People Unity News : “จุรินทร์”เชื่อมั่นจะมีข่าวดี ให้การยางฯวิ่งเจรจาจีนเพิ่มส่งออก พร้อมสรุป MOU ขายยาง 3.4 หมื่นล้าน พาณิชย์-เกษตร ในเวลา 3 เดือนกว่า
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 ภายหลังร่วมงาน เปิดงาน “Thailand Rubber Expo” นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องยางพาราจะมีอยู่ 2-3 ประเด็นที่จะต้องมีการเร่งรัดดำเนินการ เรื่องที่หนึ่ง คือโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งขณะนี้ได้มีการ โอนเงินส่วนต่างงวดแรกแล้ว แต่ยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้น ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ดำเนินการจนถึงวันนี้โอนเงินส่วนต่างไปได้ประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนเกษตรกรทั้งหมด ที่โครงการประกันรายได้ยางล่าช้าเพราะยังมีการตรวจสวน โดยการยางแห่งประเทศไทยร่วมกับคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นในแต่ละพื้นที่ ซึ่งก็ทำให้เกิดความล่าช้า เพราะกำลังการยางมีไม่เพียงพอกว่าจะประชุมคณะกรรมการตรวจสวนยางเสร็จก็ใช้เวลา ล่าสุดจึงได้เชิญรัฐมนตรีเกษตรฯ และสำนักงบประมาณ การยางแห่งประเทศไทย และ ธ.ก.ส. มาหารือร่วมกันได้ข้อสรุปแล้วว่าการยางจะไปปรับระเบียบในการตรวจสวนโดยให้เจ้าของสวนเป็นผู้ยื่น ว่ามีจำนวนกี่ไร่และทำยางชนิดใด แล้วให้กำนันหรือผู้ใหญ่บ้านคนใดคนหนึ่งทำการรับรองและจากนั้นก็ส่งให้การยาง แล้วการยางก็ส่งให้กับ ธ.ก.ส.ก็สามารถโอนเงินส่วนต่างได้ทันที ตรงนี้ก็คาดว่าถ้าจากนี้ไปจะทำให้การโอนเงินมีความรวดเร็วขึ้น รวมทั้งผู้ที่ถือบัตรสีชมพูก็สามารถได้รับเงินส่วนต่างด้วยได้ เพราะได้หารือร่วมกับสำนักงบเรียบร้อยแล้วนี่คือเรื่องประกันรายได้
ประการที่สอง เรื่องการแปรรูปยางพาราหรือการเพิ่มการใช้ยางพาราในประเทศมีอยู่ 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งก็คือการใช้ยางจากภาคเอกชนซึ่งจะมีคนมาลงทุนเพิ่มเติมขึ้น เมื่อสักครู่มีนักลงทุนจีนแจ้งให้ทราบว่าจะมีการมาลงทุนในอีอีซีเพิ่มขึ้นในการทำโรงงานผลิตยางจำนวนมากที่จะมาลงทุนล็อตถัดไป อันนี้ถือเป็นข่าวดี รวมทั้งสหกรณ์ ภาคเอกชนต่างๆที่ได้มีการคิดค้นนวัตกรรมในการใช้ยางพาราเป็นวัตถุดิบในการที่จะผลิตสินค้าตั้งต้น เหมือนงานเอ็กซ์โปยางวันนี้ ที่ท่านนายกรัฐมนตรีและท่านรัฐมนตรีเกษตร มาเยี่ยมชมและมาเปิดงานก็เห็นความหลากหลายของนวัตกรรมและสินค้าหลากหลายที่ใช้นวัตกรรมมากขึ้น และการใช้ยางในประเทศให้เพิ่มขึ้น อีกส่วนหนึ่งโดยส่วนราชการตรงนี้คณะรัฐมนตรีเคยมีมติไปก่อนหน้านี้แล้วว่าให้ส่วนราชการเพิ่มการใช้ยางในการทำถนน ทำฝาย ทำวัตถุดิบ ทำสินค้า ที่ใช้เพื่อการจราจรรวมทั้งอื่นๆด้วย ซึ่งอันนี้ยังมีความคืบหน้าไม่มากนัก
“ผมจึงมอบหมายให้ทางท่านรัฐมนตรีเกษตรและการยางได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมด ว่าตามที่คณะรัฐมนตรีได้สั่งการไปนั้นขณะนี้แต่ละส่วนราชการ ได้ดำเนินการไปถึงไหนอย่างไรมีการผลิตผลิตภัณฑ์อะไร ใช้ยางไปมากน้อยแค่ไหนและจะรายงานให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบ หรือพิจารณาสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป เพื่อเพิ่มการใช้อย่างในประเทศ ” นายจุรินทร์ กล่าว
เรื่องที่สาม คือการส่งออกยางอันนี้เป็นเรื่องที่มีการเร่งรัด ผมได้นำคณะเอกชนและการยางแห่งประเทศไทยไปเปิดตลาดในหลายพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จชัดเจนมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจที่จะซื้ออย่างจากประเทศไทยเช่นอินเดีย 100,000 ตัน ก็เป็นมูลค่า ประมาณ 9,000 ล้านบาทและที่ตุรกีล็อตใหญ่สุด คือหมอนยางพารา 20 ล้านใบ โดยการยาง 10 ล้านใบ ภาคเอกชน 10 ล้านใบ รวมเป็นมูลค่าทั้งหมด 12,000 ล้านบาท และล่าสุดการยางขายให้กับจีนและฮ่องกงรวม 260,000 ตันเป็นเงิน 13,000 ล้านบาททั้งหมดนี้ รวมกัน 3-4 ประเทศที่ผมเรียนก็ 34,000 ล้านบาท ซึ่งขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการต่อไปก็คือ จะต้องมีการเร่งรัดการส่งมอบเพราะทันทีที่มีการส่งมอบตัวเลขการส่งออกก็จะเพิ่มขึ้นซึ่งขณะนี้ผมได้ขอให้ภาคเอกชนกระทรวงพาณิชย์ประสานงานกับภาคเอกชนให้เร่งส่งมอบโดยเร็วตั้งแต่เดือนธันวาเป็นต้นไปและให้การอย่างเร่งส่งมอบสัญญาที่ได้ไปเซ็นเพื่อเพิ่มตัวเลขการส่งออกและจะได้มีผลในการที่จะนำเงินเข้าประเทศมาช่วยเกษตรกรต่อไป
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอีกว่า สำหรับตลาดใหม่นอกจาก 30 ประเทศที่ผมเดินทางแล้ว ตะวันออกกลางกับแอฟริกาใต้ ก็จะเป็นเป้าหมาย ผมได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ไปดำเนินการแล้วและสอดคล้องกับท่านนายกได้มีดำริเมื่อสักครู่ ว่าอยากให้ไปเปิดตลาดที่แอฟริกาใต้ ก็จะไปทริปเดียวกันกับตะวันออกกลาง ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ว่าระหว่างบาห์เรนกับกาตาร์ ตรงไหนที่พร้อมกว่ามีความเหมาะสมกว่า มีลูกค้าที่จะเซ็นสัญญาซื้อขายกับเราได้และถัดไปก็จะต่อไปที่แอฟริกา จะเป็นทริปเดียวกันหวังว่าจะเพิ่มยอดส่งออกเรื่องยางพาราได้อีกไม่น้อยทีเดียว และทันทีที่มีการส่งมอบเปิด เงินก็เข้าประเทศลงเรือผ่านด่านศุลกากรเป็นขั้นตอนกระบวนการตัวเลขการส่งออกก็จะเพิ่มขึ้น สำหรับประกันรายได้ตอนนี้ช้ามาพอสมควร อย่างไรก็ตามสำหรับจีน 60,000 ตัน กับ ฮ่องกง 200,000 ตัน ที่เซ็นต์ ไปและขณะนี้การยางก็กำลังเจรจากับจีนเพิ่มเติมอยู่และจะมีข่าวดีเร็วๆนี้
ถึงคิวชาวไร่ข้าวโพดแล้ว!!ประชุมร่วม 3 ฝ่ายเคาะราคาประกันรายได้
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2562 นี้ นายจุรินทร์ มีกำหนดการเดินทางไปจังหวัดลำปาง ในวาระสำคัญของพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด โดยจะมีการประชุมเพื่อระดมความคิดเห็น 3 ฝ่าย ประกอบด้วยตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชนและเกษตรกร ณ ห้องเอื้องหลวง คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ในเวลา 15.00 – 17.00 น.
การประชุมระดมความคิดเห็นดังกล่าวเป็นการดำเนินการภายใต้นโยบายประกันรายได้เกษตรกร ที่ต้องการดูแลและช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่กำลังเผชิญปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำกระทบต่อรายได้และความเป็นอยู่ รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และข้าวโพดก็เป็นอีกหนึ่งในพืชผลทางการเกษตรที่อยู่ในโครงการประกันรายได้ อันเป็นพืชชนิดที่ 5 ที่ได้มีการพิจารณาราคาประกันรายได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการพิจารณาโครงการประกันรายได้ให้กับพืชเศรษฐกิจสำคัญไปแล้ว 4 ชนิด อนึ่ง “โครงการประกันรายได้” นี้ต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งต้นหลักคิดโดยยึดประโยชน์ของพี่น้องเกษตรกรเป็นที่ตั้ง เพื่อให้มีหลักประกันในเรื่องราคาพืชผลที่มุ่งเน้นให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้ที่เหมาะสมเพียงพอในการดำรงชีพได้