People Unity News : ‘อ้น’ตอก’ธนาธร’เลิกฟังข้อมูลผิดจากนักบัญชี-นักกฎหมายปมให้เงินกู้พรรค อ้างมั่วกฎหมายเอกชนกับกฎหมายมหาชนเพราะพรรคการเมืองอยู่ใต้กฎหมายมหาชน จี้’ปิยบุตร’สอนกฎหมายหัวหน้าพรรค หยุดดื้อแพ่ง ยึดหลักกูแทนกฎหมาย ชี้นำสังคมด้วยตรรกะที่อาจนำไปสู่ความไม่สงบของประเทศ
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ หรือ’อ้น’ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ อ้างความเห็นนักบัญชีและนักกฎหมายว่าการให้เงินกู้กับพรรคอนาคตใหม่ไม่ผิดกฎหมายเนื่องจากเงินกู้เป็นหนี้สินอยู่ในงบดุลไม่ใช่รายได้ ไม่อยู่ในงบกำไรขาดทุน นั้น สังคมเกิดคำถามว่า ถึงจะบอกว่าเงินกู้ยืมเป็นหนี้สิน แต่การที่พรรคอนาคตใหม่เอาเงินกู้นั้นไปใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ของพรรคและในกิจกรรมต่างๆ ของพรรค ก็ต้องถือว่าพรรคมีรายได้ที่จะใช้จ่ายและได้รับประโยชน์จากเงินดังกล่าวอย่างชัดเจน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีหลักฐานพิสูจน์ได้ทั้งทางวิทยาศาสตร์และทางกฎหมายได้ทันที อีกทั้งนักบัญชีและนักกฎหมายที่แนะนำใช่คนเดียวกับที่แนะนำเรื่องการจัดการโอนหุ้นบริษัทสื่อและการต่อสู้คดีถือครองหุ้นสื่อหรือไม่ หากใช่คนเดียวกัน นายธนาธรควรพิจารณาอย่างรอบคอบและตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะออกมาให้ข้อมูลแก่สังคม
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกกล่าวอ้างว่ามีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายมหาชน นั้น ควรให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่หัวหน้าพรรคว่า พรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชนไม่สามารถเอาหลักการของกฎหมายเอกชนมาใช้ได้ หลักการบัญชีและหลักกฎหมายที่นายธนาธรกล่าวอ้างเป็นหลักการที่ใช้กับนิติบุคคลตามกฎหมายเอกชน เช่น บริษัท ห้างหุ้นส่วน ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อมุ่งแสวงหากำไร แต่พรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน การกระทำใดๆ ของพรรคการเมืองต้องยึดถือปฏิบัติตามข้อบัญญัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่สามารถทำตัวศรีธนญชัยตีความใช้ช่องว่างทางกฎหมายหรือเอาหลักกฎหมายที่แตกต่างกันมาอ้างเพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวเอง
ทั้งนี้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 62 กำหนดไว้ชัดเจนถึงแหล่งรายได้ของพรรคการเมืองว่ามี 7 อย่าง เงินกู้ยืมไม่อยู่ใน 7 อย่าง เป็นแหล่งเงินที่อยู่นอกเหนือจากที่กฎหมายอนุญาต ดังนั้นเงินกู้ยืมที่พรรคอนาคตใหม่รับมาจึงเป็นเป็นเงินที่มีแหล่งที่มาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเมื่อพรรคทำผิดกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง จึงมีโทษถูกยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคตามมาตรา 92 (3)
รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวอีกว่า หรือหากมีการมองว่าเงินกู้ยืมนั้นเป็น “เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการรับบริจาค” ตามมาตรา 62(5) แล้ว การที่เงินกู้ยืมจำนวนถึง 191 ล้านบาทจึงเกินกว่าจำนวน 10 ล้านบาทที่กฎหมายอนุญาตตามมาตรา 66 และเมื่อบุคคลนั้นฝ่าฝืนก็จะได้รับโทษตามมาตรา 124 กล่าวคือนายธนาธรอาจถูกลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี สำหรับพรรคอนาคตใหม่ก็เข้าข่ายรับโทษตามมาตรา 125 คือ ถูกปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี เงินที่เกิน 10,000,000 บาทถูกริบเข้ารัฐเข้ากองทุนพรรคการเมือง
“เมื่อนายปิยบุตรได้อธิบายกฎหมายมหาชนให้นายธนาธรเข้าใจแล้ว นายธนาธรควรพิจารณาเรื่องนี้ให้รอบคอบ หากทำผิดจริงก็ควรรับผิด อย่าดื้อแพ่ง อย่าสร้างวาทกรรมต่างๆ โดยเอาหลักกูที่ไม่เป็นหลักกฎหมายมาปรับใช้ หยุดเบี่ยงเบนประเด็นกฎหมาย หยุดชี้นำสังคมด้วยข้อมูลตรรกะความคิดผิดๆ และจากผลคดีหุ้นวีลัคนั้น นายธนาธรควรพิจารณาทั้งเจตนาและคุณสมบัติของนักกฎหมายที่ช่วยให้ความเห็น ว่ามีเจตนาที่ดีกับนายธนาธรและมีความรู้กฎหมายเพียงพอหรือไม่” รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าว