วันที่ 29 พฤศจิกายน 2024

“สมศักดิ์”เป็นสักขีพยานเซ็น MOU “ม.สงฆ์ มจร – 24 หน่วยงาน”ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท

People Unity News :  “สมศักดิ์”เป็นสักขีพยานเซ็น MOU “ม.สงฆ์ มจร – 24 หน่วยงาน” เครือข่ายสันติภาพ ร่วมพัฒนานักไกล่เกลี่ยความขัดแย้งในสังคมไทย

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ที่ห้องประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทาราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานลงนามความร่วมมือในการพัฒนาผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ย พ.ศ. 2562 ของหน่วนงานจำนวน 25 แห่ง ในจำนวนนี้มีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) รวมอยู่ด้วย โดยได้มอบหมายให้พระมหาเผื่อน กิตฺติโสภโณ, ผศ.ดร. รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ (IBSC)

“ธพส.”เปิดเวทีฟังความเห็นครั้งที่ 1 พัฒนาพื้นที่ศูนย์ราชการฯโซน C มุ่งทำมาตรการสิ่งแวดล้อมจราจร

People Unity News : “ธพส.”เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 โครงการพัฒนาพื้นที่ศูนย์ราชการฯ โซน C เดินหน้าจัดทำมาตรการสิ่งแวดล้อมและแผนแม่บทการพัฒนาระบบจราจร

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 เวลา 08.30 น. ที่ห้องประชุมออดิทอเรียม ชั้น 2 อาคารทรงกลม โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) เป็นประธาน เปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยาย ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โซน C โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 200 คน

ดร.นาฬิกอติภัค กล่าวว่า ธพส. ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ในพื้นที่โซน C ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 โดยปัจจุบันได้เตรียมพื้นที่ให้มีความพร้อมสำหรับก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการออกแบบรายละเอียด ซึ่งในการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวธพส. ให้ความสำคัญกับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมของประชาชนที่อยู่โดยรอบศูนย์ราชการฯ รวมทั้งการศึกษาระบบการจัดการจราจรในบริเวณพื้นที่โดยรอบโครงการฯและพื้นที่เชื่อมโยงกับถนนแจ้งวัฒนะ ตลอดจนการมีส่วนร่วมของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันพัฒนาพื้นที่และหาแนวทางการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและการจราจรให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติมากที่สุด

ภายในการประชุม มีการนำเสนอข้อมูลรายละเอียดของแนวทางการดำเนินงานศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมที่ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ ด้านทรัพยากรกายภาพ ทรัพยากรชีวภาพ คุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ และคุณค่าต่อคุณภาพชีวิต โดยจะดำเนินการศึกษาด้วยการสำรวจข้อมูลต่างๆ ทั้งสภาพนิเวศวิทยา เศรษฐกิจสังคม การใช้ประโยชน์ที่ดิน รวมทั้งการลงพื้นที่ศึกษาเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำผิวดิน ตรวจวัดเสียง ความสั่นสะเทือน ตรวจวัดคุณภาพอากาศ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลสภาพทรัพยากรสิ่งแวดล้อมปัจจุบัน พร้อมเสนอมาตรการตรวจสอบ ป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตลอดการดำเนินโครงการฯ

นอกจากนี้ยังนำเสนอข้อมูล และแนวทางการดำเนินงานศึกษาทบทวนแผนการพัฒนาโครงข่ายการจราจร รวมถึงแนวทางการสำรวจออกแบบเบื้องต้น ระบบขนส่งมวลชนระบบหลักและระบบรองภายในพื้นที่ศูนย์ราชการฯ เพื่อจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบการจราจร ทั้งภายในพื้นที่โดยรอบโครงการฯ และพื้นที่เชื่อมโยงกับถนนแจ้งวัฒนะให้เหมาะสม เพื่อป้องกันและลดผลกระทบด้านการจราจรที่จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนผู้ใช้บริการ

ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม จะมีการรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อโครงการฯ นำไปประกอบผลการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมและจราจร ของโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยาย ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ในพื้นที่โซน C ด้วย ซึ่งผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลรายละเอียด
การดำเนินงานโครงการฯ ได้ที่แฟนเพจ Government Complex ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ZoneC

“บิ๊กตู่”รับแล้ว!โรงงานปิดตัวกว่า 1,000 แห่ง สั่งช่วยคนตกงาน

People Unity News : “บิ๊กตู่”รับแล้ว!โรงงานปิดตัวกว่า 1,000 แห่ง สั่งช่วยคนตกงาน รวมถึงการปรับปรุงการทำงาน “ครม.เศรษฐกิจ” เร่งขับเคลื่อนไตรมาสสุดท้ายครอบคลุมทุกมิติ

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) แถลงผลภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในการประชุมมีหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องของเศรษฐกิจ ทั้งเศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจของกลุ่มเกษตรกรต่างๆ รวมถึงแรงงาน ว่าเราจะแก้ปัญหาตรงนี้ได้อย่างไร หลายอย่างเป็นมิติที่จะต้องหารือร่วมกันในการทำงาน ซึ่งตนได้สั่งการให้พัฒนาปรับปรุงการทำงานของ ครม.เศรษฐกิจ ไปด้วย เพื่อให้ครอบคลุมในหลายๆ มิติด้วยกัน เพราะต้องเดินหน้าไปด้วยกันทั้งเรื่องการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ เรื่องการท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เนื่องจากการลงทุนของรัฐบาลมีหลายอย่าง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เรื่องของแรงงาน ต้องเน้นในเรื่องทักษะ โดยในส่วนที่ตกงานหรืออะไรต่างๆ ก็ยังมีโรงงานที่เกิดขึ้นใหม่ 2,800 แห่ง และที่มีการเลย์ออฟพนักงานก็มีอยู่บ้างประมาณ 1,000 กว่าโรงงาน ก็ต้องไปดูรายละเอียดของโรงงานที่ลดการจ้างลง หรือยกเลิกคนเพราะอะไร ตรงนี้มันก็มีเหตุมีผลของมันในตัว ขณะเดียวกัน โรงงานใหม่มันก็เกิดขึ้นแล้วคนที่ตกงานจะทำอย่างไร วันนี้ก็ได้สั่งการไปแล้วต้องหาวิธีดำเนินการแก้ปัญหา สิ่งสำคัญที่อยากจะขอร้องคือ ทำอย่างไรให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ ถ้าเราพูดถึงเพียงความขัดแย้งอย่างเดียวและอะไรที่ไม่ดีมากนัก ความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายเงินก็ลดลง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องการส่งออกมีการสรุปมาว่าดีขึ้น แม้จะไม่มากนัก แต่ถ้าเราไปถามรายบุคคล หรือเป็นกลุ่มก็อาจมีปัญหาอยูบ้าง ต้องดูในรายละเอียดว่าจะช่วยเขาได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่ยากของการเป็นรัฐบาลในเวลานี้ ย่อมมีผลกระทบทั้งสิ้น จึงต้องดูทั้งปัจจัยภายในภายนอก ถ้ามองภายในอย่างเดียว อาจมองว่ารัฐบาลทำงานไม่ได้ผล ขอให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลด้วย วันนี้พยายามทำอย่างเต็มที่ ขอให้ช่วยกันสู้ไปด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธาซึ่งกันและกัน เรื่องใดที่ยังไม่มีข้อยุติตามกฎหมาย หากเอามาวิพากษ์วิจารณ์กันเยอะๆ ก็ไม่เกิดประโยชน์ เรื่องที่มีการทุจริตก็มีกระบวนการตรวจสอบ ถ้ายังไม่เข้ากระบวนการศาล หรือกระบวนการยุติธรรม ก็ถือว่ายังไม่มีความผิดใดๆ ทั้งสิ้น ตรงนี้คือความเป็นธรรม ฝากให้ช่วยกันคิดด้วย ประเทศไทยหลายอย่างดีขึ้น แต่ถ้าเรามองสิ่งที่ยังไม่ดีมีปัญหาก็ทำลายความมั่นใจความเชื่อมั่น กำลังใจซึ่งกันและกันมันจะหมดลงเรื่อยๆ หลายประเทศให้ประชาชนนึกถึงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะเป็นแกนหลักสำคัญในการนำพาประเทศชาติผ่านพ้นช่วงวิกฤติ

“ชวน”ยันออกระเบียบเรียกบุคคลแจง”กมธ.”ไม่ได้เอื้อใครเหตุมีมานานแล้ว

People Unity News : “ชวน”ยันออกระเบียบเรียกบุคคลแจง”กมธ.”ไม่ได้เอื้อใครเหตุมีมานานแล้ว กรีด”วันนอร์”ปูดห้องลับซื้องูเห่า ชี้ไม่ว่าสัตว์อะไรก็ขออย่ามาเข้าสภา “วิปฝ่ายค้าน”โอด!วาระรับทราบค้างเยอะ ทำญัตติแก้”รธน.”ถูกเลื่อน

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการออกประกาศระเบียบสภาผู้แทนราษฎรว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการกระทำกิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใดที่มีความเกี่ยวข้องกันของคณะกรรมาธิการหลายคณะ พ.ศ.2562 โดยยืนยันว่า มีการออกระเบียบทำนองนี้มานานแล้ว ไม่ได้เพิ่งจะมาออกเพื่อเป็นการปกป้องหรือเอื้อประโยชน์ต่อบุคคลใด

ทั้งนี้ หลังจากที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ระเบียบดังกล่าวออกมาภายหลังกรณีที่ทางคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการทุจริตฯ ออกคำสั่งเรียก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯเป็นรอบที่ 4 ในกรณีที่อ้างว่ามีการถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ไม่ครบถ้วน จึงไม่มีอำนาจเสนอกฎหมายงบประมาณ พ.ศ.2563

กรีด”วันนอร์”ปูดห้องลับซื้องูเห่า ชี้ไม่ว่าสัตว์อะไรก็ขออย่ามาเข้าสภา

นายชวน กล่าวถึงกรณีที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ระบุว่ามีการเปิดห้องลับในรัฐสภา เพื่อดำเนินการซื้อตัว ส.ส.งูเห่า ว่า ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่ตนอยากจะเตือนว่า ไม่ว่าสัตว์อะไรก็ขออย่ามาเข้าสภา เพราะถือว่ามีอันตรายทั้งนั้น รวมทั้งการประชุมในสัปดาห์นี้จะเป็นการพิจารณาวาระรับทราบที่ค้างมาจากการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่า ข่าวนี้จะทำให้ภาพพจน์ของสภาเสียหายหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนไม่อยากออกความเห็นในสิ่งที่สมมุติขึ้นมา เดี๋ยวจะมีปัญหากระทบกัน คงต้องไปถาม นายวันมูหะมัดนอร์ มะทาเอง

“วิปฝ่ายค้าน”โอด!วาระรับทราบค้างเยอะ ทำญัตติแก้”รธน.”ถูกเลื่อน

ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ทั้ง 7 พรรค โดยมีตัวแทนแต่ละพรรคเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อพิจารณาวาระการประชุมสภาฯ โดยเฉพาะญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 และญัตติเสนอตั้งกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาผลกระทบจากมาตรา 44 ของ คสช.

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย และวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า ความจริงสัปดาห์ที่แล้ว วาระรับทราบควรจะพิจารณาให้เสร็จสิ้นทั้งหมด นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เคยระบุว่า วาระรับทราบต่อสัปดาห์จะบรรจุมากสุด 2 เรื่อง แต่ในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14พ.ย. พิจารณาไม่จบ เลยทำให้วาระที่ยังค้าง ต้องนำมาพิจารณาต่อในสัปดาห์ถัดไป จึงทำให้ญัตติเรื่องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้รับผลกระทบไปด้วย

เมื่อถามว่า มองว่า เรื่องนี้เป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่อยากมองว่า เป็นเกมการเมือง เพียงแต่อยากให้ประธานและรองประธานสภาฯ ทั้ง 3 คน คุยกันให้ชัดว่า ในการประชุมวันนี้ ควรพิจารณาวาระนั้นๆ เอาให้จบไปเลย การประชุมสภาฯ 20-21 พ.ย. กลายเป็นว่า มีวาระค้างอยู่ 4 เรื่อง มีวาระใหม่เพิ่มอีก จึงทำให้ ญัตติเรื่องรัฐธรรมนูญของพรรคฝ่ายค้าน ถูกเลื่อนไปอีก แต่ถึงจะเลื่อนไปอีก คิดว่า ในสัปดาห์ถัดไป ประมาณวันที่ 28 พ.ย.หรือ 29 พ.ย.น่าจะมีการพิจารณาได้ คงไม่เลื่อนออกไปอีก ยอมรับว่า เมื่อญัตติยังไม่ได้ถูกนำมาพิจารณาก็จะทำให้กระบวนการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องล่าช้าออกไปอีก

“บิ๊กตู่”ย้ำแค่สั่งศึกษากม.เงินประกันสังคมแตะไม่ได้ก็จบ

People Unity News : “บิ๊กตู่”ย้ำแค่สั่งศึกษากม.เงินประกันสังคมแตะไม่ได้ก็จบ ลั่นไม่เกี่ยวศาลรัฐธรรมนูญตัดสินใคร ส่วนเรื่องที่ดิน ส.ป.ก. ต้องตรวจสอบทั้งหมด

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงเรื่องของกองทุนประกันสังคมว่า ไม่ได้มีความมุ่งหมายจะเอาเงินประกันสังคมไปใช้เพื่อประโยชน์อย่างอื่น แต่มีสมาชิกของกองทุนประกันสังคมส่งข้อมูลถามว่ามีหนทางที่จะใช้ประโยชน์จากตรงนี้อีกหรือไม่ ซึ่งบางคนต้องรอจนเกษียณ

“ผมไม่ได้สั่งการว่าต้องไปเอามาใช้ แต่ให้ไปดูกฎหมายว่าทำได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ชี้แจงเขา ก็จบแค่นั้นเอง อย่าไปเขียนบิดเบือนกันมากมาย และผมก็คงไม่เอาเงินเหล่านี้มาใช้ เพราะถ้ากฎหมายมันใช้ไม่ได้ จะเอามาใช้ได้อย่างไร รัฐบาลจะใช้ได้หรือ มีกฎหมายของเขาอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวและว่า

ส่วนเรื่องที่ดินสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ต้องตรวจสอบทั้งหมด ไม่ใช่แค่คนใดคนหนึ่ง โดยใช้กฎหมายวันแม็ป(OneMap)เข้ามาร่วมด้วย เพราะถ้าไม่มีกลไกใหม่ออกมาก็แก้ปัญหาไม่ได้ ถูกผิดก็ว่าไปตามกฎหมาย แก้เพื่อผลประโยชน์ส่วนร่วม

ส่วนเรื่องการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประยุทธ์ เผยว่า “ผมไม่เกี่ยวข้องเลย ผมไม่ได้เป็นคนไปฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ หรือจะไปบังคับศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ไม่ได้ เป็นเรื่องกระบวนการของศาล ผมไม่ได้ก้าวล่วง เรื่อง กมธ. ก็เป็นการดำเนินการตามขั้นตอน เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ตั้ง กมธ.แก้ไขศึกษากันไป ผมไม่เข้าไปเกี่ยวข้องตรงนี้”

ชาวนาโอดข้าวโดนกดราคาประกันเหลว ร้องเพื่อไทยจี้รัฐเร่งออกมาตรการแก้

People Unity News :  สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ยื่นหนังสือประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย สะท้อนความทุกข์ยาก ขายข้าวถูกกดราคา เรียกร้องรัฐเร่งออก มาตรการแก้ปัญหา

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ยื่นหนังสือถึง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ถึงปัญหาความยากลำบากของเกษตรกร โดยเห็นว่า ชาวนาเป็นเกษตรกร ที่สำคัญของประเทศไทย แต่ปัจจุบันความเดือดร้อนเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนาที่ปลูกข้าวมีปัญหา เนื่องจากราคาข้าวตกต่ำเป็นอย่างมาก มาตรการที่รัฐประกาศว่าจะช่วยเหลือพี่น้องชาวนาก็ไม่ตรงกับความต้องการเช่นข้าวหอมมะลิ ชาวนาขายข้าวได้จริงเพียงตันละ 10,000 – 12,000 บาทต่อตันเท่านั้น แต่ราคาที่อ้างอิงในโครงการประกันสูงถึง 15,000 และราคาตลาดที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศ สูงถึงกว่า 16,000 บาทต่อตัน ซึ่งที่ผ่านมาชาวนาไม่ได้ราคาตามความเป็นจริง

จึงขอเรียกร้องให้รัฐกลับไปประกาศราคาอ้างอิงใหม่เพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวนาที่ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือก่อนหน้านี้ที่ขายข้าวไปก่อนประมาณ 15 วันซึ่งถือเป็นราคาที่ตกต่ำอย่างมาก ขณะที่โรงสีก็ไม่รับซื้อเนื่องจากสถาบันการเงินได้ตรวจเช็คเครดิตการขอเงินคืน จึงทำให้โรงสีไม่สามารถ รับซื้อข้าวจากชาวนาส่งผลให้เกิดการกดราคาชาวนา ขณะที่โรงสีก็ไม่ทราบว่าจะซื้อไปเพื่ออะไร เพราะต้องพบปัญหา ในขั้นตอนการส่งออกข้าวต่อเช่นกัน

ดังนั้นขอให้รัฐประกาศราคาอ้างอิงใหม่โดยเฉพาะในงวดที่ 2 และงวดที่ 3 ซึ่งพรรคเพื่อไทยเสนอให้หามาตรการประกันการขายข้าวเช่นมาตรการประกันยุ้งฉางเพื่อให้เกษตรกรได้รับเงินสดไปใช้ก่อนในลักษณะปลอดดอกเบี้ย ขอให้ธนาคารปล่อยสินเชื่ออย่างทั่วถึงเพื่อให้เกิดสภาพคล่อง ทบทวนมาตรการประกันรายได้ ซึ่งไม่ตรงกับราคาที่ประกาศไว้โดยขอให้ไปชดเชยย้อนหลังในวันที่ชาวนาขายข้าวจริงด้วย และขอให้เร่งจ่ายเงินชดเชยจากน้ำท่วมและภัยแล้ง รวมถึงหามาตราการควบคุมราคาปัจจัยการผลิตให้เป็นธรรม

“ปารีณา-สิระ”บุกทำเนียบฯหลบสื่อ อ้างมาร้องเรียนเรื่องที่ดิน

People Unity News : “ปารีณา-สิระ”บุกทำเนียบฯหลบสื่อ อ้างมาร้องเรียนเรื่องที่ดิน ปฏิเสธพบ “บิ๊กป้อม” ปมกมธ.ป.ป.ช.ประชุม 20 พ.ย. สะพัด!”สมชาย-สมเจตน์-จรุงวิทย์”ถอนตัวไม่นั่งกมธ.แก้รธน.

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ผู้ืสื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ และนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพปชร. ได้เดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่ช่วงเช้า โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ลงลิฟท์มาที่ชั้น 1 ตึกบัญชาการ 1 แต่เมื่อพบผู้สื่อข่าวที่กำลังยืนรอสัมภาษณ์อยู่ น.ส.ปารีณาได้หลบเข้าไปในลิฟท์กลับขึ้นไปบนอาคารอีกครั้ง แล้วเปลี่ยนมาลงทางบันไดของตึกบัญชาการ 2

ผู้สื่อข่าวจึงตรงเข้าไปสัมภาษณ์ว่า มาทำเนียบรัฐบาลทำไม น.ส.ปารีณาพยายามปฏิเสธโดยกล่าวต่อเพียงว่า มายื่นร้องเรียนความเดือดร้อนประชาชน พร้อมกับขึ้นรถ ออกจากทำเนียบรัฐบาลไปในทันที

ส่วนนายสิระ เปิดเผยว่า ที่ตนเดินทางมาเพราะต้องการมายื่นเรื่องร้องเรียนที่ดินเกาะช้างจ.ตราด เพราะเห็นว่ามีรัฐมนตรีหลายคนเข้ามามาประชุมครม. ไม่เกี่ยวข้องกับการประชุมคณะกรรมมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบที่จะมีการประชุมในวันที่ 20 พ.ย.แต่อย่างใด และยืนยันว่าไม่ได้พบกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร. ส่วนที่น.ส.ปารีณา เดินทางมาที่ทำเนียบฯ น่าจะเป็นเรื่องของชาวบ้านในพื้นที่แต่ไม่ได้ยื่นเรื่องพร้อมกับตน

“บิ๊กป้อม”ปัดเจอ”ปารีณา-สิระ”คุยปมครองที่ดิน

ทางด้านพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนเพิ่งประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จ ไม่ได้พบใคร ส่วนทั้ง 2 คน จะมาทำเนียบฯ ด้วยเรื่องอะไรนั้น ตนไม่มราบ เมื่อถามว่า ทั้ง 2 คน มารอพบที่หน้าห้องใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่รู้ ส่วนที่มองว่ามาพบเพราะเรื่องคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร นั้น ตนไม่รู้ เขาอาจจะมาคุยกับคนอื่นหรือเปล่า ยืนยันว่าตนไม่ได้พบ ไม่ได้เจอ น.ส.ปารีณา แต่อย่างใด นอกจากนี้ ปัญหาการครอบครองที่ดิน ภบท.5 ของ น.ส.ปารีณา เรื่องนี้จะต้องตรวจสอบ และต้องทำทั่วประเทศอยู่แล้ว

“ธรรมนัส” ให้ กรมป่าไม้-ส.ป.ก.หาข้อสรุปที่ดิน “ปารีณา”

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เข้าไปติดป้ายห้ามบุคคลภายนอกเข้า – ออก บริเวณฟาร์มไก่ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ตนสั่งการให้เลขาธิการ ส.ป.ก.พร้อมด้วยอธิบดีกรมป่าไม้หาข้อสรุปด้วยอิงกฎหมายเป็นหลัก ซึ่งหากพิสูจน์ว่า เป็นพื้นที่ ส.ป.ก.ก็ให้ปิดประกาศในพื้นที่และดำเนินการตามกฎหมาย เพราะปัญหาตอนนี้คือ เมื่อตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศมันเป็นที่ทับซ้อนระหว่างกรมป่าไม้ กับ ส.ป.ก. ดังนั้น ทั้งสองหน่วยงานจะต้องประสานกันและหาทางออก ซึ่งเมื่อพิจารณาตามหลักความเป็นจริง ภาพถ่ายทางอากาศที่ถูกใช้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินมันมีข้อสังเกตว่า พื้นที่กลางภูเขาเราจะมาประกาศเป็นเขต ส.ป.ก.ไม่ได้ ซึ่งยืนยันว่า มันต้องมีการบังคับใช้และมีการประกาศใช้แผนที่วันแม็ปให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหาอย่างนี้อีก ส่วนที่ น.ส.ปารีณาเดินทางทำเนียบฯในช่วงเช้าวันนี้ (19 พ.ย.) นั้น ไม่ได้มาคุยกับตน ทราบว่า มาพบกับรัฐมนตรีคนอื่น

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ได้สั่งการให้เลขาธิการ ส.ป.ก.ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับ ส.ป.ก.จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อรายงานความคืบหน้าการจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกร รวมถึงที่ดินที่ยังไม่ได้จัดสรร รวม 40 ล้านไร่ ว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยย้ำไปว่า ทุกเรื่องต้องดำเนินการตามกฎหมาย ส.ป.ก.เป็นหลัก ส่วนพื้นที่อื่นที่อยู่ในเขตของกรมป่าไม้ จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้องดำเนินการต่อไป โดยเรื่องนี้จะต้องมีการจัดระบบใหม่ทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสามารถเอาผิดกับ น.ส.ปารีณาได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ในส่วนของ ส.ป.ก.ถือว่า เขาเข้าอยู่ก่อนที่จะมีการปฏิรูปที่ดินแปลงนี้ ดังนั้น เรื่องอาญาเราเอาผิดเขาไม่ได้ ส่วนเรื่องของการยึดคืนให้หลวง เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการตามหลักกฎหมาย ส่วนเรื่องกรอบเวลาการตรวจสอบนั้น ส่วนตัวเข้าใจว่าการตกลงกันเรื่องแนวเขตของกรมป่าไม้กับ ส.ป.ก.น่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะน่าจะมีขั้นตอนที่สลับซับซ้อน

เมื่อถามว่า การอ้างอิงว่าเช่าที่ดินมาจากเกษตรกร สามารถทำได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตามหลักกฎหมายของ ส.ป.ก.ทำไม่ได้ เช่นเดียวกับการซื้อ – ขายที่ดิน ส.ป.ก.ก็ทำไม่ได้ ยกเว้นอย่างเดียวคือ เป็นมรดกตกทอดให้กับทายาท

เมื่อถามว่า ดูตามคุณสมบัติของ น.ส.ปารีณาแล้ว สามารถครอบครองที่ดินในลักษณะนี้ได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก็ต้องดูว่าเขาทำการเกษตรหรือไม่ และการถือครองที่ดิน ส.ป.ก.ต้องไม่เกิน 50 ไร่ เมื่อถามอีกว่า น.ส.ปารีณาเคยชี้แจงหรือไม่ว่า ทำไมถึงถือครองที่ดิน ส.ป.ก.เป็นพันๆ ไร่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เดี๋ยวทาง ส.ป.ก.จะรายงานตนมา เพราะเป็นเรื่องกระบวนการตรวจสอบทางกฎหมาย

เมื่อถามย้ำว่า การตรวจสอบ น.ส.ปารีณา จะสามารถจบได้เร็วหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรายึดหลักกฎหมายเป็นหลัก อะไรก็ตามขอให้ยึดและเดินตามกฎหมาย เมื่อได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้วจะให้เลขาธิการ ส.ป.ก.แถลงข่าว ส่วนที่มีการมองว่าจะมีอะลุ่มอล่วยเพราะอยู่พรรคเดียวกันนั้น กฎหมายไม่ได้เขียนยกเว้นให้ใคร

เมื่อถามถึงที่ดินของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ที่ดินของนางสมพรไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของ ส.ป.ก.

สะพัด!”สมชาย-สมเจตน์-จรุงวิทย์”ถอนตัวไม่นั่งกมธ.แก้รธน.

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลถึงความคืบหน้าการคัดสรรบุคคลไปดำรงตำแหน่งคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 6 คน ประกอบด้วย พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมาเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสมชาย แสวงการและพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และยังขาดอีก 2 รายชื่อ ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รวมถึงนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะหารือเพื่อพิจารณาอีก 2 รายชื่อร่วมกัน ก่อนนำรายงานต่อที่ประชุม ครม.นั้น

ปรากฏว่า นายวิษณุ และนายเทวัญ ไม่ได้รายงานผลสรุปการคัดสรรรายชื่อทั้ง 6 คนในสัดส่วน ครม. เนื่องจากผู้ที่มีทาบทามที่มีรายชื่อ 4 ใน 6 คนในสัดส่วน ครม .ได้ขอถอนตัวทั้งหมด เหลือเพียงนายไพบูลย์ ที่ยังยืนยันชัดเจนว่า ไม่ถอนตัวคนเดียว

ที่ปรึกษา”ชวน”ยันประชุมนัดพิเศษ 22 พ.ย.ไร้วาระรธน.

People Unity News : ที่ปรึกษา”ชวน”ยันประชุมนัดพิเศษ 22 พ.ย.ไร้วาระรธน. แจงกฎเหล็กไม่ล้วงลูก กมธ. แค่ลดความซ้ำซ้อน อัด จิรายุ อย่ากล่าวหาบิดเบือน “ชวลิต”หวังทุกฝ่ายถอยคนละหลายก้าว ส่งสัญญาณแก้ รธน.สร้างความเชื่อมั่นประเทศ ทางด้าน “อนุสรณ์” ชี้ควบคุมตัวนักการเมืองเรียกปรับทัศนคติ ไม่มีใครว่าพอ กมธ.เชิญมา ปัญหาเยอะ

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การประชุมสภาฯในวันที่ 20-21พ.ย. มีเรื่องรับทราบจำนวน 5 เรื่อง ดังนั้น การพิจารณาญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะทันภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการอภิปรายของส.ส.ในเรื่องการรับทราบที่เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาฯ 5 เรื่อง นอกจากนี้ ยังมีญัตติด่วน เรื่อง การคณะกรรมาธิการศึกษาผลกระทบจากการใช้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามมาตรา 44 จากนั้นถึงจะถึงการพิจารณาญัตติการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นพ.สุกิจ กล่าวว่า การประชุมสภาฯนัดพิเศษวันที 22 พ.ย.เป็นเฉพาะการพิจารณาญัตติทั่วไปที่ค้างอยู่เท่านั้น โดยไม่มีการพิจารณาญัตติที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด

แจงกฎเหล็กไม่ล้วงลูกกมธ. แค่ลดความซ้ำซ้อน

นพ.สุกิจ พร้อมด้วยนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกระเบียบสภาฯด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการกระทำกิจการ พิจารณาสอบสวนหาข้อเท็จจริงหรือศึกษาเรื่องใดที่มีความเกี่ยวข้องกันของคณะกรรมาธิการหลายคณะ พ.ศ.2562

นพ.สุกิจ กล่าวว่า สาเหตุที่มีการการออกระเบียบดังกล่าวเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภาฯพ.ศ.2562 ข้อ 90 วรรคสี่และวรรคหกที่กำหนดให้ประธานสภาฯออกระเบียบดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปตามข้อบ้งคับการประชุมสภาฯที่ว่าด้วยการให้คณะกรรมาธิการสามัญต้องรายงานเรื่องใดๆให้ประธานสภาทราบ ซึ่งข้อบังคับการประชุมสภาฯมาจากความเห็นชอบของที่ประชุมสภาฯ ดังนั้น ระเบียบที่ออกมาจึงไม่ได้เป็นเรื่องการใช้อำนาจของประธานสภาฯโดยตรงแต่อย่างใด เพราะเป็นการดำเนินการตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ การที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระองค์กรอัยการรัฐวิสาหกิจองค์การ มหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร ออกมาพูดกล่าวหาประธานสภาฯ จึงเป็นการอ่านข้อบังคับการประชุมสภาฯไม่ครบและไม่รู้ข้อเท็จจริง

“ระเบียบดังกล่าวประธานสภาฯไม่ได้เขียนขึ้นมาเอง แต่ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายเป็นผู้ร่างระเบียบดังกล่าวออกมา และไม่ได้เป็นการใช้อำนาจประธานสภาฯในการแทรกแซงแต่อย่างใด อีกทั้งระเบียบลักษณะนี้มีการดำเนินการมาตั้งแต่ ปี 2552 สมัยท่านชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาฯ การรายงานเช่นนี้จะมีประโยชน์ คือ การทำให้ประธานสภาฯได้ทราบว่ามีคณะกรรมาธิการไหนทำงานซ้ำซ้อนกันหรือไม่” นพ.สุกิจ กล่าว

สำหรับกรณีที่นายจิรายุ คัดค้านการประชุมสภาฯในวันที่ 22 พ.ย. เพราะมองว่าเป็นการหลอกให้กรรมาธิการมารายงานเรื่องที่จะทำต่อสภาฯ นพ.สุกิจ กล่าวว่า การที่นายจิรายุกล่าวหาเช่นนั้นไม่ถูกต้อง เพราะการประชุมสภาฯวันที่ 22 พ.ย.เป็นการพิจารณาญัตติที่ค้างการพิจารณาเท่านั้น หากไม่มีการประชุมนัดพิเศษในวันที่ 22 พ.ย.จะทำให้ญัตติดังกล่าวไม่ได้รับการพิจารณาเลย

นายสมบูรณ์ กล่าวว่า การทำงานของสภาฯเวลานี้เริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้น ระเบียบที่ประธานสภาฯออกมานั้นเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมสภาฯ ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่ปลายเดือนต.ค. โดยขณะนี้มีคณะกรรมาธิการบางคณะได้รายงานประเด็นการพิจารณาของคณะกรรมาธิการเข้าไปให้ประธานสภาทราบบ้างแล้ว

“วันนี้สภาฯและสังคมต้องการคนที่ดีไปบริหารบ้านเมือง ประธานสภาฯตั้งใจทำงานให้กับประชาชน ขอร้องว่าอย่านำเรื่องนี้ไปบิดเบือนเป็นอย่างอื่น ขอให้คุณจิรายุแสดงความรู้ความสามารถออกมาให้เห็น” นายสมบูรณ์ กล่าว

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกระเบียบเกี่ยวกับการทำงานของคณะกรรมาธิการต่างๆ ว่า ตนเห็นด้วยและสนับสนุนการออกระเบียบดังกล่าว เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของประธานสภาฯโดยตรง ที่สามารถออกระเบียบเกี่ยวกับกิจการใดๆของสภาผู้แทนราษฎร ภายใต้ข้อบังคับการประชุมสภา นับว่าเป็นเรื่องที่สมควรอย่างยิ่ง ที่ประธานสภาได้จัดระเบียบการทำงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวของกับกิจการของรัฐสภา เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และเป็นการสร้างบรรทัดฐานในการทำงานของระบอบรัฐสภาต่อไป

ผมเชื่อว่านายชวน เป็นนักกฎหมาย แม่นข้อบังคับ จะไม่มีการกระทำความผิดตามมาตรา157อย่างแน่นอน เพราะการออกระเบียบในครั้งนี้ เป็นการออกระเบียบตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ข้อ90 ไม่ใช่การลุแก่อำนาจ หรือทำไปตามอำเภอใจ เพื่อกลั่นแกล้งใครคนใดคนหนึ่ง นับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะใช้เป็นแบบอย่างหรือแนวทางการทำงานของคณะกรรมาธิการทุกคณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาชุดนี้ มีประธานคณะกรรมาธิการ ที่มาจาก ส.ส.สมัยแรกจำนวนมากถึง11คณะ ซึ่งยังขาดประสบการณ์ในการทำหน้าที่ เพราะไม่เคยนั่งอยู่ในคณะกรรมาธิการมาก่อน ถ้าไม่มีการวางกรอบหรือแนวทางในการทำงานให้เป็นอย่างที่ถูกต้อง ก็จะทำให้การทำงานของคณะกรรมาธิการไม่บรรลุเป้าหมายตามเจตนารมย์ของข้อบังคับการประชุมสภา และรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้

สำหรับสภาชุดนี้ ที่มีนายชวน หลีกภัย เป็นประธานรัฐสภา ซึ่งเปรียบเสมือนประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ นายชวนได้วางตัวเป็นกลาง และปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างเหมาะสมทุกประการ เป็นส.ส.ที่มีอาวุโสสูงสุดในสภา ได้เห็นการทำงานของสภามาเป็นเวลายาวนาน เป็นที่เคารพนับถือของสมาชิกรัฐสภาทุกคน ท่านเป็นเหมือนครูใหญ่ของ ส.ส.ทั้งสภา อยากให้เพื่อน ส.ส.ทุกคนได้ให้ความร่วมมือ และสนับสนุนภารกิจที่สำคัญในขณะนี้ คือการกอบกู้ศรัทธา และเรียกความเชื่อมั่นของรัฐสภากลับคืนมาให้เร็วที่สุด

“ชวลิต”หวังทุกฝ่ายถอยคนละหลายก้าว ส่งสัญญาณแก้ รธน.สร้างความเชื่อมั่นประเทศ

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส. นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากให้ทุกฝ่ายยอมรับความจริง เห็นสัจธรรมร่วมกันว่า การมีกติกาบ้านเมือง คือ รธน.ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และออกแบบมาเพื่อให้ระบบการเมืองไม่มีเสถียรภาพ นั้น ในมุมหนึ่งอาจเป็นประโยชน์ในทางการเมืองกับภาคการเมืองกลุ่มหนึ่ง แต่ในภาพรวมของประเทศกลับสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล คือ “ประเทศขาดความเชื่อมั่น” ส่งผลให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจถดถอย ๆ ลงอย่างน่าใจหาย ดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ และไม่มีทางแก้ไขได้ หากไม่ร่วมมือกันทุกภาคส่วนสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา อย่าไปสงสัยว่า กว่า 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลใช้งบประมาณมากมายมหาศาล แต่ทำไมเศรษฐกิจกลับฝืดเคือง ยิ่งใช้เงินมาก คนจนยิ่งเพิ่มขึ้น ๆ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะประเทศของเราไม่ได้รับความเชื่อมั่น มีแต่การลงทุนภาครัฐเป็นหลัก ประเทศจึงเหมือนกับคนพิการ เดินขาเดียว ไปไม่รอด ไม่มีทางทันเพื่อน และจะถูกทิ้งห่างไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่ได้แก้ที่หัวใจของปัญหา คือ การเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ ให้เป็นการเมืองที่มีเสถียรภาพ

ขณะนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ภาคส่วนต่าง ๆ เริ่มพูดคุยกันมากขึ้นเกี่ยวกับญัตติขอแก้ไข รธน.ซึ่งรอการพิจารณาอยู่ในสภา ฯ เห็นมีการชิมลางปล่อยชื่อ กมธ.ออกมาบ้างแล้ว มีการให้ความเห็นหลากหลายมุมออกมามากขึ้น ๆ สะท้อนว่าการแก้ รธน.อยู่ในกระแสของสังคมระดับหนึ่งแล้ว ในฐานะที่ผมเป็น ส.ส.เขต ได้ลงพื้นที่ทั้งในเขตตัวเอง และไปในต่างจังหวัดหลายจังหวัด พบว่าปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาที่จมลึกลงไปเรือย ๆ จนยากจะเยียวยา หากทุกภาคส่วนไม่ร่วมมือกันฟื้นสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมา

หากรัฐบาล และ ส.ว.ซึ่งเป็นองค์กรตาม รธน.ที่มีส่วนสำคัญว่าจะแก้ไข รธน.สำเร็จหรือไม่ เห็นความเดือดร้อนของประชาชนในปัญหาเศรษฐกิจที่ยากจะเยียวยา แล้วร่วมมือกันกับภาคส่วนต่าง ๆ ส่งสัญญาณที่จะแก้ไข รธน.ให้เป็น รธน.ของประชาชน ผมมั่นใจว่า ความเชื่อมั่นจะฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว เพราะประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานทุกด้านที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ถ้ามีการปรับพื้นฐานทางด้านการเมืองให้มีเสถียรภาพ ประเทศไทยก็ไม่เป็นสองรองใครในภูมิภาคนี้ ผมหวังว่า เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน ประชาชนเดือดร้อนในปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องอย่างยิ่งดังกลาวข้างต้น ความสามัคคีที่ทุกภาคส่วนจะร่วมมือกันสร้างความเชื่อมั่นประเทศจะเกิดขึ้นในการพิจารณาญัตติขอแก้ไข รธน.ในสภา ฯ โดยเร็วที่สุด

“อนุสรณ์”ชี้ควบคุมตัวนักการเมืองเรียกปรับทัศนคติ ไม่มีใครว่าพอ กมธ.เชิญมา ปัญหาเยอะ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกประกาศระเบียบสภาผู้แทนราษฎร ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการกระทำกิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใดที่มีความเกี่ยวข้องกันของคณะกรรมาธิการหลายคณะ ว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ระเบียบดังกล่าว ออกมาภายหลังเกิดปัญหา กรณีกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) ออกหนังสือเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ถึง 3 ครั้งแล้วไม่มา การออกคำสั่งเช่นนี้ของประธานสภาผู้แทนราษฎร สุ่มเสี่ยงต่อการถูกมองว่าเป็นการก้าวก่ายแทรกแซงภารกิจตามกฎหมายของคณะกรรมาธิการ และอาจเข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พรรคพลังประชารัฐเขาจะปั่นป่วนวุ่นวาย กวนน้ำให้ขุ่นอย่างไร เพื่อหวังจะอุ้มพล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร ให้รอด ก็เป็นเรื่องของพรรคเขา แต่ท่านประธาน อย่าไปเกี่ยวแฝกมุงป่า กับเขาเลย ท่านเป็นประธานสภาฯ เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ การดำเนินการอะไร ที่อาจถูกมองว่าอาจตกเป็นเครื่องมือของพรรคพลังประชารัฐ ท่านต้องระมัดระวัง

“5 ปีที่ผ่านมา คณะรัฐประหาร คสช. เรียกนักการเมืองไปควบคุมตัว แล้วบอกกับสังคมว่า เป็นการปรับทัศนคติ ไม่มีใครว่า แต่พอกรรมาธิการซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน เชิญพล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร มาให้ข้อมูลกับกรรมาธิการบ้าง กลับไม่กล้ามา ไม่รู้จะกลัวอะไรนักหนา” นายอนุสรณ์ กล่าว

“สาธิต”ชวนรวมพลังชุมชนยุติเอดส์ “จุติ”รับหนังสือ”ตัวแทนเครือข่ายสตรี”

People Unity News : กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย รณรงค์เนื่องในวันเอดส์โลก 1 ธันวาคม 2562 และเทิดพระเกียรติพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ในฐานะทูตสันถวไมตรีของโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ “รวมพลังชุมชนยุติเอดส์” สร้างการมีส่วนร่วมในการป้องกัน ลดการรังเกียจกีดกัน และเลือกปฏิบัติ มีเป้าหมาย “ไม่ติด-ไม่ตาย-ไม่ตีตรา” “รมว.พม.” รับหนังสือ “ตัวแทนเครือข่ายสตรี” ย้ำไม่สนับสนุนความรุนแรงในครอบครัว พร้อมหนุนสิทธิสตรีทุกด้าน

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการเนื่องในวันเอดส์โลก และเป็นโอกาสเทิดพระเกียรติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ในฐานะทูตสันถวไมตรีของโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ ในการป้องกัน เอชไอวีในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (UNAIDS Goodwill Ambassador for HIV Prevention for Asia and the Pacific) ภายใต้แนวคิด “Communities make the difference รวมพลังชุมชนยุติเอดส์” ให้ชุมชนมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการยุติปัญหาเอดส์ สร้างการมีส่วนร่วมเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย “ไม่ติด-ไม่ตาย-ไม่ตีตรา” โดยมี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้การต้อนรับ

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยได้แสดงเจตนารมณ์อย่างมุ่งมั่นที่จะยุติปัญหาเอดส์ (Ending AIDS) ภายใน 10 ปี โดยเน้นให้ชุมชนทั้งภาครัฐและ ภาคประชาสังคม มีส่วนร่วมสร้างความตระหนักและความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ภาคประชาสังคมร่วมจัดบริการ ให้เข้าถึงกลุ่มผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงได้รับการตรวจเอชไอวี ส่งเสริมการป้องกันและดูแลรักษา เชื่อมต่อกับสถานบริการภาครัฐ เพื่อให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์ ได้รับการดูแลแบบองค์รวม ยึดผู้รับบริการเป็นศูนย์กลางและคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน สู่เป้าหมาย “ไม่ติด-ไม่ตาย-ไม่ตีตรา” คือ ลดจำนวน ผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ให้เหลือปีละไม่เกิน 1,000 ราย ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวีเหลือปีละไม่เกิน 4,000 ราย ลดการรังเกียจและการเลือกปฏิบัติ อันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวีและเพศภาวะลงจากเดิมร้อยละ 90 นำไปสู่การยุติปัญหาเอดส์ของประเทศไทยภายในปี 2573

ด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานของโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) ในปี 2561 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลกสะสม 37.9 ล้านคน เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ 1.7 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตเนื่องจากเอดส์ 770,000 คน ส่วนประเทศไทยคาดประมาณปี 2562 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ประมาณ 5,500 คน เฉลี่ยวันละ 15 คน มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีชีวิตอยู่ทั้งหมดประมาณ 467,600 คน ซึ่งผลการดำเนินงานในปี 2561 พบว่า มีผู้ติดเชื้อได้รับการวินิจฉัยและรู้สถานะการติดเชื้อฯ ตนเอง ร้อยละ 94 แต่มีผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสเพียงร้อยละ 79 ของผู้ติดเชื้อฯ ที่ได้รับการวินิจฉัยและในจำนวนของผู้ที่กำลังรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส สามารถกดไวรัสในกระแสเลือดได้สำเร็จ ร้อยละ 97

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค และศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เชิญชวนหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์วันเอดส์โลกพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 และติดโบว์แดง เพื่อแสดงเชิงสัญลักษณ์ถึงการสนับสนุนการร่วมใจกันของทุกภาคส่วนในสังคม “รวมพลังชุมชนยุติเอดส์” สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

“รมว.พม.”รับหนังสือ”ตัวแทนเครือข่ายสตรี”ย้ำไม่สนับสนุนความรุนแรงในครอบครัว

ที่บริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ตัวแทนเครือข่ายสตรี ประมาณ 50 คน เดินทางมายื่นข้อเสนอต่อนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงต่อสตรีเพื่อนำไปพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ดังนี้ 1.ขอให้ไม่ขยายเวลาให้สถานบริการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2.เรียกร้องให้กระทรวงศึกษาจัดหลักสูตรทักษะชีวิต เรื่อง เพศ และครอบครัว 3.ขอให้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงเพื่อสอบสวนประเด็นเกี่ยวกับเรื่องครอบครัว 4.ขอให้ตำรวจ 191 เข้าระงับเหตุทันทีเมื่อได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับแม่และเด็ก 5.สิทธิการครอบครองที่ดินของสตรี 6.สิทธิการฝากครรภ์และการคลอดฟรีทุกโรงพยาบาล 7.ให้มีหน่วยงานการติดตามการค้ามนุษย์ขึ้นโดยตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี

โดย นายจุติ กล่าวภายหลังการรับหนังสือ ว่า หลายเรื่องรัฐบาลได้ทำอยู่แล้ว เช่น การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ทั้งนี้ทางกระทรวงพม. โดยการนำของนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้ตำรวจช่วยเพิ่มการบรรจุพนักงานสอบสวนหญิง ส่วนเรื่องการละเมิดสิทธิทั้งชายและหญิงสิ่งที่สำคัญคือการให้ความเป็นธรรมต่อกัน เรามีอาสาสมัครและองค์กรภาคประชาชนจำนวนมากที่ทางกระทรวงพม.ร่วมทำงานด้วย เราไม่เคยสนับสนุนความรุนแรงในครอบครัว ไม่สนับสนุนในเรื่องการทำผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์

“ผมเคารพสิทธิของสตรี ฉะนั้นสิทธิที่มีควรจะเท่าเทียมกัน ในทางกฎหมายและทุกมิติของสังคม ที่ท่านนำเสนอมาทั้งหมดเราจะทำร่วมกับท่านและองค์กรสตรีอื่น ๆ เพื่อให้ผู้หญิงเกิดความเข้มแข็ง ผมเชื่อว่าถ้าเติมพลังผู้หญิงให้เต็มที่แล้วเศรษฐกิจจะดีขึ้นมากกว่านี้ ผมพร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว ผมขอเชิญชวนทุกองค์กรมาช่วยกันกับกระทรวงพม. เพื่อรักษาสิทธิ คุ้มครองสิทธิ ส่งเสริมผู้หญิงให้เข้มแข็งต่อไป” นายจุติ กล่าว

“บิ๊กป้อม”เชื่อศาลรธน.ตัดสินคดี”ธนาธร”ถือหุ้นไร้วุ่น

People Unity News : “บิ๊กป้อม”เชื่อศาลรธน.ตัดสินคดี”ธนาธร”ถือหุ้นไร้วุ่น ขณะที่”กกต.”มีมติเอกฉันท์ให้”อคน.”ส่งเอกสารแจง คดีหัวหน้าปล่อยกู้พรรค

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัย กรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถือครองหุ้นสื่อ ในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ ว่า ยังไม่ได้รับรายงานความเคลื่อนไหวของมวลชน และเชื่อว่าไม่มีอะไร เรื่องนี้เป็นกระบวนการของศาลและไม่ต้องมีการดูแลความสงบเรียบร้อยเป็นพิเศษ ส่วนที่ประชาชนไปให้กำลังใจถือเป็นเรื่องธรรมดา พร้อมย้ำว่าฝ่ายความมั่นคงไม่ต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษ

“กกต.”มีมติเอกฉันท์ให้”อคน.”ส่งเอกสารแจง คดีหัวหน้าปล่อยกู้พรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประชุมพิจารณาสำนวนการสืบสวน กรณีมีผู้กล่าวหาว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินของตนเอง ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ตามมาตรา 66 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง โดยได้บริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินกว่า 10 ล้านบาท ต่อพรรคการเมืองต่อปี โดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของสำนักงาน กกต. และคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ได้ดำเนินการเป็นไปตามกระบวนการ และขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดทุกประการแล้ว

ทั้งนี้ มติของ กกต.พิจารณาแล้ว เห็นว่า เพื่อให้การพิจารณาในเรื่องดังกล่าวข้างต้นปรากฏข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ ชัดเจน และเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้พรรคอนาคตใหม่ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต่อไป โดยเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องเป็นเอกสารที่คณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหา หรือข้อโต้แย้งได้เคยเรียกเอกสารดังกล่าวแล้ว แต่พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้จัดส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ให้แก่คณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้งแต่อย่างใด

Verified by ExactMetrics