วันที่ 8 กันยายน 2024

นายกฯเชื่อมั่นผลงานจะสำเร็จ บางผลงานสำเร็จแล้ว ไม่ยาวนานเท่าสร้างกรุงโรม

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 21 พฤษภาคม 2567 นายกตอบคำถามเกี่ยวกับการเมือง เชื่อมั่นผลงานจะสำเร็จ และมีบางผลงานสำเร็จแล้วไม่ยาวนานเท่ากับการสร้างกรุงโรม

วันนี้ (21 พฤษภาคม 2567) เวลา 11.20 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโรม ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 5 ชั่วโมง) ณ โรงแรม Six Senses นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามเกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสุภาษิต Rome wasn’t built in one day แต่เชื่อว่าผลงานจะไม่ยาวนานแบบการสร้างกรุงโรม หลาย ๆ เรื่องที่นายกรัฐมนตรีได้ไปติดต่อ พูดคุยมา ก็อยากให้สำเร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ หลาย ๆ เรื่องก็ทำต่อมาจากรัฐบาลที่แล้ว นำมาสานต่อ และทำเพิ่ม ซึ่งหลาย ๆ เรื่องก็สามารถทำได้ทันที แต่บางเรื่องก็ต้องมีการรอบ้าง เป็นธรรมดา การจะลงทุนเป็นจำนวนมาก ต้องให้ความสำคัญในเรื่องความรอบคอบ ดูหลาย ๆ มิติ นายกรัฐมนตรีมีการติดตาม ผลักดันเต็มที่ ถ้าตรงไหนทำได้ทำก่อน แต่เรื่องลงทุนเป็นหมื่นล้านก็อาจต้องรอก่อน ตอนนี้ก็เริ่มเห็นบ้างแล้ว เช่น Microsoft ประกาศว่าจะลงทุน ต่อไปก็จะบอกว่าลงทุนเท่าไร AWS ก็เริ่มลงทุนแล้ว หลาย ๆ บริษัทก็จะมีการลงทุนกันอย่างสูงต่อไป ยืนยันได้ทำทุกอย่างครบแล้วตามที่ตั้งใจไว้ เรื่องของผล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีความทะเยอทะยาน อยากได้เยอะเช่น อยากให้เขามาสร้างโรงงานผลิต เขาก็ต้องดูจำนวนก่อน หรือเฮลิคอปเตอร์ของบริษัท Leonardo ปัจจุบันมี 30 เครื่อง ถ้าถึงจุด ๆ หนึ่ง เขาถึงจะมาสร้าง Regional Training Center ได้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีก็เสนอให้มาสร้าง Regional Office ก่อน

สำหรับประเด็นนายพิชิต ชื่นบาน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องเศรษฐกิจการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ ในฐานะนายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบฝ่ายบริหาร ต้องน้อมรับคำติชม กระบวนการของฝ่ายตุลาการหรือฝ่ายนิติบัญญัติที่ตรวจสอบ สำหรับนายพิชิต ชื่นบาน เพิ่งยื่นลาออกเมื่อ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งคุณพิชิตเป็นผู้ที่เห็นแก่บ้านเมืองเป็นหลัก อยากให้คณะรัฐมนตรีเดินไปข้างหน้า เพื่อแก้ปัญหาบ้านเมือง เมื่อวานสภาพัฒน์เพิ่งแถลงตัวเลข GDP 1.5 ซึ่งมีการพูดคุยกับเลขาธิการสภาพัฒน์ ซึ่งท่านบอกว่าภาคบริการ หรือการท่องเที่ยว ที่รัฐบาลทำมาตลอดมีการเติบโต double-digit ถ้าไม่มีภาคบริการมาช่วย เราจะตกไปอยู่ใน technical recession ซึ่งหลาย ๆ เรื่องเราต้องเดินหน้าต่อไป เข้าใจว่าคุณพิชิต อยากให้รัฐบาลเดินหน้าได้โดยไม่ต้องเป็นห่วงเป็นใย ซึ่งขอขอบคุณคุณพิชิตใน spirit ที่แสดงออกมา เดี๋ยวจะโทรไปให้กำลังใจท่าน และขอคุยกับท่านก่อน

สำหรับประเด็นกรณีครบกำหนดเวลา 60 วันที่โยกย้าย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ซึ่งนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ได้ทำหนังสือแจ้งขอขยายเวลาเพิ่มเติมมา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คงต้องดำเนินการต่อไป เพื่อให้การพิจารณารอบคอบ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายด้วย อยากให้พิจารณาสอบสวน ไตร่ตรองให้ถูกต้อง หากตัดสินใจอะไรไปแล้ว เกรงว่าจะไม่ยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย

Advertisement

“พล.อ.ประวิตร” ทุ่ม 100 ล้านเร่งแก้น้ำเค็มรุกบางปะกง

People Unity News : 1 กันยายน 2565 “พล.อ.ประวิตร” ยันน้ำไม่ท่วมเหมือนปี 54 ย้ำมีคณะกรรมการดูแลใกล้ชิด ไม่แล้ง 3 ปีแล้ว เตรียมทุ่ม 100 ล้านแก้น้ำเค็มรุกบางปะกง ระบุ ขรก.ต้องตอบสนอง ปชช.

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ลงพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำบางปะกง การเพิ่มปริมาณน้ำตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี โดยประชุมและมอบนโยบายให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมรับฟังการบริหารจัดการน้ำ ภาพรวมและในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา การบริหารจัดการน้ำพื้นที่ฝั่งขวาแม่น้ำบางปะกง รวมถึงสถานการณ์น้ำต้นทุนเพื่อการผลิตน้ำประปา เพื่อการอุปโภคบริโภคของพื้นที่

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สัปดาห์หน้ารัฐจะอนุมัติงบ 100 ล้านบาทสร้างประตูน้ำแก้ปัญหาน้ำเค็มลุกลาม ซึ่งขณะนี้จะรอระบบนิเวศอย่างเดียวไม่ได้ เพราะน้ำเค็มรุกไปถึง อ. บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี หากไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำได้ประชาชนก็จะด่ารัฐบาล ตอนนี้ประชาชนกำลังห่วงเรื่องฝน รับรองว่าจะไม่เกิดน้ำท่วมอย่างปี 54 แน่นอน เพราะที่ผ่านมามีคณะกรรมการทั้งระดับจังหวัดและลุ่มน้ำดูแล จนไม่เกิดภัยแล้งมา 3 ปี และร่วมมือกันการกระจายน้ำตลอดเวลาจากฝนตกทางเหนือ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วม นอกจากนี้การประปาต้องมีแหล่งน้ำสำรอง จะรอแต่น้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติลุ่มน้ำต่างๆอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเก็บน้ำดิบ มีแหล่งน้ำสำรองตลอดเวลา

“การแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ถ้ามีน้ำสมบูรณ์ทุกฤดูจะทำให้การปลูกพืชต่างๆได้ พัฒนาการทั้งด้านชีวิตความเป็นอยู่จะเกิดขึ้น ขอฝากข้าราชการและประชาชนต้องทำงานร่วมกัน โดยข้าราชการจะต้องเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของประชาชน เพราะเงินเดือนมาจากภาษีของประชาชนจึงต้องจำไว้ว่าจะต้องประสานกับประชาชนเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการทำงาน โดยจะต้องบูรณาการสร้างความรับรู้ให้ประชาชนเข้าร่วมส่วนร่วมในการแก้ปัญหาน้ำด้วย ขณะที่ประชาชนมีเรื่องเดือดร้อนอะไร ต้องบอกข้าราชการ และข้าราชการก็จะต้องสนองความต้องการของประชาชน” พล.อ.ประวิตร กล่าว

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์ เข้าทำเนียบฯ เพจ PMOC โพสต์ “My Hero”

People Unity News : 12 กรกฎาคม 2566 “พล.อ.ประยุทธ์” เข้าทำเนียบฯ ทำงานตามปกติ หลังประกาศวางมือทางการเมือง ด้าน ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพ “บิ๊กตู่” ขึ้นข้อความ “My Hero”

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.22 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ตามปกติ หลังเมื่อวานนี้(11 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประกาศวางมือทางการเมือง และลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นการประกาศผ่านทางเพจเฟสบุ๊กพรรครวมไทยสร้างชาติ

ทั้งนี้ภายหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศวางมือทางการเมือง เพจเฟซบุ๊กศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี หรือ PMOC ซึ่งเป็น เพจการทำงานด้านประชาสัมพันธ์ของนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความ “ขอบพระคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรีของคนไทยทั้งประเทศ 11 ก.ค.2566” พร้อมโพสต์รูปภาพ พล.อ.ประยุทธ์ เดินขึ้นบันไดบนตึกไทยคู่ฟ้า ชูมือสัญญลักษณ์ไอเลิฟยู และระบุข้อความ “มายฮีโรบนภาพ”

Advertisement

 

“ประยุทธ์” ให้กำลังใจ “ประวิตร” ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ

People Unity News : 26 สิงหาคม 65 โฆษกรัฐบาล เผย “พล.อ.ประยุทธ์” ให้กำลังใจ “พล.อ.ประวิตร” ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ ขอเชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาล ยืนยันมีเสถียรภาพ มุ่งมั่นทำงานเข้มแข็ง เพื่อประโยชน์ประเทศชาติ ประชาชน

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ยืนยันว่าในช่วงเวลานี้ รัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐทุกภาคส่วนยังคงปฏิบัติหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนตามปกติ โดยในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เข้าทำงานที่กระทรวงกลาโหม ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวให้กำลังใจการทำงานกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีด้วย ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะทำหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อประชาชนและประเทศไทยต่อไป

“ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐในขณะนี้ ยืนยันว่ารัฐมนตรีทุกคนและพรรคร่วมรัฐบาลจะร่วมมือกันทำงานอย่างเต็มที่และมีเสถียรภาพ มุ่งมั่นตั้งใจทำงาน ดูแลประชาชนทุกด้านให้ดีที่สุด โดยเฉพาะเรื่องสำคัญเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจที่ต้องรีบดำเนินการขณะนี้ ทั้งการบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน การควบคุมราคาพลังงาน ควบคู่กับการดูแลประชาชนด้านสาธารณสุข รัฐบาลจะยืนหยัดทำงานอย่างเข้มแข็งต่อไป เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

Advertisement

 

นายกฯ เผยยังไม่คิดวางทายาทการเมือง

People Unity News : 4 ตุลาคม 2565 นายกฯ เผยยังไม่คิดวางทายาททางการเมือง ปัดตอบกระแสข่าว “พล.ต.อ.จักรทิพย์” เป็นทายาท 3 ป. บอกเป็นเรื่องของ พปชร.หาแคนดิเดตนายกฯใหม่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงแนวทางการวางทายาททางการเมืองในอนาคตว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คิด

เมื่อถามย้ำว่า จะวางแนวทางการเมืองหลังจากนี้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า ตนยังไม่ได้คิด ตอนนี้ทำเรื่องน้ำท่วมก่อน

ส่วนกระแสข่าวที่มีชื่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะมาเป็นทายาท 3 ป. หลังครบกำหนดเว้นวรรคการเมือง 2 ปี หลังพ้นตำแหน่ง ส.ว.นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว

ส่วนกระแสข่าวที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ

Advertisement

“สุดารัตน์” วางมาตรการเชิงรุก “แก้หนี้ประเทศ ด้วยการสร้างรายได้”

People Unity News : 1 มีนาคม 2566 “สุดารัตน์” ชี้ไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายโลก 5 เรื่องใหญ่ที่ผู้นำประเทศต้องเข้าใจ และวางมาตรการเชิงรุก ”พลิกวิกฤติโลกให้เป็นโอกาสหาเงินเข้าประเทศ” ระบุไทยสร้างไทยจะมุ่ง “แก้หนี้ประเทศ ด้วยการสร้างรายได้” ให้คนไทย

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ประเทศไทยต้องเผชิญและรับมือกับ 5 ความท้าทายของโลก หากรับมือได้ทันก็รอด แต่หากรับมือไม่ทันก็ร่วง ถ้าผู้นำมีวิสัยทัศน์ วางยุทธศาสตร์ประเทศให้ดี ก็จะสามารถพลิกวิกฤติโลกให้เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทยได้ และสำหรับ 5 วิกฤติและความท้าทายที่กล่าวถึงคือ

1.ความท้าทายของโรคระบาด ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ (Emerging Diseases) อย่างโควิด-19 ที่เป็นปัญหากระทบทั่วโลก ทั้งด้านชีวิต สุขภาพ และเศรษฐกิจ ต่อเนื่องเข้าปีที่ 3 มีการล็อกดาวน์ ปิดประเทศ กระทบซัพพลายเชน และรายได้การท่องเที่ยวทั้งโลก ดังนั้น ในวิกฤติโรคระบาด ไทยเราสามารถพลิกวิกฤตินี้ให้เป็นโอกาสได้ เพราะเรามีระบบสาธารณสุขที่ดีมาก เราต้องทำให้ไทยเป็นหลุมหลบภัยจากโรคระบาดให้คนทั้งโลก มา Work from Thailand เราต้องเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาล และการส่งเสริมสุขภาพครบวงจรของโลก โดยเฉพาะการชูสมุนไพรไทย ที่คนทั่วโลกให้การยอมรับ

2.ความท้าทายการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ (Climate Change) ที่จะส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลกใบนี้ ทุกประเทศจึงให้ความสำคัญกับการรับมือกับสภาวะโลกร้อน ไทยต้องปรับตัวให้เกิดการผลิตพลังงานทดแทนอย่างเร่งด่วน สามารถทำได้ไม่ยากเพียงแต่รัฐต้องเลิกเอื้อประโยชน์ให้โรงงานไฟฟ้ารายใหญ่ แล้วหันมาสนับสนุนให้ภาคครัวเรือน, เอกชน และท้องถิ่น สามารถผลิตไฟฟ้าของตนเองได้อย่างแท้จริง รวมทั้งการนำของเหลือจากภาคเกษตรมาเปลี่ยนเป็นพลังงาน และ Bio Plastic ได้อย่างมากมาย ลดการเผาที่ทำให้โลกร้อนและเกิด PM 2.5 ทั้งหมดนี้ต้องทำอย่างเร่งด่วนเพราะทั้งสหรัฐและยุโรป ได้ผ่านกฎหมายที่จะเก็บภาษีเพิ่มจากผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโรงงานที่ยังปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภายใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลกระทบในการส่งออกของธุรกิจ SMEs อย่างมหาศาล

3.ความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนประชากรโลก (Population Ageing) ซึ่งไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรกของโลก ที่มีสัดส่วนประชากรผู้สูงวัยมากที่สุด อีกทั้งคนไทย “แก่ก่อนรวย” และสุขภาพไม่ดี ดังนั้น นอกจากคนวัยทำงานจะน้อยลง ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย ปีละเป็นแสนล้าน เราจึงต้องเร่งแก้ไขปัญหานี้ อย่างโครงการ ”บำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท” ที่ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการยังชีพ ซึ่งต้องเข้าโปรแกรมการสร้างสุขภาพให้แข็งแรง พร้อมทั้งการให้ความรู้ด้านอาชีพและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพแข็งแรงกลับไปทำงานได้ และเงินของผู้สูงอายุเดือนละ 3,000 บาท จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้ฟื้นตัว ซึ่งจะยกระดับให้เศรษฐกิจทั้งประเทศดีขึ้นอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ไทยจะสามารถเป็นศูนย์กลางธุรกิจสุขภาพผู้สูงอายุ “Thai Hospitality” และทำเป็นที่พำนักระยะยาว สำหรับผู้สูงอายุจากทั่วโลกได้อีกด้วย

4.ความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่มีความรวดเร็ว (Technology Destruction) ซึ่งเป็นทั้งวิกฤติและโอกาสของโลกยุคใหม่ เพราะปัจจุบันโลกเรากำลังอยู่ในยุคปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI Big Data, Internet of Things, Robots และ Quantum Computing ได้เข้ามามีบทบาทต่อภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งไทยต้องเร่งส่งเสริมปรับหลักสูตรการศึกษา ให้เด็กไทยได้เข้าถึงโอกาสเหล่านี้ พร้อมทั้งต้องแก้กฎหมายให้ทันสมัย ให้รองรับการสร้างธุรกิจจากเทคโนโลยีเหล่านี้ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ Startup ได้ระเบิดศักยภาพของตนเองได้เต็มที่

5.ความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงของภูมิศาสตร์โลก (Geopolitics) ที่ส่งผลกระทบทั่วโลกในหลายๆ ด้าน ทั้งในด้านดุลอำนาจของ 2 ขั้วอำนาจระหว่างชาติตะวันตก กับตะวันออก, สงครามรัสเซีย-ยูเครน, สงครามการค้า ซึ่งเราต้องใช้โอกาสนี้ที่เราเป็นประเทศที่เป็นมิตรที่แน่นแฟ้นกับทั้งจีนและสหรัฐอเมริกา รวมถึงรัสเซีย วางตำแหน่ง ภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศให้ถูก และควรจะยืนอยู่กลางความถูกต้อง ค้าขายกับประเทศใดก็ได้ ใครอยากจะมาลงทุนก็ยินดีรับหมด เพื่อดึงดูดการย้ายฐานการผลิต และใช้ทำเลที่ตั้งที่เราอยู่ใจกลางภูมิภาค มาเป็นโอกาสในการทำให้ไทยศูนย์กลางการผลิตอุตสาหกรรมใหม่ที่ต้องย้ายฐานการผลิต อย่างรถ EV และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

Advertisement

นายกฯ ขอโฟกัสการทำงาน

People Unity News : 19 ตุลาคม 65 โฆษกรัฐบาล แจงนายกฯ งดให้สัมภาษณ์สื่อฯ ไม่ใช่ลดบทบาท แต่ขอโฟกัสการทำงาน ไม่อยากให้มีเรื่องอื่นแทรก ยืนยันนายกฯ ยังไม่ปรับ ครม.ช่วงนี้ ชี้ เป็นเรื่องอนาคต

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยเฉพาะประเด็นทางการเมือง ถือเป็นการปรับบาทบาทใหม่หรือไม่ ว่า นายกรัฐมนตรีอยากมุ่งเน้นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนเป็นหลัก ทั้งสถานการณ์น้ำท่วมที่ประชาชนในหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งที่ผ่านมาได้ใช้วิธีกำชับสั่งการหน่วยงานต่างๆ และทีมโฆษกรัฐบาลเป็นผู้ที่ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ ส่วนเรื่องการเมืองก็อยากให้ทุกอย่างมีเสถียรภาพ ทั้งเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี การบริหารจัดการพรรค โดยอยากให้ทางพรรคได้ออกมาชี้แจงในประเด็นนี้ พร้อมระบุว่า สำหรับการปรับคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรียังไม่ได้พิจารณาในช่วงนี้ แต่ในอนาคตก็ค่อยว่ากัน ขณะนี้ นายกรัฐมนตรีขอช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วม หรือแม้กระทั่งเกิดสถานการณ์เหตุกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู สร้างความเสียใจไปทั่วโลก นายกรัฐมนตรีต้องการฟื้นฟูและเยียวยาญาติที่ได้รับความสูญเสียและได้รับผลกระทบให้ดีที่สุด จึงไม่อยากให้มีเรื่องใดเข้ามาแทรก โดยยืนยันไม่ใช่เป็นการลดบทบาทในการให้สัมภาษณ์ แต่เป็นการโฟกัสการทำงานที่อยากให้ประชาชนได้เข้าใจ และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้มากกว่า

นายอนุชา ยืนยัน นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตั้งธงที่ไม่ให้สัมภาษณ์สื่อแต่อย่างใด หลังเข้ามาปฎิบัติหน้าที่ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ แต่หลังกลับมาทำงานมีประเด็นต่างๆ ที่ต้องแก้ไข

“ถือว่าเป็นเรื่องของจังหวะมากกว่า ไม่ใช่เลี่ยงที่จะตอบปัญหาทางการเมือง โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นกับพรรคพลังประชารัฐในขณะนี้ และเห็นว่าเป็นช่วงสมัยปิดประชุมสภาฯด้วย ก็อาจจะทำให้เรื่องของประเด็นที่เกี่ยวข้องกฎหมายเงียบลงไป” โฆษกรัฐบาล กล่าว

ส่วนนายกฯ จะวางมือทางการเมืองหรือไม่ นายอนุชา หัวเราะและไม่ตอบคำถามดังกล่าว

Advertisement

ขยายเวลาแรงงานต่างด้าวทำงานถึง 30 ก.ย.

People Unity News : 8 สิงหาคม 2566 นายกฯ เผย ครม.ตามความคืบหน้างานด้านต่างๆ พร้อมเห็นชอบขยายเวลาแรงงานต่างด้าวทำงานต่อถึง 30 ก.ย. ป้องกันผู้ประกอบการขาดแรงงาน บอกเรื่องดีๆ มีอีกมาก ขอให้ ปชช.เข้าใจ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า  ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีมี 5 กลุ่มงานนำเสนอผลงานตัวเอง ซึ่งมีความก้าวหน้า ทั้งในส่วนของกองทุนหมู่บ้าน ด้านเอไอ ด้านสาธารณสุข ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าที่ได้นำนโยบายของรัฐบาลไปดำเนินการและประสบผลสำเร็จนระยะหนึ่งแล้ว ขณะเดียวกันขอชื่นชมเด็กและเยาวชนของไทยที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันประกวดร้องเพลง นอกจากนั้นยังมีซอฟพาวเวอร์ของไทย ทั้งการผลิตแปรรูปสินค้า เสื้อผ้าทั้งกระเป๋าเสื้อผ้าเหล่านี้ ล้วนเป็นซอปพาวเวอร์ที่ไทยได้ส่งต่อ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม.ติดตามความคืบหน้าการจัดสรรที่ดินของ คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.) ซึ่งผมย้ำให้ดูแลที่ทำกินของประชาชนภายใต้กฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่าที่ดินทำกิน ซึ่งสามารถส่งต่อให้ลูกหลานได้ ทุกอย่างต้องยึดหลักการ ถ้าไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหาในอนาคต เรื่องดี ๆ ในประเทศมีอีกมากมาย  ขอให้ประชาชนเข้าใจ ขณะเดียวกันที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาขยายมาตรการแรงงานต่างด้าวให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ถึง 30 กันยายน จากเดิมที่จะสิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ เพื่อให้แรงงานต่างด้าวทำงานได้ต่อ ไม่เช่นนั้นกลุ่มผู้ประกอบการจะขาดแคลนแรงงาน

ส่วนความคืบหน้าเหมืองทองอัครา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้จบไปนานแล้ว ซึ่งเรื่องที่จบไปแล้วไม่อยากให้นำขึ้นมาใหม่ โดยทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตทองคำอย่างครบวงจร และมีคำชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามอนุญาโตตุลาการ ขอให้ทุกคนเข้าใจด้วย

Advertisement

โฆษกรัฐบาล เผยฝรั่งเศสเตือนเพิ่มความระมัดระวังการเดินทาง-ท่องเที่ยว

People Unity News : 16 ตุลาคม 2566 โฆษกรัฐบาล เผยทางการฝรั่งเศสประกาศเตือนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง-ท่องเที่ยว ภายหลังยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์การก่อการร้ายเป็นระดับสูงสุด

นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชาสัมพันธ์ข่าวสารจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส ประกาศเตือนคนไทยในฝรั่งเศสให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง-ท่องเที่ยว ภายหลังทางการฝรั่งเศสประกาศยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์การก่อการร้ายเป็นระดับสูงสุด

จากกรณีเกิดเหตุร้ายเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งทางการฝรั่งเศสคาดว่าอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง อีกทั้งต่อมาในวันที่ 14 ตุลาคม 2566 ทางการฝรั่งเศสได้มีการอพยพผู้คนโดยด่วนออกจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และพระราชวังแวร์ซาย รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอื่นๆ เนื่องจากทางการฝรั่งเศสได้รับแจ้งเตือนว่าอาจมีการวางระเบิดในพื้นที่ดังกล่าว

ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ จึงได้ประกาศเตือนคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวไทยในฝรั่งเศสให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมชนและสถานที่ท่องเที่ยว ตรวจสอบเส้นทางการเดินทาง และการเปิดทำการของสถานที่ต่างๆ รวมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการฝรั่งเศสอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากมีเหตุด่วนและฉุกเฉิน ต้องการความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตฯ กรุณาติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน +33 6 03 59 97 05 และ +33 6 46 71 96 94

“รัฐบาลห่วงใยสวัสดิภาพและความปลอดภัยของประชาชนไทยทุกคนด้วย ขอให้ติดตามข่าวสารจากช่องทางหลักของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนการเดินทาง หรือก่อนวางแผนการเดินทางทุกครั้ง” นายสัตวแพทย์ชัย กล่าว

Advertisement

โฆษกรัฐบาล ขอบคุณประชาชนเชื่อมั่นโครงการ Digital Wallet

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 7 สิงหาคม 2567 โฆษกรัฐบาล ขอบคุณความเชื่อมั่นประชาชนจากผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่กว่า 80% จะลงทะเบียนรับเงิน Digital Wallet และที่ประชุมวุฒิสภาผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย 1.22 แสนล้านบาท ย้ำความเชื่อมั่นนี้ เป็นกำลังใจให้รัฐบาลยืนหยัดต่อ

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า 6 สิงหาคม 2567 ที่ประชุมวุฒิสภา ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2567 พ.ศ. … วงเงิน 1.22 แสนล้านบาทเพื่อใช้ในโครงการเติมเงิน Digital Wallet ซึ่งรัฐบาลยืนยันเสมอมาที่จะใช้งบประมาณนี้ตามวัตถุประสงค์โปร่งใสตรวจสอบได้เป็นไปตามเป้าหมายเพื่อประชาชน และการกระตุ้นพัฒนาเศรษฐกิจ

ในโอกาสนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุถึง ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งได้สอบถาม เกี่ยวกับการใช้เงิน Digital Wallet ซึ่งพบว่าประชาชนที่ผ่านเงื่อนไขรับ Digital Wallet ส่วนใหญ่ลงทะเบียน มีจำนวนถึง 82.6% ไม่ลงทะเบียน 17.4%

โดยประชาชนกลุ่มตัวอย่างมีลักษณะการใช้เงิน 10,000 บาท ภายในครั้งเดียวที่ 64.1% แบ่งใช้หลายครั้ง 14.7% ไม่แน่ใจ 21.2% และสำหรับประเภทของสินค้าที่จะใช้ ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น อาหาร เสื้อผ้า 32.7% สินค้าเพื่อการศึกษา 17.7% เครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) ของใช้ส่วนตัว 16.9% สินค้าวัตถุดิบเพื่อการเกษตร 11.5% ยารักษาโรค 8.4% ธูปเทียนและเครื่องสักการะ ชุดถวายสังฆทาน 6.5% สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน 6.2%

“โฆษกรัฐบาลเปิดเผยว่า ทั้งยอดการลงทะเบียน และความคิดเห็นของประชาชน ทำให้รัฐบาลมีกำลังใจที่จะยืนหยัดต่อสู้ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ Digital Wallet รัฐบาลรู้ดีว่าเงินเหล่านี้มีความหมายกับประชาชนที่เฝ้ารอ และเป็นไปตามความตั้งใจของรัฐบาลตั้งแต่ต้น ที่จะดำเนินนโยบายอย่างถูกต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นไปตามวินัยการเงินการคลัง ทั้งนี้ รัฐบาลขอบคุณทุกเสียงสนับสนุน และขอให้มั่นใจว่า จากยอดลงทะเบียนที่เกิดขึ้นรัฐบาลจะทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจเพื่อเป็นแรงกระตุกฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย“ นายชัย กล่าว

Advertisement

Verified by ExactMetrics