พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 3 กุมภาพันธ์ 2568 ‘ประเสริฐ จันทรรวงทอง’ เผย ‘ดีอี’ ระงับ ‘บัญชีม้า’ แล้วกว่า 1,600,000 บัญชี จับกุมเจ้าของบัญชีไปแล้ว 2,495 ราย เตือนประชาชนระวังตกเป็นเหยื่อ ผู้เกี่ยวข้องโทษหนักจำคุก 3 ปี

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า จากมาตรการการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามนโยบายของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเน้นให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกัน ตรวจสอบ และปราบปรามบัญชีม้า ซึ่งเป็นช่องทางหลักการหลอกลวงรับเงินของมิจฉาชีพ  ซึ่งกระทรวงดีอี ได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สมาคมธนาคารไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการระงับบัญชีม้า ตัดเส้นทางการเงินของกลุ่มมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีสถิติการระงับบัญชีม้าจนถึง ธันวาคม 2567 จำนวนรวมกว่า 1,660,000 กว่าบัญชี (ปปง. 630,537 บัญชี ธนาคารระงับ 581,637 บัญชี และ ศูนย์ AOC ระงับ 455,241 บัญชี)

นายประเสริฐ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้ขยายผลดำเนินการจับกุมเจ้าของบัญชีม้าอย่างเข้มข้น โดยมีสถิติผลการจับกุมบัญชีม้า ซิมม้าที่เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 พบว่าในปี 2567 ตั้งแต่เดือน มกราคม – ธันวาคม  (12 เดือน) มีการจับกุมบัญชีม้าจำนวนรวม 2,495 ราย เฉพาะในเดือนธันวาคม 2567 มีผลการจับกุมจำนวน 328 ราย

ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินงานการตามนโยบายปราบปรามภัยออนไลน์ของรัฐบาล เพื่อลดปัญหา พยายามหยุดการหลอกลวงที่สร้างความเสียหายจากบัญชีม้า โดยตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ได้กำหนดโทษของการยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากฯ หรือที่เรียกว่า บัญชีม้า จะถูกดำเนินคดี ตามมาตรา 9 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และยังอาจถูกดำเนินคดีตามฐานความผิดที่มิจฉาชีพนำบัญชีนั้นไปใช้ ในฐานะเป็นตัวการร่วม หรือผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด และอาจถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจากผู้เสียหาย

“กระทรวงดีอีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการป้องกันและปราบปรามบัญชีม้าอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มความเข้มงวดในการเปิดบัญชีธนาคารใหม่ในธนาคารทุกสาขา ซึ่งหากพบความผิดปกติจะดำเนินการตรวจสอบทันที ให้ดังนั้นขอเตือนประชาชนว่า การขายบัญชีธนาคารไม่ว่าจะในรูปแบบใด มีโทษหนักจำคุกถึง 3 ปี ทั้งนี้หากหลงเชื่อขายบัญชีธนาคารให้กับบุคคลอื่นไปแล้ว ให้รีบติดต่อกับธนาคารเพื่อขอปิดบัญชีธนาคารดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อไม่ให้มีรายชื่ออยู่ในลิสต์ว่าขายบัญชี และถูกระงับทุกบัญชีธนาคารของทุกธนาคารที่มี รวมทั้งไม่ให้ถูกดำเนินคดีตามฐานความผิดที่มิจฉาชีพนำบัญชีไปใช้ ในฐานะเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีกล่าว

Advertisement