วันที่ 30 พฤศจิกายน 2024

“อุเทน”เปิดตัวแล้ว! ลงชิงผู้ว่าฯกทม. ชูนโยบาย “จากนี้กทม.รถต้องไม่ติด ทุจริตต้องหมดไป”

People Unity News : “อุเทน”เปิดตัวแล้ว! ลงชิงผู้ว่าฯกทม. ชูนโยบาย “จากนี้กทม.รถต้องไม่ติด ทุจริตต้องหมดไป” ขอโอกาสทำงาน 500 วัน ลั่นทำไม่ได้พร้อมออกทันที ปลุกคนกรุงอย่าก้มหัวให้ความไม่ถูกต้อง พร้อมยกระดับการศึกษาการเรียนการสอนแบบอินเตอร์แต่เรียนฟรีและเท่าเทียม อาสาปราบหนูตามท่อระบายน้ำ เปลี่ยนต้นใบร่วงออก ลดปัญหาน้ำรอการระบาย

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ที่สโมสรหมู่บ้าน พาลาซโซ่ นายอุเทน ชาติภิญโญ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. แถลงข่าวเปิดตัวลงสมัครผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ก่อนจะแถลงข่าวนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ และน.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์เดินทางมามอบกระเช้าดอกไม้ให้กำลังใจ

จากนั้นนายอุเทน แถลงว่า เหตุที่เสนอตัวขอลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในนามอิสระ เนื่องจากเมื่อเดินออกจากนอกบ้าน แล้วเห็นถึงความไม่เป็นระเบียบ ปัญหาต่างๆ แล้วอยากจะเข้าไปแก้ไข คำว่า กลัว ผมรู้จักความหมาย แต่ไม่กลัวที่จะแก้ปัญหา เพราะเป็นคนเอาจริงกัดไม่ปล่อย เป็นเหมือนมดแดงแม้ถูกเด็ดหาง แต่ปากก็ยังกัดได้อยู่ คนที่รู้จักตน จะทราบดี รวมทั้งรู้จักคนจากหลายพรรคการเมือง มีเพื่อนทุกวงการ มีแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาในกทม. ไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ปัญหาขยะ เรื่องรถติดโดยจะลดจำนวนป้ายรถเมล์ลงเนื่องจากมีจำนวนมากเกินไป และลดจุดกลับรถเพราะทำให้รถชะลอตัวและเกิดอุบัติเหตุส่วนรถที่จะเลี้ยวซ้ายต้องเลี้ยวได้จริง ไม่ใช่ต้องไปจอดต่อแถว โดยเรื่องนี้ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ส่วนแผงลอย มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่มาอยู่บนฟุตบาตต้องจริงจังกับการแก้ปัญหาด้วย

นายอุเทนกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องน้ำรอการระบาย เรื่องนี้จะแก้ไขโดยสั่งให้เปลี่ยนต้นไม้ตามริมทางที่ใบร่วงออกให้หมด นำต้นไม้ใบร่วงยากมาทดแทน เชื่อว่าจะแก้ปัญหานี้ได้ รวมถึงพนักงานของกทม.ไม่ต้องมากวาดถนนให้ไปทำงานด้านอื่นแทน สามารถประหยัดงบประมาณจากการกวาดถนนได้ปีละเป็นพันล้านแล้วจะเงินนำส่วนนี้ไปพัฒนาด้านการศึกษาให้มีเป็นโรงเรียนอินเตอร์แบบเรียนฟรี ดำเนินการทันที 50เขต ลูกผมหรือลูกคุณต้องได้เรียนอย่างเท่าเทียมกัน และขอเสนอให้ต่อไป ตำรวจในกทม.ต้องขึ้นตรงกับ ผู้ว่ากทม เท่านั้น การเปิดตัวในวันนี้ ก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องการเมืองมาก แต่5 ปี รัฐบาลมีอำนาจล้นฟ้า กลับจัดการแก้ไขปัญหาไม่ได้ จึงขอเสนอตัว และขอเวลาเพียง500วัน ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ พร้อมจะลาออกทันที และถ้าตนทำงานได้สำเร็จก็พร้อมลาออกเช่นกัน เพราะขั้นต่อไปอยากจะเป็นนายกฯ

“สร้างปัญหาให้เรามากแค่ไหน ตนไม่กลัวที่จะฆ่าสัตว์เหล่านี้ เอ็นจีโอจะมาดัดจริตว่าเป็นคนโหดร้าย ตนไม่กลัวแต่กลัวลูกหลานของเราจะเป็นโรคฉี่หนู และโรคที่เกิดจากเชื้อโรคเหล่านี้” นายอุเทนกล่าว

นายอุเทนกล่าวว่า อย่างไรก็ตามข้าราชการกทม.ต้องร่วมมือกันทำงาน มาลงสัตยาบรรณ ร่วมแก้ปัญหา ตามความตั้งใจในนโยบายว่า “จากนี้กทม.รถต้องไม่ติด ทุจริตต้องหมดไป” ขอฝากถึงคนกทม.ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ ผมขอเสนอตัวเป็นทางเลือกหนึ่งด้วยสไตล์ ดุเด็ดเผ็ดมัน คิดเป็นทำได้ ทำจริง ไม่เกรงใจใครพรรคพวกต้องมี แต่ความถูกต้องต้องมาก่อนพรรคพวก ตนมีความตั้งใจที่จะเข้ามาแก้ปัญหาให้คนกรุงเทพฯ เราต้องไม่ก้มหัวให้ความไม่ถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่าการบริหารงานของผู้ว่าฯคนปัจจุบัน มีสิ่งใดที่รู้สึกอึดอัดใจ และถ้าได้เป็นผู้ว่าฯจะแก้ไขปัญหานั้นอย่างไร นายอุเทนกล่าวว่า การทุจริตมีมากเกินเหตุ แม้แต่ตนยังถูกรังแก ดังนั้นการทุจริตต้องหมดไป ขอเวลาแค่ 500 วัน หลายคนบอกว่าอาจเปลืองตัว เปลืองเวลา ทำไม่ได้ สู้ไม่ได้ แต่ขอยืนยันว่าตนไม่เคยทำไม่ได้ แค่ไม่ได้ทำแค่นั้นเอง ถ้าให้ตนทำ คอยดูว่าจะทำได้หรือไม่ กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ถ้าเราไม่บังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง ก็ไม่มีใครเชื่อเรา

“พอผมจะเปิดตัว มีคนเด่นคนดังหลายคน ชวนตน บอกให้เป็นสต๊าฟ เป็นรองผู้ว่าฯ เป็นทีมงาน อย่างน้อยสามคน ถ้าเอ่ยชื่อจะรู้จักทุกคน ซึ่งตอบไปว่าถ้ามีเงื่อนไขที่ดี อาจจะไปอย่างนั้นเพราะเหนื่อยน้อยหน่อยและได้ทำงานตามปกติ ตนเปิดตัวทุกอย่างด้วยความจริงใจ ไม่ใช่ถึงเวลาเข้าไปแล้ว แล้วเข้าไปเปลี่ยน บางครั้งคนเราต้องยอมเปลี่ยน ไม่ใช่เปลี่ยนเพื่อหนี แต่เปลี่ยนเพื่อทำงาน นี่คือตัวตนของผม” นายอุเทนกล่าว

“อนุทิน” กินก๋วยเตี๋ยวริมทาง เปิดงานช้างสุรินทร์ ดันเป็นอีเว้นท์ระดับโลก

People Unity News : “อนุทิน”กินก๋วยเตี๋ยวริมทาง เปิดงานช้างสุรินทร์ ชูแนวคิดสร้างงานช้างสุรินทร์ เป็นอีเว้นท์ท่องเที่ยวระดับโลก 

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊ก “อนุทิน ชาญวีรกูล” เล่าถึงบรรยากาศ ขณะลงพื้นที่เปิดงานช้างที่ จ.สุรินทร์ พร้อมขึ้นข้อความว่า

“ถึงสุรินทร์ แล้ว มาเปิดงานช้าง จังหวัดสุรินทร์ นักท่องเที่ยวมากมาย ชาวต่างชาติตื่นตาตื่นใจกับช้างสุรินทร์ เกือบ 200 เชือก ที่จากบ้านไปหากินต่างถิ่น ได้กลับมาร่วมงานช้าง ที่บ้านเกิด

งานเลี้ยงอาหารช้าง และ งานช้างแฟร์ เป็นงานสำคัญของสุรินทร์ ที่เราต้องช่วยกันสร้างสรรค์ และผลักดันให้เป็นงานระดับโลก เพื่อดึงดูดคนทั่วโลก มาเที่ยว มาศึกษาภูมิปัญญา มาสัมผัสประสบการณ์ วิถีชีวิต ศิลปะวัฒนธรรมของคนสุรินทร์ สำคัญที่คือ ให้มากินมาใช้ มาจับจ่ายใช้สอย มาซื้อสินค้าที่จังหวัดสุรินทร์ จะทำให้ธุรกิจ เศรษฐกิจ และรายได้ของคนสุรินทร์ดีขึ้น

ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะผลักดัน และ สนับสนุน ให้งานช้าง เป็นงานระดับโลก และสร้างเมืองสุรินทร์ ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ให้ได้ เราเลี้ยงดูช้างให้ดีแล้ว ช้างจะเลี้ยงดูเรา”

ก่อนหน้านี้ได้โพสต์ว่า มื้อเช้าก่อนไปปฏิบัติภารกิจ ตรวจราชการโรงพยาบาลสุรินทร์
ไม่ต้องสั่ง เพราะเราขาประจำ
บะหมี่นุ่ม หมูแดงนิ่ม ซอสฉ่ำ อร่อย

แฟนๆ น่าจะรู้ร้าน หรือรถจอดที่ไหน

 

“ประวิตร”พอใจผลงาน “ทส.” มาตรการลดโลกร้อน

People Unity News : “ประวิตร”พอใจผลงาน “ทส.” มาตรการลดโลกร้อน สั่งขับเคลื่อนนโยบายต่อเนื่อง เน้นประสิทธิภาพระบบงานที่เป็นสากล พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมรณรงค์

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติครั้งที่ 2/2562 โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. เข้าร่วมประชุมด้วย ณ ห้องประชุมอารีสัมพันธ์ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม

ที่ประชุมได้หารือและพิจารณาเห็นชอบเรื่องที่สำคัญ เกี่ยวกับรายงานการติดตามประเมินผล การลดก๊าซเรือนกระจก จากมาตรการภาคพลังงานปีพ.ศ. 2560 โดยประเทศไทยได้ยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงการลดก๊าซเรือนกระจกที่เหมาะสมของประเทศ(NAMA)ร้อยละ 7 ถึง 20 ภายในปีพ.ศ. 2563 โดย เทียบเคียงกับกรณีพื้นฐาน(Business as usual:BAU)ในภาคพลังงานและคมนาคมขนส่ง ทั้งนี้กระทรวงพลังงานได้รายงานผลการลดก๊าซเรือนกระจกจากมาตรการด้านพลังงานในปีพ.ศ. 2560 ได้ 51.72 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่า (14%เกินก่วาเป้าหมายขั้นต่ำ)รวมทั้งได้มีการพิจารณาเห็นชอบ การเข้าร่วม Nitric Acid Climate Action Group (NACAG) ของประเทศไทยในการสนับสนุนการลดก๊าซไนตรัสออกไซด์ จากการผลิตกรดไนตริก ของประเทศกำลังพัฒนาโดยสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันนี ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุน

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความพอใจผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงพลังงานตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอให้คณะกรรมการ ติดตาม กำกับดูแล เร่งขับเคลื่อนแผนงานตามนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้เพิ่มมาตรการสร้างการรับรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนควบคู่กันไปโดยขอให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมเพื่อความยั่งยืนต่อไปด้วย

“วิษณุ” แจง “บิ๊กตู่” ไม่ได้สั่ง แค่ถาม “ประกันสังคม” ปล่อยกู้ได้หรือไม่

People Unity News :  “วิษณุ” แจง “บิ๊กตู่” ไม่ได้สั่ง แค่ถาม “ประกันสังคม” ปล่อยกู้ได้หรือไม่ ถ้าแจ้งกลับมาว่าไม่อยู่ในอำนาจก็จบ ส่วนปมเข้าชี้แจง กมธ.ป.ป.ช. “ประยุทธ์” พยายามทำตามรธน.อย่างที่สุดแล้ว

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ที่ให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) หาแนวทางและมาตรการในการบริหารจัดการเงินกองทุนประกันสังคม เช่น การกู้ยืมเพื่อการลงทุน หรือการกู้ยืมเพื่อรายจ่ายจำเป็นอื่นๆ ว่า เรื่องดังกล่าวต้องถามทาง สปส. อย่างไรก็ตาม เป็นการปรารภของนายกฯ และแจ้งข้อสั่งการไปให้ทาง สปส.ตอบกลับมาว่าทำได้หรือไม่ได้ ไม่ใช่เป็นการสั่ง และที่ใช้คำว่า ข้อสั่งการคือ ไม่ได้อยู่ในระเบียบวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) คล้ายกับเรื่องที่ประธานที่ประชุมยกขึ้นมาแจ้งเพื่อทราบ หรือหารือ พอเกี่ยวกับหน่วยงานใดหน่วยงานนั้นจะต้องแจ้งกลับมาว่าทำได้หรือไม่ได้ ซึ่งมีหลายเรื่องที่นายกฯสั่งการเช่นนี้ และกระทรวงแจ้งกลับมาว่าไม่อยู่ในอำนาจ ก็จบ

ปมเข้าชี้แจง กมธ.ป.ป.ช. “ประยุทธ์” พยายามทำตามรธน.อย่างที่สุดแล้ว

นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เสนอให้เปลี่ยนตัว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ว่า เป็นเรื่องของสภาฯ ตนตอบไม่ถูก เพราะไม่ได้เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่า เคยมีการบังคับใช้กฎหมาย กับผู้ไม่ไปชี้แจงกับ กมธ.หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เข้าใจว่า คงไม่เคยมีการบังคับใช้ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คำสั่งเรียก พ.ศ.2554 มาก่อน ซึ่งกฎหมายดังกล่าวเกี่ยวกับการออกคำสั่งให้มาชี้แจงต่อ กมธ. แต่ต้องเป็นการสั่งตาม พ.ร.บ.นี้ ทั้งนี้การสั่งของ กมธ. เป็นได้ทั้งการขอความร่วมมือตามรัฐธรรมนูญมาตรา 129 และข้อบังคับการประชุม หรือสั่งให้มาตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ซึ่ง กมธ. ยังไม่ได้อ้างอำนาจตาม พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ที่เป็นเรื่องของความผิดทางอาญา ดังนั้น จึงต้องมีการสั่ง และถ้าไม่ไปถือว่าขัดคำสั่ง

“ธนาธร”ลั่นกลางศาลรธน.! ถ้าผิดถือหุ้นสื่อคือต่อต้านคสช.สืบทอดอำนาจ

People Unity News : “ธนาธร”แถลงปิดคดีหุ้นสื่อ ลั่นถ้าผิดคือต่อต้านการสืบทอดอำนาจ คสช. ไม่เกี่ยวยุบพรรคอนาคตใหม่ จะเดินหน้าทำงานสร้างสรรค์ทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 15 พ.ย. 2562 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงปิดคดีหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเรื่องสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จะสิ้นสุดลงหรือไม่ ในวันที่ 20 พ.ย. นี้ โดยสรุปใจความสำคัญได้ดังนี้

นายธนาธร ยืนยันว่า บริษัท วี-ลัค มีเดีย ปิดตัวตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. 2561 ก่อนที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 จะประกาศออกมา และนิตยสารของบริษัทที่ผ่านมาก็ไม่เคยให้คุณทางการเมืองกับตนเอง และไม่เคยให้โทษกับคู่แข่ง อีกทั้งจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีใครมีหลักฐานเพียงพอที่จะมาหักล้างในเรื่องนี้ นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสงสัยถึงเรื่องการส่งคำร้องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญ โดยที่ข้อเท็จจริงยังสอบสวนไม่สิ้นกระบวนความ ว่าเอาข้อมูลที่ครบถ้วนที่ไหนไป

“ถ้าถามว่าผมผิดอะไร คำตอบคือ ไม่ใช่เรื่องหุ้นสื่อ ไม่ใช่เรื่องให้พรรคกู้เงิน แต่คือการต่อต้านการสืบทอดอำนาจ คสช.”

พร้อมกันนี้ นายธนาธรยังย้ำถึงความฝันที่ต้องการเห็นคนในประเทศไทยได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม และไม่มีรัฐประหารอีกในอนาคต และพรรคอนาคตใหม่รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งตามกฎหมาย เมื่อผลเลือกตั้งออกมาเป็นอย่างไรก็ยังเดินหน้าทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ สู้ในสภาฯ อย่างสง่างาม ให้พี่น้องเห็นความตั้งใจจริงในการทำงาน รณรงค์แก้รัฐธรรมนูญอย่างสันติ ย้ำว่าถึงเวลาที่จะต้องพาสังคมกลับสู่ความเป็นปกติ

อย่างไรก็ตาม นายธนาธร ระบุทิ้งท้ายว่า ไม่ว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยอย่างไรก็จะเดินหน้าทำงานสร้างสรรค์ทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง และคดีการถือหุ้น วี-ลัค ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการยุบพรรคอนาคตใหม่ ไม่เกี่ยวกับการยุติหน้าที่ในฐานะหัวหน้าพรรค เพราะเป็นเพียงเรื่องคุณสมบัติ ส.ส. ซึ่งในฐานะหัวหน้าพรรคไม่มีคดีอะไรติดตัว และแม้มีคนสนับสนุนพรรคอยู่มาก แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ยังไม่เชื่อในความจริงใจของเรา ขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

“บิ๊กป้อม”ยัน “พปชร.” ส่ง “สมศักดิ์ คุณเงิน” เลือกซ่อมขอนแก่น

People Unity News : “บิ๊กป้อม”ยืนยัน “พปชร.” ส่ง “สมศักดิ์ คุณเงิน” ล้างตาเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 ขณะที่ พท.จ่อส่ง “อดิศร” ลงรักษาเก้าอี้เดิม

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 โดยยืนยันว่าจะส่งผู้สมัครคนเดิม คือนายสมศักดิ์ คุณเงิน ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชารัฐ

พท.จ่อส่ง”อดิศร”ลงรักษาเก้าอี้เดิม

ทางด้านพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เดิมมีรายงานว่า จะส่ง นายอดิศร เพียงเกษโฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎ อดีตส.ส.ขอนแก่นพรรค ลงในการเลือกตั้งครั้งนี้

“ธนกร”ป้อง”อุตตม”หัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล

People Unity News : “ธนกร”ป้อง”อุตตม”หัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล เหน็บ “มงคลกิตต์” ถ้าเป็นส.ส.แล้วพฤติกรรมแบบนี้ สู้อย่าเป็นซะดีกว่า

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ปรับคณะรัฐมนตรีหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเสนอให้นำนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แทนนายอุตตม สาวนายน รมว.คลังว่า แค่กระบวนการทางความคิดก็ผิดแล้ว แสดงออกถึงคลังสมองของนายมงคลกิตติ์ที่ไม่มีรอยหยักในสมองเลย เพราะไม่มีรัฐบาลไหนเอาส.ส.ฝ่ายค้านมาเป็นรัฐมนตรี ที่สำคัญ นายอุตตมเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ เป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง มีผลงานชัดเจน และเป็นถึงหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้ ที่ผ่านมานายอุตตมมีความมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานอย่างมาก หลายโครงการได้รับความชื่นชมจากประชาชนทั่วประเทศ เช่น โครงการชิมช้อปใช้ และโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดังนั้น นายอุตตมถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล

นายธนกร กล่าวอีกว่า รู้สึกผิดหวังกับพฤติกรรมของนายมงคลกิตติ์ ที่นับวันก็ยิ่งเปลี่ยนไปอย่างมาก ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ วันๆ ทำแต่เรื่องไร้สาระ หวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะได้เป็นข่าวรายวัน นอกจากนี้ หลายเรื่องเป็นที่ระอาของประชาชน ถูกมองว่าเปลืองภาษีประชาชนเปล่าๆ หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนเห็นนายมงคลกิตติ์เป็นน้องที่รักกัน จึงอยากให้นายมงคลกิตติ์กลับตัวกลับใจใหม่ สังคมยังให้อภัย กลับมาเป็นนายมงคลกิตติ์คนเดิมที่ทำงานรับใช้สังคม ตรวจสอบความไม่ถูกต้องในสังคมเหมือนในอดีตก่อนที่จะได้เป็นส.ส.จะดีกว่า หากเป็นส.ส.แล้วมีพฤติกรรมแบบนี้สู้อย่าเป็นซะดีกว่า

ไม่ใช่เพื่อนเล่น! “สิระ”ลั่นหลังรุดฟังผลสอบ”คอนโดรุกป่ากะรน”

People Unity News : “สิระ”ลั่น!ไม่ใช่เพื่อนเล่น หลังฟังรายงานเขียนด้วยลายมือ ผลสอบ “คอนโดรุกป่ากะรน” ของรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีมีการร้องเรียนว่ามีการก่อสร้างคอนโดมิเนียมบนพื้นที่ป่า ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังภูเก็ตนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีนายสุพจน์ รอดเรือง ณ อยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน ใช้เวลา 30 วัน ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม

นายสิระได้เข้าเยี่ยมผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ก่อนจะเข้ารับฟังรายงานจากนายสุพจน์ โดยมีบรรดาหัวหน้าส่วนราชการ รวมทั้งนายกเทศบางตำบลกะทู้ เข้าร่วมด้วย ขณะที่ด้านนอกห้องประชุม มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งนำโดย ส.ท.เทศบาลตำบลกะทู้ มาถือป้ายขอให้ตรวจสอบลำคลองบริเวณหาดกะทู้ ที่ถูกระบุว่า ถูกโรงแรมแห่งหนึ่งถม

นายสุพจน์ ได้รายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงระบุว่า การตรวจสอบใน 3 ส่วนคือ 1.การทำผลกระทบสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการถูกต้อง ซึ่งในช่วงแรกมีการทางคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ตได้สั่งให้มีการศึกษาเพิ่มเติม ซึ่งฝ่ายเอกชนได้ดำเนินการตามทั้งหมดแล้ว 2.การตรวจสอบว่า มีการบุกรุกพื้นที่ป่าหรือไม่ จากการตรวจสอบพบว่า มีการเข้าทำประโยชน์ก่อนการประกาศพื้นที่ป่า และไม่มีปัญหาเรื่องการพื้นที่ 30 องศา 3.การออกใบอนุญาตก่อสร้างของเทศบาลตำบลกะรนดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนการออกเอกสารสิทธิ์จะต้องรอคำสั่งของศาลปกครอง

หลังฟังรายงาน นายสิระ ได้ให้ทางรองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ทำหนังสือรายงานมาเป็นลายลักษณ์อักษร และขอบันทึกการประชุมในการรายงานของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากในการรายงาน รองผู้ว่าราชการจังหวัด อ่านจากลายมือเขียนในสมุดบันทึก ไม่ได้เป็นรายงานตามแบบฟอร์มของราชการแต่อย่างใด

หลังฟังรายงานใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีนายสิระได้เดินทางกลับโดยขึ้นรถตู้ที่จอดรออยู่หน้าศาลากลางจังหวัด โดยไม่สนใจกลุ่มชาวบ้านที่ ส.ท.นำมาจะยื่นหนังสือแต่อย่างใด กลุ่มชาวบ้านพยายามปิดกั้นรถนายสิระแต่ตำรวจได้กันออกไป

นายสิระให้สัมภาษณ์ว่าได้ขอให้รองผู้ว่าฯทำหนังสือรายงานมาเป็นทางการและขอรายงานการประชุมด้วย เพราะฟังจากการรายงานยังไม่สามารถยืนยันข้อมูลได้ เพราะรายงานจากที่เขียนด้วยลายมือ

“มีรายงานตัวจริงเข้ามา ก็จะได้รู้ว่า ใครอุ้มใคร ใครทำหน้าที่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง อยากเรียนว่า ผมไม่ใช่เพื่อนเล่น อย่ามาล้อเล่นกับผม ผมมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของข้าราชการเพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน ต้องการทวงผืนป่าให้แผ่นดิน” นายสิระ กล่าวทิ้งท้าย

“หญิงหน่อย”ร่วมเปิดงานสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติที่เนปาล

People Unity News : “หญิงหน่อย”หลบการเมืองร้อน! ร่วมเปิดงานสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติที่เนปาล

วันที่ 14 พ.ย.2562 เฟซบุ๊กวัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล Royal Thai Monastery ได้โพสต์ข้อความว่า เปิดงานสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติ ครั้งที่ ๒ ณ อุทยานลุมพินีวัน วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ณ อทุยานลุมพินีวัน สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า วัดไทยลุมพินี เนปาล, ร่วมด้วย Lumbini Development Trust (LDT), Nepal จัดงานสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติ ครั้งที่ 2 ณ อุทยานลุมพินีวัน ระหว่างวันที่ 14 -16 พฤศจิกายน 2562 โดยมี พระศรีโพธิวิเทศ (สุพจน์ ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดไทยลุมพินี เป็นประธานฝ่ายคณะสงฆ์ไทย พร้อมด้วยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ประธานฝ่ายฆราวาสไทย และมีผู้ร่วมงานฝ่ายเนปาล chief minister Meyor of Lumbini municipality ร่วมเปิดงานสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติ

ทั้งนี้คุณหญิงสุดารัตน์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sudarat Keyuraphan ขณะอยู่เนปาล ความว่า ขอมาเติมพลังให้หัวใจ ที่ลุมพินี

หน่อยได้กลับมาสถานที่ประสูติพระพุทธเจ้าที่ลุมพินีอีกครั้งค่ะ เพื่อมาร่วมงานสาธยายพระไตรปิฏกประจำปี ซึ่งจัดโดยคณะสงฆ์นานาชาติที่มีวัดไทยเป็นแม่งานใหญ่ นำโดยพระศรีโพธิ์วิเทศ ร่วมกับ Lumbini Development Trust

หน่อยและคณะมาถึงลุมพินีเมื่อคืนนี้ เราตรงเข้าสู่วิหารมายาเทวีทันที เพื่อเข้าไปกราบพระพุทธเจ้า สวดมนต์น้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณ และเจริญสมาธิ ด้วยความเบิกบาน และอิ่มใจเป็นที่สุดค่ะ

เมื่อคืนนี้แม้ว่าจะเป็นเวลาคำ่แล้ว แต่ภาพบรรยากาศที่ปรากฏต่อหน้าหน่อย คือคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนจากหลายชาติ ได้ใช้ถนนทางเดินที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยได้ร่วมใจกันสร้างขึ้น เพื่อเข้าไปกราบพระพุทธเจ้า ทั้งยังได้เห็นพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก นั่งสวดมนต์และเจริญสมาธิบนลานสวดมนต์ที่พวกเราได้สร้างไว้ด้วยแรงศรัทธาอีกด้วย

หน่อยเชื่อว่าทุกคนเมื่อได้เข้ามากราบพระพุทธเจ้า ณ สถานที่ประสูติแห่งนี้แล้ว เมื่อกลับไปเขาจะตั้งใจที่จะเป็นคนดีและปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์

ภาพที่เห็นนี้คือความปลื้มใจ ที่ครั้งหนึ่งหน่อยได้ทำหน้าที่เป็น #สะพานบุญ เชื่อมโยงพลังศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ของคนไทยมาร่วมกันบูรณะสถานที่ประสูติขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า

สำหรับหน่อยการที่ได้มาสวดมนต์เจริญสมาธิ ณ สถานที่ประสูติ คือการมาเติมพลังใจและเพิ่มความศรัทธามุ่งมั่นในการปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน
ของพระพุทธเจ้า

หน่อยขอกราบอนุโมทนากับพี่น้องชาวไทยผู้มีพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ที่ได้ร่วมกันบูรณะสถานที่ประสูติของพระพุทธองค์เมื่อหลายปีก่อนไปด้วยกันกับหน่อย

ขอพลังแห่งมหากุศลนี้ ได้ส่งผลให้ทุกท่านพบแต่ความสุขความเจริญนะคะ

“นิพนธ์”ย้ำภัยใกล้ตัว”อุบัติเหตุท้องถนน” รัฐ-เอกชนจับมือรวมพลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย

People Unity News : “นิพนธ์”ย้ำภัยใกล้ตัว”อุบัติเหตุท้องถนน” ยกสถิติติดอันดับ 9 ของโลก “ทีดีอาร์ไอ” ชี้เจ็บ-ตายสูญเสียตกปีละกว่า 5 แสนล้าน รัฐ-เอกชนจับมือรวมพลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย กระตุกสังคมไทยลดความสูญเสีย

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2 ) เป็นประธานเปิดโครงการ “พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย” โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน(ศปถ.)จับมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดย บมจ.ธนชาตประกันภัย ร่วมขับเคลื่อนการแก้ปัญหาและลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ได้มากที่สุด

นายนิพนธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาองค์การอนามัยโลกได้จัดให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก มีคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนปีละประมาณ 22,491 ราย คิดเป็น 32.7 คนต่อประชากร 1 แสนคนเฉลี่ยแล้ว มีคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุชั่วโมงละ 3 คน ซึ่งถือว่าเกิดค่าเฉลี่ยของโลกถึง 2 เท่า อุบัติเหตุทางถนนไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ที่ประสบภัยเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดความสูญเสียต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยโดยรวมอย่างมหาศาล ขณะที่สถาบันวิจัยทีดีอาร์ไอ ได้คำนวณมูลค่าความสูญเสียจากการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุจราจร เกิดความสูญเสียที่คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจราว 5 แสนล้านบาทต่อปี

เห็นได้ชัดว่าความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นประเด็นใหญ่ของประเทศไทย ที่ผ่านมาการป้องกันและรณรงค์ลดอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลให้ความสำคัญเสมอมา โดยกำหนดให้เป็นวาระสำคัญแห่งชาติที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแก้ไข ซึ่งได้ให้นโยบายในการสร้างความเข้มแข็งการจัดการอุบัติเหตุทางถนนระดับพื้นที่ เพื่อช่วยผลักดันนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมโดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพของ “ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนท้องถิ่น” ให้เป็นกลไกหลักในการสร้างการมีส่วนร่วมและขับเคลื่อนการลดอุบัติเหตุทางถนนในชุมชนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เชื่อมโยงกลไกการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนน ทุกระดับอย่างเป็นระบบและครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการพัฒนาระบบกฎหมายและกระบวนการในการบังคับใช้กฎหมาย การเฝ้าระวังและลดปัจจัยเสี่ยงทางกายภาพ การบริหารจัดการด้านความปลอดภัยทางถนน เพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดการความปลอดภัยทางถนนในระดับพื้นที่

“นอกจากภาครัฐจะให้ความสำคัญแล้ว ยังได้รับความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่มาร่วมป้องกันและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนชาวไทย ซึ่ง โครงการพลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย นี้ ถือเป็น 1 ในโครงการที่ภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน และท้องถิ่นได้ร่วมมือกันดำเนินการสร้างความปลอดภัยทางถนนในระดับพื้นที่ ผ่านกลไกของกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายอำเภอเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนให้โครงการประสบผลสำเร็จ ทั้งนี้ การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืนนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังให้พื้นที่ในระดับตำบลสามารถลดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนลงได้อย่างน้อย 1 ราย จะทำให้ภาพรวมของประเทศมีสถิติการเสียชีวิตจากการใช้รถใช้ถนนลดลงได้อย่างเป็นรูปธรรม” นายนิพนธ์ กล่าว

Verified by ExactMetrics