วันที่ 22 ธันวาคม 2024

แพ้แค่หลักร้อย”ธนาธร”เครียด! ลุ้น2หน่วยเลือกตั้งผู้สมัครชทพ.นำ

People Unity : “ธนาธร”เครียด!ลุ้น2หน่วยเลือกตั้งซ่อมส.ส.นครปฐม เขต 5 แพ้ผู้สมัครชทพ.ยังแค่หลักร้อย นับคะแนนยังไม่เสร็จปชป.ยกธงขาวเสียแล้ว

วันที่ 23 ตุลาคม 2562 ภายหลังปิดหีบเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 5 นครปฐมเมื่อเวลา 17.00 น.แล้ว บรรดาแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ได้กระจายกันไปสังเกตการณ์การนับคะแนนตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ โดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ได้เดินทางไปสังเกตการณ์สถานที่นับคะแนน หน่วยที่ 7, 8 ตำบลท่าข้าม ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าที่ทำการ อบต.ท่าข้าม อำเภอสามพราน โดยมีภรรยาและลูกๆ ของนายธนาธรมาเป็นกำลังใจและร่วมลุ้นด้วย โดยจุดนี้มีหน่วยเลือกตั้ง ทั้งหมด 3 หน่วย หลังปิดหีบมีประชาชนจำนวนมากมาร่วมลุ้นผลคะแนน

ทั้งนี้ นายธนาธรมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากหน่วยเลือกตั้งที่ 7 และ 8 ต.ท่าข้าม ผู้สมัครหมายเลข 1 จากพรรคชาติไทยพัฒนามีคะแนนนำตลอดการนับคะแนน กระทั่งเวลา 18.33 น.หน่วยเลือกตั้งที่ 7 นับคะแนนเสร็จสิ้นพบว่านายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ พรรคชาติไทยพัฒนาผู้สมัครหมายเลข 1 ได้ 262 คะแนน ชนะนายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร ผู้สมัครของพรรคอนาคตใหม่ ผู้สมัครหมายเลข ได้ 125 คะแน ขณะที่หน่วยที่ 8 หมายเลข 1 ได้ 300 คะแนน หมายเลข  6 ได้ 162 คะแนน

นับคะแนนยังไม่เสร็จปชป.ยกธงขาวเสียแล้ว

เมื่อเวลา19.00 น. นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งเขต5 จ.นครปฐม ให้สัมภาษณ์ภายหลังปิดหีบเลือกตั้ง และนับคะแนนรายหน่วย ไปได้ครึ่งทางว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะในการเลือกตั้งซ่อมเขต 5 นครปฐม และขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ลงคะแนนให้กับนายสุรชัย อนุตธโต ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งครั้งนี้

“แม้วันนี้เราจะยังไม่ได้รับเลือกตั้ง แต่เราจะมุ่งมั่นทำงานรับใช้ประชาชนต่อไป เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาสามพราน ตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้ นอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์ยังพร้อมที่จะทำงานให้ประชาชนคนไทยทั้งชาติต่อไป ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โดยยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง”นายอลงกรณ์ กล่าว

“อนค.-ชทพ.”บี้กันสุดสูสี! เลือกตั้งซ่อมส.ส.นครปฐมเขต 5

People Unity : บี้กันสุดสูสี! เลือกตั้งซ่อมส.ส.นครปฐมเขต 5 ระหว่าง “อนาคตใหม่-ชาติไทยพัฒนา” ปชป.ตามมาห่างๆ “แกนนำชทพ.”เกาะติดนับคะแนน”นิกร”บอกบางหน่วยชนะขาด

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 23 ตุลาคม 2562ภายหลังการปิดหีบเลือกตั้งซ่อมเขต 5 จังหวัดนครปฐม โดยใช้อาคารปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา วัดไร่ขิง ต.ไร่ขิง เป็นสถานที่นับคะแนน ท่ามกลางการลุ้นของบรรดากองเชียร์ผู้สมัครแต่ละพรรค ปรากฏว่า หลายหน่วยเลือกตั้งได้นับคะแนนเสร็จแล้ว โดยบางหน่วยนั้น คะแนนของนายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร ผู้สมัครส.ส.หมายเลข 6 จากพรรคอนาคตใหม่ เป็นฝ่ายนำ และตามมาติดๆด้วยนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัครส.ส.จากพรรคชาติไทยพัฒนา ขณะที่บางหน่วยเลือกตั้ง คะแนนของนายเผดิมชัย เป็นฝ่ายออกนำ และตามมาด้วยนายไพรัฏฐโชติก์ ส่วนอันดับสามตามาด้วยนายสุรชัย อนุตธโต ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์

ขณะเดียวกันแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้กระจายกันไปติดตามการนับคะแนนเลือกตั้งตามหน่วยต่างๆ โดยที่หน่วยเลือกตั้งที่ 1 ตำบล/เทศบาลทรงคนอง อำเภอสามพราน ปะรำที่ทำการอดีตกำนัน นายสาธิตปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาติดตามการนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเวลา 17.00 น.

ส่วนที่หน่วยเลือกตั้งที่ 7 ตำบล/เทศบาล ทรงคนอง อำเภอสามพราน สถานที่เลือกตั้งศูนย์การเรียนรู้ ตำบลทรงคนอง หมู่ 5 นายสุรชัย อนุตธโต ผู้สมัครหมายเลข 3 พรรคประชาธิปัตย์ ได้มาติดตามการนับคะแนน พร้อมนายอลงกรณ์พลบุตร แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ สิ่งที่จุดนี้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้มาติดตามการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งนี้ด้วย ซึ่งผลการนับคะแนนที่หน่วยดังกล่าวเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 18.03 น. นายสุรชัย ชนะการเลือกตั้งในหน่วยนี้

“แกนนำชทพ.”เกาะติดนับคะแนน”นิกร”บอกบางหน่วยชนะขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการเกาะติด ผลการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในพื้นที่จ.นครปฐม เขต 5 แทนตำแหน่งที่ว่าง ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ส่ง นายเผดิมชัย สะสมทรัยพ์ ลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยภายหลังการปิดหีบลงคะแนนแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค, นายธีระ วงศ์สมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ปรึกษาพรรค, นายอนุรักษ์ จุรีมาศ, นายอนุชา สะสมทรัพย์ รองหัวหน้าพรรค นายพาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนาและนายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ฐานะผู้อำนวยการพรรรค เกาะติดการนับคะแนนเลือกตั้งที่ ปั้มน้ำมันประเสริฐชัยปิโตร อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

ทั้งนี้เมื่อเวลา 18.20 น. นายนิกร ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคได้ส่งเจ้าหน้าที่เกาะติดการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้ง เบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีบางหน่วยที่ชนะด้วยเสียงที่ขาดลอย แต่มีบางหน่วยที่แพ้ไปอย่างฉิวเฉียด อย่างไรก็ตามการประเมินผลแพ้ หรือ ชนะในตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ เบื้องต้นคาดว่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการจากการรายงานคะแนนของผู้สังเกตการณ์​เวลา 20.00 น.

ก่อนเที่ยงคืนรู้ผลเลือกตั้งซ่อมนครปฐม

น.ส.บุญเรือน ไทยวัฒนธรรม ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครปฐม ให้สัมภาษณ์ถึงความเรียบร้อยการเปิดหน่วยเลือกตั้งใหม่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่างลงในเขต 5 จังหวัดนครปฐม ว่า หน่วยเลือกตั้งในเขต 5 นครปฐมทั้งหมดจำนวน 193 หน่วย เปิดได้ครบทุกหน่วยแล้วโดยเป็นไปอย่างเรียบร้อย ซึ่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถมาใช้สิทธิเลือกตั้งได้จนถึงเวลา 17.00 น. โดยการเลือกตั้งใหม่แทนตำแหน่งที่ว่างลงครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ใช้สิทธิมาใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ซึ่งตั้งเป้าไว้น้อยกว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ที่มีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 76 เนื่องจากการเลือกตั้งใหม่ครั้งนี้ไม่มีการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า สำหรับผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการนั้นคาดว่าจะสามารถเปิดเผยได้ภายในเวลา 24.00 น.

กลับบ้านแล้ว! สมัชชาคนจนบุกทำเนียบฯ “เทวัญ”กล่อมอยู่หมัดแถมช่วยหิ้วกระเป๋าขึ้นรถ

People Unity : บทสรุปชื่นมื่น! วันนี้ดีเดย์ส่งสมัชชาคนจนกลับบ้าน “เทวัญ” เดินทางแถลงสรุปผลการแก้ไขปัญหา พร้อมส่งกลุ่มสมัชชาคนจนด้วยตนเอง

วันที่ 23 ต.ค.2562 เวลา 15.00 น. นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายณัฏฐชัย ศรีรุ่งสุขพินิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธงชัย ลืออดุลย์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางพบปะกลุ่มสมัชชาคนจนที่รวมตัวกันบริเวณถนนลูกหลวง ข้างกระทรวงศึกษาธิการ โดยได้รับรายงานว่ากลุ่มสมัชชาคนจนทยอยเก็บของเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ หลังจากได้รับทราบผลสรุปจากทางรัฐบาล ซึ่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แถลงสรุปผลการเจรจาแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน โดยมีเนื้อหาระบุ ดังนี้

1. รัฐบาลได้รับทราบปัญหาข้อร้องเรียนและข้อเสนอเชิงนโยบายของสมัชชาคนจน ซึ่งได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาในทันที และจะขับเคลื่อนผลักดันการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องต่อไป

2. รัฐบาลร่วมกับสมัชชาคนจนได้จัดทำบันทึกข้อตกลงซึ่งมีกรอบเวลาร่วมกันในการดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนและข้อเสนอเชิงนโยบาย ซึ่งจะได้นำผลการจัดทำบันทึกข้อตกลงดังกล่าวนำเรียนที่ประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งต่อไป

3. สำหรับข้อเสนอให้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของสมัชชาคนจนตามร่างคำสั่งที่สมัชชาคนจนเสนอไว้ จะได้เร่งดำเนินการนำกราบเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

4. สำหรับเรื่องที่สมัชชามีความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง คือ การผ่อนผันให้ทำกินในที่ดินเดิมของสมัชชาคนจนนั้น ในเรื่องนี้ได้มีบันทึกความเข้าใจระหว่างสมัชชาคนจนและรัฐบาล ซึ่งได้เห็นชอบตามความในบันทึกความเข้าใจดังกล่าวแล้ว และจะนำเรียนที่ประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งต่อไป

จากผลการแถลงพบกว่ากลุ่มสมัชชาคนจนมีความพอใจ และยืนยันจะทยอยเก็บของเดินทางกลับภูมิลำเนา ทั้งนี้ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้สนับสนุนรถบัสจำนวน 12 คัน เพื่อส่งกลุ่มสมัชชาคนจนกลับภูมิลำเนา

 

วันปิยมหาราช! “วิษณุ” นำจิตอาสาปรับภูมิทัศน์ สถานีรถไฟหัวลำโพง

People Unity : “วิษณุ”เป็นประธานกิจกรรมอาสาพัฒนาปรับภูมิทัศน์ ทำความสะอาดบริเวณเส้นทางรถไฟ ถวายพระราชกุศลและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ม.สงฆ์มหาจุฬาฯจัดโครงการจิตอาสาทำดีด้วยหัวใจ

วันที่ 23 ต.ค.2562 ที่บริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง กรุงเทพมหานคร นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกิจกรรมอาสาพัฒนาปรับภูมิทัศน์ ทำความสะอาดบริเวณเส้นทางรถไฟ ถวายพระราชกุศลและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ผู้บริหารศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและภริยา หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงและเทียบเท่า ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประทศไทย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจและประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวรายงานการจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาปรับภูมิทัศน์ ทำความสะอาดบริเวณเส้นทางรถไฟ ทั้งนี้ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของบูรพกษัตริย์ไทย โดย 23 ตุลาคม เป็นวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกอบกับเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงมีคุณูปการต่อกิจการรถไฟไทย การจัดกิจกรรมจิตอาสาครั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้มีส่วนร่วมในการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ และสร้างจิตสำนึกในการดูแลรักษาพื้นที่บริเวณเส้นทางรถไฟเพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีนำคณะถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้นำคณะจิตอาสาทำกิจกรรมปรับภูมิทัศน์และทำความสะอาดบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง เช่น การทาสี ทำความสะอาดพื้นทางเดิน และทำความสะอาดตู้โดยสารรถไฟ ก่อนเดินทางกลับรองนายกรัฐมนตรียังได้แจกอาหาร เครื่องดื่ม และของที่ระลึก แก่จิตอาสาที่บริเวณครัวพระราชทานอีกด้วย

ม.สงฆ์มหาจุฬาฯจิตอาสาทำดีด้วยหัวใจ

พระเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรราชวิทยาลัย เปิดเผยว่า พระจิตอาสามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ขณะที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงฆ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราชผู้ทรงสถาปนาขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2430 ได้จัดบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระองค์ท่านเนื่องในวันปิยมหาราช พร้อมกันนั้นก็ได้จัดโครงการจิตอาสาหน่วยพระราชทานและประชาชนจิตอาสา เราทำดีด้วยหัวใจ จิตอาสาพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

ช่วงเช้าเป็นพิธีวางพวงมาลาหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์รัขกาลทึ่ 5 บริเวณหน้ามหาวิทยาลัย จากทุกส่วนงานทั้งส่วนกลาง วิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ หน่วยวิทยบริการและสถาบันสมทบในต่างประเทศ จากนั้นเป็นพิธีสวดพระพุทธมนต์อุทิศถวายพระองค์ท่าน

ช่วงบ่ายคณะจิตอาสาทำดีด้วยหัวใจ ได้ร่วมกันกล่าวคำปฎิญาณต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ก่อนจะได้แยกย้ายกันไปทำความสะอาดบริเวณรอบวัด รอบมหาวิทยาลัย ลอกคูน้ำลำคลอง ปรับปรุงพื้นดินที่สวนพุทธเกษตร ปล่อยพันธุ์ปลา 10,000 ตัวเป็นต้น

นอกจากนั้นกิจกรรมดังกล่าวนี้ยังจัดขึ้นตามวิทยาเขต 11 แห่ง วิทยาลัยสงฆ์ 23 แห่ง ห้องเรียน 1 แห่ง หน่วยวิทยบริการ 7 แห่งและสถาบันสมทบในต่างประเทศอีก 6 แห่ง โดยมีผู้เข้าร่วมในกิจกรรมดังกล่าวมากกว่า 3 หมื่นรูป/คนในนามมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

“เทพไท”โวย! 22ธ.ค.ขึ้นค่าทางด่วนโทลเวย์ดอนเมืองชาวกรุงเดือดร้อน

People Unity : “เทพไท”สวมบทส.ส.กทม.โวย! 22ธ.ค.ขึ้นค่าทางด่วนโทลเวย์ดอนเมืองชาวกรุงเดือดร้อน

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2562 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ทางด่วนโทลเวย์ดอนเมือง ประกาศขึ้นราคาค่าผ่านทาง เริ่มใช้ในวันที่ 22 ธันวาคม นี้ ว่า ไม่ทราบว่าในสัญญาระหว่างบริษัทดอนเมืองโทลเวย์กับรัฐบาล มีรายละเอียดอย่างไร แต่ด้วยสามัญสำนึกของคนที่เป็นตัวแทนของประชาชนนั้น ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะอัตราค่าผ่านทางในปัจจุบันยังไม่เป็นธรรมกับพี่น้องประชาชนที่ใช้บริการดอนเมืองโทลเวย์เลย โดยเฉพาะอัตราค่าผ่านทางด่านดินแดง สุทธิสาร และลาดพร้าว เก็บในอัตราราคาเดียวกัน คือ70บาท ทั้งๆที่ระยะทางแตกต่างกัน ดังนั้นควรจะปรับอัตราค่าผ่านทางให้สอดคล้องกับระยะทางที่เป็นจริง เช่น ด่านดินแดง 70 บาท ด่านสุทธิสาร 60 บาท ด่านลาดพร้าว 50 ฯลฯ จะเป็นธรรมกับผู้ใช้บริการทางดอนเมืองโทลเวย์ อย่างสมเหตุสมผล

ดังนั้นการเพิ่มอัตราค่าผ่านทางของดอนเมืองโทลเวย์ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขตามสัญญาหรือไม่ก็ตาม แต่เป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชนในยามที่ภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ ให้ได้รับความเดือดร้อนเพิ่มขึ้น อยากให้รัฐบาลหรือผู้เกี่ยวในเรื่องนี้ ออกมาชี้แจง อธิบายเหตุผลกับสังคม เพราะในความรู้สึกของคนกรุงเทพเห็นว่าอัตราค่าผ่านทางในปัจจุบัน มีอัตราราคาสูงมากเพียงพอแล้ว ไม่ควรซ้ำเติมความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนลงไปอีก

อยากจะเรียนในวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ไม่มี ส.ส.ในกรุงเทพแม้แต่คนเดียว ผมจึงจำเป็นออกมาเรียกร้องสิทธิ์ และปกป้องผลประโยชน์ของคนกรุงเทพในนามพรรคประชาธิปัตย์ และถ้าไม่มีคำตอบใดๆจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ผมจะใช้สิทธิ์ความเป็น ส.ส. ยื่นเรื่องนี้ต่อ คณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้พิจารณา ทวงคืนความเป็นธรรมให้แก่พี่น้องประชาชน โดยการเรียกสัญญาสัมปทานทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ทั้งหมดมาตรวจสอบดู และเชิญผู้รับผิดชอบจากกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารดอนเมืองโทลเวย์มาชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป

“ธนาธร”โดนกันเข้าสภาฯนั่งกมธ.งบฯปี63อีก! “สุชาติ”ชง”ชวน”ชี้ขาด

People Unity : “ธนาธร”โดนกันเข้าสภาฯนั่งกมธ.งบฯปี63อีก “สุชาติ”ลงความเห็นไม่ได้ โยน”ชวน”วินิจฉัย ก่อนประชุมนักแรก 24 ต.ค.นี้

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ฐานะผู้รับผิดชอบส่วนงานร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ทำหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ใช้อำนาจประธานสภาฯ วินิจฉัยต่อกรณีคุณสมบัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างต้องคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ชั่วคราว จะสามารถดำรงตำแหน่ง กรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ได้หรือไม่ ทั้งนี้ในหนังสือที่ส่งถึงนายชวน นั้นมีสาระที่เป็นความเห็นทางข้อกฎหมายและความเห็นส่วนตัว

โดยความเห็นทางกฎหมายของฝ่ายกฎหมายสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรฯ ระบุว่า สามารถดำรงตำแหน่งเป็น กมธ. ได้ เพราะก่อนหน้านั้นมี ส.ส.ที่เคยถูกคำสั่งศาลให้พ้นสมาชิกภาพ ส.ส.สามารถแต่งตั้งให้เป็น กมธ.วิสามัญ สัดส่วนบุคคลภายนอกได้ ขณะที่ความเห็นส่วนตัวของนายสุชาติซึ่งระบุว่า นายธนาธร ไม่สามารถดำรงตำแหน่งเป็น กมธ.ฯ พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯได้ เพราะไม่เหมาะสม อีกทั้งมีปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายไม่ได้ระบุอย่างชัดเจน โดยคุณสมบัติที่ไม่ชัดเจน มีสาระสำคัญ ตอนหนึ่งว่า นายธนาธร ยังถือเป็น ส.ส. แม้จะถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวก็ตาม อีกทั้งการได้ตำแหน่ง กมธ.ฯ แม้จะได้จากสัดส่วนพรรคอนาคตใหม่

แต่มีคำถามว่า จะใช้สิทธิใดในการเข้าทำหน้าที่ ระหว่าง ส.ส. หรือ บุคคลภายนอกกที่ไม่ได้เป็นส.ส.จึงต้องการให้นายชวนวินิจฉัยเพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานการทำงาน อีกทั้งกรณีการร่วมพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯถือเป็นกฎหมายฉบับสำคัญ จึงควรพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบโดยไม่เกิดปัญหาในอนาคต

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการวินิจฉัยของนายชวน ต่อเรื่องดังกล่าว คาดว่าจะไม่ทันต่อการประชุมกมธ.ฯ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯนัดแรกที่จะเริ่มเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ตุลาคม และนายธนาธรอาจได้สิทธิร่วมประชุมนัดแรกด้วย ทั้งนี้นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม.พรรคพลังประชารัฐ จะยื่นหนังสือถึง กมธ.ฯเพื่อคัดค้านการดำรงตำแหน่งของนายธนาธร ด้วย แต่อาจจะมีประเด็นที่ต้องพิจารณารายละเอียดก่อนจะเข้าเนื้อหาตามวาระ เพราะรายชื่อของนายธนาธรนั้น ถูกรับรองโดยที่ประชุมเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม แล้ว โดยไม่มีผู้ใดคัดค้านการเสนอชื่อดังกล่าวระหว่างการประชุมสภาฯ

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯขอบคุณกก.วัตถุอันตราย”แบน 3 สารพิษ”

People Unity : องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอบคุณคณะกรรมการวัตถุอันตรายและรัฐมนตรีทั้ง 3 กระทรวง ที่มีมติแบน 3 สารพิษ ชื่นชมการปฎิบัติหน้าที่โดยมิเพิกเฉยต่อสุขภาพ ชีวิต หวังเห็นความร่วมมือจัดการปัญหาการใช้สารพิษในการเกษตรอย่างเหมาะสม และ ยั่งยืน อย่างแท้จริง

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2562 องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ACT ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 3 เรื่องขอขอบคุณคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่มีมติยกเลิกการใช้พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตเพื่อคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และคนไทยทุกคน โดยในแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีการประชุมและได้ลงมติอย่างเปิดเผยให้มีการยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีอันตราย พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตนั้น องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ขอขอบคุณแทนคนไทยทั้งประเทศที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างดำรงไว้ซึ่งจริยธรรมและมนุษยธรรม มิเพิกเฉยต่อสุขภาพ ชีวิต ทั้งในส่วนของเกษตรกรผู้รับผลกระทบโดยตรงและผู้บริโภคผู้ได้รับผลกระทบในภายหลัง และที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง คือ การดำเนินการให้มีการลงมติอย่างเปิดเผย ตามที่องค์กรฯ และหลายภาคส่วนเรียกร้อง ช่วยสร้างความมั่นใจในเรื่องความโปร่งใสในการพิจารณา

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอขอบคุณไปยังท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (คุณอนุทิน ชาญวีรกูล) รวมทั้งรัฐมนตรี (คุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน) และรัฐมนตรีช่วย (คุณมนัญญา ไทยเศรษฐ์) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ซึ่งได้แสดงจุดยืนชัดเจน ให้ยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีดังกล่าว และร่วมรณรงค์ผลักดันจนทำให้มีการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย จนนำมาซึ่งการลงมติดังกล่าวในที่สุด

“องค์กรฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การมีมติยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งความร่วมมือกันในการจัดการปัญหาการใช้สารพิษในการเกษตรอย่างเหมาะสม ยั่งยืน และเป็นจุดเริ่มต้นแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดต่อทั้งชีวิตของ’เกษตรกรผู้ใช้ ระบบนิเวศทางธรรมชาติและชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง โดยทางองค์กรฯและเครือข่าย พร้อมจะทำหน้าที่ในการสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนของสังคมได้ปฎิบัติงานอย่างซื่อตรงต่อหน้าที่และความรับผิดชอบ เพื่อยังประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชนคนไทยในทุกระดับ”

“บิ๊กตู่”หารือทวิภาคีกับนายกฯญี่ปุ่นพัฒนาคนรับ EEC

People Unity : “บิ๊กตู่”หารือทวิภาคีกับ”ชินโซ อาเบะ”นายกฯญี่ปุ่น พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ส่งเสริมการลงทุน ยกระดับอุตสาหกรรมเป้าหมายใน EEC รวมถึงเมืองอัจฉริยะ

เมื่อวันที่ 23 ต.ค.2562 เวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พบหารือทวิภาคีกับนายชินโซ อาเบะ (H.E. Mr. Shinzo Abe) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในห้วงการเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญ่ีปุ่น ณ ทำเนียบรับรองของรัฐบาลญี่ปุ่น (State Guesthouse) สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวในนามของรัฐบาลและประชาชนไทยแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสพระราชพิธี บรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญ่ีปุ่น โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมรัฐบาลญี่ปุ่นที่จัด พระราชพิธีได้อย่างสมพระเกียรติ ปีนี้ถือเป็นปีมหามงคลของทั้งไทยและญี่ปุ่น โดยไทยได้จัดพระราชพิธี พระบรมราชาภิเษกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความเชื่อมั่นว่า ภายใต้การนำและกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรีอาเบะ และการบริหารจัดการภัยพิบัติที่เป็นเลิศของรัฐบาลญี่ปุ่น จะทำให้ญี่ปุ่นจะสามารถฟื้นตัวจากเหตุการณ์ไต้ฝุ่นฮากิบิสได้อย่างรวดเร็ว

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่มาร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของของสมเด็จพระจักรพรรดิ แห่งญี่ปุ่น และหวังว่าจะพบกันในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 (ASEAN Summit) ในต้นเดือน พฤศจิกายนนี้

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมมือเพื่อผลักดันประเด็นความร่วมมือ ทั้งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การส่งเสริม การลงทุน และการยกระดับอุตสาหกรรมเป้าหมายใน EEC การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมการค้าเสรี และความร่วมมือในการพัฒนาประเทศที่สาม รวมทั้งเห็นพ้องจะเร่งผลักดันการเจรจา RCEP ให้สำเร็จ รวมทั้งขยายผลความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น และการเข้าร่วม TPP

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความพร้อมของไทย ในการจัดการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือ ลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครังที่ 11 ในฐานะประธานร่วมกับญี่ปุ่น ในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ที่กรุงเทพฯ โดย ไทยมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับญี่ปุ่นในการขับเคลื่อนการดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์กรุงโตเกียว ค.ศ. 2018 และข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030

จากนั้นในเวลา 18.00 น. นายกรัฐมนตรีและภริยาเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรี ญี่ปุ่น และภริยา เป็นเจ้าภาพเลี้ยง เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จ พระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ณ โรงแรมนิวโอตานิ โตเกียว

ในเวลา 00.20 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2562 นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมด้วยคณะ จะเดินทางออกจากท่าอากาศยานฮาเนดะ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น โดยจะเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการในเวลา 04.50 น. ในวันเดียวกัน

“เพื่อไทย”ยังอารมณ์ค้าง! อัดรัฐทำงบฯไม่โปร่งใส

People Unity : “เพื่อไทย”ยังอารมณ์ค้าง! อัดรัฐทำงบฯไม่โปร่งใส แนะประชาชนจับตารัฐใช้เงินนอกงบประมาณ

วันที่ 23 ตุลาคม 2562 นายสงวน พงษ์มณี สส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมการอภิปรายงบประมาณปี 2563 ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีหลายประเด็นที่สังคมยังคงสงสัยในการจัดทำงบประมาณของรัฐบาล ผลโดยรวมของการอภิปรายพบว่ารัฐบาลตอบไม่ตรงคำถามและในหลายประเด็นเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามหรืออธิบายถึงการใช้จ่ายงบประมาณว่าจะก่อให้เกิดความคุ้มค่าได้อย่างไร

การใช้เงินงบประมาณกว่า 3.2 ล้านล้านบาทที่เป็นภาษีของประชาชน เป็นเพียงส่วนเดียวที่รัฐเปิดเผยตัวเลข ยังคงมีเงินที่รัฐเก็บไว้ ที่เรียกว่าเป็นเงินนอกงบประมาณที่อยู่ในความรับผิดชอบของส่วนราชการ นอกจากเงินงบประมาณรายจ่ายเงินรายได้แผ่นดิน เงินเหล่านี้ คือ เงินเบิกเกินส่งคืน และเงินเหลือจ่ายปีเก่าส่งคืน แต่ไม่มีการส่งคืนให้กระทรวงคลังยังคงค้างอยู่ที่หน่วยราชการ ที่ผ่านมารัฐไม่มีการแจงตัวเลขว่าเงินนอกงบประมาณมีจำนวนเท่าไหร่นำไปใช้ในโครงการอะไรบ้าง

นายสงวน กล่าวด้วยว่า การจัดทำงบประมาณของรัฐบาลขาดความโปร่งใส และไม่เปิดเผยต่อประชาชน อยากให้ประชาชน จับตาดูการใช้เงินนอกงบประมาณที่รัฐจัดเก็บไว้ เพราะเงินทั้งหมดนี้เป็นภาษีของประชาชน ดังนั้นประชาชนควรจับตาดูการใช้จ่ายงบประมาณว่ารัฐใช้เงินอย่างไร เกิดประโยชน์กับประชาชนหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เงินนอกงบประมาณมีจำนวนเท่าไหร่ ประชาชนไม่เคยทราบ แม้กฎหมายกำหนดให้หน่วยงานรัฐต้องมีการแจ้งว่าแต่ละหน่วยงานมีเงินเหลือเท่าไหร่ ถึงจะต้องจัดเงินงบประมาณไปเพิ่ม การจัดทำงบประมาณต้องนำเงินส่วนนี้มาร่วมด้วยหากนำเงินคงเหลืออยู่การจัดทำงบประมาณก็อาจจะไม่ถึง 3.2 ล้านล้านบาท ดังนั้นการจัดทำงบประมาณครั้งนี้จึงขาดความโปร่งใสและไร้การตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐ

โฆษกพรรคเพื่อชาติค้านติด “GPS”รถส่วนบุคคล

People Unity : โฆษกพรรคเพื่อชาติค้านติด “GPS”รถส่วนบุคคล ชี้รัฐบาลไม่มีความเคารพประชาชนผู้จ่ายภาษีเงินเดือน ต้องการเพียงควบคุมพร้อมเพิ่มภาระและส่อแสวงหาผลประโยชน์

เมื่อวันที่ 23 ต.ค.2562 นางสาวเกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติชี้ว่า รัฐบาลนี้เสนอโครงการใดๆ ไม่มีความเคารพประชาชนผู้จ่ายภาษีเงินเดือนให้ ต้องการเพียงอยากรู้ความเคลื่อนไหวเพื่อควบคุมประชาชน โดยไม่คำนึงถึงว่าจะเพิ่มภาระให้ประชาชนหรือไม่ แต่ละโครงการที่เสนอเพื่อโยนหินถามทาง มีพื้นฐานวิธีคิดมาจากการสอดส่องความคลื่อนไหวของประชาชนเพื่อรักษาอำนาจรัฐบาล และอาจมีแนวโน้มที่จะแสวงหาผลประโยชน์เข้าผู้เสนอและผู้ดำเนินการโครงการ โดยเบียดบังประชาชนเป็นการฉ้อราษฎร์แฝงรูปแบบหนึ่ง โครงการล่าสุดในการเสนอจะบังคับติด GPS รถส่วนบุคคลเพื่อลดอุบัติเหตุ ซึ่งรถตู้สาธารณะบังคับติดทุกคันอยู่แล้วอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในรถตู้ก็ยังมีอยู่ ตนคิดว่าเบื้องลึกการนำเสนอไม่น่าจะใช่วัตถุประสงค์การลดอุบัติเหตุ การลดอุบัติเหตุเป็นวัตถุประสงค์รองที่ถูกนำมาเป็นวัตถุประสงค์สร้างภาพ วัตถุประสงค์หลักน่าจะมาจากรายได้ผูกพันที่รถทุกคันต้องจ่ายเดือนละ 300 บาท ซึ่งเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าผู้ที่รับสัมปทานจากรัฐบาลจะมีค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำร้อยละ 10 ให้ผู้ดำเนินการโครงการ กรณีนี้รถหนึ่งคัน หนึ่งเดือนจะมีประโยชน์ถึงผู้ดำเนินการโครงการ 30 บาทต่อคันต่อเดือน โดยปริมาณรถที่จดทะเบียนตามกฏหมายสะสมถึงสิ้นปี 2561 มีจำนวน ประมาณ 30 ล้านคัน ในทุกเดือนจะมีประโยชน์ถึงผู้ดำเนินการโครงการคร่าวๆ 900 ล้านบาท อีกทั้งการติดตั้งระบบครั้งแรก ผู้ดำเนินโครงการก็จะได้รับผลประโยชน์จากรถคันละ 300 บาท ประมาณการคร่าวๆ ก็มีรายได้ 9,000 ล้านบาท และยังมีประโยชน์แฝงเพื่อรักษาอำนาจรัฐบาลที่คอยติดตามผู้ที่มีความคิดเห็นต่างซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชนอีกด้วย

“อยากฝากถึงคณะรัฐบาลรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีช่วยคิดถึงประชาชนให้มากๆ ก่อนที่จะเสนอโครงการอะไรหรือทวงบุญคุณจากประชาชน เพราะตอนนี้ประชาชนอยู่ในยุคค่าใช้จ่ายสูงรายได้ต่ำ ชักหน้าไม่ถึงหลังอย่าคิดเพิ่มหรือผลักภาระให้ประชาชน ในขณะที่ชอบอ้างว่าอาสามาทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน แต่กลับเสนอโครงการเบียดบังประชาชนแบบฉ้อราษฎร์แฝง อีกทั้งละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชนออกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่การลงทะเบียนไวไฟร้านกาแฟ มายังโครงการบังคับติด GPS รถยนต์ มีแต่เพิ่มภาระประชาชนและทำให้เศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้นอีก” โฆษกพรรคเพื่อชาติกล่าว

Verified by ExactMetrics