People Unity News : “อนุทิน”ชี้ มติ คกก.วัตถุอันตรายฯ เลื่อนแบนสารพิษ ไม่กระทบเรือเหล็ก แต่ยอมรับ “ผิดหวัง” ก้มหน้ารักษาชีวิตประชาชนต่อไป พร้อมรณรงค์ให้เกษตรกรระวังขอให้โชคดี อโรคยา ปรมา ลาภา
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติให้ออกประกาศกำหนดวัตถุอันตราย พาราควอต และคลอร์ไพริฟอสเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้กำหนดระยะเวลาใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 จากเดิม 1 ธันวาคม 2562 ส่วนวัตถุอันตรายไกลโฟเซต ให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้ตามมติคณะวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2561
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข กล่าวว่า ทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงมติเดิม แต่อย่างไรก็ตาม มติดังกล่าวไม่เป็นเอกฉันท์ เพราะคณะกรรมการในสัดส่วนของกระทรวงสาธารณสุขยังคงยืนยันให้มีการแบนสารเคมีทั้ง 3 ชนิดดังกล่าว ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจาณณ์ว่ามตินี้จะมีผลต่อการพิจารณาในการร่วมรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นการพิจาณาของคณะกรรมการแต่ละท่านซึ่งมีอิสระ เพียงแต่ว่าจุดยืนของกระทรวงสาธารณสุขคือ อะไรที่มีปัญหาต่อสุขภาพ ต่อชีวิตประชาชน เราเห็นชอบด้วยไม่ได้
“เราต้องให้เกียรติ เพราะคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดนี้ มีท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน ก็ต้องไปฟังท่านแถลง ส่วนกระทรวงสาธารณสุขก็สุดซอยแล้ว รัฐมนตรีมนัญญา ไทยเศรษฐ์ ก็สุดซอยแล้ว ทำเต็มที่เพื่อปกป้องสุขภาพ รักษาชีวิตพี่น้องประชาชน แต่ทั้งหมดมันมีกระบวนการการลงมติกัน ฝ่ายเสียงข้างน้อยก็ต้องทำตามกฎหมาย”
เมื่อถามว่า ผิดหวังหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่า เรื่องตัวเลขทางเศรษฐกิจสำคัญกว่าชีวิตคน นายอนุทิน ระบุว่า ก็ผิดหวัง ถ้าหากมีกฎหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีอำนาจหักล้างมติวันนี้ ตนก็จะเซ็นตอนนี้เลย แต่มันทำไม่ได้
นายอนุทิน ย้ำว่า เรื่องการแบนหรือไม่แบนสารพิษ ไม่ใช่นโยบายรัฐบาล เพราะคณะกรรมการมาจากผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่ใช่ผู้แทนจากราชการอย่างเดียว เขาออกมติมาแบบไหนเราก็ต้องยอมรับ ถ้าไม่ยอมรับก็แปลว่าเราไม่เคารพกฎหมาย เราได้แสดงเจตนาของเราแบบนี้ ในเมื่อเห็นเป็นอย่างอื่น เราก็ต้องกลับมาทำหน้าที่เดิม ก็คือกระทรวงสาธารณสุขพร้อมที่จะรักษาให้หายต่อไป
“เรื่องนี้จะไม่ใช่รูเล็กๆ ให้เรือเหล็กล่ม เพราะผมมีช่างอ๊อก จบวิศวกรรมโลหะ เรื่องจุดยืนของพรรคร่วมแต่ละพรรคจะเห็นต่างก็ไม่เป็นไร เพราะแต่ละกระทรวงมีภารกิจและมุมมองต่างกัน กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงเกษตรฯก็มีมุมมองอีกอย่าง อย่างไรก็ตาม หน้าที่ของสาธารณสุขจากนี้ ต้องรณรงค์ให้เกษตรกรระวังมากขึ้น หลีกเลี่ยงการสัมผัสมากขึ้น ใช้ตามคำแนะนำเพิ่มมากขึ้น และขอให้โชคดี อโรคยา ปรมาลาภา” นายอนุทินกล่าวในตอนท้าย
“หมอธีระวัฒน์”ซัดพึ่งพารบ.ไม่ได้ ปชช.ต้องมารับผลกระทบ
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายยืดเวลาแบนสารเคมีพาราควอตและคลอร์ไพรีฟอส และให้ใช้ไกลโฟเซตต่อ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุว่ายอมรับผลมติ ว่า ถึงนายอนุทิน จะยอมรับมติก็จริง แต่ประชาชนไม่ยอมรับ และการขับเคลื่อนให้ประชาชนรับทราบอันตรายตรงนี้ก็ต้องทำต่อ และต้องให้ประชาชนเรียกร้องสิทธิชีวิตตัวเอง รวมทั้งเวลาจะซื้อพืชผักผลไม้ ต้องให้ถามคนขายว่า มีการใช้สารเคมีหรือไม่ และหากไม่แน่ใจว่าคนขายโกหกหรือไม่ ตอนนี้เรากำลังพัฒนาชุดตรวจหาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชให้มีราคาถูกและแม่นยำ รวดเร็วภายใน 10 นาที เพื่อให้ช่วยอีกที เรียกว่า ผู้บริโภคดูแลกันเอง โดยไม่ต้องพึ่งพารัฐบาลแล้ว เพราะพึ่งพาไม่ได้แล้ว
“หากท่านอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่ายอมรับมติจริง ในฐานะที่ผมเป็นหมอที่รักษา และเชื่อว่าหมออีกหลายคนยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะแบบนี้ประชาชนต้องมารับผลกระทบกันเอง” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว
“ชาดา”เดือด! ไม่แบนไกลโฟเซต
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวอย่างมีอารมณ์ภายหลังคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติเลื่อนการแบนการใช้ 2 สารเคมีทางการเกษตร โดยไม่แบนไกลโฟเซตว่า รู้สึกไม่พอใจ เพราะมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดที่แล้ว ได้มีมติยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีไปแล้ว แต่คณะกรรมการชุดใหม่ ไม่มีการลงมติ จึงตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงมีการออกมาแถลงผลเลื่อนการยกเลิกแบนสารเคมี จึงเรียกร้องให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมชี้แจง รวมถึงนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้คืนกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ บริหารแทนแล้ว เพราะหากไม่สามารถบริหารสั่งการได้ ก็ไม่จำเป็นต้องไปควบคุมดูแลใด ๆ ต่อ
ส่วนนางสาวมนัญญา จะลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายชาดา ยืนยันว่า ไม่จำเป็น เพราะรัฐมนตรี และพรรคภูมิใจไทย ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถแล้ว และยังถูกผู้เสียผลประโยชน์ด่าทอต่าง ๆ นานา แต่ผู้ที่ต้องลาออกควรเป็นผู้ที่ทำไม่ถูกต้อง พร้อมเปิดเผยว่า นางสาวมนัญญา ยังมีกำลังใจในการทำงาน และหลังจากนี้เสนอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน นัดจุดเทียนหน้าบ้าน ถ้าประชาชนจุดทียน ไม่เอาสารพิษ ไม่รัฐมนตรีที่เอาสารพิษ ทุกอย่างก็น่าจะจบ
ส่วนพรรคภูมิใจไทย จะมีการหารือมาตรการใด ๆ หลังจากนี้หรือไม่นั้น นายชาดา ยืนยันว่า ไม่จำเป็น เพราะจะต้องรักษามารยาทในพรรคร่วมรัฐบาล แต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่มีมารยาท พรรคภูมิใจไทย คงไม่ทำเช่นนั้น