People Unity News : 12 มีนาคม 2566 นักวิชาการวิศวกรรมเคมี สจล. ระบุฝุ่น PM 2.5 มาจากเครื่องยนต์ดีเซล 80% เจ้าของรถบางราย ยอมขายตัดท่อแคทดักฝุ่น เพิ่มความแรงเครื่องยนต์
ผศ.ดร.ณัฐพล ฤกษ์เกษมสันติ์ นักวิชาการภาควิชาวิศวกรรมเคมี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ให้ความเห็นว่า ปัจจุบันสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทยนับว่าร้ายแรงมาก มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนอย่างมาก จากการศึกษาของกรมควบคุมมลพิษ ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล พบว่า PM 2.5 มาจากรถยนต์ประเภทเครื่องยนต์ดีเซล มีปริมาณถึง 80% ของ PM 2.5 จากการจราจรบนท้องถนนทั้งหมดเลยทีเดียว ยอมรับว่าหากว่าจะให้เลิกใช้รถยนต์ดีเซลในปัจจุบัน คงเป็นไปไม่ได้
จึงต้องกวดขันของการตรวจสภาพรถยนต์ดีเซลเป็นประจำ นับว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยต้องมีอุปกรณ์ช่วยลดปริมาณ PM 2.5 นั่นก็คือ Catalytic converter ซึ่งติดตั้งมาในรถยนต์ดีเซลทั้งหลาย หากแต่ระบบนี้มีราคาค่างวดค่อนข้างแพง เนื่องจากทำมาจากวัสดุมีราคาแพงอย่างเช่น Platinum จึงทำให้เกิดพ่อค้าหัวใส รับซื้อท่อแคท และผู้ใช้รถยนต์ดีเซลจำนวนมากยินดีตัดท่อแคทดังกล่าวออกไป เพราะมีความเชื่ออย่างไม่ถูกต้อง มองว่าการตัดท่อแคทจะทำให้รถแรงขึ้น และที่สำคัญได้เงินแถมมาด้วย นั้นจึงเป็นส่วนหนึ่งของต้นตอหรือสาเหตุของการเกิดฝุ่น PM 2.5 จำนวนมากในปัจจุบัน
สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียน อยากให้ความเห็นคือ เรื่องสิ่งแวดล้อม ไทยควรมีมาตรการจริงจังเด็ดขาด เหมือนกับสหภาพยุโรป ในการดูแลสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์จากค่ายยุโรป เครื่องยนต์น้ำมันดีเซล จะดูแลระบบไอเสียออกจากรถยนต์อย่างมาก เนื่องจากมีกฎหมายดูแลสภาพอากาศเข้มงวดมากกว่าเมืองไทย จึงเห็นได้ว่า รถยนต์จากค่ายยุโรปที่เติมน้ำมันดีเซล จะเติมน้ำยาบางอย่างลงไประหว่างการเช็กระยะ เพื่อเพิ่มความสะอาดให้กับไอเสียที่ออกมา น้ำยาดังกล่าวจะทำงานร่วมกับ Selective Catalytic Reduction เพื่อช่วยลดปริมาณ NOx ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิด PM 2.5 จากปฏิกิริยาลูกโซ่เกิดจาก NOx ลงได้
มีมาตรการอย่างจริงจัง ถึงขนาดถ้าไม่เติมน้ำยาจะทำให้รถยนต์ไม่สามารถขับได้ตามปกติ ขณะที่เมืองไทย กลับหาแนวทางไม่อยากเติมน้ำยาดังกล่าว โดยการปรับปรุงระบบรถกันเองให้สามารถ start รถยนต์ได้ตามปกติ โดยไม่เติมน้ำยาเพิ่มเติม นับว่าเป็นความพยายามทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะสุดท้าย กลับสร้างปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อม จากสภาพปัญหาอากาศมีฝุ่น PM 2.5 ในอากาศเป็นปริมาณมาก ทางผู้เขียน เห็นว่าภาครัฐควรออกมาตรการทางด้านอากาศอย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
เริ่มต้นจากการกวดขันให้รถยนต์ติดตั้งท่อแคทเดิมให้อยู่ในสภาพดีพร้อมทำงาน จนถึงมาตรการบังคับการติดตั้งระบบ Selective Catalytic Reduction ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นในรถยนต์ดีเซล แบบเดียวกับในสหภาพยุโรปอย่างเป็นขั้นเป็นตอนในอนาคต เพื่อลดการเกิด PM 2.5 ลง ไม่เช่นนั้นเราทุกคนคงต้องใช้ชีวิตในสายหมอกของฝุ่นควันกันยาวนาน และไม่มีท่าทีจะดีขึ้น โดยปกติแล้วฝุ่นควันจะลดลงเมื่อเข้าสู่หน้าร้อน แต่อย่างที่ทุกคนรับทราบ ปีนี้ไม่มีท่าทีที่ฝุ่นจะลดลงแต่อย่างใด เราทุกคนควรช่วยกันคนละไม้คนละมือรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อตัวเราและลูกหลานของเราในอนาคต
Advertisement