People Unity News : 17 กรกฎาคม 2566 ที่อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ 8 พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาล นัดหารือกันภายใน โดยไม่ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ เพื่อหารือทิศทางในการลงมติเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ โดยมีการนัดหมายแกนนำทั้ง 8 พรรค มาพบกันในเวลา 17.00 น. ทำให้ผู้สื่อข่าวทุกแขนงมาดักรอทำข่าว เกาะติดทั้งที่ลานจอดรถและบริเวณด้านหน้าทางเข้าอาคาร จึงพบว่ามีแกนนำ 8 พรรค ทยอยเดินทางมา ทั้งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคเพื่อไทย นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการ​พรรค​ก้าวไกล​ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล​ นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.พรรคเป็นธรรม นายสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทยรวมพลัง ทำให้สื่อมวลชนแน่ใจว่ามีการประชุมเกิดขึ้นที่นี่

จนกระทั่งเวลา 18.30 น. แกนนำของทั้ง 8 พรรค ได้ลงมาร่วมแถลงข่าว นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการ​พรรค​ก้าวไกล​ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย นายทวี สอดส่อง ตัวแทนจากพรรคประชาชาติ นายสุพันธ์ มงคลสุธี ตัวแทนจากพรรคไทยสร้างไทย และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้า​พรรคเสรีรวมไทย​ ลงมาแถลงข่าวอย่างพร้อมเพรียง​

นายพิธา กล่าวถึงผลการหารือว่า ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ยังคงเสนอชื่อของตนเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่กังวลเรื่องข้อกฎหมายที่เกรงว่าจะเป็นการเสนอญัตติซ้ำ แต่หากมีการตีความกฎหมายที่ต่างกัน เสนอชื่อนายพิธาไม่ได้ ก็ต้องมีการหารือกัน ส่วนตัวเชื่อว่าญัตติคือญัตติ การเสนอชื่อนายกฯ เป็นคนละเรื่องกัน โดยพรุ่งนี้จะมีการประชุมวิปสองฝ่าย รอฟังเหตุและผลของวิป รวมถึงฝ่ายตรงข้ามก่อน

เมื่อถามว่าจะตั้งหลักอย่างไรหากเสียงไม่พอในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ นายพิธา กล่าวว่า จะได้เป็นไปตามที่แถลงผ่านวิดีโอ โดยในสมรภูมิแรกหากคะแนนไม่ได้เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ หรือเพิ่มร้อยละ 10 คือ 344 เสียง ก็พร้อมถอย ถอยให้กับประเทศชาติและพรรคการเมืองอันดับ 2 ที่อยู่ใน MOU เดิม ส่วนจะเพิ่มเท่าไร ขอให้รอดู ยังทำงานและยังสู้อยู่

ขณะเดียวกันยังมีเรื่องของการแก้ไขมาตรา 272 ที่ยื่นเข้าไปแล้วและต้องบรรจุภายใน 15 วัน ขอย้ำว่าเป็นการดำเนินการของพรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียว ไม่ได้ผูกมัดกับพรรคอื่น

นายพิธา ยังย้ำว่า ความสัมพันธ์ของ 8 พรรคร่วมยังเป็นไปได้ด้วยดี ยืนยันจะตั้งรัฐบาลของประชาชนให้ได้ใน 8 พรรค จึงมีมติออกมาในวันนี้ ส่วนการพูดคุยกับพรรคชาติไทยพัฒนา ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นมติของ 8 พรรค รวมถึงยังไม่ได้มีการเตรียมชื่อสำรองเอาไว้ ยังเป็นชื่อตนเพียงคนเดียวอยู่

ขณะที่การหารือกับ ส.ว. นายพิธา กล่าวว่า หลังจากวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีการพูดคุยกับ ส.ว.อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่พรรคก้าวไกล แต่เป็นพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล หวังจะได้เสียงเพิ่มจากคนที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมในวันนั้น พร้อมยอมรับว่ามีการต่อสายหาแกนนำพรรครัฐบาลเดิม เป็นเพียงการหารือถึงสถานการณ์การเมือง ไม่ได้เชิญเข้าร่วม

ส่วนที่มีกระแสงูเห่าที่จะไปเพิ่มคะแนนให้กับพรรคเสียงข้างน้อย นายพิธา กล่าวว่า เท่าที่ติดตามแต่ละพรรคบอกแล้วว่าจะไม่มีการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และในส่วนของพรรคก้าวไกลก็ติดตามตลอด จึงเชื่อว่าไม่มี ส.ส.คนใดไปเพิ่มเสียงให้ และที่ผ่านมาคนเป็นงูเห่าก็ได้รับบทเรียนแล้ว และพรรคเพื่อไทยยืนยันเช่นกัน

เมื่อถามว่าหากถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ในวันที่ 19 กรกฎาคม​นี้ นายพิธา กล่าวว่า แม้จะถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ความเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของตนไม่ได้หายไป จึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวล

เมื่อถามว่าการแก้ไขมาตรา 112 เป็นส่วนที่ ส.ว. และพรรคการเมืองไม่โหวตให้ นายพิธา กล่าวว่า เรื่อง 112 เป็นเพียงข้ออ้างที่อยู่ข้างหน้า แต่ข้างหลังมีอีกหลายเรื่อง ซึ่งเป็นไปตามที่สื่อได้มีการวิเคราะห์กัน ที่อาจจะไปกระทบต่อผลประโยชน์ รวมถึงเรื่องที่พรรคจะไปปฏิรูปงบ กอ.รมน. จึงเชื่อว่าหากเรื่อง 112 หายไปจะมีเรื่องอื่นเข้ามาเป็นข้ออ้างอีก ขณะเดียวกันตนต้องรักษาคำพูด หาเสียงพูดไว้อย่างไรเราก็ต้องทำตามนั้น ไม่ใช่ว่าทำเพื่อต้องการเข้าสู่อำนาจในทุกวิถีทาง

นายพิธา ให้สัมภาษณ์หลังการแถลงมีกระแสโซเชียลมีเดียเปรียบสามีเพื่อไทยและเจ้าสาวก้าวไกล ถามว่ารักกันดีไหม นายพิธา บอกว่ารักกันดี ส่วนประเด็นที่มีการโยงเรื่องมือเปรียบเปรยกันว่าความรักครั้งนี้ เหมือนจะต้องเจอเมียน้อย หรือ “อีหนู ล” นายพิธาบอกว่า พรรคเราไม่มีพูดเรื่องเพศ หรือเปรียบแบบนี้อยู่แล้ว

ส่วนที่ ส.ว.เสรี บอกว่าหากพรรคก้าวไกลยังอยู่ใน 8 พรรคร่วมรัฐบาล ส.ว. จะไม่โหวตให้ นายพิธา บอกว่า เป็นเรื่องของคุณเสรี แต่คณะทำงาน 8 พรรคร่วมรัฐบาล มีวิธีดำเนินการพูดคุยอยู่แล้ว และขอบคุณ 13 สมาชิกวุฒิสภาที่โหวตให้ ได้แสดงเจตนารมณ์อยู่ข้างพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง รวมไปถึงมั่นใจว่าวันที่ 19 กรกฎาคมนี้จะได้รับคะแนนเสียงมากขึ้น ตนมองว่าเป็นช่วงเวลาประจวบเหมาะทุกอย่าง 4 ประตู ในการถาโถมเข้ามาพอดิบพอดีกับการโหวตนายกรัฐมนตรี

Advertisement