พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 1 พฤศจิกายน 2567 นายก ฯ แพทองธาร ยืนยันจะทำให้ประเทศไทยมียาเสพติดน้อยลงและปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้นและเด็ดขาด วอนสังคมร่วมเป็นกำลังใจให้กันและกัน
วันนี้ (1 พฤศจิกายน 2567) เวลา 14.30 น. ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหายาเสพติด (อบต.น้ำใส) ตำบลน้ำใส อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมการฝึกอาชีพและแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้เข้ารับการบำบัด และพบปะพี่น้องประชาชนชาวร้อยเอ็ด โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมบูธขายสินค้าผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติด โดยได้สอบถามพร้อมอุดหนุนสินค้า และให้กำลังผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติด ซึ่งผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติดได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้ทุ่มเทแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง ทำให้มีอาชีพ สร้างรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว กลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างเข้มแข็งด้วย
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการลงพื้นที่ว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีตั้งใจมาให้กำลังใจทุกคน ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาระดับชาติ รัฐบาลได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยประชาชนในเรื่องนี้เป็นพิเศษ ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่ไม่สามารถบำบัดรักษาได้เพียงคนเดียวหรือกลุ่มเล็ก ๆ เพียงกลุ่มเดียว แต่ทุกคนต้องช่วยกันเริ่มตั้งแต่สถาบันครอบครัว สถาบันที่ทำงาน จังหวัด รวมถึงระดับประเทศ ในบางครั้งเมื่อมีหัวใจที่อ่อนแอ อาจหลงผิดไปพึ่งสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เช่น ยาเสพติด แต่การจะช่วยพวกเขากลับมาได้นั้นต้องอาศัยกำลังใจอย่างมหาศาล ทั้งนี้ ต้องขอบคุณทุกคนที่มีส่วนในการช่วยให้ผู้บำบัดกลับสู่สังคมได้เร็วขึ้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า การเดินทางมาจังหวัดร้อยเอ็ดในครั้งนี้เพื่อมาติดตามการดำเนินงาน ประสบปัญหาหรือต้องการอะไรเพิ่มเติม รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุน ช่วยเหลือ รวมทั้งจะดำเนินนโยบายเกี่ยวกับ ยาเสพติดอย่างเต็มที่ นอกจากนั้น รัฐบาลยืนยันว่าจะทำให้ประเทศไทยมียาเสพติดน้อยลงและปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้นและเด็ดขาด ขอให้ทุกคนช่วยเป็นกำลังใจให้กันและกัน
สำหรับการดำเนินงานศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตำบลน้ำใส อำเภอจตุรพักตรพิมาน บำบัดรักษาโดยชุมชนเป็นศูนย์กลาง CBTx สำหรับกลุ่มผู้เสพ ชุดปฏิบัติการประจำตำบลนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดผ่านกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างการรับรู้ ส่งเสริมสุขภาพ และตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดทุกครั้ง จนครบ 9 ครั้ง ดำเนินการต่อเนื่องตามระยะห่าง 4 วัน/ครั้ง มีกลุ่มเป้าหมายเข้ารับการบำบัดรักษา CBTx 620 คน ผลปัสสาวะเป็นลบ 481 คน ผลปัสสาวะเป็นบวก 139 คน (ส่งเข้ารับการรักษาต่อมินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลจตุรพักตรพิมาน) ภายหลังทำการบำบัดรักษา ผู้บำบัดมีงานทำ จากการขยายโอกาสทางการศึกษา เพิ่มพูน ฝึกฝนทักษะ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน เกิดการเรียนรู้ ตลอดชีวิต โดยมีหน่วยงานสนับสนุน เช่น ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอจตุรพักตรพิมาน สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นต้น ทำให้ผู้ผ่านการบำบัดมีอาชีพ สร้างรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวห่างไกลจากยาเสพติด
Advertisement