วันที่ 17 กันยายน 2024

“ลุงตู่” ระบาย “วันนี้ไม่ใช่ทำงาน 100% เเต่ทำงาน 200%”

People unity news online : 16 พฤษภาคม 2560 เวลา 13.30 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการทำงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า วันนี้ตนไม่ใช่ทำงาน 100 เปอร์เซนต์ เเต่ทำงานเต็ม 200 เปอร์เซนต์ เพราะต้องกำกับดูเเล ติดตามนโยบายทั้งหมด ตามรูปแบบของตน ขอถามคนที่จะเข้ามาทำงานในวันข้างหน้าว่าจะทำอย่างไร จะปรับสิ่งที่ผิดพลาดจากครั้งที่เเล้วอย่างไร

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “เอาคำถามที่จะถามว่าผมยังทำไม่เสร็จ ไม่มีผลงานบ้างล่ะ ไปถามเขาสิว่าที่ผ่านมาเขามีผลงานอะไร ผลงานนั้นถูกต้องเท่าเทียมจริงหรือเปล่า ทำไมยังเหลือให้ผมทำอีกเยอะเเยะ เเล้วมาบอกว่าทำไม่เสร็จ เเล้วที่ทำมา 30 ปี กี่สิบปีกันมากี่รัฐบาล ก็เลยต้องมียุทธศาสตร์ชาติไงล่ะ ต้องทำต่อไป 20-30 ปี นโยบายรัฐบาลที่ทำดีเเล้วก็ทำต่อ ผมไม่ได้ไปล้มทั้งหมด เเต่ต่อไปจะล้มหรือเปล่าไม่รู้ ทำให้มันดีขึ้น เเกะมันออกมา เเต่จะดีขึ้นทันใจไม่ได้ ต้องใช้การทำงาน การมีส่วนร่วม หลายอย่างต้องไปดู อะไรที่ไม่ก้าวหน้าก็บอกมา ผมจะไปตามให้ มีรัฐบาลไหนฟังเเบบนี้บ้าง”

ส่วนผลการดำเนินงานของรัฐบาลในช่วงครบรอบ 3 ปี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ส่วนตัวไม่พอใจเพราะทำงานให้เสร็จตามเวลาไม่ได้ แต่ได้ทำทุกอย่างให้ดีที่สุดตราบเท่าที่มีงบประมาณและเวลาให้ทำ ส่วนใครจะทำต่อก็เป็นเรื่องของวันข้างหน้า และต้องการให้ทุกอย่างต่อเนื่องในวันข้างหน้า ซึ่งหลายคนไม่เข้าใจ และไม่พอใจกล่าวหาว่ารัฐบาลจะสืบทอดอำนาจ แต่ผมจะสืบทอดปัญหาที่แก้ไขไม่เสร็จให้รัฐบาลชุดต่อไปทำงานแก้ไขปัญหาเพื่อประเทศชาติ

People unity news online : post 16 พฤษภาคม 2560 เวลา 22.43 น.

“สองนักศึกษาแม่โจ้” ยื่น “อนาคตใหม่” ปมถูกดำเนินคดีเหตุค้านเหมืองแร่ “อมก๋อย”

People Unity News :  “สองนักศึกษาแม่โจ้” ยื่นหนังสือ “อนาคตใหม่” ในงาน “อยู่ไม่เป็น” ร้องถึง กมธ.สิ่งแวดล้อม-กฎหมาย ขอความเป็นธรรม ปมถูกดำเนินคดีเหตุค้านเหมืองแร่ “อมก๋อย”

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2562 ที่ เจเจ มอลล์ จตุจักร สองนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เดินทางร่วมงานอยู่ไม่เป็น ที่พรรคอนาคตใหม่จัดขึ้น พร้อมยื่นหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรมถึงคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นประธาน และคณะกรรมาธิการกฎหมาย ยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ซึ่งมี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นประธาน ถึงกรณีผลกระทบจากการเตรียมเปิดเหมืองแร่ถ่านหินในพื้นที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีกลุ่มนักศึกษาร่วมลงพื้นที่เก็บข้อมูล ก่อนที่ต่อมาจะถูกแจ้งความดำเนินคดี โดยมี น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ และกรรมการบริหารพรรค ภาคเหนือ รับหนังสือ

นายวรพล โชติจิรเดชเดชากุล อายุ 22 ปี หนึ่งในนักศึกษาที่เดินทางมายื่นหนังสือกล่าวว่า ตนได้ทราบถึงความวิตกกังวลของกลุ่มชาติพันธุ์ และชาวบ้าน ในบริเวณพื้นที่บ้านกะเบอะดิน ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ถึงปัญหาการสร้างเหมืองแร่ถ่านหินในพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลต่อวิถีชีวิต กลุ่มชาติพันธุ์ และชาวบ้านในพื้นที่ ด้วยจิตสาธารณะในฐานะนักศึกษา ตนและเพื่อนจึงได้รวบรวมเงินที่มีอยู่อย่างจำกัด เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางลงไปในพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาและสำรวจข้อเท็จจริงต่างๆ ของชาวบ้านในพื้นที่ โดยมิได้มีเจตนามุ่งร้ายต่อบุคคลใด หรือบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่หลังจากที่ตนและเพื่อนไปรับฟังปัญหาจากชาวบ้าน เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านที่ไปพูดคุยได้แจ้งต่อว่า ตนและกลุ่มเพื่อนจะถูกฟ้องดำเนินคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาท จากบริษัทหนึ่ง ทำให้ตนและกลุ่มเพื่อนๆที่มีจิตใจสาธารณะ ต้องขึ้นไปให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สภ.อมก๋อย

“ผมและเพื่อนๆเป็นเพียงนักศึกษา การถูกดำเนินคดีและต้องไปให้ปากคำในพื้นที่ห่างไกล หรืออื่นๆที่ต้องใช้ระยะเวลาในชั้นกระบวนการยุติธรรม ส่งผลทั้งค่าใช้จ่าย เวลา ระยะทางทั้งทางตรงและทางอ้อมในการเรียน ผมและเพื่อนจึงได้เดินทางมาเพื่อร้องขอความเป็นธรรมในวันนี้” นายวรพล กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้คดีความของนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้กลุ่มนี้ อยู่ในชั้นของการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ ซึ่งจากสถานที่ให้ปากคำคือ สภ.อมก๋อย กับที่พักของนักศึกษาคือห้องพักบริเวณมหาวิทยาลัยแม่โจ้ห่างไกลกัน ทำให้การเดินทางไปให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีความลำบากเป็นอย่างมาก

โฆษกรัฐบาลยันเศรษฐกิจยังขยายตัวโรงงานขอปิดแค่ 1,391 แห่ง

People Unity News : โฆษกรัฐบาลยันเศรษฐกิจยังขยายตัว ลงทุนใหม่มูลค่าทะลุ 4.3 แสนล้าน กิจการเปิดเพิ่มมากกว่าปิด 2 เท่าตัว

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด โดยกระทรวงอุตสาหกรรมรายงานว่าตั้งแต่ 1 ม.ค.-12 พ.ย.ที่ผ่านมา มีการยื่นขอ “เปิดกิจการ” โรงงานใหม่ สูงถึง 2,889 โรงงาน มีการจ้างงานสูงถึง 84,033 คน และมีการจ้างงานเพิ่มจากการ “ขยายโรงงาน” อีกจำนวน 84,704 คน ขณะที่การยื่นขอ “ปิดกิจการ” โรงงาน จำนวน 1,391 โรงงาน มีการเลิกจ้างงานจำนวน 35,533 คน กล่าวคือมีโรงงานเปิดใหม่สูงขึ้นกว่าปิดกิจการกว่า 2 เท่าตัว และพบว่าในปีนี้มีเงินลงทุนเพิ่มสูงถึง 4.31แสนล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 36.6% สอดคล้องกับข้อมูลกระทรวงแรงงานที่รายงานว่ายังมีตำแหน่งงานว่างถึง 79,000 อัตรา

สำหรับการขอใบอนุญาตประกอบกิจการ หรือ ใบรง.4 ในช่วงเดือน ม.ค. – ก.ย. 62 จำนวน 3,184 โรงงาน มีการลงทุนสูงถึง 3.67 แสนล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการเปิดกิจการใหม่ 2,519 โรงงาน เพิ่มขึ้น 47.9% และการขยายกิจการ 665 โรงงาน เพิ่มขึ้น 32.51% สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจของไทยยังเติบโต ส่วนการเปิดโรงงานใหม่และขยายโรงงานในโครงการอีอีซี ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีการขอใบอนุญาตประกอบกิจการ รง.4 และขยายกิจการ 402 โรงงาน มีมูลค่าการลงทุน 8.35 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 4.29 หมื่นล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล ที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรกได้แก่ อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร อิเล็กทรอนิกส์ หุ่นยนต์และแขนกล ท่องเที่ยวสุขภาพ และยานยนต์ ตามลำดับ

ป.ป.ช.โอดหน่วยงานไม่ร่วมมือลงโทษวินัยหลังชี้ขาด

People Unity News : 31 สิงหาคม 2565 เลขาฯ ป.ป.ช. เผยชี้มูลวินัยไร้รูปธรรม หน่วยงานต้นสังกัดไม่ให้ความร่วมมือลงโทษ เตรียมแก้กฎหมาย

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงผลการชี้มูลความผิดทางวินัยร้ายแรงและไม่ร้ายแรงของเจ้าหน้าที่รัฐ ตั้งแต่เริ่มปี 2565 ถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมารวม 260 เรื่อง แต่พบว่าเมื่อแจ้งกลับไปยังหน่วยงานต้นสังกัดให้ลงโทษ กลับพบว่าลงโทษน้อยมาก เช่น เดือนมกราคม แจ้งวินัยร้ายแรง 7 ราย ลงโทษเพียง 1 เรื่อง เดือนกุมภาพันธ์ ชี้วินัยร้ายแรง 21 เรื่อง ลงโทษ 4 เรื่อง   และเดือนมิถุนายน ชี้วินัยร้ายแรง 25 เรื่อง ลงโทษเพียง 1 เรื่อง

“ทำให้เห็นว่าการชี้มูลความผิดทางวินัยของ ป.ป.ช. และการลงโทษทางวินัยของหน่วยงานต้นสังกัดยังมีปัญหาเรื่องความเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่งบางคดีมีโทษทางอาญา  อยากให้ต้นสังกัดพิจารณาเรื่องโทษทางอาญากับการลงโทษทางวินัยด้วย และ ป.ป.ช.จะขอพิจารณาเรื่องปรับปรุงกฎหมาย เพื่อให้การลงโทษทางวินัยเป็นรูปธรรม” เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าว

นายนิวัติไชย เปิดเผยถึงโครงการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแห่งชาติ หรือ CDC ว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา 371 เรื่อง ซึ่งในอนาคตทางสำนักงานจะร่วมมือกับนายชัชชาติ  สิทธิพันธุ์  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เรื่องการรับเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต รวมทั้งประสานหน่วยงานทุกแห่ง เพื่อจะดูว่าหน่วยงานไหนตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อลดความซ้ำซ้อน และประชาชนสามารถตรวจสอบได้ว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในการแก้ไขของหน่วยงานใด

Advertisement

ชาวนาโอดข้าวโดนกดราคาประกันเหลว ร้องเพื่อไทยจี้รัฐเร่งออกมาตรการแก้

People Unity News :  สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ยื่นหนังสือประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย สะท้อนความทุกข์ยาก ขายข้าวถูกกดราคา เรียกร้องรัฐเร่งออก มาตรการแก้ปัญหา

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ยื่นหนังสือถึง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ถึงปัญหาความยากลำบากของเกษตรกร โดยเห็นว่า ชาวนาเป็นเกษตรกร ที่สำคัญของประเทศไทย แต่ปัจจุบันความเดือดร้อนเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนาที่ปลูกข้าวมีปัญหา เนื่องจากราคาข้าวตกต่ำเป็นอย่างมาก มาตรการที่รัฐประกาศว่าจะช่วยเหลือพี่น้องชาวนาก็ไม่ตรงกับความต้องการเช่นข้าวหอมมะลิ ชาวนาขายข้าวได้จริงเพียงตันละ 10,000 – 12,000 บาทต่อตันเท่านั้น แต่ราคาที่อ้างอิงในโครงการประกันสูงถึง 15,000 และราคาตลาดที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศ สูงถึงกว่า 16,000 บาทต่อตัน ซึ่งที่ผ่านมาชาวนาไม่ได้ราคาตามความเป็นจริง

จึงขอเรียกร้องให้รัฐกลับไปประกาศราคาอ้างอิงใหม่เพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวนาที่ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือก่อนหน้านี้ที่ขายข้าวไปก่อนประมาณ 15 วันซึ่งถือเป็นราคาที่ตกต่ำอย่างมาก ขณะที่โรงสีก็ไม่รับซื้อเนื่องจากสถาบันการเงินได้ตรวจเช็คเครดิตการขอเงินคืน จึงทำให้โรงสีไม่สามารถ รับซื้อข้าวจากชาวนาส่งผลให้เกิดการกดราคาชาวนา ขณะที่โรงสีก็ไม่ทราบว่าจะซื้อไปเพื่ออะไร เพราะต้องพบปัญหา ในขั้นตอนการส่งออกข้าวต่อเช่นกัน

ดังนั้นขอให้รัฐประกาศราคาอ้างอิงใหม่โดยเฉพาะในงวดที่ 2 และงวดที่ 3 ซึ่งพรรคเพื่อไทยเสนอให้หามาตรการประกันการขายข้าวเช่นมาตรการประกันยุ้งฉางเพื่อให้เกษตรกรได้รับเงินสดไปใช้ก่อนในลักษณะปลอดดอกเบี้ย ขอให้ธนาคารปล่อยสินเชื่ออย่างทั่วถึงเพื่อให้เกิดสภาพคล่อง ทบทวนมาตรการประกันรายได้ ซึ่งไม่ตรงกับราคาที่ประกาศไว้โดยขอให้ไปชดเชยย้อนหลังในวันที่ชาวนาขายข้าวจริงด้วย และขอให้เร่งจ่ายเงินชดเชยจากน้ำท่วมและภัยแล้ง รวมถึงหามาตราการควบคุมราคาปัจจัยการผลิตให้เป็นธรรม

นายกฯกำชับทุกหน่วยบูรณาการแก้ปัญหายาเสพติดทุกมิติ

People Unity News : 23 พฤศจิกายน 2565 นายกฯ ย้ำทุกหน่วยงานบูรณาการป้องกัน ปราบปราม บำบัดรักษายาเสพติด สั่งคุมเข้มสารตั้งต้นส่วนผสมยาเสพติด หวังบ้านเมืองสงบเรียบร้อยสวยงามเหมือนช่วงประชุมเอเปค

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ระยะเร่งด่วน 3 เดือน โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รวมถึงผู้แทนสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ที่สโมสรทหารบก

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อน ยิ่งปรับวิธีการและปรับการทำงาน แต่อีกฝ่ายก็ปรับเช่นกัน ดังนั้น ต้องทำอย่างไรที่จะแก้ปัญหาที่มีความซับซ้อนให้ได้ เพราะส่งผลกระทบต่อความมั่นคง สังคมและเศรษฐกิจของประเทศ โดยจะต้องแก้ให้ลดลง สิ่งสำคัญคือความเข้าใจ และต้องมีการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ และในหลายระดับ

“สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องดูว่าจะแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างไร เน้นการป้องกันปราบปราม และการบำบัดรักษา รวมถึงดีมานด์และซัพพลาย ลดผู้เสพรายใหม่ แก้ไขผู้เสพรายเก่า ทุกวันนี้สังคมเปลี่ยนแปลงไปมาก จำเป็นต้องบูรณาการกันอย่างใกล้ชิดและร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลกำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ และเป็น 1 ใน 12 นโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่ผ่านมาได้ปฏิบัติและพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ทำในวันนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในระดับนโยบาย คือ การปรับปรุงกฎหมายกฎระเบียบต่างๆ ที่อาจจะมีความเกี่ยวข้องในหลายกฎหมายด้วยกัน พร้อมกับต้องเร่งปราบปราม จับกุม และขยายผลไปสู่นายทุนและผู้ที่เกี่ยวข้อง จนสามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้ถึง 11,000 ล้านบาท

“ขอเน้นย้ำให้ทุกคน ทุกหน่วยงานปฏิบัติการตามแผนการป้องกันและปรับปรามยาเสพติด ภายในระยะเวลา 3 เดือน ตามที่กำหนดไว้แล้ว ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ขณะที่การป้องกันคือทำอย่างไรให้คนไม่อยากเสพยาเสพติด เพราะจะทำให้การขายลดลงได้ ซึ่งการศึกษาเป็นส่วนสำคัญที่ต้องสร้างความรู้และหลักการที่ถูกต้องให้กับเยาวชน มีกลไกป้องกันยาเสพติด กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สร้างความเข้มแข็งของครอบครัวและชุมชน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กองทัพต้องเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันสกัดกั้นยาเสพติดทางชายแดน ทั้งทางบกและทางน้ำ และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปราบปรามผู้ค้ายาและจับกุม ยึดทรัพย์ ทำลายเครือข่าย โดยเจ้าหน้าที่ที่ไปเกี่ยวข้องจะต้องถูกลงโทษ ซึ่งถ้าทุกคนทำงานร่วมกันได้ ทุกอย่างจะต้องเบาบางลง เพื่อคืนอนาคตให้กับลูกหลาน ยกตัวอย่างกรณีที่จังหวัดหนองบัวลำภู ถือเป็นบทเรียน แต่ไม่ใช่การทำงานแบบวัวหายล้อมคอก แต่ต้องนำบทเรียนทุกอย่างมาดำเนินการ คิดวิเคราะห์ และหาวิธีการแก้ไขปัญหา ซึ่งพบว่าสถานการณ์ในขณะนี้ไม่ใช่เพียงผู้เสพ ผู้ซื้อและผู้ขาย แต่มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป จึงต้องให้ความสำคัญกับการบำบัดรักษาฟื้นฟู

“ขอให้กระทรวงสาธารณสุข เร่งรัดทำกฎหมายมารองรับสำหรับการปฏิบัติ ดูแลรักษาคัดกรองผู้ติดยาเสพติด เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการอย่างเหมาะสม จัดตั้งสถานที่รักษา โดยมีแนวคิดที่จะให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้การบำบัดรักษามีมาตรฐาน ให้กระทรวงแรงงานส่งเสริมให้ผู้บำบัดมีทักษะในด้านอาชีพ ขณะเดียวกัน ต้องทำให้ประชาชนมีความมั่นใจและความเชื่อใจในการแจ้งเบาะแส และสิ่งสำคัญคือการสร้างความรับรู้ให้กับประชาชน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องสร้างความเชื่อมั่น เพราะคือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เห็นจากการประชุมเอเปคที่มีความร่วมมือที่กว้างมากขึ้น ไม่มีใครที่จะแก้ปัญหาได้เพียงหน่วยงานเดียว ดังนั้น ต้องให้ความสำคัญกับหมู่บ้านและชุมชน ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องบูรณาการทรัพยากรทุกอย่าง ทั้งแผนงาน การปฎิบัติงานร่วมมือกับทุกหน่วยงานให้เป็นหนึ่งเดียว ให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเพื่อขจัดยาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะเดียวกันต้องระดมสรรพกำลังในการร่วมมือกันปราบปรามยาเสพติด และจะต้องมีบทบาทในการคืนคนดีสู่สังคม เพื่อให้ทุกคนได้กลับสู่อ้อมกอดของครอบครัว และทำให้สังคมไทยปลอดยาเสพติด ส่วนการดูแลควบคุมสารตั้งต้น ที่ใช้ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด เพราะเป็นอันตรายและเป็นต้นตอ การนำไปสู่การผลิตยาเสพติด จึงขอให้มีการติดตามดำเนินคดีในเรื่องนี้ ซึ่งตนรอผลงานตรงนี้ด้วย อยากให้บ้านเมืองของเรามีความเจริญเติบโต อยากให้บ้านเมืองมีรายได้ที่ดี มีการค้าขายที่ดี ทุกคนมีความสุข สิ่งสำคัญที่สุดคือพื้นฐานด้านความมั่นคงทั้งสิ้น

“อยากให้ทุกคนได้ทราบว่า ความมั่นคงเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจ สังคม และทุกอย่าง ขณะนี้บ้านเมืองเราอยู่ในสถานการณ์สงบเรียบร้อย และในช่วงการประชุมเอเปคที่ผ่านมา ได้เห็นบ้านเมืองที่สวยงาม มีความสะอาด นี่คือประเทศไทย ทุกคนยิ้มแย้มมีความสุข ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่จะหาได้ง่าย ๆ เพราะได้เห็นคนไทยมีรอยยิ้ม เป็นเจ้าบ้านที่ดี ดังนั้น หลังการประชุมเอเปค ก็หวังว่าทุกอย่างจะสงบเรียบร้อยไปได้ด้วยดี เพื่อให้ทุกอย่างดีกว่าเดิมในทุกมิติ สิ่งไหนที่เป็นปัญหาก็แก้ไข หากติดขัดก็ติดตามขับเคลื่อน หากทุกคนพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในทุกประชาคมโลกและทุกภูมิภาค ดังนั้น ขอบคุณข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชน หากทุกคนร่วมมือกันแก้ไขปัญหาด้วยความเข้าใจ ทุกอย่างจะสำเร็จแน่นอนและนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตลอดไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว

Advertisement

ครม.เตรียมให้ 5 พ.ค. เป็นวันหยุดพิเศษกระตุ้นเศรษฐกิจ

People Unity News : 10 มกราคม 2566 ‘วิษณุ’ เผย ครม.พิจารณาเพิ่มวันหยุดพิเศษ 5 พ.ค. กระตุ้นเศรษฐกิจ แจง ‘นายกฯ-รมต.’ ลากิจร่วมกิจกรรมพรรคการเมืองได้ เหตุเป็นเวลานอกราชการ เล็งขอดูคำสั่งตั้งที่ปรึกษานายกฯ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีการเสนอเพิ่มวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษ  เนื่องจากวันที่ 4 พฤษภาคมเป็นวันฉัตรมงคล และวันที่  5 พฤษภาคม 2566 เป็นวันศุกร์  จึงจะให้มีวันหยุดพิเศษเป็นวันที่ 5 พฤษภาคมอีก 1 วัน เพื่อให้มีวันหยุดต่อเนื่องยาว 4 วัน คือวันที่ 4-7 พฤษภาคม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว

ส่วนกฎหมายลูกสองฉบับโปรดเกล้าฯลงมาแล้วหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่ลงมา ยังไม่ถึงกำหนดเวลา 90 วัน

สำหรับการลากิจของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี เพื่อไปร่วมงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา สามารถไปร่วมกิจกรรมของพรรคการเมืองได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า  ไปร่วมทำกิจกรรมได้ เพราะถือเป็นเวลานอกราชการ แต่ส่วนตัวยังไม่ได้ดูว่านายกฯมีข้อผิดพลาด บกพร่องอย่างไร

ส่วนกรณีที่นายกฯตั้งคนของพรรคการเมืองเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีทำได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า  ทุกรัฐบาลเวลามีโควต้า ก็ตั้งคนของพรรคการเมือง ไม่คนของพรรคตัวเองก็คนของพรรคอื่น ย้ำว่าทุกรัฐบาลเหมือนกันทั้งนั้น และตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีถือเป็นตำแหน่งข้าราชการทางการเมือง ซึ่งตนยังไม่เห็นคำสั่ง แต่จะขอดูก่อน

Advertisement

พล.อ.ประวิตร สั่งเร่งพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำขนาดเล็กในทุกพื้นที่

People Unity News : 16 มีนาคม 2566 “พล.อ.ประวิตร” พอใจการบริหารจัดการน้ำ หลังลงตรวจหลายพื้นที่ กำชับ ต้องตื่นตัว สั่งเร่งพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำขนาดเล็กในทุกพื้นที่

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ( กนช.) ครั้งที่ 1/66  ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ เพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำ หลังจากลงตรวจกำกับในหลายพื้นที่จังหวัด โดยที่ประชุมรับทราบ ผลการดำเนินงานที่สำคัญของคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ 6 คณะ และรับทราบความคืบหน้าการดำเนินโครงการแก้ปัญหาอุทกภัย ระยะเร่งด่วน ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาใหญ่ จำนวน 205 โครงการ โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช.เสนอขอรับการสนับสนุนงบกลาง ปี 66 วงเงิน 1,455 ล้านบาท และรับทราบสรุป ผลการถอดบทเรียนการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 65 ที่ให้ความสำคัญกับ การบริหารจัดการน้ำเชิงภาพรวม ให้สอดรับกับสถานการณ์น้ำและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ตลอดจนการทำงานเชิงรุกและการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วนมากขึ้น และรับทราบความคืบหน้าแผนงานบูรณาการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ปี 66 และปี 67

จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาและให้ความเห็นชอบ ร่างมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 66  และแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม ปี 66 โดยใช้แนวทางปี 65 ไปพลางก่อน ซึ่งให้ความสำคัญกับ หน่วยรับผิดชอบหลักและหน่วยสนับสนุนการจัดเตรียมและการใช้ประโยชน์ข้อมูล การบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดจากภาวะน้ำท่วม การจัดทำระบบเตือนภัยและการเผยแพร่ข้อมูลกับประชาชน วิธีการระบายน้ำที่รวดเร็วและถูกต้องตามหลักวิชาการ การกักเก็บน้ำเพื่อใช้ประโยชน์ และการประสานงานระหว่างหน่วยงาน

พล.อ.ประวิตร กล่าวพอใจภาพรวมการบริหารจัดการน้ำระดับพื้นที่ ซึ่งมีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมไปมาก หลังลงตรวจติดตามพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำและพื้นที่น้ำท่วมในหลายพื้นที่ พร้อมทั้งย้ำ การบริหารจัดการน้ำ เป็นเรื่องที่ต้องตื่นตัวตลอดทั้งปี ทั้งกลไกระดับนโยบายและระดับปฏิบัติงานในพื้นที่ ในการเตรียมการป้องกันและการแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งต่อเนื่องกันไป

พร้อมกันนี้ ขอให้ สทนช.และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประสานกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและทุกจังหวัด ให้มีความตื่นตัว เตรียมพร้อมรับกับทุกสถานการณ์น้ำท่วมและสภาพอากาศที่ผันแปร โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม โดยให้เตรียมเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและเร่งเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำทุกประเภทไปพร้อมกัน  ทั้งนี้ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาขยายผลการทำนาแบบเปียกสลับแห้ง เพื่อการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ พลเอกประวิตร กำชับ ขอให้กระทรวงมหาดไทยเร่งส่งเสริมการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กในทุกพื้นที่ เพื่อกักเก็บน้ำในฤดูฝนแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ พร้อมทั้ง ขอให้ทุกส่วนราชการเตรียมมาตรการรับมือฤดูฝนและแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม ปี 66 ที่กำหนด เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบความเสียหายและความเดือดร้อนของประชาชนที่เกิดขึ้นอย่างมีพัฒนาการร่วมกัน

Advertisement

“สุริยะ”มั่นใจมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายถูกต้องตามกฎหมายไร้ปัญหา

People Unity News : “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ลั่นมั่นใจมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง ยันไม่ได้เข้าใจผิดตามที่”อนุทิน”กล่าวอ้าง

วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมขอยืนยันว่ามติการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ที่มีตนเป็นประธานเมื่อวันที่ 27 ต.ต. ที่ผ่านมา ถือเป็นมติที่ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย และไม่ได้เข้าใจผิดตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุขได้กล่าวอ้าง เนื่องจากได้ตรวจสอบจากฝ่ายกฏหมายที่เข้าร่วมประชุมในวันดังกล่าวแล้ว ว่าที่ประชุมฯได้ปฎิบัติตามระเบียบและขั้นตอนตามกฎหมายทุกอย่าง

“การประชุมมีมติและถูกต้องอย่างแน่นอน และไม่ได้เข้าใจผิดอย่างที่มีการกล่าวถึง เพราะได้ตรวจสอบจากฝ่ายกฏหมายที่เข้าร่วมประชุมในวันดังกล่าวแล้ว ว่าที่ประชุมฯได้ปฎิบัติตามระเบียบและขั้นตอนตามกฎหมายทุกอย่างแล้ว อย่างไรก็ตามผมขอยืนยันอีกครั้งว่ามติดังกล่าวถูกต้อง” นายสุริยะ กล่าวและว่า

สำหรับมติ คณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ที่มีตนเป็นประธานเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้กำหนดวัตถุอันตรายพาราควอต และคลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้กำหนดระยะเวลาบังคับใช้ เลื่อนจาก 1 ธ.ค.62 เป็น 1 มิ.ย. 63 ส่วนวัตถุอันตรายไกลโฟเซต ให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้ตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 23 พ.ค.61พร้อมทั้งมอบหมายให้ กรมวิชาการเกษตรและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำมาตรการรองรับในการหาสารทดแทน หรือวิธีการอื่นที่เหมาะสม รวมถึงลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อไป และให้นำเสนอคณะกรรมการฯ พิจารณาภายใน 4 เดือน นับจากวันที่มีมติ

โดยก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ย้ำว่าได้คุยกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม แล้ว ซึ่งนายสุริยะเข้าใจว่า การที่พูดออกไปโดยไม่มีใครโต้แย้ง สามารถเป็นมติได้ และอาจไม่สามารถใช้ได้ในยุคสมัยนี้ ซึ่งได้เสนอไปยังนายสุริยะแล้วว่าเพื่อความชัดเจน ต้องเปิดให้มีการโหวต ย้ำว่าประเด็นที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิด แต่เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาต้องโหวตให้ชัดเจน

ด้านนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านการคอรัปชั่น ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีคณะกรรมการวัตถุอันตราย ให้เลื่อนการแบน 2 สารพิษออกไปอีก 6 เดือน และอีกหนึ่งสารพิษให้ใช้ต่อไปได้ว่า “ชัดเจนแล้วที่แท้เป็นนโยบายของรัฐบาล..นี่เอง”

“อนุทิน”โพสต์! ถูกกัปตันเรือสั่งให้เก็บมือเก็บเท้า

People Unity News : เก็บมือเก็บเท้า! “อนุทิน”โพสต์รูปนั่งเรือกับ”บิ๊กตู่” พร้อม Caption ชวนสงสัย

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่เฟซบุ๊ค “อนุทิน ชาญวีรกูล” ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปรากฏภาพนายอนุทิน ขณะนั่งเรือร่วมกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมข้อความว่า
“ลงเรือลำเดียวกันเชื่อฟังกัปตันท่านสั่งให้เก็บมือเก็บเท้า”

ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวปรากฎขึ้นหลังมีข่าวว่านายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทย มีปัญหากับสื่อค่ายดัง ซึ่งมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ ส.ส.พรรคแกนนำรัฐบาล จากกรณีที่สื่อค่ายดังนำเสนอข่าวโจมตีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ต้องแจ้งความดำเนินคดีสำนักข่าวข้างต้น และมีการนำความขัดแย้งดังกล่าวไปขยายความว่าพรรคภูมิใจไทย กำลังมีปัญหากับพรรคแกนนำรัฐบาลด้วย ซึ่งประเด็นหลัง ผู้สื่อข่าววิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นสาเหตุให้นายอนุทินโพสต์ข้อความดังกล่าว เพื่อยุติข่าวลือเรื่องความขัดแย้งในพรรคร่วม

Verified by ExactMetrics