่ว่า ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับยังไม่ใช่ผู้ที่กระทำความผิด เพียงแต่เป็นผู้ที่เจ้าหน้าที่มีข้อมูลที่สงสัยก็ต้องเปิดโอกาสให้เข้าชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
ด้านน.ส.พิณนภา กล่าวว่า ดีใจที่พ.ต.ท.กรวัชร์ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น แต่ชาวบ้านบางกลอยต้องการให้พ.ต.ท.กรวัชร์ทำคดีฆาตกรรมนายบิลลี่ต่อจนจบ จึงต้องการให้รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมมีคำสั่งให้พ.ต.ท.กรวัชร์ รับผิดชอบคดีดังกล่าวจนกว่าคดีความจะถึงที่สุด สำหรับตนหลังจากทราบว่าผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมนายบิลลี่ ดีเอสไอร้องขอให้ศาลอนุมัติหมายจับก็ไม่ได้ติดใจอะไร อยากให้เขารับสารภาพและออกมาขอโทษสังคม กล้ารับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป เพราะเรื่องนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับใคร หากเกิดกับครอบครัวของผู้ต้องหาเองจะรู้สึกอย่างไร คนที่กล้าทำความผิดก็ควรกล้าออกมายอมรับความผิดที่ตนเองทำ
“อยู่ในหมู่บ้านบางครั้งก็กลัว บางครั้งก็ไม่กลัว เมื่อชาวบ้านถามว่าออกมาเรียกร้องสิทธิให้บิลลี่ไม่กลัวถูกอุ้มหายหรือ ถูกถามแบบนี้ก็รู้สึกกลัว แต่ตอนนี้คดีมีความคืบหน้าก็ไม่กลัวแล้ว และดีใจที่ดีเอสไอทำให้คดีมีความคืบหน้า แตกต่างจากความรู้เมื่อก่อนที่ไม่มีความหมายอะไรเลย ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับศาลว่าจะอนุมัติหมายจับหรือไม่ และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็เชื่อในเรื่องของกฎแห่งกรรม” น.ส.พิณนภา กล่าว
“บิ๊กตู่”เผยได้รับรายงานออกหมายจับ”ชัยวัฒน์”แล้ว
ที่ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลั๊ก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขออนุมัติหมายจับกุม นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และพวก รวม 4 ราย คดีฆาตกรรม นายพอละจี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ได้รับรายงานแล้ว เรื่องคดีก็ว่ากันไป”