พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 7 ตุลาคม 2567 นายกฯ ประชุมขันนอตความปลอดภัยทางถนน ยกระดับการเดินทางทุกประเภท ของไทยต้องดีขึ้น สั่งการทุกหน่วยงานต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ด้านคมนาคมตั้ง คกก. เพื่อยกระดับรถโดยสารสาธารณะกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาเร่งด่วนภายใน 15 วัน

วันนี้ (7 ตุลาคม 2567)  นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าวันนี้  (7 ตุลาคม 2567)  เวลา 10.40 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเรื่องความปลอดภัยทางถนน โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวก่อนการประชุมว่า  เหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567  เป็นเหตุการณ์ที่น่าสลดใจ  ทำให้รัฐบาลต้องกลับมามองทุกกรอบอีกครั้ง  โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดความปลอดภัยทางถนน  รวมทั้งกฎหมายหลายฉบับที่ไม่ทันสมัย ต้องมีการพูดคุยหารือเพื่อปรับแก้กฎหมาย ข้อบังคับใช้ ต่าง ๆ ให้เข้ากับยุคสมัยเป็นสิ่งที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย   กระทรวงสาธารณสุข  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  และกระทรวงศึกษาธิการ  ต้องการพูดคุยกันในวันนี้  ทั้งการบังคับใช้ในทุกเรื่อง ทั้งนี้มีข้อเสนอเกี่ยวกับ “รถบัส“ ว่าควรมีการแนะนำเหมือนการโดยสารบนเครื่องบินว่าทางออกไปทางไหน  ใช้ อุปกรณ์นั้นความปลอดภัยต่างๆ อย่างไร  โดยในโซเชียลก็มีการนำเสนอเรื่องการแนะนำประตูทางออกฉุกเฉินที่ค่อนข้างดี  ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลองศึกษาและดูตัวอย่างที่ประชาชนเสนอแนะมาถือว่าได้ประโยชน์

นายกรัฐมนตรี  กล่าวต่อว่า อยากให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกัน  โดยเฉพาะโครงการร่วมกับทางสหประชาชาติหรือยูเอ็น คือ Mr. Jean Todt ในนาม UN Special Envoy for Road Safety ที่จะเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกันในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้   และจะมีการประชาสัมพันธ์ให้ทั่วโลกได้เห็น ถึงการคมนาคม  การใช้รถใช้ถนน   ระบบความปลอดภัยต่าง ๆ  โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน   ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการประชุมเชิงปฏิบัติการความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ   ผู้ประกอบการที่เป็นภาคเอกชน จะได้บอกได้ว่าปัญหาจริง ๆ ที่พบคืออะไร ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลืออย่างไร  หรือมองเห็นสิ่งที่จะพัฒนาร่วมกันได้อย่างไร

นายจิรายุฯ  กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบการดำเนินการของกระทรวงคมนาคมที่ได้ตั้งคณะกรรมการฯ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหายกระดับรถโดยสารสาธารณะอย่างเร่งด่วนภายใน 15 วัน พร้อมทั้งมอบหมายกรมการขนส่งทางบกเรียกตรวจสอบสภาพรถโดยสารสาธารณะที่ติดตั้งแก๊ส NGV ซึ่งจากข้อมูล  มีทั้งหมด จำนวน 13,426 คัน ประกอบด้วย รถบัสจ้างเหมา จำนวน 1,336 คัน รถบัสประจำทาง จำนวน 5,967 ค้น และรถตู้/รถมินิบัส จำนวน 6,123 คัน หากพบสภาพไม่พร้อมใช้งานให้สั่งห้ามการนำรถออกใช้งาน หากพร้อมใช้งานให้ออกหนังสือรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการตรวจสอบต้องตรวจสอบอย่างละเอียด คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ

“ขอให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบสภาพรถ เพื่อสร้างความมั่นใจต่อประชาชน และสร้างความปลอดภัยต่อการใช้รถใช้ถนน” นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำ

 Advertisement