People Unity News : “หมอยง” ชี้บทเรียนต่อสู้กับโควิด 2 ปีที่ผ่านมา คือ fake news, shock news, bully มีความจริงแค่ 20% ปั่นจนสังคมสับสน เสียหาย แนะปลูกฝังหลักการเหตุผลตั้งแต่เด็ก ป้องกันหลงเชื่อ

14 มี.ค.2565. ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า โควิด 19 การต่อสู้ที่สำคัญ คือ Fake news, ข่าวร้าย (shock news, breaking news) และการให้ร้าย รังแก bully

บทเรียนสำคัญในการต่อสู้กับโรคระบาดร้ายแรงใน 2 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการให้ข้อมูลที่ไม่เป็นจริง fake news, ข่าวร้าย shock news ข้อมูลที่สร้างความสับสน โดยเฉพาะข้อมูลมีความจริงเพียง 20% แล้วใส่ความเห็น โน้มน้าว ไม่ได้อยู่บนฐานของความเป็นจริง มีข่าวที่ไม่เป็นจริง และมีการส่งต่ออันมากมายบนสื่อสังคมในยุคปัจจุบันที่แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อความจริงปรากฏ ก็ไม่มีใครตามไปแก้ข่าว

ข้อมูลดังกล่าวถ้าได้รับฟังซ้ำๆ เชื่อเลย หลายคนคงจะเชื่อ เรื่องของโรคโควิด วัคซีนในการใช้ป้องกัน ทำให้เราเสียโอกาสไปมาก

การให้ข่าวร้าย ที่เรียกว่า shock news ทั้งที่อาจจะมีความจริงเพียง 10 ถึง 20 %

การทำวิจัยเบื้องต้นมาก จะทำให้เกิดอาการหวาดกลัว เกิดขึ้น และมีผลต่อจิตใจอย่างมาก (traumatic stress) เป็นอันตรายมากต่อ ร่างกาย สังคม และเศรษฐกิจ

การให้ร้าย รังแก (bully) บนสื่อสังคม จะมีให้เห็นทุกวัน ในสื่อสังคม

ในการทำงาน จะต้องมีความหนักแน่น ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ อดทน และในที่สุดความจริงก็ปรากฏ แต่ในบางครั้งก็อดเสียดาย เสียโอกาส ในการแก้ไขต่อสู้กับโรคร้าย ได้ทันท่วงที

“สิ่งที่สำคัญ จะต้องมีการเรียนการสอน ตั้งแต่วัยเด็ก ในการเรียนรู้ สร้างความเข้าใจ ไม่ให้เชื่อในสิ่งที่ไม่ได้มีการพิสูจน์ หลักการเหตุผล พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ สิ่งไหนจริงสิ่งไหนปลอม ต้องแยกวิเคราะห์ให้ได้ การส่งต่อข้อความข้อมูล จะต้องมั่นใจว่า มีแหล่งที่มาอย่างถูกต้อง ข้อมูลนั้นจะต้องถูกต้องและเชื่อถือได้” นพ.ยง เสนอแนะ

ในกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ได้ผ่านบทเรียน เป็นจำนวนมาก ที่สอนให้เรามีใจหนักแน่น อดทน มุ่งมั่นหาความรู้ สร้างองค์ความรู้ใหม่ เพื่อต่อสู้กับโรคภัยที่อุบัติใหม่ ไม่ให้เชื่ออะไรง่ายๆ ที่ส่งกันมา บนสื่อสังคม

Advertising