People Unity News : “เจ้าคุณประสาร” ร่วมเวทีเสวนาวิชาการ มธ. ถกประเด็น “ถ้าไม่ยกย่องก็อย่าเหยียบย่ำ : การเคลื่อนไหวของพระสงฆ์ในบริบทการเมืองร่วมสมัย” เผยอดีตทำหน้าที่เพื่อส่วนรวมเป็นหลักไม่เกี่ยวกับการเมือง ปัจจุบันมุ่งงานสอนหนังสือเป็นหลัก
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 พระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ฝ่ายวางแผนและพัฒนา เปิดเผยว่า ได้ร่วมการเสวนาทางวิชาการที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดโครงการเสวนาวิชาการนับถอยหลังสู่วาระครบรอบ 55 ปี ของคณะ “No Man’s Land: คน สัตว์ สิ่งของ” ซึ่งมีกิจกรรมเสวนาวิชาการจำนวน 3 ครั้ง ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2562 ถึงเดือนมกราคม 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทบทวน เปิดประเด็นร่วมสมัย และมุมมองใหม่ขององค์ความรู้ทางสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
การจัดกิจกรรมเสวนาวิชาการวันนี้ ครั้งที่ 1 เรื่อง “ถ้าไม่ยกย่องก็อย่าเหยียบย่ำ : การเคลื่อนไหวของพระสงฆ์ในบริบทการเมืองร่วมสมัย” เพื่อร่วมฉลองในวาระครบรอบ 55 ปี ของการก่อตั้งคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา และแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจประเด็นสำคัญอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม วิทยากรประกอบด้วย อาตมา อ.ดร.ประกีรติ สัตสุต จากคณะสังคมวิทยามนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ทำวิจัยเรื่องนี้ ดำเนินการโดย อ.ดร.เอกสิทธิ์ หนุนภักดี คณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“วันนี้ส่วนตัวอาตมานั้นถือว่าเป็นเวทีทางวิชาการที่น่าสนใจโดยเฉพาะประเด็นการเคลื่อนไหวของพระสงฆ์ในสังคมไทยนั้น อ.ดร.ประกีรติ นักวิชาการหนุ่ม นักเรียนนอก อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้นำเสนอผลงานในเรื่องนี้ได้ศึกษาวิจัย ค้นคว้าอ้างอิงมาอย่างดีเยี่ยม อาตมาเพียงไปถ่ายทอดประสบการณ์ที่ผ่านมาให้ฟังโดยเน้นย้ำ
1.ที่ผ่านมาทำเพื่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนาในสังคมไทย 2.ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง นักการเมือง วัดใดวัดหนึ่ง บุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยเฉพาะแต่ทำเพื่อคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาโดยรวม 3.ยอมรับในกฎกติกาที่เกิดขึ้น 4.ยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ในฐานะพระสงฆ์เป็นคนสาธารณะ 5.ปัจจุบันมุ่งงานสอนหนังสือเป็นหลัก
“ท้ายสุดได้เน้นย้ำว่า ขอบคุณอ.ดร.ประกีรติ สัตสุต และคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา มธ.ที่ได้ทำวิจัยในเรื่องนี้ และจัดเสวนารับฟังความคิดเห็นสาธารณะในเชิงวิชาการ อันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายคือการพูดจากันด้วยหลักฐานเชิงเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์และแบ่งแยก ถ้าเราทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์โดยมุ่งหวังให้เกิดสันติสุขในสังคมและมีจิตอันแน่วแน่ในการพิทักษ์ปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาเราก็สบายใจ” พระเมธีธรรมาจารย์ ระบุ