People Unity News : “ประวิตร” สั่งขับเคลื่อนธนาคารน้ำใต้ดิน บรรเทาความรุนแรงภัยแล้ง น้ำท่วมขัง เร่งกระจายแหล่งน้ำขนาดเล็กทุกพื้นที่แก้ปัญหาน้ำอย่างยั่งยืน

17 กรกฎาคม 2563 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล  พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 1/2563   โดยมี ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการประชุมในวันนี้ เพื่อรับทราบแผนและโครงการภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ด้านการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ ให้ครบถ้วน สมบูรณ์ เพื่อขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี  โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการบริหารจัดการน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค  น้ำเพื่อการเกษตร น้ำเพื่อเศรษฐกิจ พร้อมกำชับการบริหารจัดการน้ำใต้ดิน  การขุดเจาะน้ำบาดาลโครงการ 1 ตำบล 1 แหล่งกักเก็บน้ำ ให้เป็นแหล่งเก็บน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค เพื่อการเกษตรให้ครอบคลุมทุกตำบลทั่วประเทศ โดยรองนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายงบประมาณต้องคุ้มค่า เพราะรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณจำนวนมากในแต่ละปี เพื่อแก้ปัญหาน้ำให้กับประชาชนทั่วประเทศ

โอกาสนี้ ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการโครงการจัดหาน้ำต้นทุนและแผนปฏิบัติการ ปี 2563 – 2566 จังหวัดภูเก็ต โดยให้ สทนช. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแผนการจัดหาแหล่งน้ำและแผนการป้องกันอุทกภัยในพื้นที่เมืองเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว และชุมชนเมือง โดยเห็นชอบแผนระยะสั้น  4 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ 2) โครงการระบบสูบผันน้ำ บ้านโคกโตนด-อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ 3) โครงการบำบัดน้ำเสียมาผลิตน้ำประปา และ 4) โครงการพัฒนาระบบควบคุมบริหารจัดการน้ำ พร้อมกันนี้ ที่ประชุมเห็นชอบคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน โดยมีรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานคณะทำงาน เพื่อช่วยบรรเทาความรุนแรงภัยแล้ง น้ำท่วมขังให้กระจายไปทั่วทุกภูมิภาคในประเทศ แก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน ปรับประยุกต์ใช้ให้เข้ากับสภาพพื้นที่ได้ตามเป้าหมายของแผนแม่บทฯ 20 ปี ภายใต้แผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ การบริหารจัดการน้ำ

ในช่วงท้าย รองนายกรัฐมนตรียังสั่งการให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ดำเนินการเติมน้ำใต้ดินในพื้นที่ที่เหมาะสมทั้งระบบ รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานบูรณาการงานจัดทำระบบ Big data เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งข้อมูลด้านการเกษตรที่มีประสิทธิภาพอย่างครบวงจร

Advertising