People Unity News : ดร.รยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ ชี้ไม่มีใครปลุกคนลงถนนได้ นอกจากตัวรัฐบาลเอง แนะพลเอกประยุทธ์ และเครือข่ายอำนาจทั้งหลาย ศึกษาประวัติศาสตร์ เรียนรู้อดีตอย่าปลุกม็อบนำความขัดแย้งกลับมา ชี้ 3 เหตุผล ทำประเทศวิกฤตรอบใหม่

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 ดร.รยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ แสดงความเห็นต่อสถานการณ์และบรรยากาศทางการเมืองว่า ณ ห้วงเวลานี้ ถือเป็นความท้าทายและยากลำบากสำหรับรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะต้องรับศึกหนักรอบด้าน ทั้งปัญหาความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้สภาวะข้าวยากหมากแพงเศรษฐกิจปากท้องของคนในประเทศที่กำลังได้รับผลกระทบมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ประชาชนไม่รู้จะฝากความหวังไว้กับใคร ไม่รวมถึงวิกฤตศรัทธาความไว้เนื้อเชื่อใจและข้อสงสัยของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลและองค์กรอิสระที่เป็นผู้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญในหลายกรรมหลายวาระด้วยกัน ดังนั้น ตนจึงอยากฝากไปถึงพลเอกประยุทธ์ และเครือข่ายวงศ์วานว่านเครือ รวมไปถึงผู้ถืออำนาจทั้งหลายว่า ขอให้เรียนรู้และศึกษาจากอดีตให้มาก อย่าให้ประวัติศาสตร์ต้องเดินซ้ำรอย อย่าต้องให้เกิดความสูญเสียและความขัดแย้งขึ้นอีก เพราะตนเชื่อว่า ณ วันนี้คงไม่มีใครอยากเห็นและอยากให้เกิดขึ้นอีก และก็คงไม่มีใครมีพลังอำนาจเพียงพอที่จะสามารถปลุกคนลุกขึ้นมาเดินบนท้องถนนได้ นอกจากการกระทำและพฤติกรรมของผู้ถืออำนาจและรัฐบาลเอง ที่สำคัญวันนี้ทุกฝ่ายต่างก็เห็นตรงกันแล้วว่าท้ายสุดความขัดแย้งทางการเมืองที่นำมาสู่ความขัดแย้งของประเทศในอดีตนั้นไม่ใช่ทางออกของประเทศ ไม่มีใครชนะ แต่ที่แพ้มากที่สุดคือประชาชนและคนไทยทั้งประเทศ

ดร.รยุศด์ กล่าวต่อว่า การเกิดขึ้นทั้งของกลุ่มพันธมิตรฯ กปปส . นปช. หรือ กลุ่มเสื้อสีต่างๆ ในอดีต ตนมองว่าไม่ได้ผิด แต่หากต้องเป็นการต่อสู้กันทางการเมือง ต่อสู้กันในเชิงหลักการและต่อสู้กันในเชิงความคิด ที่จะต้องไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้นอีกแล้ว ณ จุดนี้ ตนคิดว่ารัฐบาลและผู้มีอำนาจต้องเข้าใจ และต้องเรียนรู้ศึกษาประวัติศาสตร์ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีกครั้ง และในฐานะที่ตนเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ ก็อยากเห็นการเมืองในแบบใหม่ที่สร้างสรรค์ เป็นการเมืองที่เราสามารถแข่งขันกันที่ผลงานได้อย่างเสรี และเป็นธรรม เพื่อเป็นความหวัง และเป็นประโยชน์ของประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้น ตนจึงอยากฝากไปถึงพลเอกประยุทธ์ และวงศ์วานว่านเครือผู้ถืออำนาจทั้งหลาย ว่า ประเทศอาจจะเดินไปสู่วิกฤตรอบใหม่และประชาชนอาจลุกขึ้นมาบนท้องถนนได้อีกครั้ง หาก 1)รัฐบาล ผู้มีอำนาจหรือผู้ปกครองประเทศไร้ซึ่งความธรรม ใช้กลไกทางกฎหมายเป็นเครื่องมือกำจัดอีกฝ่าย ภายใต้กติกาที่ตนเองได้เปรียบ ฝ่ายผู้มีอำนาจจะทำอะไรก็ไม่ผิด เกิดบรรทัดฐานและตรรกะทางคุณธรรมจริยธรรมที่ผิดเพี้ยนในสังคม 2)มองความเห็นต่างของคนรุ่นใหม่ และพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่พยายามเสนอสิ่งใหม่ๆเป็นศัตรู และต้องการกำจัดกลุ่มคนเหล่านี้ 3)ระบบนิติธรรม และนิติรัฐของประเทศขาดสมดุล กระบวนการยุติธรรมของประเทศถูกแทรกแซง สร้างความเคลือบแคลงสงสัยถึงความไม่เป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับสังคมส่วนใหญ่