วันที่ 25 พฤศจิกายน 2024

เริ่มแล้ว สปสช. ใช้แพลตฟอร์ม ‘Traffy Fondue’ รับแจ้งปัญหาการใช้สิทธิบัตรทอง

People Unity News : 16 กรกฎาคม 2565 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพิ่มช่องทางการติดต่อสื่อสารรับแจ้งปัญหาการใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท ระหว่าง สปสช. กับประชาชนที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ผ่านแพลตฟอร์ม Traffy Fondue (ทราฟฟี่ ฟองดูว์) ที่พัฒนาโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) และปัจจุบัน สวทช. ได้เปิดระบบเครือข่ายให้ สปสช. เข้าร่วมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เริ่มเปิดให้ประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทองแจ้งเรื่องร้องเรียน รวมถึงปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในการใช้บริการสิทธิบัตรทอง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดย สปสช. ได้จัดเจ้าหน้าที่ในการติดตาม และทันทีที่มีการแจ้งเรื่องเข้ามาในระบบจะเร่งแก้ไขปัญหาให้โดยเร็ว

วิธีแจ้งปัญหาผ่าน ทราฟฟี่ฟองดูว์

  1. เพิ่ม Traffy Fondue เป็นเพื่อนใน LINE ค้นหาไอดี @traffyfondue หรือคลิกที่ลิงก์ https://landing.traffy.in.th?key=zHdDaLxF
  2. พิมพ์ปัญหาที่ต้องการแจ้งในช่องแชท แล้วกดส่ง
  3. ถ่ายรูปและระบุประเภทปัญหาและแชร์ตำแหน่งที่เกิดปัญหา
  4. หลังจากนั้น ระบบจะแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ สปสช. ให้เข้าไปติดตามข้อมูลเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาต่อไป
  5. ผู้แจ้งรอรับการแจ้งเตือนเมื่อมีความก้าวหน้า

Advertisement

 

นายกฯ ชมโครงการข้าวแกงกำลังใจ อิ่มหนึ่ง 25 บาท

People Unity News : 4 กรกฎาคม 2565 นายกฯ ชื่นชมโครงการนำร่อง “ข้าวแกงกำลังใจ อิ่มหนึ่ง 25 บาท” หนึ่งในโครงการตัวอย่างฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ-โควิด ช่วยเหลือผู้ประกอบการและผู้บริโภค

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมโครงการ “ข้าวแกงกำลังใจ อิ่มหนึ่ง 25 บาท” โดยสมาคมภัตตาคารไทยร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรร้านอาหารในเครือข่าย กว่า 100 แห่ง ในการจำหน่ายข้างแกงราคา 25 บาท ซึ่งถือว่ามีราคาถูกเมื่อเทียบกับร้านค้าในท้องตลาดทั่วไป และมีให้เลือกมากกว่า 15 เมนู เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงภาวะวิกฤต ซึ่งได้เปิดร้านเป็นโมเดลต้นแบบไปเมื่อวันที่ 25-29 มิถุนายนที่ผ่านมาที่ศูนย์การค้า MBK Center ได้รับความสนใจตอบรับจากประชาชนให้การอุดหนุนเป็นอย่างมาก โดยจะมีการเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ เบื้องต้นจะจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมัน และแก๊สรถยนต์ PT ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 100 จุด เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยประชาชนได้วันละ 50,000 คน และจะทยอยเพิ่มจำนวนผู้ผลิตและสถานที่จำหน่ายต่อไปอีก 1,000 จุดทั่วประเทศ

นายธนกร กล่าวว่า สมาคมภัตตาคารไทยจะประสานจัดวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ให้กับร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการในราคาต้นทุน เพื่อช่วยให้ร้านค้าควบคุมต้นทุน ซึ่งร้านในโครงการจะได้รับการอุดหนุน เช่น ค่าเช่าพื้นที่ราคาถูกพิเศษ สนับสนุนแก๊สหุงต้มราคาพิเศษ โดยลดราคาถังละ 20-30 บาทจากราคาท้องตลาด ซื้อน้ำมันพืชได้ในราคาพิเศษ และยังซื้อข้าวสารจากวิสาหกิจเพื่อสังคมชาวนาไทยในราคาพิเศษ เป็นต้น ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียกให้โครงการข้าวแกงกำลังใจ เป็นตัวอย่างหนึ่งในการช่วยเหลือประชาชนและสังคมท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจและโควิด-19

“นายกรัฐมนตรีชื่นชมพร้อมขอบคุณสมาคมภัตตาคารไทยและหน่วยงานพันธมิตร ที่ร่วมมือกันจัดทำโครงการ ‘ข้าวแกงกำลังใจ อิ่มหนึ่ง 25 บาท’ ถือเป็นตัวอย่างที่ดีอย่างยิ่งในการช่วยเหลือประชาชน ช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหาร ภัตตาคาร พ่อค้าแม่ขายในตลาด เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งสูงขึ้นจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งยังสามารถช่วยประคับประคองกำลังซื้อของผู้บริโภคภายในประเทศที่มีอย่างจำกัด ให้ประชาชนมีอาหารอิ่มท้องได้ทุกวันในราคาประหยัดด้วย” นายธนกร กล่าว

Advertisement

กองสลากเผยสลากดิจิทัลงวดวันที่ 16 ก.ค. จำนวน 5.146 ล้านฉบับ จำหน่ายหมดแล้ว

People Unity News : 3 กรกฎาคม 2565 สำนักงานสลาก เผยการจำหน่ายสลากดิจิทัล งวดวันที่ 16 ก.ค.65 จำนวน 5.146 ล้านฉบับ จำหน่ายหมดแล้ว มีผู้ซื้อ 8.8 แสนราย

วันนี้ (3 กรกฎาคม 2565) เวลา 11.00 น. นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การจำหน่ายสลากผ่านแอปเป๋าตัง หรือ สลากดิจิทัลงวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 ซึ่งเป็นการจำหน่ายงวดที่สาม จำนวน 5,146,000 ฉบับ ขณะนี้ได้จำหน่ายหมดแล้ว มีผู้ซื้อจำนวน 888,637 ราย การจำหน่ายสลากหมดลงอย่างรวดเร็วกว่าที่คาดไว้ ผลตอบรับเป็นไปด้วยดี เนื่องจากสามารถซื้อสลากตัวเลขที่ต้องการในราคา 80 บาทได้จริง และสลากที่ซื้อก็มีการบันทึกข้อมูลไว้แสดงสิทธิในตัวสลาก ทำให้ไม่ต้องกังวลหากสลากหาย หรือการเรียกร้องสิทธิในตัวสลาก และเมื่อถูกรางวัลจะมีการแจ้งเตือนผ่านแอปเป๋าตัง ประกอบกับขั้นตอนการรับรางวัลที่สะดวก ง่าย ไม่ยุ่งยาก และงวดที่ผ่านมา มีรางวัลที่ 1 ถึง 6 รางวัล เงินรางวัลรวม 36 ล้านบาท ที่สำคัญมีคนถูกรางวัลที่ 1 คนเดียวถึง  3 ใบ ได้รางวัล 18 ล้านบาท ส่วนที่เหลือมีการกระจายถูกรางวัลคนละ 1 ใบ รางวัลละ 6 ล้านบาท

ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับงวดวันที่ 1 สิงหาคม 2565 สำนักงานสลากฯ จะเพิ่มสลากจำหน่ายผ่านระบบดิจิทัลอีก 2 ล้านฉบับ รวมแล้วไม่น้อยกว่า 7 ล้านฉบับ เพื่อให้ผู้ซื้อมีเวลาในการเลือกซื้อสลากหมายเลขที่ต้องการในราคา 80 บาทได้นานขึ้น สำหรับการพิจารณาเพิ่มปริมาณสลากในระบบแต่ละครั้ง จะต้องเป็นไปตามความต้องการของตลาด และรักษาสมดุลระหว่างผู้ค้าในระบบเก่าและระบบดิจิทัลด้วย ส่วนสลากที่จะนำมาเพิ่มในระบบดิจิทัลนั้น จะมาจากสลากในระบบซื้อจอง  ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากสลากของตัวแทนจำหน่ายที่ถูกยกเลิกสัญญาเนื่องจากนำสลากไปขายต่อ

นอกจากสลากที่จำหน่ายผ่านแอปเป๋าตังในระบบแพลตฟอร์มได้แล้ว ยังมีจุดจำหน่ายสลาก 80 ที่สำนักงานสลากฯ เริ่มดำเนินการมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว เป็นการจำหน่ายผ่านแอปเป๋าตังเช่นกัน ขณะนี้ มีจุดจำหน่ายกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งหมด 754 จุด ทั่วประเทศ และตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป จะมีจุดจำหน่ายสลาก 80 ทั่วประเทศ 1077 จุด และภายในปีนี้ สำนักงานฯจะนำร่องขยายจุดจำหน่ายสลาก 80 ไปที่สถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ อีกไม่น้อยกว่า  2,000 จุด

Advertisement

กองสลากขอรับฟังความคิดเห็น เตรียมออกหวยบนดิน 3 ตัว

People Unity News : 2 กรกฎาคม 2565 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะดำเนินการออกสลากรูปแบบใหม่ เพื่อใช้แก้ปัญหาสลากเกินราคาให้หมดไป และสามารถนำเงินจากการดำเนินการผิดกฎหมาย เช่น หวยใต้ดิน กลับมาเป็นรายได้นำส่งรัฐไปใช้ประโยชน์กับประชาชนคนไทย

โดยจะขอรับฟังความคิดเห็นสำหรับ ปี 2565 จำนวน 2 รูปแบบ ได้แก่

1.สลากกินแบ่งรัฐบาลแบบ 6 หลัก  https://www.youtube.com/watch?v=S5pzD_uyz1o

ขั้นตอนการซื้อ https://youtu.be/iPtDCvsm9Bg

2.สลากกินแบ่งรัฐบาลแบบตัวเลข 3 หลัก https://www.youtube.com/watch?v=_IxP6b07ROw

ขั้นตอนการซื้อ https://youtu.be/-Poki7kkEtA

ทั้งนี้สามารถรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  https://newlottery.glo.or.th และจะเปิดให้แสดงความคิดเห็นได้ ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฏาคม 2565 – 10 สิงหาคม 2565

Advertisement

ลดมลพิษ “เตาเผาศพ” ทส.ให้แนวทางปฏิบัติสำหรับฌาปนสถาน แยกวัสดุ – คุมความร้อน

People Unity News : 28 มิถุนายน 65 การเผาศพ มักเผาไหม้ไม่สมบูรณ์จึงสร้างมลพิษ เช่น ฝุ่นละออง เขม่าควัน ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ประกอบกับ การเผาวัสดุตกแต่งโลง ก่อให้เกิดโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท สารไดออกซินและฟิวแรน เป็นพิษต่อร่างกาย และเป็นสารก่อมะเร็ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จึงจำเป็นต้องออกประกาศ เรื่อง กำหนดให้เตาเผาศพเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษที่ต้องถูกควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียออกสู่สิ่งแวดล้อม พ.ศ.2565 โดยมีผลใช้บังคับกับ กทม. พัทยา เขตเทศบาลนคร และเทศบาลเมือง ตั้งแต่ 24 มิ.ย. 65 เป็นต้นมา ส่วนพื้นที่อื่นๆ ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 3 ปีนับจากวันที่ 23 มิ.ย. 65

แนวทางปฏิบัติสำหรับฌาปนสถาน มีดังนี้

1.แยกวัสดุที่ไม่ควรเผาออก เช่น โฟม พลาสติก กระดาษเงิน/ทอง วัสดุตกแต่งโลง

2.อุ่นห้องเผาควัน ก่อนห้องเผาศพ และคุมอุณหภูมิ ไม่ให้ต่ำกว่า 850 องศาเซลเซียสตลอดการเผา

3.ติดไฟห้องเผาศพ และควบคุมอุณหภูมิไม่ให้ต่ำกว่า 800 องศาเซลเซียสตลอดการเผา เพื่อให้เกิดการเผาไหม้อย่างสมบูรณ์ตลอดกระบวนการ ไม่สร้างเขม่าและมลพิษ เป็นมิตรสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน

ทั้งนี้ ทส. จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานการควบคุมมลพิษ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน

Advertisement

ครม.ไฟเขียว! ยกเว้นอากรนำเข้า Car seat สำหรับเด็ก บรรเทาค่าใช้จ่าย ส่งเสริมความปลอดภัย

People Unity News : ที่ประชุม ครม. วันนี้ (28 มิ.ย. 65) เห็นชอบการยกเว้นอากรนำเข้า (ร้อยละ 20) สำหรับที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car seat) ตามร่างประกาศกระทรวงการคลัง ลดอัตราอากร และยกเว้นศุลกากร ตาม ม.12 แห่ง พ.ร.ก.พิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 โดยมีผลนับถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึง 31 ธ.ค. 66

เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชน สนับสนุนความปลอดภัย ส่งเสริมให้เกิดการใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก และเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับที่ 13 ที่จะเริ่มบังคับใช้ 4 ก.ย. 65 ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการใช้สูงขึ้น โดยปัจจุบันตลาด Car seat สำหรับเด็ก ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ ในไทยยังมีการผลิตน้อย มติ ครม. ดังกล่าว จึงเป็นการช่วยลดราคาสินค้าให้กับผู้ปกครองได้

Advertisement

นายกฯ ชูพลังสตรีขับเคลื่อนประเทศ พร้อมส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศและศักยภาพผู้หญิง

People Unity News : 23 มิถุนายน 65 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวปาฐกถาพิเศษในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก ประจำปี 2565 ซึ่งมีผู้ร่วมงานจาก 52 ประเทศ ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสอันดีของไทยที่จะได้รับประสบการณ์ดีๆ จากสุดยอดผู้นำสตรีทั่วโลก และชื่นชมการจัดงานแบบรักษ์โลก (ประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมในการประชุม) สอดคล้องกับหลักการของไทย ที่พร้อมรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ไปพร้อมกับทุกคน

ไทยริเริ่มเดินหน้าพัฒนาประเทศในทุกมิติ รวมถึงการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ โดยการสนับสนุนการสร้างพื้นที่ให้ผู้หญิงได้แสดงศักยภาพของตนเอง และผู้หญิงคือพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม

เช่น การส่งเสริมบทบาทผู้หญิงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และยังนำไปสู่สันติสุขในจังหวัดชายแดนใต้ รวมถึง อสม. กว่าล้านคน ที่กว่า 90% เป็นผู้หญิง ที่คอยดูแลสุขภาพ กระตุ้นให้คนออกมาฉีดวัคซีนในช่วงโควิดที่ผ่านมา

นอกจากนี้ รัฐบาลได้เปิดโอกาสในการเข้าถึงการเรียนรู้และพัฒนาทักษะในยุคดิจิทัล โดยร่วมมือกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพแรงงานสตรีในสถานประกอบกิจการ/ ร่วมรับรองเอกสารวาระการดำเนินงานในการสร้างความตระหนักในเรื่องการส่งเสริมขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของสตรีในอาเซียน/ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคด้านสตรีและเศรษฐกิจ ในเดือน ก.ย. 65 ฯลฯ

การประชุมครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและส่งเสริมบทบาทสตรีในการพัฒนาเศรษฐกิจโลกอย่างยั่งยืน

Advertisement

อผศ.เดินหน้าโครงการ “ความห่วงใย ไร้พรมแดน”

People Unity News : 18 มิถุนายน 2565 ผอ.อผศ. เดินหน้าจัดทําโครงการ “ความห่วงใย ไร้พรมแดน” ออกให้บริการทางการแพทย์ในเชิงรุก ดูแลรักษาทหารผ่านศึกและครอบครัวในต่างจังหวัดให้ได้มีโอกาสเข้าถึงการรักษาจาก รพ.ทหารผ่านศึก มากขึ้น

พล.อ.สัณทัศน์ นันทิภาคย์หิรัญ ผู้อํานวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) เปิดเผยว่า องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์ ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2491 มีหน้าที่ให้การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก และทหารนอกประจําการ รวมทั้งผู้ที่กําลังปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันประเทศ ให้สามารถดํารงชีวิตได้อย่างมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี รวมทั้งเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนทั่วไป

ซึ่งจากการเดินทางไปเยี่ยมเยียนทหารผ่านศึกและครอบครัวตามภูมิลําเนาในส่วนภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ พบว่ายังมีทหารผ่านศึกบางส่วนไม่สามารถเข้าถึงระบบการบริการสุขภาพได้ หรือมีความลําบากในการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพ เนื่องจากสภาพความพิการเป็นผู้ป่วยติดเตียง หรือขาดทุนทรัพย์ ทําให้ไม่ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างถูกต้องและได้คุณภาพมาตรฐาน ตนจึงมอบนโยบายให้สมาคมแม่บ้านองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ร่วมกับโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ใช้ศักยภาพของหน่วยออกให้การบริการทางการแพทย์ในเชิงรุก เพื่อจัดทีมเข้าให้บริการรักษาพยาบาลและบริการด้านสุขภาพให้ทั่วถึง และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ด้วยเหตุนี้ นางพัณณ์ชิตา นันทิภาคย์หิรัญ นายกสมาคมแม่บ้านองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ร่วมกับโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ได้ริเริ่มจัดทําโครงการ “ความห่วงใย ไร้พรมแดน” ขึ้น เพื่อให้การดูแลรักษาทหารผ่านศึกและครอบครัวที่พักอาศัยในจังหวัดต่างๆ ให้ได้มีโอกาสเข้าถึงการรักษาจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก โดยแพทย์เฉพาะทางและสหสาขาวิชาชีพ และเพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพของทหารผ่านศึกและครอบครัว ให้มีความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติตัว การดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันบรรเทาภาวะสุขภาพที่เป็นอยู่ หรือโรคที่อาจจะเกิดในอนาคต รวมทั้งเพื่อให้การดูแลทหารผ่านศึกและครอบครัวแบบองค์รวม ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ

พล.อ.สัณทัศน์ ระบุต่อว่า ทั้งนี้ ในการดําเนินงานตามโครงการดังกล่าว ได้มีการนําทีมแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลทหารผ่านศึกไปให้การดูแลเชิงรุก และจัดทําการประเมินสุขภาพให้แก่ทหารผ่านศึกและครอบครัว เพื่อนําไปสู่การปรับปรุงแก้ไข และรับทราบปัญหาข้อขัดข้อง นอกจากนี้ ยังให้บริการซ่อมแซม จัดทําและจัดหากายอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่ทหารผ่านศึกพิการหรือพิการทุพพลภาพ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีขวัญและกําลังใจในการดําเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีด้วย

Advertisement

“สมศักดิ์” ชี้ ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ต่าง “สมรสเท่าเทียม” แค่ ”หมั้น-นามสกุล”

People Unity News : 15 มิถุนายน 2565 “สมศักดิ์” ชี้ ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ต่างกับ “สมรสเท่าเทียม” แค่ 2 ประเด็น “หมั้น-นามสกุล” ยัน “ยุติธรรม” ไม่ได้ชี้นำตรงข้าม แต่หวั่นพิจารณาไม่ทัน แนะ อย่าดึงดัน จนกลุ่มหลากหลายทางเพศ ไม่ได้อะไรเลย

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ชี้แจงสรุปถึงร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ขอขอบคุณสมาชิก ที่ได้อภิปรายอย่างหลากหลายว่า จากที่ตนนั่งฟัง นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้เห็นว่าเป็นนักต่อสู้ และตนก็มีความรู้สึกดีด้วยมาโดยตลอด แต่การทำงานภาคราชการ ถึงแม้ว่า ในบางส่วนเป็นสิ่งที่ดี และเห็นด้วย แต่ก็ต้องรับฟังผลกระทบว่า มีมากน้อยแค่ไหน

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากที่ตนนั่งฟัง ในประเด็นหลักต่างกันเพียง 2 ประเด็น คือ เรื่องหมั้นและการใช้นามสกุล ที่อาจจะเร็วไป เพราะจะมีญาติพี่น้องเข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก แต่เชื่อว่าในอนาคตเป็นไปได้แน่นอน ซึ่งกระทรวงยุติธรรม ไม่ได้ชี้นำในทางที่เป็นตรงข้าม แต่จากเหตุผลที่ คณะกรรมการกฤษฎีกา ให้เหตุผล มีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ โดยถ้าเราดึงดันไปทางนั้น กลุ่มบุคคลหลากหลายทางเพศ ที่รอคอยอยู่นั้น ก็จะไม่ได้อะไรเลย ซึ่งตนเข้าใจสภาฯ ในการออกฎหมายแต่ละฉบับ ต้องใช้เวลานาน โดยผ่านวาระ 1 จบได้ภายใน 1 ปีก็เป็นเรื่องที่เก่งมากแล้ว

“หากไม่ให้ความร่วมมือกัน บุคคลหลากหลายทางเพศ ก็จะไม่ได้อะไร ผมคิดว่า สภาจะมีมติรับร่างนี้ ซึ่งจะแสดงถึงความจริงใจ ในการทำกฎหมายให้ประชาชนได้ประโยชน์ ดังนั้น ผมขอให้ติดตามการประชุมกรรมาธิการฯ จะใช้เวลานานเท่าไหร่ รวมถึงส่วนที่ยังไม่ได้ ก็ไปแปรญัตติได้เพราะเราตั้งใจมอบเป็นของขวัญ ซึ่งสภาฯมีเวลา 9 เดือน ถ้ามีความตั้งใจ สภาฯก็ต้องทำให้เรียบร้อย” รมว.ยุติธรรม กล่าว

Advertisement

สปสช. ยกเลิกจ่ายค่าตรวจโควิดสำหรับ รพ. นอกระบบบัตรทอง 1 ก.ค.นี้

People Unity News : 11 มิ.ย. 65 จากสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันที่เริ่มผ่านพ้นช่วงวิกฤต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้จัดทำแผนและมาตรการการบริหารจัดการสถานการณ์โรคโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น (Endemic Approach to COVID-19) เพื่อให้ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตภายใต้การใช้ชีวิตวิถีปกติใหม่

ดังนั้นหน่วยงานที่บริหารจัดการกองทุนสุขภาพภาครัฐ ประกอบด้วย สปสช. กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม กองเศรษฐกิจสุขภาพฯ สธ. พิจารณาแล้วเห็นว่าในระยะต่อไป ไม่จำเป็นต้องตรวจคัดกรองเชิงรุก และประชาชนสามารถตรวจคัดกรองด้วย ATK ด้วยตนเองในหน่วยบริการได้ จึงมีมติร่วมกันให้ปรับเงื่อนไขอัตราจ่ายบริการโรคโควิด-19 ในภาพรวม โดยยกเลิกตรวจคัดกรองเชิงรุกนอกหน่วยบริการ เพื่อให้สอดคล้องกับการเดินหน้าไปสู่โรคประจำถิ่นของสธ.

ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) จึงมีมติให้ยกเลิกจ่ายค่าบริการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ในหน่วยบริการนอกระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ คงเหลือแต่หน่วยบริการในระบบเท่านั้น โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 65 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม สปสช. ยังคงให้บริการประชาชนกลุ่มบัตรทองที่ป่วยโควิด เพื่อเข้ารักษาในระบบ Home Isolation หรือติดต่อรับยาที่ร้านขายยาที่ร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง กรณีมีข้อสงสัย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330

Advertisement

Verified by ExactMetrics