โฟกัสเลือกตั้ง : สภาพของนักการเมืองและพรรคการเมืองเก่าเวลานี้เหมือนกันหมด คือ อัตคัดขัดสนทุนรอนการเลือกตั้ง แม้แต่พรรคเพื่อไทยเองก็เถอะ ว่างเว้นการเป็นรัฐบาลมา 4 ปีกว่า ไม่มีรายรับ มีแต่รายจ่าย ขนหน้าแข้งก็ต้องร่วงไปหลายเส้นเหมือนกัน จะให้อู้ฟู่เรื่องเงินทองเหมือนตอนเป็นรัฐบาลก็คงเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ เจ้าของพรรคนี้ก็ยึดหลักทำพรรคแบบ “ธุรกิจการเมือง” เสียด้วย คือ จะไม่ยอมทุ่มทุนเต็มตัวเด็ดขาด หากเห็นว่าโอกาสเป็นรัฐบาลไม่มี หรือได้อะไรกลับมาไม่คุ้มค่า
ส่วนพรรคใหม่ๆนั้น ก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกันกับพรรคเก่า แถมจะอัตคัดขัดสนกว่าพรรคเก่าด้วยซ้ำ เพราะไม่เคยร่วมเป็นรัฐบาล ไม่เคยมีอำนาจทางการเมือง จึงไม่มีโอกาสสะสมทุนไว้ การตั้งพรรคขึ้นมาจึงทำแบบมือเปล่า หวังน้ำบ่อหน้าหาทุน ซึ่งน้ำบ่อหน้าก็เหลือน้อยเต็มทีจากสภาพเศรษฐกิจ ส่วนน้ำบ่อใหญ่ๆก็ถูกพรรคการเมืองใหม่บางพรรคจองไว้ทุกบ่อแล้ว
พรรคใหม่ที่ดูเหมือนจะพร้อมด้านทุนการเลือกตั้ง ก็เห็นจะเป็นพรรคอนาคตใหม่ของทายาทตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ แต่พรรคนี้ก็ประกาศแนวทางแล้วว่าจะไม่ใช้เงินในการเลือกตั้ง และถึงหากอยากจะใช้มากๆ แม่ก็คงไม่ให้
ในสภาพแบบนี้ แทบทุกพรรคจึงไม่มีความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ปากบอกว่าพร้อม แต่ขาสั่นทันทีเมื่อล้วงเข้าไปในกระเป๋า
ในบรรดาพรรคการเมืองทั้งหมด ดูเค้าว่าจะมีความพร้อมด้านทุนการเลือกตั้งมากที่สุด ก็คือ พรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นพรรคที่มีกระแสข่าวว่าเป็นพรรคของรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าทีมเศรษฐกิจมีสายสัมพันธ์กับกลุ่มทุนธุรกิจขนาดใหญ่แทบทั้งประเทศ รวมทั้งกลุ่มทุนต่างชาติ
นาทีนี้ใครจะพร้อมเรื่องทุนกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว แม้แต่พรรคของทักษิณก็ยังต้องหนาว
ฉะนั้นที่ทักษิณเคยหยามสมคิดว่าเป็นแค่เสมียนนั้นผิดแล้ว เพราะแท้จริงสมคิดนั้นเปรียบก็เป็นซีอีโอผู้มีกิจการร่วมลงทุนกับกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศยุ่บยั่บไปหมด ขณะที่ทักษิณยังเป็นแค่หมอใหญ่เท่านั้น?
People unity news online : post 13 กันยายน 2561 เวลา 10.20 น.