People Unity News : ส.ส.กทม. พปชร.ร่วมต่อต้านและยุติความรุนแรงในครอบครัว ขอทุกฝ่ายช่วยเป็นหูเป็นตา สร้างสังคมให้น่าอยู่
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส.กทม.เขต 1 และ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ร่วมผลักดันด้านความปลอดภัยของสตรี รวมถึงการยุติความรุนแรงในครอบครัว เด็ก เยาวชน และสตรี โดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน ให้มีความตระหนักรู้ ในปัจจุบัน
น.ส.พัชรินทร์ ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้หญิงได้รับการยอมรับทั้งในด้านอาชีพ และสิทธิต่างๆ แต่ทั้งนี้ด้วยสรีระของผู้หญิง ที่ทำให้มีโอกาสที่จะตกเป็นเหยื่อได้มากกว่า ดังนั้นความปลอดภัยของผู้หญิงจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่จะต้องร่วมกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแล ขณะเดียวกันภาครัฐก็ต้องมีส่วนในการดูแลพื้นที่ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมให้มีความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไฟฟ้าส่องสว่าง กล้องวงจรปิด รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ มาปรับใช้เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น โดยที่ผ่านมาได้เข้าร่วมโครงการ “ปักหมุด จุดเผือก” ภายใต้โครงการเมืองปลอดภัยเพื่อผู้หญิง โดยอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน รวมถึงภาคประชาชน นำไปปรับปรุงพื้นที่ให้ปลอดจากภัยคุกคามทางเพศ โดยเริ่มต้นจากสะพานเขียว เขตปทุมวัน เป็นพื้นที่นำร่องของโครงการ สร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งพื้นที่จุดเสี่ยงอันตราย โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วม รวมถึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบรับฟังข้อปัญหาข้อร้องเรียนต่าง ๆ จุดบอดจุดเสี่ยง รวมถึงรับฟังข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ ในประเด็นนี้ด้วยเช่นกัน
ด้าน น.ส.กานต์กนิษฐ์ กล่าวว่า ขอเชิญชวนและรณรงค์ยุติความรุนแรงในครอบครัว รวมทั้งสตรีและเด็ก เพราะที่ผ่านมาเราได้มีการศึกษา รับฟังข้อเสนอแนะจากหลายๆ ภาคส่วน ในประเด็นของปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงและเด็ก ในฐานะที่เป็นโฆษกกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มเชื้อชาติพันธ์และผู้มีความหลากหลายทางเพศ น้อมรับในทุกข้อเสนอแนะ โดยจะนำประเด็นดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมาธิการฯต่อไป และในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ UN ได้ประกาศให้เป็น “วันขจัดความรุนแรงต่อสตรีสากล” รวมทั้งมีมติครม. ประกาศให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงาต่อสตรีและเด็ก โดยจะดำเนินการตลอดเดือนพฤศจิกายน เพื่อให้สังคมได้มีความตระหนัก และร่วมป้องกันขจัดความรุนแรงต่อเด็กและสตรีให้หมดสิ้นไป โดยมีการติดริบบิ้นสีขาวนั้นเป็นสัญลักษณ์ที่ผู้ชายติดเพื่อแสงถึงการ่วมต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อสตรี โดยการไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำความรุนแรงต่อสตรี แต่ปัจจุบันได้ใช้สัญลักษณ์นี้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เพื่อเป็นการร่วมรณรงค์ยุติความรุนแรงในครอบครัวด้วย โดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชน ไม่เป็นเพียงเฉพาะเหยื่อที่ได้รับความรุนแรงเท่านั้น แต่เมื่อได้รับความรุนแรง ก็จดจำและเรียนรู้ความรุนแรง ทำให้อาจเป็นผู้ที่ใช้ความรุนแรงในอนาคต ดังนั้นจึงอยากให้มาช่วยกันสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ ช่วยกันเป็นหูเป็นตา อย่ามองว่าไม่ใช่เรื่องของเรา และช่วยกันป้องกันปัญหาความรุนแรงโดยเริ่มจากตัวของเราเอง
ทั้งนี้ น.ส.กานต์กนิษฐ์ และ น.ส.พัชรินทร์ ยังได้ร่วมเดินรณรงค์ทั้งในสภาและประชาชน ให้ติดริบบิ้นสีขาวเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในครั้งนี้