พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 4 ธันวาคม 2566 ผู้ว่า กทม. เร่งหาแนวทางช่วยบรรเทาแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้ประชาชน

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 25/2566 ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ว่า หลังจากที่มีการเปิดบริการ ให้ประชาชนลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ตามนโยบายรัฐบาล ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา มีผู้ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือฯ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้วรวม 3,043 โดยแบ่งเป็นการลงทะเบียนในระบบ Online จำนวน 2,971 ราย และลงทะเบียนด้วยตนเอง ที่ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ ณ สำนักงานเขต จำนวน72 ราย เจ้าหนี้ 1,809 ราย มูลหนี้รวมกว่า 169.7 ล้านบาท ( ข้อมูลจากวันที่ 3 ธ.ค. 66 เวลา 19.00 น. ) ซึ่งถือว่าผู้ลงทะเบียนยังมีจำนวนไม่มาก แต่กรุงเทพมหานครไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้สั่งการเพิ่มเติมไปอีก 2 ส่วน โดยให้แต่ละชุมชนทำการสำรวจ หาข้อมูลเจ้าหนี้ด้วยเพื่อประกอบกับข้อมูลลูกหนี้ให้ครอบคลุมมากขึ้น และส่วนต่อมาคือกำชับให้สถานธนานุบาล (โรงรับจำนำของกรุงเทพมหานคร) ให้เร่งหาแนวทางช่วยเหลือเพื่อที่จะสนองนโยบายของรัฐบาลให้เกิดผลสำเร็จให้ได้มากที่สุดเพิ่มเติมด้วย

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เน้นย้ำว่า กรุงเทพมหานครไม่มีอำนาจในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบโดยตรง แต่ในเบื้องต้นกรุงเทพมหานครจะช่วยโดยการไม่ให้เกิดรายจ่ายที่เพิ่มมากขึ้นของประชาชนในทางอ้อมแทน เช่น การส่งเสริมให้สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลฟรีตามสิทธิ์ การเรียนฟรี เพื่อช่วยลดแบ่งเบาค่าใช้จ่ายไม่ให้เกิดการกู้ยืมในเรื่องดังกล่าวอีก และหลังจากนี้จะมีการประชุมมอบนโยบายให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังใน เป็นประธานผู้มอบนโยบาย ในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งสำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาจะต้องรอติดตามกันต่อไป

ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดยังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ ยังคงสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ผ่านระบบออนไลน์ ได้ที่ Website : debt.dopa.go.th หรือลงทะเบียนด้วยตนเองที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ ณ สำนักงานเขตของกรุงเทพมหานครทุกแห่ง และสำหรับจังหวัดอื่น ๆ สามารถลงทะเบียนได้ที่ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ ทั่วประเทศ ซึ่งข้อมูลของผู้ลงทะเบียนจะถูกรักษาไว้เป็นความลับ และหากมีข้อสงสัยสามารถขอรับคำปรึกษาและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Advertisement