วันที่ 17 เมษายน 2025

แจ้งเตือน 23-25 ก.พ.นี้ อากาศแปรปรวน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 21 กุมภาพันธ์ 2568 ทำเนียบ – “จิรายุ” เผย ปภ.ช. แจ้งเตือน 23-25 ก.พ.นี้ อากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง ขณะที่ กทม.-ปริมณฑล สุดสัปดาห์นี้ ฝุ่นจะกลับมาเพิ่มขึ้น

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เวลา 20.00 น. เกิดเหตุไฟไหม้ป่าที่แหลมกระทิง จ.ภูเก็ต พื้นที่ประมาณ 10 ไร่ โดยทางจังหวัดได้ระดมสรรพกำลังดับไฟจนสงบลงเช้าวันนี้ จึงขอให้ทุกพื้นที่เฝ้าระวังและหากเกิดไฟไหม้ให้รีบดับโดยเร็วที่สุด

ส่วนสถานการณ์ภาพรวมทั้งประเทศวันนี้ กรมควบคุมมลพิษรายงานว่า ในบางพื้นที่สถานการณ์แย่ลงกว่าเมื่อวาน (20 ก.พ.) เมื่อเทียบกันในช่วงเวลา 07.00 น. โดยพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และภาคกลาง เช่น สิงห์บุรี อ่างทอง ที่มีค่าฝุ่นสูงถึงระดับสีส้ม ซึ่งตรงกับที่คาดการณ์ไว้ว่า วันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ สถานการณ์จะแย่ลง แต่หลังจากวันที่ 24 กุมภาพันธ์ไปแล้ว สถานการณ์จะดีขึ้น เช่นเดียวกับภาคตะวันออก ส่วนพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ สถานการณ์ดีขึ้น ไม่มีพื้นที่สีแดง แต่ยังมีกลุ่มจังหวัดที่เป็นสีส้ม คือ ลำปาง พิษณุโลก น่าน เชียงราย และตาก ขณะที่ 20 จังหวัดแรก ที่พบค่าฝุ่นสูงสุด คือ ต.หน้าพระลาน สระบุรี เขตบึงกุ่ม กทม. และ ต.ในเมือง จ.พิษณุโลก ทั้งนี้ คาดการณ์ระบุว่า หลัง 21 กุมภาพันธ์ สถานการณ์ในภาคเหนือจะดีขึ้น แต่จะพบสีส้มในพื้นที่ภาคกลาง และกทม. เป็นส่วนใหญ่

“แนวโน้มสถานการณ์ ต้องเฝ้าระวังในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล สุดสัปดาห์นี้ ฝุ่นจะกลับมาเพิ่มขึ้น เมื่อเข้าสู่วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ลมตะวันออกเฉียงเหนือจะพัดเข้ามา ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างชัดเจน แต่หลังจากนั้นช่วงวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ สถานการณ์ฝุ่นอาจจะกลับมาอีก ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด”

สำหรับจุดความร้อนจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(องค์กามหาชน) หรือ จิสด้า รายงานว่า ประเทศไทยพบจุดความร้อนจำนวน 264 จุด กระจายตัวในภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคอีสาน นอกจากนี้ ยังพบการกระจุกตัวอยู่ในเมียนมา ที่วันนี้พบจุดความร้อนสูงสุด คือ 1,898 จุด รองลงมาคือ กัมพูชา ส่วนไทยอยู่ลำดับที่ 4 โดยจำนวนจุดความร้อนเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาลดลง เนื่องจากมีฝนตกลงมาในหลายพื้นที่ ส่วนจังหวัดชัยภูมิพบจุดความร้อนมากที่สุดถึง 47 จุด ตาก 21 จุด นครราชสีมา 18 จุด และลพบุรี 15 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าและพื้นที่เกษตร

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศพบความชื้นในประเทศไทยที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและจะมีฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคใต้บางพื้นที่ แต่ไม่สามารถลดสถานการณ์ฝุ่นได้มากนัก ทั้งนี้ ขอแจ้งเตือนเฝ้าระวังอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักภาคใต้ คลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ช่วงวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ ต้องเฝ้าระวังพายุฝนฟ้าคะนอง โดยคาดการณ์จะมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช

Advertisement

รัฐบาลชี้แจง ก.ศึกษาฯ ไม่ได้สั่งยกเลิกแต่งชุดนักเรียน แค่ผ่อนผันบางราย ลดค่าใช้จ่าย

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 19 พฤษภาคม 2567 รัฐบาลแจง ก.ศึกษาธิการ ไม่ได้สั่งประกาศยกเลิกแต่งชุดนักเรียน ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ ย้ำเป็นการยกเว้นหรือผ่อนผัน เพื่อลดค่าใช้จ่าย

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีผู้โพสต์ข้อมูลในเฟซบุ๊กว่า กระทรวงศึกษาธิการ สั่งประกาศให้ยกเลิกแต่งชุดนักเรียนนั้น ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ พร้อมขอชี้แจงว่า การยกเว้นหรือผ่อนผันการแต่งเครื่องแบบนักเรียน เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของนักเรียนและผู้ปกครอง ทางกระทรวงศึกษาธิการจึงแจ้งให้สถานศึกษาในสังกัดพิจารณายกเว้นหรือผ่อนผันการแต่งเครื่องแบบและรองเท้าของนักเรียน เป็นชุดหรือรองเท้าอื่น โดยคำนึงถึงความประหยัดและเหมาะสม

นายคารม ระบุว่า การยกเว้นหรือผ่อนผัน สถานศึกษาจะพิจารณาเป็นรายตามความเหมาะสม พร้อมรายงาน รมว.ศธ.ทราบ ไม่ใช่การสั่งยกเลิกชุดนักเรียน เนื่องจากเริ่มมีเพจออนไลน์บางเพจตั้งใจสื่อสารว่า กระทรวงฯ ยกเลิกชุดนักเรียน ซึ่งคำว่า ยกเลิก กับ ยกเว้น มีความหมายแตกต่างกัน ทั้งนี้ การออกหนังสือของ ศธ. มีวัตถุประสงค์ให้ยกเว้นหรือผ่อนผัน เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง ซึ่งผู้บริหารสถานศึกษาสามารถตัดสินใจได้เอง การออกหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริหารสถานศึกษาดำเนินการได้ในแนวทางเดียวกัน

“ยกเว้นการแต่งชุดนักเรียน หมายถึง พิจารณาแล้วว่าเด็กมีความจำเป็นเรื่องการหาชุดนักเรียนตามระเบียบมาใส่ อาจยกเว้นไม่ต้องแต่งชุดนักเรียน โดยใส่ชุดอื่นที่เหมาะสม เช่น ชุดพละ หรือชุดที่มีอยู่ไปก่อน เมื่อจัดหาชุดนักเรียนได้แล้วก็ใส่ชุดนักเรียนตามปกติ ส่วนยกเลิกการแต่งชุดนักเรียน หมายถึง ทุกคนในประเทศไม่ต้องแต่งชุดนักเรียน เครื่องแบบนักเรียนจะไม่มีอีกต่อไป” นายคารม ย้ำ

Advertisement

พยากรณ์อากาศวันนี้ ไทยตอนบนอากาศเย็นลง 1-3 องศาฯ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 9 ธันวาคม 2567 กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมไทยตอนบน ทำให้อากาศเย็นลง กับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 1–3 องศาฯ

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นลง กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1–3 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาว ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นลง รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากอากาศแห้งและลมแรง

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยตอนบนมีแนวโน้มของการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันที่ลดลง แต่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีถึงปานกลาง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังแรงขึ้นและมีการระบายอากาศที่ดี

พยากรณ์อากาศรายภาค วันที่ 9 ธ.ค.67

กทม.-ปริมณฑล : เมฆบางส่วนกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคเหนือ : อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง : อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก : เมฆบางส่วนกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร, ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

Advertisement

ค่าฝุ่น PM2.5 วันนี้ เกินมาตรฐานค่อนประเทศ 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 22 มกราคม 2568 กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวว่า ปริมาณฝุ่น PM2.5 ในประเทศยังมีค่าเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ สาเหตุหลักมาจากสภาพอุตุนิยมวิทยาที่ไม่เอื้อต่อการระบายของฝุ่นละออง สภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น อัตราการระบายอากาศต่ำ อีกทั้งยังพบจุดความร้อนทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน

จากรายงานผลตรวจปริมาณ PM2.5 ในประเทศวันนี้ (22 มกราคม 2568) ซึ่งพบว่า เกินค่ามาตรฐาน 60 จังหวัดได้แก่ จ.ปทุมธานี กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ จ.เชียงราย จ.น่าน จ.พะเยา จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.สิงห์บุรี จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา จ.สุพรรณบุรี จ.กาญจนบุรี จ.ราชบุรี จ.สมุทรสงคราม จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.ตราด จ.ชุมพร จ.บึงกาฬ จ.หนองคาย จ.เลย จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.หนองบัวลำภู จ.สกลนคร จ.มุกดาหาร จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์ จ.มหาสารคาม จ.ร้อยเอ็ด จ.อำนาจเจริญ จ.ชัยภูมิ จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์

ส่วนผลตรวจวัดตามรายภาคมีดังนี้

-ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 14.5 – 84.0 มคก./ลบ.ม.

-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 39.1 – 77.5 มคก./ลบ.ม.

-ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 39.3 – 94.0 มคก./ลบ.ม.

-ภาคตะวันออก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 31.2 – 84.9 มคก./ลบ.ม.

-ภาคใต้ เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 17.9 – 52.4 มคก./ลบ.ม.

-กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 45.7 – 85.0 มคก./ลบ.ม.

สำหรับผลการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 23 – 29 มกราคม 2568 พบว่า พื้นที่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นวันที่ 23 – 27 ม.ค. 2568 และยังคงต้องเฝ้าระวังในบางพื้นที่ โดยภาคใต้อยู่ในเกณฑ์ดีดีอย่างต่อเนื่อง

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวด้วยว่า จากการติดตามจุดความร้อนพบว่ามีการเผาโดยเฉพาะในพื้นที่เกษตรเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น จึงต้องเน้นย้ำและให้ความสำคัญกับการควบคุมการเผาอย่างเข้มข้น พร้อมประสานทุกหน่วยงานยกระดับการเฝ้าระวังและลดผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก

สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งประสานงานใกล้ชิดกับกรมควบคุมมลพิษ กรุงเทพมหานครจึงประกาศใช้มาตรการ Low Emission Zone ห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปเข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษก โดยมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ วันที่ 23 ม.ค.เวลา 00.01 น. – วันที่ 24 ม.ค.เวลา 23.59 น. (2วัน) ยกเว้นรถยนต์ไฟฟ้า แก๊ส NGV รถเครื่องยนต์ดีเซลมาตรฐาน EURO 5 – 6 และรถที่ลงทะเบียน Green List รวมถึงมาตรการ WORK FROM HOME (WFH) กทม. ประกาศขยายระยะเวลา WFH เพิ่มเติมไปถึงวันที่ 24 มกราคม 2568 เพื่อลดการเดินทาง ลดปริมาณรถยนต์ในการจราจรซึ่งเป็นต้นตอหนี่งของฝุ่นในกรุงเทพฯ ก็ต้องขอความร่วมมือ ปัจจุบันมีหน่วยงานร่วมเครือข่าย WFH กับกรุงเทพมหานครแล้ว 278 บริษัท เกือบ 100,000 คน

กรมควบคุมมลพิษขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชน วางแผนการทำงานล่วงหน้า (Work From Home) หรือใช้รถโดยสารสาธารณะ เพื่อลดปริมาณการจราจรบนท้องถนน งดการเผาในที่โล่งทุกชนิด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 และผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย เด็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ ขอให้พี่น้องประชาชนดูแลสุขภาพ ลดกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นควรสวมใส่หน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันตัวเองเมื่อออกนอกบ้าน ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองได้ผ่านเว็บไซต์ Air4Thai.pcd.go.th หรือ ทางแอปพลิเคชัน Air4Thai

Advertisement

WHO เตือน โอมิครอนลูกผสม XE อาจแพร่เชื้อได้เร็วที่สุดเท่าที่เคยพบมา

People Unity News : 2 เมษายน 2565 องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกคำเตือนเกี่ยวกับเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์โอมิครอนลูกผสมเอ็กซ์อี (XE) ที่เชื่อว่าอาจสามารถแพร่เชื้อได้รวดเร็วที่สุดเท่าที่เคยพบมานับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปลายปี 62

สำหรับเชื้อโอมิครอน XE เป็นเชื้อลูกผสมระหว่างเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม BA.1 กับสายพันธุ์ย่อย BA.2

โดย BA.2 นั้น กำลังกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 แล้วร้อยละ 86 ของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมด เนื่องจากสายพันธุ์ย่อย BA.2 สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์ได้ดีกว่าและแพร่เชื้อได้เร็วกว่าสายพันธุ์ BA.1 ถึงร้อยละ 30 ขณะที่สายพันธุ์ลูกผสม XE สามารถแพร่เชื้อได้เร็วกว่าBA.2 ถึงร้อยละ 10

องค์การอนามัยโลกระบุว่า เชื้อโอมิครอน XE ถูกพบครั้งแรกในอังกฤษเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา และขณะนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้แล้วไม่น้อยว่า 600 คน โดยยังจัดให้เชื้อลูกผสม XE เป็นสายพันธุ์ย่อยของเชื้อโอมิครอนต่อไป จนกว่าจะตรวจสอบพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงการแพร่เชื้อ ลักษณะอาการป่วย และความรุนแรงของโรค

Advertisement

เตือนภัย! ยาอีโฉมใหม่ในซองกาแฟ ออกฤทธิ์รุนแรง แนะผู้ปกครองสังเกตพฤติกรรมบุตรหลาน

People Unity News : เตือนภัย! ยาอีโฉมใหม่ในซองกาแฟ ออกฤทธิ์รุนแรง แนะผู้ปกครองหมั่นสังเกตพฤติกรรมบุตรหลาน

3 พ.ย.64 นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เผยว่า ปัจจุบันมีการลักลอบนำยาอีบดเป็นผงบรรจุลงในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ซองครีมเทียม ซองกาแฟ 3in1 พบแพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่นทาง Social Media

ซึ่งยาอี ยาเลิฟ เอ็คซ์ตาซี (Ecstasy) เป็นยาเสพติดตัวเดียวกัน โดยออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทในระยะเวลาสั้นๆ หลังจากนั้นจะหลอนประสาทอย่างรุนแรง ทำให้เซลล์สมองส่วนที่ทำหน้าที่หลั่งสารซีโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสำคัญในการควบคุมอารมณ์ทำงานผิดปกติ โดยจะหลั่งสารนี้ออกมามากกว่าปกติ ทำให้สดชื่น อารมณ์ดี แต่เมื่อสารดังกล่าวจะลดน้อยลง ทำให้ผู้เสพเข้าสู่สภาวะอารมณ์เศร้าหมองหดหู่ เกิดอาการซึมเศร้า และอาจกลายเป็นโรคจิตประเภทซึมเศร้า มีแนวโน้มการฆ่าตัวตายสูงกว่าคนปกติ

การลักลอบนำยาอีบรรจุลงในผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาจทำให้ตรวจสอบได้ยากขึ้น จึงขอให้ผู้ปกครองหมั่นติดตามข่าวสาร พร้อมสังเกตพฤติกรรมของบุตรหลาน หากพบมีพฤติกรรมเสี่ยง ควรพูดคุยด้วยเหตุผลไม่ใช้ความรุนแรง บอกถึงผลเสียและอันตรายที่จะตามมา และรีบพาไปพบแพทย์เพื่อเข้าสู่การบำบัดรักษา โดยสามารถขอรับคำปรึกษาเรื่องยาและสารเสพติดได้ที่ สายด่วนยาเสพติด 1165

Advertising

กระทรวงต่างประเทศชี้แจง เหตุผู้แทนไทยไปประชุม Belt and Road Forum ที่จีนจำนวนมาก

People Unity : ด่วน! กระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจง ตามที่มีการสอบถามว่า ทำไมคณะผู้แทนไทยไปเข้าร่วมการประชุม Belt and Road Forum ครั้งที่ 2 ที่จีนเป็นจำนวนมาก

วันนี้ (27 เมษายน 2562) อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า การประชุมข้อริเริ่มสายแถบหนึ่งเส้นทาง จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 27 เม.ย.2562 ตั้งแต่การประชุมระดับผู้เชี่ยวชาญ/ระดับสูง จำนวน 12 เวที ในลักษณะเวทีการหารือกลุ่มย่อย (Thematic Forum) ครอบคลุมประเด็นความเชื่อมโยงในทุกมิติ ตั้งแต่ด้านนโยบาย โครงสร้างพื้นฐาน การค้าการลงทุน เทคโนโลยีและนวัตกรรม ดิจิทัล จนถึงด้านการศึกษาและประชาชน โดยมีผู้แทนจาก 150 ประเทศ องค์การระหว่างประเทศ 29 องค์การ และภาควิชาการเอกชนจำนวนมาก ชาวต่างประเทศที่มาเข้าร่วมกว่า 5,000 คน สำหรับประเทศไทย ฝ่ายจีนได้เชิญรัฐมนตรีของไทยเข้าร่วมในเวทีต่างๆด้วย ได้แก่ รมว. กต. (เข้าร่วมเวที ความเชื่อมโยงด้านนโยบาย) รมว. คค. (เข้าร่วมเวทีการเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน) รมว. ดศ. (เข้าร่วมเวทีดิจิทัล) เลขาธิการ ป.ป.ช. (เข้าร่วมเวทีเกี่ยวกับการต่อต้านคอรัปชั่น) เลขาธิการ BOI (เข้าร่วมเวทีส่งเสริมการค้าการลงทุน) รวมทั้งผู้แทนหน่วยงานอื่นๆ ที่ได้รับเชิญเข้าร่วม อาทิ เวทีความเชื่อมโยงด้านนวัตกรรม การศึกษาและด้านประชาชน นอกจากนี้ ยังมีผู้แทนภาคประชาสังคมและภาคเอกชนไทยจำนวนมากได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมด้วย

ในการประชุมระดับผู้นำ นรม. ได้รับเชิญจาก ปธน. สี จิ้นผิง (สปป. จีน) เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำระหว่างวันที่ 26 – 27 เมษายน 2562 ประกอบด้วยการประชุมระดับสูง (High Level) และการประชุมผู้นำโต๊ะกลม (Roundtable) โดยในการประชุมครั้งนี้ มีผู้นำเข้าร่วมทั้งหมด 38 ประเทศ จากทุกทวีป รวมทั้งอาเซียน 10 ประเทศ เพื่อติดตามความคืบหน้าของความร่วมมือและโครงการต่างๆ ภายใต้ข้อริเริ่มฯ และเพื่อหารือถึงทิศทางความร่วมมือในอนาคต

ไทยให้ความสำคัญกับข้อริเริ่มฯ โดยถือเป็นยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนา โดยเฉพาะความเชื่อมโยง การพัฒนาอย่างยั่งยืน และการเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาของไทยที่ไทยผลักดันมาโดยตลอด โดยจีนถือเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันในทุกระดับ และในการเข้าร่วมครั้งนี้ นอกเหนือจากการแสดงถึงบทบาทของไทยในฐานะสะพานเชื่อมระหว่างภูมิภาครวมถึง BRI แล้ว ยังแสดงถึงบทบาทไทยในฐานะประธานอาเซียนด้วย

ข่าวด่วน : กระทรวงต่างประเทศชี้แจง เหตุผู้แทนไทยไปประชุม Belt and Road Forum ที่จีนจำนวนมาก

People Unity : post 27 เมษายน 2562 เวลา 19.50 น.

เข้าสู่ช่วง “พายุฤดูร้อน” มท.1 สั่งทุกจังหวัดพร้อมรับมือ

People Unity News : 18 กุมภาพันธ์ 2566 มท.1 กำชับผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด เตรียมพร้อมรับสถานการณ์พายุฤดูร้อน ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน ก.พ.-มี.ค.66 พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) ได้ติดตามการคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูร้อนของประเทศไทยร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนมีนาคม ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวัน จากนั้นจนถึงปลายเดือนเมษายน จะมีอากาศร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป มีอากาศร้อนจัด และจะเกิดพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่ โดยจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมทั้งอาจมีลูกเห็บตกลงในบางแห่ง ซึ่งสภาวะดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนผลผลิตทางการเกษตรได้

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เตรียมการรับสถานการณ์พายุฤดูร้อนที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ โดยดำเนินการ 1. ด้านการเตรียมความพร้อม ด้วยการ 1) ติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่อาจทำให้เกิดพายุฤดูร้อนกับกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งมอบหมายเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2) ให้ผู้อำนวยการแต่ละระดับ เร่งตรวจตราอาคารสถานที่ ป้ายโฆษณา สิ่งก่อสร้าง รวมถึงไม้ยืนต้นตามที่สาธารณะที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง พร้อมทั้งแจ้งให้หน่วยงานตามกฎหมาย เข้าตรวจสอบ ซ่อมแซมตามอำนาจหน้าที่ ตลอดจนเชิญชวนประชาชนจิตอาสามีส่วนร่วมในการสอดส่อง ปรับปรุง ดูแลให้เกิดความปลอดภัยต่อไป 3) ให้ผู้อำนวยการท้องถิ่นเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ ทรัพยากร เครื่องจักรกลสาธารณภัย เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและทันท่วงที 4) สร้างการรับรู้ให้ประชาชนทราบถึงแนวทางการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย อาทิ การตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของที่พักอาศัย การป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า และกรณีต้นไม้หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรงล้มทับ พร้อมทั้งแจ้งช่องทางการขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ตลอดจนมาตรการในการดูแลประชาชน ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ ที่ประชาชนสามารถเข้าใจและเข้าถึงได้ง่าย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า 2. ในด้านการเผชิญเหตุ หากจังหวัดใดเกิดสถานการณ์พายุฤดูร้อนในพื้นที่ ให้จังหวัดดำเนินการตามแนวทาง 1) หากเกิดเหตุวาตภัยที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินในพื้นที่ใด ให้เร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามกฎ ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง 2) กรณีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายให้แบ่งมอบการกิจ พื้นที่รับผิดชอบและบูรณาการหน่วยงาน เพื่อจัดทีมปฏิบัติการเร่งเข้าซ่อมแชมบ้านเรือนประชาชนโดยเร่งด่วน 3) กรณีป้ายโฆษณา สิ่งก่อสร้าง ไม้ยืนต้น หรือโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะระบบไฟฟ้าได้รับความเสียหาย ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าดำเนินการแก้ไขไม่ให้กีดขวางพื้นที่สาธารณะ และซ่อมแซมให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว 4) กรณีความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและอำเภอร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือตามกฎ ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง 5) เมื่อเกิดสถานการณ์วาตภัยจากพายุฤดูร้อนขึ้นในพื้นที่ ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสรุปสถานการณ์และรายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบผ่านกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

“กระทรวงมหาดไทยได้ย้ำเตือนให้จังหวัด อำเภอ ได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างการรับรู้หมายเลขโทรศัพท์สายด่วนที่เกี่ยวข้อง ผ่านทุกช่องทางสื่อสารในพื้นที่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถติดต่อหน่วยงานในการขอรับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่เข้าให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์วาตภัยและภัยต่าง ๆ สามารถติดต่อแจ้งขอรับความช่วยเหลือผ่านสายด่วนนิรภัยโทร. 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือต่อไป” พลเอก อนุพงษ์กล่าว

Advertisement

วันนี้ฝนตกทั่วไทย 40-70% ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

People Unity News : 26 พฤศจิกายน 2565 กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนฟ้าคะนอง 40-70% เตือนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน

กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันโดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมทะเลอันดามันตอนบนประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

สำหรับอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามัน ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้

ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร และพิษณุโลก อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

Advertisement

โฆษกกระทรวงดีอีเอส เตือนพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ระวังสลิปปลอม แนะเช็กยอดก่อนส่งสินค้า

People Unity News : 31 กรกฎาคม 2565 โฆษกดีอีเอส เตือนพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ระวังสลิปปลอม แนะเช็กยอดโอนก่อนส่งสินค้า หากเกิดเหตุแล้วให้รีบแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.com

นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวการแจ้งเตือนพ่อค้าแม่ค้าระวังภัยออนไลน์จากลูกค้าใช้สลิปบัญชีธนาคารปลอมแจ้งว่าชำระเงินแล้ว หลอกให้ส่งของโดยไม่ได้โอนเงินจริง และพบมีคนทำโปรแกรมสร้างสลิปปลอมมาขาย โดยสามารถกรอกชื่อผู้รับ ผู้โอนเป็นใครก็ได้ ตัวเลขเท่าใด โอนวันไหน เวลาไหน แล้ว สร้างภาพสลิปออกมา จึงขอแจ้งเตือนให้พ่อค้า แม่ค้า ระมัดระวัง ควรสังเกตสลิปก่อนที่จะส่งของให้ลูกค้า ตรวจสอบยอดเงินโอนในมือถือก่อนว่ามียอดเงินเข้ามาแล้วจริงๆ ก่อนส่งมอบสินค้า ทั้งนี้โดยทั่วไป การทำธุรกรรมโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร ในแต่ละครั้งธนาคารจะมีการบันทึกสลิปการทำธุรกรรมที่มีระบุรายละเอียดในการโอนเงิน คือ ชื่อผู้รับ/ผู้ส่ง, วัน เดือน ปี เวลา ที่ทำรายการ, จำนวนเงิน, QR Code เพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบ ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดหรือมีปัญหาในการทำธุรกรรม

“ในกรณีสลิปปลอมมิจฉาชีพอาจจะใช้ช่องโหว่ของภาพสลิปมาดัดแปลง ทำซ้ำ เพื่อให้พ่อค้า แม่ค้า ที่ไม่ได้ทันสังเกต เห็นภาพสลิปโอนเงินปลอม ที่มิจฉาชีพแสดงหรือส่งไลน์ไปเป็นหลักฐานให้กับร้านค้าต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมปลอมสลิป เพราะสามารถใช้แอป แต่งรูปภาพบนสมาร์ทโฟนทำได้เลย”

สำหรับวิธีการตรวจสอบสลิปปลอม มีดังนี้

สังเกตภาพของสลิปโอนเงินว่าตัวหนังสือ และตัวเลขต่างๆ มีความสม่ำเสมอ อักษรเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่ สลิปปลอมส่วนใหญ่ ตัวหนังสือบนสลิป เช่น เวลา วันที่ จำนวนเงิน ชื่อบัญชีผู้รับโอน ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าตัวหนังสือบนสลิปจะมีความหนา-บางไม่เท่ากัน หรืออาจจะเป็นตัวหนังสือคนละประเภทกัน และตรวจสอบยอดเงิน ชื่อบัญชีของผู้รับโอนด้วย ว่าเป็นบัญชีของเราหรือไม่ ยอดเงินถูกต้องหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายลักษณะนี้ โอกาสเป็นสลิปปลอมสูงมาก

สแกน QR Code บนสลิปโอนเงินที่ต้องการตรวจสอบ ทั้งนี้สลิปโอนเงินจากแอปพลิเคชันของธนาคารต่างๆ จะมี QR Code ให้เราสามารถตรวจสอบสลิปปลอมได้ ทำได้โดยเข้าไปที่แอปของธนาคารที่เรารับโอน จากนั้นกด “สแกน QR Code” ใช้กล้องโทรศัพท์สแกน QR Code บนสลิปโอนเงินของลูกค้า หรือถ้ามีรูปสลิปโอนเงินอยู่ในโทรศัพท์อยู่แล้ว สามารถเลือกรูปสลิปที่อยู่ในอัลบั้มภาพที่เรา save มาตรวจสอบได้เลย ระบบก็จะตรวจสอบให้เราได้เห็นว่ายอดเงินที่โอนเข้ามาตรงกับสลิปหรือไม่ หากยอดเงินไม่ตรง หรือว่าไม่สามารถตรวจสอบได้ เป็นไปได้ว่าลูกค้าอาจส่งสลิปปลอมให้แทน

ใช้บริการแจ้งเตือนของธนาคาร ซึ่งวิธีนี้อาจไม่ใช่วิธีการตรวจสลิปปลอมได้โดยตรงก็ตาม แต่การใช้ประโยชน์จากบริการแจ้งเตือนของธนาคาร ทำให้เราสามารถ รับการแจ้งเตือน ยอดเงินเข้า – ออกจากบัญชีของธนาคาร เพื่อตรวจสอบยอดโอนของลูกค้าว่าโอนเงินเข้ามาจริงหรือเปล่า ตรงตามยอดที่ตกลงกันไว้หรือไม่ โดยเปรียบเทียบกับสลิปโอนเงินที่ลูกค้าส่งมา

ใช้ระบบจัดการร้านค้าที่มีฟังก์ชันตรวจสอบสลิปการโอนเงินอัตโนมัติ กรณีที่ร้านค้าออนไลน์มียอดการสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก และมีการโอนเงินเข้าหลายรายการ สามารถเลือกใช้ระบบจัดการร้านค้าที่มีระบบตรวจสอบสลิป และยอดเงินเข้าอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้ร้านค้าประหยัดเวลา และลดขั้นตอนการตรวจสอบสลิปปลอม

“หากส่งสินค้าไปแล้ว พบว่าเป็นสลิปปลอม หากเกิดเหตุแล้วให้รีบแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.com เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัทขนส่งต่างๆ เพื่ออายัดการส่งของให้เร็วที่สุดก่อนเพื่อบรรเทาความเสียหาย หากปล่อยเป็นระยะเวลานานจะทำให้ไม่สามารถติดตามเอาสินค้าคืนได้ สงสัยสอบถามข้อมูลและแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนของกระทรวงดิจิทัลฯ 1212 (24 ชม.), บช.สอท. โทร.1441” นางสาวนพวรรณ กล่าว

Advertisement

Verified by ExactMetrics