วันที่ 2 เมษายน 2025

สภาพอากาศวันนี้ ทั่วไทยมีฝนฟ้าคะนอง กทม.-ปริมณฑล ฝน 30%

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 17 กุมภาพันธ์ 2568 กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกทม.-ปริมณฑล และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและฟ้าผ่าบางพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้แล้ว ลักษณะเช่นนี้ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยภาคเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังอ่อนที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้เริ่มมีกำลังแรงขึ้นเป็นกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1–2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างมาก เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน

พยากรณ์อากาศรายภาค วันที่ 17 ก.พ.68

กทม.-ปริมณฑล : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคเหนือ : อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดกำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 14-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1–2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง : อากาศเย็นในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออก : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

Advertisement

จับสินค้าออนไลน์เถื่อนกว่า 2.1 หมื่นคดี

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 15 กุมภาพันธ์ 2568 รัฐบาลลุยกวาดล้าง จับสินค้าออนไลน์เถื่อนกว่า 2.1 หมื่นคดี มูลค่าเสียหายทะลุพันล้าน

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการบูรณาการความร่วมมือแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ ผ่านคณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ SME ไทยและแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ ตั้งแต่เดือน ก.ย.-ธ.ค.2567 สามารถแก้ปัญหาการนำเข้าสินค้าไร้คุณภาพในระยะสั้นเกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการนำเข้าผ่านการสั่งซื้อออนไลน์ ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้มงวดตรวจสอบการนำเข้าและดำเนินคดีกับผู้นำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานได้ 21,227 คดี ความเสียหาย 1,137 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งอาหารเสริม อาหาร ยาและเวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า ปลั๊กพ่วง พาวเวอร์แบงก์ เป็นต้น

ส่วนการดำเนินงานระยะกลาง และยาว รัฐบาลได้กำชับให้ทุกหน่วยงานดำเนินการเพิ่มความเข้มงวดและความถี่ให้การตรวจสอบให้มากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบสินค้าไม่มีคุณภาพ คณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการเชิงรุกเพื่อตรวจสอบทั้งสิ้นนำเข้าไร้มาตรฐาน ที่วางขายในท้องตลาดทั่วไป และตรวจสอบธุรกิจนอมินี ที่เข้าข่ายผิดกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวทั่วประเทศ เพื่อทำให้ปัญหาดังกล่าวหมดไปโดยเร็ว

“รัฐบาลตระหนักถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ และมุ่งมั่นสร้างมาตรฐานสินค้าให้เป็นไปตามกฎหมายสากล โดยจะเดินหน้าปราบปรามผู้ค้าฉวยโอกาสที่นำเข้าสินค้าไม่มีคุณภาพอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคไทย และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น” นางสาวศศิกานต์ กล่าว

Advertisement

ก.ศึกษาฯ เปิดช่องทางพิเศษ ปกปิดความลับให้ผู้แจ้งข้อมูล แจ้งจับครู-บุคลากรการศึกษาล่วงละเมิดทางเพศใน รร.

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 14 กุมภาพันธ์ 2568 ก.ศึกษาฯ เปิดช่องทางพิเศษ ปกปิดความลับให้ผู้แจ้งข้อมูล แจ้งจับหากพบครู-บุคลากรทางการศึกษาเกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศในสถานศึกษา ลงโทษวินัยขั้นร้ายแรงถึงที่สุด ย้ำสถานศึกษาต้องปลอดภัย ไม่ปล่อยให้คนผิดลอยนวล

วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2568) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการเดินหน้าเพิ่มมาตรการป้องกันและให้ความสำคัญในแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในสถานศึกษา จากกรณีที่พบปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในสถานศึกษาอยู่บ่อยครั้ง โดยรัฐบาลยืนยันว่า การล่วงละเมิดทางเพศถือเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญในการป้องกัน เพราะปัญหาดังกล่าวที่ได้เกิดขึ้นไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดบาดแผลทางร่างกาย แต่ยังได้ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจและการพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนในระยะยาว เพราะเนื่องด้วยเด็กหรือผู้เรียนเกิดความกลัวหรือความอับอาย ทำให้เกิดการหลีกเลี่ยงการพบเจอเพื่อนและร่วมกิจกรรม ซึ่งบ่อยครั้งเด็กหรือครูไม่กล้าที่จะเปิดเผย ทำให้ปัญหาดังกล่าวในส่วนนี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที ดังนั้น เพื่อให้การแก้ไขปัญหาสามารถดำเนินการทำได้อย่างทันทีครูหรือผู้สอนจะต้องคอยสังเกตพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด หากพบว่าเด็กมีความวิตกกังวลที่ผิดปกติ หลีกเลี่ยงการพบเจอเพื่อนและกิจกรรมหรือมีสัญญาณการถูกล่วงละเมิด ควรช่วยเหลือด้วยการพูดคุยและให้คำปรึกษาอย่างอ่อนโยนเพื่อเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และหากปัญหาเกินความรับมือสามารถประสานนักจิตวิทยาในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการช่วยเหลือที่รวดเร็วและเหมาะสม

นายคารม  กล่าวต่อไปว่า จากปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในสถานศึกษา รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการไม่นิ่งนอนใจและต้องการสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินการอย่างเร่งด่วน ที่คำนึงถึงความปลอดภัยในรั้วโรงเรียนให้มากขึ้นกว่าเดิม ด้วยการจัดอบรมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการล่วงละเมิดให้กับครูและนักเรียน พร้อมนำนักจิตวิทยาสนับสนุนด้านจิตใจให้คำปรึกษา เพื่อเป็นการช่วยเหลือให้เด็กที่โดนล่วงละเมิดทางเพศได้รับการฟื้นฟูจิตใจเร็วขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับผู้แจ้งข้อมูลต้องมีความปลอดภัย ไม่เปิดเผยตัวตน เพื่อให้เด็กนักเรียนและผู้ปกครองสามารถแจ้งเหตุการณ์การล่วงละเมิดได้อย่างมั่นใจและเป็นความลับ ผ่านช่องทาง ดังนี้ 1.เว็บไซต์ https://anticorrupt.moe.go.th 2.จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-Mail) : accmoe@sueksa.go.th 3.ส่งหนังสือร้องเรียนการทุจริตมาที่ กระทรวงศึกษาธิการ 319 อาคารเสมารักษ์ ถนนราชดำเนินนอก เขตดุสิต กทม. 10300 4.มายื่นหนังสือร้องเรียนการทุจริตด้วยตนเองที่ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต กระทรวงศึกษาธิการ 5.สายด่วนศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต กระทรวงศึกษาธิการ 02-628-6162 หรือ 6.โทรสาร (Fax) : 02-628-6138

“เพื่อให้โรงเรียนเป็นสถานศึกษาที่มีสภาพแวดล้อมการเรียนรู้อย่างปลอดภัยส่งเสริมให้เด็กได้เติบโตไปอย่างมีความสุข รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการขอย้ำอย่างชัดเจนว่า จะไม่มีการปล่อยผ่านในเรื่องของปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในสถานศึกษา อย่างแน่นอนหากพบเจอการกระทำผิดจะลงโทษวินัยร้ายแรงอย่างถึงที่สุด” นายคารม ย้ำ

Advertisement

ผบ.ทร. เสริมเครื่องมือเฝ้าชายแดนจันทบุรี-ตราด

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 13 กุมภาพันธ์ 2568 สัตหีบ – ผู้บัญชาการทหารเรือ ย้ำความพร้อมหนุนรัฐบาล เดินหน้าแก้ปัญหาขบวนการคอลเซนเตอร์-ค้ามนุษย์ ชายแดนด้านจันทบุรี-ตราด เสริมเครื่องมือเฝ้าตรวจชายแดน

พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ระบุถึงการดูแลสถานการณ์ชายแดนและปัญหาเครือข่ายค้ามนุษย์ รวมทั้งกาสิโนแสดงในพื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด ว่า เป็นไปตามมาตรการ Seal Stop Safe ของรัฐบาลซึ่งรวมกันหลายเรื่อง ทั้งยาเสพติด ค้ามนุษย์ รวมไปถึงคอลเซนเตอร์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือ เพราะกองทัพเรือเพียงหน่วยเดียวไม่สามารถดำเนินการได้

ทั้งนีัรัฐบาลได้ให้นโยบายมาแล้วโดยจะต้องผนึกกำลังของทหาร-ตำรวจและภาคประชาชน รวมทั้งฝ่ายปกครองหรือหน่วยในพื้นที่จะต้องร่วมมือกันในการผนึกกำลัง

โดยกองทัพเรือสนับสนุนเครื่องมือให้หน่วยปฏิบัติอย่างเต็มที่ เช่น การใช้โดรนตรวจการณ์ และกล้องตรวจการณ์ในเวลากลางคืน ทั้งนี้เพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้น โดยการเพิ่มเทคโนโลยีในการปฏิบัติให้ครอบคลุม

Advertisement

ค่าฝุ่นวันนี้ กรุงเทพฯ ติดอันดับ 5 ของโลก

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 12 กุมภาพันธ์ 2568 ค่าฝุ่น PM 2.5 วันนี้ สภาพอากาศกรุงเทพฯ ถือว่ามีฝุ่นเยอะ สูงเกินค่ามาตรฐานและติดอันดับ 5 ของโลก

สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพฯ ล่าสุดวันนี้ (12 กุมภาพันธ์ 2568) โดยศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 07.00 น. ตรวจพบค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานระดับ “สีส้ม” ทั้ง 50 เขต มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ค่าเฉลี่ยของค่าฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพมหานคร อยู่ที่ 49.7 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) สูงเกินค่ามาตรฐาน ติดอันดับ 5 ของโลก สภาพอากาศไม่ดี หายใจไม่เต็มปอด! กระทบสุขภาพประชาชนคนกรุงเทพฯ

สถานการณ์ฝุ่นล่าสุด กรุงเทพฯ ค่าฝุ่น PM 2.5 วันนี้ ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 48.7 มคก./ลบ.ม. ฝุ่นพิษหนักสุด เขตบางขุนเทียน 66.3 มคก./ลบ.ม.

เดินทางวันนี้ เช้าวันหยุดวันมาฆบูชา 2568 ยังคงต้องใส่หน้ากากอนามัย ใส่แมสก์ ป้องกันฝุ่นละออง พิษฝุ่น ทำให้ทุกคนเจ็บป่วยได้ง่าย

“IQAir” รายงานดัชนีคุณภาพอากาศทั่วโลกแบบเรียลไทม์ เมื่อเวลา 07.09 น. พื้นที่มลพิษทางอากาศเมืองใหญ่ที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก สูงสุดอยู่ที่ประเทศเวียดนาม ในระดับสีม่วงอ่อน 201-300 AQI คุณภาพอากาศ “มีผลกระทบต่อทุกคนอย่างรุนแรง”

ส่วนสภาพอากาศประเทศไทย สภาพอากาศกรุงเทพฯ อยู่ในระดับสีแดง 151-200 AQI คุณภาพอากาศ “มีผลกระทบต่อทุกคน”

สภาพอากาศทั่วโลกวันนี้ อากาศแย่ที่สุดในโลกพื้นที่ไหนบ้าง

  • ฮานอย, เวียดนาม วัดได้ 233 AQI
  • เดลี, อินเดีย วัดได้ 224 AQI
  • ซาราเยโว, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา วัดได้ 191 AQI
  • ลาฮอร์, ปากีสถาน วัดได้ 184 AQI
  • กรุงเทพฯ, ไทย วัดได้ 171 AQI

Advertisement

NT ยันตัดสัญญาณพื้นที่ผิดกฎหมายฝั่งเมียนมาแล้ว

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 10 กุมภาพันธ์ 2568 ทำเนียบ – NT ยันตัดสัญญาณพื้นที่ผิดกฎหมายฝั่งเมียนมาแล้ว ชี้รอคำสั่ง กสทช.-สกมช. หากตัดเพิ่ม

พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (NT) กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการตัดสายสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปยัง 5 จุดในเมียนมา ว่า ปกติแล้วจะเป็นกระบวนการของภาครัฐ อันไหนที่ผิดกฎหมายหรือมีหน่วยงานภาครัฐแจ้งมาเราจะดำเนินการหยุดสัญญาณทันที เบื้องต้นตัดไปวันที่ 7 ก.พ.แล้ว

พ.อ.สรรพชัยย์ กล่าวอีกว่า ต้องรอหนังสือจาก กสทช. และสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) อยู่ หากจะต้องตัดเพิ่มเติม เพราะการส่งสัญญาณสื่อสารไปต่างประเทศ มีหนังสือสัญญา พร้อมมั่นใจว่าอันไหนผิดกฎหมาย ถ้าแจ้งมาว่าเราจะตัดสัญญาณทันที

ส่วนวันนี้ยังไม่ตัดสัญญาณใช่หรือไม่ พ.อ.สรรพชัยย์ กล่าวว่า ไม่เชิง อันที่ทราบแล้วก็ตัดหมดแล้ว โดยทั้ง 5 จุดเราตัดหมดแล้ว

ส่วนจุดอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับการแจ้งมาโดยผู้ตัดสินใจคือ กสทช. และหน่วยงานความมั่นคง NT หน้าที่ คือ มอนิเตอร์ว่าสัญญาณพวกนี้ผิดปกติหรือไม่ เช่น มีคนใช้บริการเป็นบ้านร้างแล้วมีการจ่ายเงิน เราจะมอนิเตอร์แล้วให้ช่วยตรวจสอบอะไรที่ผิดปกติเราตัดหมด

ซึ่งหลักการในการพิจารณาที่จะปล่อยสัญญาณอีกครั้งเป็นอย่างไร พ.อ.สรรพชัยย์ กล่าวว่า จนกว่าจะได้รับสั่งการ กสทช.

ส่วนตอนนี้ที่ชเวโก๊กโก่ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตจาก NT แล้วใช่หรือไม่ พ.อ.สรรพชัยย์ ย้ำว่า พื้นที่ที่มีการแจ้งว่าทำผิดกฎหมายตัดหมด โดยธุรกิจบริการโทรคมนาคมเราให้บริการตามกฎหมายอะไรก็ตามที่ผิดกฎหมายหน้าที่คือหน่วยงานที่กำกับดูแลแจ้งมา เราก็จะตัด อันไหนที่ไม่ได้แจ้งมาแล้วเราตัดอาจจะถูกฟ้องได้

ทั้งนี้ ไม่ได้ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต 100% ใช่หรือไม่ พ.อ.สรรพชัยย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับคำสั่ง ถ้าสั่งมาว่าทั้งหมดก็ตัดหมด รวมถึงสายสัญญาณใต้ดินด้วย

Advertisement

เตือนใบสั่งจราจรแบบเก่ายังมีผลตาม กม.

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 8 กุมภาพันธ์ 2568 ทำเนียบ – เตือน ปชช. ใบสั่งจราจรรูปแบบเก่ายังมีผลตามกฎหมาย ต้องเสียค่าปรับตามกำหนด หากไม่แน่ใจว่าทำผิดกฎจราจรหรือไม่ สามารถเช็กใบสั่งจราจรออนไลน์

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าหลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาในคดีขอเพิกถอนประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องกำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร พ.ศ.2563 และเรื่องการกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบเทียบสำหรับความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 นั้น ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ชี้แจ้งว่ารูปแบบใบสั่งของเจ้าพนักงานจราจร และการกำหนดอัตราค่าปรับในปัจจุบัน ยังคงมีผลใช้บังคับตามกฎหมายต่อไปเป็นระยะเวลา 180 วัน นับแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา ดังนั้น ผู้ที่กระทำผิดกฎหมายจราจร เช่น ฝ่าฝืนสัญญาณไฟขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ขับรถบนทางเท้า ขับรถย้อนศร ไม่สวมหมวกนิรภัย และข้อหาอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจรทาง พ.ศ.2522 และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจราจร เมื่อถูกเจ้าพนักงานจราจรออกใบสั่งจราจรตามความผิดที่ปรากฏ ยังคงถือเป็นผู้กระทำผิดกฎจราจร และต้องรับโทษปรับเป็นพินัยตามกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย โดยปัจจุบันในการออกใบสั่งจราจรจะมีการระบุข้อความแจ้งสิทธิ ตามกฎหมายว่าด้วยการปรับพินัยให้ประชาชนทราบด้วยทุกครั้ง

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดำเนินการปรับปรุงรูปแบบใบสั่งและเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าปรับ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด รวมทั้งให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย และจะประกาศใช้บังคับโดยเร็วตามกรอบระยะเวลาต่อไป ทั้งนี้ ขอความร่วมมือ ผู้ที่ได้รับใบสั่งจราจรจากเจ้าหน้าที่ ให้รีบดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ หากไม่แน่ใจว่าเคยขับขี่ยานยนต์ผิดกฎจราจรหรือไม่ สามารถเช็กใบสั่งจราจรออนไลน์ ได้ที่ https://ptm.police.go.th/eTicket/#/ ” นายคารม กล่าว

Advertisement

ปภ.ช.- กระทรวงเกษตรฯ เอาจริง เกษตรกรยังดื้อเผา โดนขึ้นแบล็กลิสต์แน่

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 6 กุมภาพันธ์ 2568 ปภ.ช. สั่งต้องเอาจริง! หากเกษตรกรดื้อ ยังเผาต้องติดแบล็กลิสต์ ! กระทรวงเกษตรฯ รับนโยบายต้องใช้ยาแรง เตรียมขึ้นบัญชีดำเกษตรกรไม่หยุดเผา หลังขอความร่วมมือ “ห้ามเผา” เพื่อเราทุกคนแล้วยังเฉย

วันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2568)  น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้  กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.)  เปิดเผยว่า  ที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์ฝุ่นควันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการคุมเข้มสั่งห้ามเผา และการตรวจจับดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานแนวทางและขั้นตอนการแจ้งเตือนและป้องปรามเกษตรกรไม่ให้เผา ควบคู่กับการส่งเสริมวิธีการกำจัดเศษวัสดุทางการเกษตร เช่น ไถกลบตอซัง ใช้จุลินทรีย์และอินทรียวัตถุ โดยในเบื้องต้นได้รับความร่วมมือจากเกษตรกร และเตรียมขึ้นบัญชีเกษตรกรที่ถูกตัดสิทธิ์และไม่ปฏิบัติตามข้อสั่งการของรัฐ  ซึ่งจะประกาศในเร็วๆนี้

ด้านกรมป่าไม้ รายงานการจัดการไฟในพื้นที่ป่า พบว่า จังหวัดกำแพงเพชรเกิดไฟป่ามากที่สุด และพบจุดความร้อน (hotspots) สะสมในภาคเหนือมากที่สุด ขณะที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมรายงานจำนวนโรงงานรับอ้อยเผาเข้าหีบแต่ละภาคยังมีมาก ซึ่งช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ของแต่ละปีเป็นช่วงที่เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยจะเร่งเก็บผลผลิต แต่ภาพรวมปีนี้ลดลงจากปีก่อน

โดยที่ประชุม ปภ.ช. ได้มอบหมายทุกจังหวัด นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ประสานการทำงานร่วมกับ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ทำงานเชิงรุก เข้าตรวจสอบและแก้ปัญหาการสะสมของจุดความร้อนที่ยังสูงอยู่ โดยเฉพาะที่จังหวัดเพชรบูรณ์และชัยภูมิ

ขณะเดียวกัน กรมควบคุมมลพิษได้เปิดเผยสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 มีแนวโน้มจะบรรเทาลงในช่วงวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 2568 แต่หลังจากนั้น ค่าฝุ่นจะมีแนวโน้มกลับมาสูงอีกครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง โดยต้องเฝ้าระวังจนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เนื่องจากอากาศที่นิ่งและจมตัว เกิดสภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น ทำให้อัตราการระบายอากาศค่อนข้างต่ำ ร่วมกับลมที่มีความแปรปรวนในช่วงนี้ โดยมีลมทิศใต้และตะวันออกเฉียงใต้พัดแทรกบางเวลา ส่วนลมทางตอนเหนือจะเป็นลมตะวันตก ประกอบกับข้อมูลจุดความร้อนที่ยังพบการเผาในหลายพื้นที่

Advertisement

รมช.อัครา เผยข่าวดี กรมประมงประสบความสำเร็จทำหมันปลาหมอคางดำ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 5 กุมภาพันธ์ 2568 รมช.อัครา แจ้งข่าวดี ทีมวิจัยกรมประมง ผลิตปลาหมอคางดำ 4n เพื่อผสมพันธุ์ปลาหมอคางดำ 2n ให้ลูกเป็นหมัน สำเร็จเป็นครั้งแรก

นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ พ.ศ. 2567 – 2570 ที่ประกอบด้วย 7 มาตรการ (14 กิจกรรม) นั้น กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมประมง ได้ดำเนินโครงการวิจัยการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม 4n ในปลาหมอคางดำ เป็นไปตามมาตรการที่ 6 การพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ โดยการนำหลักพันธุศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อการควบคุมการแพร่ขยายพันธุ์ของปลาหมอคางดำ โดยใช้เทคนิคการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซมจากเดิมที่มีจำนวนชุดโครโมโซมตามธรรมชาติ 2 ชุด หรือ 2n ให้เป็นปลาหมอคางดำที่มีชุดโครโมโซม 4 ชุด หรือ 4n โดยจะนำปลาหมอคางดำ 4n เพศผู้ ปล่อยลงสู่แหล่งน้ำเพื่อให้ไปผสมพันธุ์กับปลาหมอคางดำซึ่งมีชุดโครโมโซม 2n ในธรรมชาติ โดยลูกปลาหมอคางดำที่ได้จากการผสมในลักษณะนี้จะได้ลูกปลาฯ ที่มีชุดโครโมโซม 3 ชุด หรือ 3n มีลักษณะที่เป็นหมันไม่สามารถสืบพันธุ์ต่อไปได้

สำหรับการดำเนินการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซมปลาหมอคางดำในครั้งนี้ ดำเนินการเหนี่ยวนำด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 40 °C เป็นระยะเวลา 5 นาที ณ เวลา 80 นาทีหลังผสม ได้ปลาหมอคางดำที่สามารถเจริญเติบโตจนมีอายุ 3 เดือนจำนวน 1,112 ตัว และมีจำนวนปลาหมอคางดำที่มีขนาดที่เหมาะสมสำหรับติดเครื่องหมาย PIT tag ได้ 703 ตัว และสามารถเก็บตัวอย่างเลือดด้วยวิธี pool sample ได้ทั้งหมด 135 กลุ่มตัวอย่าง จากปลาหมอคางดำ 551 ตัว เพื่อตรวจจำนวนชุดโครโมโซมด้วยเครื่อง flow cytometer พบรูปแบบที่มีการแสดงผลเป็นโครโมโซม 4n จำนวน 20 กลุ่มตัวอย่าง และตรวจสอบยืนยันจำนวนโครโมโซมรายตัวเรียบร้อยแล้ว จำนวน 1 กลุ่มตัวอย่าง ซึ่งขณะนี้ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี อยู่ระหว่างดำเนินการเร่งตรวจสอบยืนยันผลรายตัวจนครบ 20 กลุ่มตัวอย่าง ภายในเดือนมีนาคม 2568 ขณะเดียวกันคณะทำงานได้ดำเนินการปรับปรุงขั้นตอนกระบวนการเหนี่ยวนำโครโมโซม เพิ่มเติมจำนวน 9 รูปแบบ โดยมีการตรวจสอบจำนวนชุดโครโมโซมเป็นระยะ ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเพิ่มจำนวนปลาหมอคางดำที่มีชุดโครโมโซมให้เหมาะสมและเพียงพอเพื่อขยายปล่อยลงแหล่งน้ำ ควบคุมจำนวนปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติต่อไป

ด้าน นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและรับฟังรายงานความก้าวหน้าโครงการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม 4n ในปลาหมอคางดำ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี โดยได้ดำเนินการปล่อยปลาหมอคางดำเพศผู้ที่มีโครโมโซม 4n เข้าผสมกับปลาหมอคางดำเพศเมียที่มีโครโมโซม 2n ในหน่วยทดลองเพื่อศึกษาการเข้าคู่ผสมพันธุ์ และความสามารถในการแข่งขันการเข้าคู่ผสมพันธุ์โดยวิธีธรรมชาติ เพื่อให้ได้ลูกปลาที่มีชุดโครโมโซม 3n ซึ่งมีลักษะเป็นหมันต่อไป นอกจากนี้ ยังได้มอบพันธุ์ปลากะพงขาวที่เป็นปลาผู้ล่าในธรรมชาติ ตามมาตรการเเก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ มาตรการที่ 1 ให้เกษตรกรนำไปปล่อยในเเหล่งน้ำธรรมชาติเเละบ่อที่ถูกบุกรุกเพื่อกำจัดเเละควบคุมปริมาณปลาหมอคางดำในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีด้วย

Advertisement

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 2 กุมภาพันธ์ 2568 กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุนิยมวิทยาเผยบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1–2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า โดยภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และยอดภูมีอากาศหนาว ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ยังคงหนาวเย็น และระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้ง รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้บริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบนอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างมาก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนลง

Advertisement

 

Verified by ExactMetrics