People Unity News : “พม.”อบรมจิตอาสาพร้อมเป็น “อพม.ที่มีหัวใจ ผู้ให้” ตั้งเป้า 5 แสนคน หวังเพิ่มทักษะความชำนาญเฉพาะด้าน
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดโครงการอบรม “อพม.ใหม่” เชี่ยวชาญด้านคนพิการและผู้สูงอายุ และเป็นเครือข่ายต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ” ประจำปีงบประมาณ 2563 เพื่อเป็นการอบรมให้ความรู้กับประชาชนทั่วไปที่มีจิตอาสา และสนใจเข้าร่วมเป็นอพม. ซึ่งในระยะแรกมีการดำเนินการอบรม 6 รุ่นๆ ละ 150 คน รวมทั้งสิ้น 900 คน โดยอบรมรุ่นละ 2 วัน
นายจุติ กล่าวว่า กระทรวง พม. จะมีการขับเคลื่อนนโยบายการบูรณาการงานอาสาสมัครให้เป็นหนึ่งเดียว ภายใต้นโยบาย “อ. เดียว” ที่ให้อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ช่วยเหลือคนพิการ (อพมก.) และอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ (อผส.) เป็นอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ทำงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อเป็นพลังสำคัญในการให้ความช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายที่ประสบปัญหาทางสังคม และเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานจิตอาสา เพื่อการช่วยเหลือสังคม อีกทั้งร่วมกันสืบสาน รักษา ต่อยอด และสร้างสุขให้กับประชาชนในสังคมภายใต้แนวคิด “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” และเป็น “อพม. ที่มีหัวใจ ผู้ให้” โดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือ “สังคม ปันความสุข”
นายจุติ กล่าวด้วยว่า โครงการนี้เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างหลายกรมในกระทรวงพม. ทุกกรมได้เข้ามาร่วมกันทำงาน เพราะเราต้องการอาสาสมัครพัฒนาสังคมเป็นจำนวนมาก โดยเราจะเป็นวันโฮมคือมีหนึ่งเดียวที่เป็นอาสาสมัครพัฒนาสังคมไม่ได้เป็นของกรมใด แต่อยู่ที่แต่ละคนที่อยากจะทำว่ามีความชำนาญเฉพาะในด้านไหน เช่น ในเรื่องคนพิการ ผู้สูงอายุ เด็ก หรือเรื่องสตรี และเราได้มีการประเมินเพื่อเตรียมการรองรับสังคมผู้สูงอายุที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
“กระทรวงพม. จะเริ่มอบรมให้ทักษะความรู้กับอาสาสมัครพัฒนาสังคมทั้งประเทศ โดยตั้งเป้าไว้ ประมาณ 5 แสนคน และต้องให้เขาได้รับรู้ความเปลี่ยนแปลงของโลก รับรู้เรื่องผลกระทบจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ว่าสังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เขาจะได้เข้าใจกลุ่มเป้าหมายว่า มีผลกระทบอย่างนี้จะต้องมีการจัดการกับปัญหาอย่างไร หลักที่เราพยายามให้คือให้ทุกคนมีทักษะ และสร้างอาชีพให้ทุกคนพึ่งพาตนเอง อย่าไปพึ่งระบบสงเคราะห์” นายจุติ กล่าว
นายจุติ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน อพม. ที่ทำงานอยู่ขณะนี้มีประมาณ 9 หมื่นคน เรามีข้อตกลงกับ อพม. ว่าในปลายปีนี้ ขอให้ประธาน อพม. จังหวัดช่วยขยายคน โดยจะสอดคล้องกับตัวเลขของกรมกิจการผู้สูงอายุ และกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการที่วิเคราะห์ไว้ว่า ถ้าจะดูแลให้ทั่วถึงได้อย่างมีคุณภาพน่าจะมีอาสาสมัครไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน ซึ่งทุกอย่างเป็นจิตอาสาไม่มีค่าตอบแทน ไม่มีเงินเดือน ทุกคนที่เข้ามาร่วมมีต้นทุนที่เหมือนกันคือหัวใจที่ยิ่งใหญ่ โดยหวังว่าจะเป็นสังคมที่ดีขึ้นในอนาคต