พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 7 มีนาคม 2567 “พีระพันธุ์” มั่นใจค่าไฟฟ้างวดต่อไป (พ.ค.-ส.ค.) ไม่สูงกว่าปัจจุบันแน่นอน หลังลงพื้นที่ตรวจการผลิตก๊าซกลางอ่าวไทย พร้อมหารือ กฟผ. ให้ช่วยกันดูแลประชาชนเพื่อไม่ให้มีภาระค่าไฟฟ้ามากเกินไป ด้าน กกพ. เตรียมเปิด 3 แนวทางเลือกค่าไฟพรุ่งนี้
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังลงพื้นที่ตรวจการผลิตก๊าซกลางอ่าวไทย เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะมีก๊าซมากพอ เพื่อการยันราคาค่าไฟฟ้าในรอบใหม่นี้ ตนได้หารือกับนายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และ ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน รวมถึงได้หารือกับผู้บริหาร กฟผ. เพื่อขอให้ช่วยกันดูแลประชาชนตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละฝ่ายให้เต็มที่เพื่อไม่ให้มีภาระค่าไฟฟ้ามากไปกว่าปัจจุบัน ซึ่งทุกท่านทุกฝ่ายพร้อมที่จะดำเนินการอย่างเต็มความสามารถ โดยเฉพาะทาง กฟผ. พร้อมที่จะแบกรับภาระหลายอย่างเพื่อประชาชน
“ผมจึงค่อนข้างมั่นใจว่าราคาค่าไฟฟ้าสำหรับงวดต่อไป (พฤษภาคม – สิงหาคม) จะไม่สูงไปกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ขอให้มั่นใจว่าผมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมา ณ ที่นี้อีกครั้ง” นายพีระพันธุ์ กล่าว
โดยอัตราค่าไฟฟ้างวดปัจจุบัน (เดือน ม.ค.-เม.ย.) อยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย ซึ่งพรุ่งนี้ (8 มี.ค.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) โดยนายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ. ในฐานะโฆษก กกพ. จะเปิดเผยผลการคำนวณค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (ค่าเอฟที) และข้อเสนอทางเลือกเพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นประกอบการพิจารณาเพื่อประกาศเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในงวดหน้า (พฤษภาคม – สิงหาคม)
ขณะที่ กฟผ. ยังมีภาระหนี้ที่ต้องแบกรับจากภาระส่วนต่างค่า Ft (เอฟที) แทนประชาชนในช่วงราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564-2565 ซึ่ง ณ เดือนธันวาคม 2566 มียอดคงค้างสูงกว่า 1 แสนล้านบาท
Advertisement