วันที่ 22 เมษายน 2025

เด็กไทยต้องได้เรียน! ปี 64 กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ช่วย นร. กว่า 2.9 แสนคน

People Unity News : 24 พฤษภาคม 65 ที่ประชุม ครม. (24 พ.ค. 65) รับทราบผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ในช่วงปี 2564 ที่ให้ความช่วยเหลือนักเรียนในครอบครัวยากจนพิเศษ กลุ่มช่วงชั้นรอยต่อของการศึกษา (อ.3, ป.6 และ ม.3) ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะหลุดจากระบบการศึกษา จำนวน 2.9 แสนคน / พัฒนาโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล จำนวน 600 แห่ง / โครงการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ฯลฯ

เพื่อช่วยเหลือเด็กปฐมวัยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา ให้ได้รับโอกาสในการเรียนรู้อย่างเหมาะสม พร้อมส่งเสริมพัฒนาศักยภาพและทักษะของครูนอกระบบให้สามารถจัดกระบวนการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพ และช่วยเหลือทุนการศึกษาเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาสให้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับ ปวช. – ปวส. ในสาขาที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด

Advertisement

ย้ำอีกครั้ง! พ.ร.บ.ประกันสังคม เพิ่มสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนให้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน

People Unity News : 23 พฤษภาคม 65 ตามที่เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา ครม. เห็นชอบหลักการ (ร่าง) พ.ร.บ.ประกันสังคม ฉบับใหม่ เนื่องจากกฎหมายปัจจุบันมีบทบัญญัติบางประการไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน และด้วยสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่กระทบต่อผู้ประกันตน รัฐบาลจึงเร่งแก้กฎหมายเพื่อเพิ่มหลักประกันทางสังคมและสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนให้มากขึ้น ดังนี้

1.การขยายความคุ้มครองให้กับผู้ประกันตนเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยขยายอายุขั้นสูงของผู้ประกันตน ม.33 (จาก 60 ปี เป็น 65 ปีบริบูรณ์) ให้ผู้รับเงินบำนาญชราภาพสามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนได้ รวมถึงขอรับเงินบำนาญจ่ายล่วงหน้าได้

2.การแก้ไขเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ (3 ขอ) เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประกันตน

✅“ขอเลือก” สามารถเลือกรับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญชราภาพได้

✅“ขอคืน” สามารถนำเงินสะสมกรณีชราภาพบางส่วนออกมาใช้ก่อนได้ หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ สาธารณภัย หรือเหตุการณ์ที่กระทบต่อผู้ประกันตน

✅“ขอกู้” สามารถนำเงินสะสมกรณีชราภาพไปเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงินได้

3.การแก้ไขเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์อื่นๆ

✅เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร จากเดิมจ่าย 90 วัน เป็น 98 วัน

✅เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพ จากเดิมจ่ายร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 70

✅กรณีสงเคราะห์บุตรให้ได้รับการคุ้มครองต่อไปอีก 6 เดือน นับแต่วันที่สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน

Advertisement

ครม. ไฟเขียวแผนพัฒนาประชากรเพื่อการพัฒนาประเทศระยะยาว ปี 65 – 80

People Unity News : 19 พฤษภาคม 65 ที่ประชุม ครม. เมื่อ 17 พ.ค. 65 เห็นชอบร่างแผนพัฒนาประชากรเพื่อการพัฒนาประเทศระยะยาว ปี 2565 – 2580 ด้วยกรอบแนวทางการพัฒนา 3 ด้าน คือ

การเกิดอย่างมีคุณภาพ

การอยู่อย่างมีคุณภาพและมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ

การแก่และตายอย่างมีคุณภาพ

โดยคำนึงถึงอิทธิพลของเทคโนโลยี สื่อสังคมออนไลน์ และเจเนอเรชั่น ที่ส่งผลให้การดำรงชีวิตของประชาชนเปลี่ยนไปจากอดีต

6 ยุทธศาสตร์ของ (ร่าง) แผนพัฒนาประชากรเพื่อการพัฒนาประเทศระยะยาว ประกอบด้วย

1.การสร้างครอบครัวที่มีคุณภาพ และพัฒนาระบบที่เอื้อต่อการมีและการเลี้ยงดูบุตร

2.การพัฒนายกระดับผลิตภาพประชากร

3.การยกระดับความมั่นคงทางการเงิน

4.การสร้างเสริมสุขภาวะเพื่อลดการตายก่อนวัยอันควร และมีระบบดูแลระยะยาวและช่วงท้ายของชีวิต

5.การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพกับทุกกลุ่มวัย

6.การบริหารจัดการด้านการย้ายถิ่น

การดำเนินการแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน ที่เน้นการจัดการกับปัญหาที่เป็นผลพวงจากสถานการณ์กโรคโควิด-19 และระยะยาว เน้นการสร้างครอบครัวคุณภาพ พัฒนาระบบการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อสร้างรายได้อย่างมั่นคงตามแนวคิด “ชุมชนน่าอยู่ สุขภาวะดี มีงานทำ”

Advertisement

 

นายกฯ ติดตามการแก้ปัญหายาเสพติด ย้ำ! เร่งลดจำนวนผู้เสพยาให้มากที่สุด

People Unity News : 18 พฤษภาคม 65 วันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวมอบนโยบายการติดตามผลการบังคับใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด ณ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมรับฟังรายงานการปฏิบัติการผ่านระบบ Cisco Webex Meetings “ยุทธการพิทักษ์ไทย ยึดทรัพย์ ตัดวงจรยาเสพติด”

โอกาสนี้ Mr. Max Lenormand FANC Executive Committee หัวหน้าตำรวจสวีเดนประจำประเทศไทยในฐานะเลขานุการกลุ่มเจ้าหน้าที่ประสานงานยาเสพติดและอาชญากรรมต่างประเทศประจำประเทศไทย ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณแด่นายกรัฐมนตรี เพื่อแทนความขอบคุณ ยกย่อง เชิดชูเกียรติ ต่อความพยายามมุ่งมั่น ตลอดจนความร่วมมือระหว่างประเทศในการต่อสู้กับยาเสพติดและอาชญากรรมข้ามชาติ

นายกฯ เน้นย้ำการแก้ปัญหาในขณะนี้ คือ การลดจำนวนผู้เสพยาให้มีจำนวนน้อยลงมากที่สุด ให้ความสำคัญกับ “หมู่บ้าน – ชุมชน” โดยภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ส่วนท้องถิ่นต้องบูรณาการทำงานร่วมกันทุกมิติ เพื่อไม่ให้มีการเพิ่มจำนวนนักเสพหน้าใหม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างภูมิคุ้มกันสร้างความรู้ให้ทุกคนตระหนักถึงโทษและพิษภัยของยาเสพติด

Advertisement

สปสช.เพิ่มยาแผนไทยที่มีส่วนผสมกัญชาในบัญชียาหลัก 3 รายการ

People Unity News : 15 พฤษภาคม 2565 สปสช. บรรจุ 3 ยาแผนไทยสูตรผสมกัญชา เพิ่มในสิทธิบัตรทอง ใช้รักษาผู้ป่วยอัมพาต – แก้ลมในเส้น – มือเท้าชา

คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เห็นชอบเพิ่มยาแผนไทยที่มีส่วนผสมกัญชาในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร จำนวน 3 รายการ ให้ครอบคลุมผู้ใช้สิทธิประโยชน์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

1.ยาแก้ลมแก้เส้น ช่วยให้นอนหลับ เจริญอาหาร

2.ยาศุขไสยาศน์ แก้ลมเปลี่ยวดำ เป็นยาเสริมในการฟื้นฟูอัมพฤกษ์ อัมพาต

3.ยาทำลายพระสุเมรุ แก้ลมในเส้น บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ ที่มีอาการมือเท้าชา

การบรรจุยาแผนไทยที่มีส่วนผสมของกัญชานี้ เป็นการเพิ่มเติมจากที่ สปสช. บรรจุน้ำมันกัญชาและสารสกัดกัญชาเพื่อดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง ไมเกรน พาร์กินสัน และผู้ป่วยลมชัก เป็นสิทธิประโยชน์ก่อนหน้า เป็นการขยายการดูแลเพื่อให้ผู้ป่วยบัตรทองเข้าถึงการรักษา ครอบคลุมยารักษาโรคที่จำเป็นเพิ่มมากขึ้น

โดยกำหนดให้เบิกจ่ายตามผลงานรายบริการ (Feeschedule) ภายใต้บริการการแพทย์แผนไทย คาดว่าจะใช้เงินเพิ่มเติม 3,706,346 บาท ซึ่งยังอยู่ในวงเงินที่ตั้งไว้ และยังเป็นการเพิ่มการเข้าถึงยากัญชาตามนโยบายรัฐบาล

Advertisement

“ประยุทธ์” สั่งการ พศ. เข้มวินัยสงฆ์

People Unity News : 8 พฤษภาคม 2565 นายกฯ ห่วงกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์พระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม สั่งการ พศ. เข้มวินัยสงฆ์

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเป็นห่วงต่อกระแสข่าวที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ส่งผลต่อความศรัทธาของพี่น้องประชาชน สั่งการสำนักพระพุทธศาสนา กำชับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) เข้มงวดพระสงฆ์ให้ปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด

นายธนกร กล่าวว่า หน้าที่หลักของพระสงฆ์คือ การธำรงรักษา และเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดาให้ยั่งยืนสืบไป ด้วยสังฆคุณอันยิ่งใหญ่นี้ พุทธศาสนิกชนจึงควรรู้จักการปฏิบัติตนต่อพระภิกษุสงฆ์ที่เหมาะสม หน้าที่หลักของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ได้แก่ การศึกษาหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา แล้วปฏิบัติตาม พร้อมทั้งนำหลักคำสอนมาเผยแผ่แก่ประชาชน การจะปฏิบัติกิจใดๆก็ตามต้องไม่ละเลยการประพฤติในส่วนที่เรียกว่า “พรหมจรรย์” ซึ่งเป็นความประพฤติเพื่อความประเสริฐ เพื่อบรรลุถึงความสิ้นกิเลส โดยประพฤติให้เป็นไปตามพุทธบัญญัติและต้องเอื้อเฟื้อ ไม่ละเมิดพุทธอาณัติอันเป็นข้อห้ามมิให้ประพฤติ หรือเรียกว่าประพฤติให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย

“นายกรัฐมนตรี ขอให้ พศจ. เร่งประสานงานกับเจ้าคณะปกครองสงฆ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และหาแนวทางร่วมกันในการทำความเข้าใจต่อสังคมให้ถูกต้อง รวมถึงสอดส่องดูแล ให้พระภิกษุสงฆ์ปฏิบัติตามคำสั่งมหาเถรสมาคม เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชน สร้างศรัทธา สร้างความเหลื่อมใส ร่วมกันทำนุบำรุงศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าต่อไป” นายธนกร กล่าว

Advertisement

สธ.-WHO ถอดบทเรียนไทยรับมือโควิดสำเร็จจาก 5 ปัจจัย เตรียมแถลงในเวทีโลกปลาย พ.ค.นี้

People Unity News : วันนี้ (5 พฤษภาคม 2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.จอส ฟอนเดลาร์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย แถลงผลสรุปการจัดกิจกรรมการทบทวนการเตรียมความพร้อมกรณีภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและสุขภาพถ้วนหน้า หรือ Universal Health and Preparedness Review (UHPR) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 21-29 เมษายน 2565

นายอนุทินกล่าวว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) เลือกประเทศไทยให้เป็นประเทศต้นแบบลำดับที่ 3 ในการนำร่องจัดกิจกรรมการทบทวนการเตรียมความพร้อมกรณีภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและสุขภาพถ้วนหน้า จากการรับมือการระบาดใหญ่ของโรคโควิด 19 เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แนวปฏิบัติที่ดี และข้อเสนอแนะระหว่างประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลก ซึ่งข้อสรุปเบื้องต้นจากการจัดกิจกรรมฯ โดยคณะผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลกและทีมประเทศไทย พบว่า ประเทศไทยมีการบริหารจัดการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขกรณีโควิด 19 เป็นอย่างดี มีความยืดหยุ่น ปรับตัวไปตามสถานการณ์ และเน้นการปฏิบัติได้จริง โดยพบปัจจัยสำคัญ คือ 1.มีการสนับสนุนโดยผู้บริหารระดับสูงที่กำหนดนโยบายประเทศ 2.ระบบสาธารณสุขไทยมีความเข้มแข็งจากการลงทุนในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและระบบปฐมภูมิมาอย่างต่อเนื่องกว่า 4 ทศวรรษ 3.มีความร่วมมือเชื่อมต่อทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และภาคการศึกษา รวมถึง อสม. 4.มีกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชนและชุมชน และ 5.มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรมและการวิจัยเพื่อการตัดสินใจบนพื้นฐานข้อมูล

ส่วนอุปสรรคและความท้าทายที่ยังสามารถพัฒนาได้ คือ การบูรณาการข้อมูลจากหลายแหล่ง, การดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น แรงงาน ผู้อาศัยในชุมชนแออัด ให้เข้าถึงบริการสุขภาพมากขึ้น, การเตรียมความพร้อมรับภาวะฉุกเฉินในเขตเมืองและระบบปฐมภูมิ, การต่อยอดหรือสร้างความยั่งยืนในการใช้นวัตกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้น และการจัดการกับขยะทางการแพทย์หรือขยะติดเชื้อ โดยมีข้อเสนอให้เพิ่มการลงทุนเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อให้สามารถใช้งานต่อเนื่อง พัฒนากำลังคนแบบสหสาขาและนำกลยุทธ์ที่ใช้ได้ดีไปเตรียมพร้อมรับมือการระบาดครั้งต่อไป ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสุขภาพ สุขภาวะของประชาชนที่ครอบคลุมถึงกลุ่มเปราะบาง ยกระดับขีดความสามารถการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีน ยา ชุดตรวจ และเวชภัณฑ์ พัฒนากลยุทธ์ในการบูรณาการข้อมูล รวมถึงค้นหาและบันทึกตัวอย่างที่ดี บทเรียนที่สำคัญในการจัดการกับการระบาดใหญ่เพื่อเผยแพร่ต่อไป

“ประเทศไทยได้รับคำชมจากผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลก ถึงนโยบายและมาตรการแนวทางการดำเนินงานดูแลประชาชน ทั้งการรักษาพยาบาลผู้ป่วยและการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ทางองค์การอนามัยโลก ระบุว่ายินดีสนับสนุนและร่วมทำงานกับประเทศไทย โดยขอให้ประเทศไทยจัดทำรายงาน UHPR และเสนอต่อคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เพื่อขอความเห็นชอบรายงาน นอกจากนี้ ให้เตรียมการแถลงประสบการณ์ UHPR ในที่ประชุม World Health Assembly (WHA) ปลายเดือนพฤษภาคม 2565 และร่วมกับอีก 3 ประเทศนำร่องในการทบทวนปรับปรุงกระบวนการ UHPR ให้ดียิ่งขึ้นก่อนนำไปใช้ในประเทศอื่นๆ” นายอนุทินกล่าว

ด้าน นพ.จอส กล่าวว่า หลักพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้ประเทศใดๆ เตรียมพร้อมและตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขได้ดี จะต้องมี 1.ผู้นำทางการเมืองระดับสูงรับเรื่องเป็นพันธสัญญา 2.การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และ 3.กรอบความรับผิดชอบ 3 ด้าน ได้แก่ สุขภาพถ้วนหน้า การเตรียมพร้อมตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน และสุขภาวะที่ดีขึ้นของประชากร นอกจากนี้ ความสำเร็จจะเกิดได้ขึ้นกับการนำไปสู่การลงมือปฏิบัติโดยถือเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน ซึ่ง ดร.สมิลา อัสมา ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก แสดงความชื่นชมที่รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องนี้

สำหรับกิจกรรมการทบทวน UHPR ตลอดช่วงวันที่ 21-29 เมษายน 2565 มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องของการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ในสถานประกอบการและผู้ประกันตน การดูแลแรงงานทุกเชื้อชาติ ติดตามการดำเนินงานในพื้นที่ชลบุรี และสมุทรสาคร กิจกรรมหน่วยงานเครือข่ายและชุมชนในกรุงเทพมหานคร มีการฝึกซ้อมแผนด้วยสถานการณ์สมมติ โดยหน่วยงานจากกระทรวงต่างๆ ที่ร่วมดำเนินมาตรการรับมือภาวะฉุกเฉินกรณีโรคโควิด 19 และสัมภาษณ์ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการป้องกันควบคุมโรค ทำให้เห็นการประสานงานหลายภาคส่วนจนถึงในระดับชุมชน

Advertisement

เปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่าย “สลากดิจิทัล” วันแรกมีผู้สมัคร 2,920 ราย เปิดรับสมัครถึง 10 พ.ค.นี้

People Unity News : วันนี้ (4 พฤษภาคม 2565) เวลา 10.00 น. พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า หลังจากที่เปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือสลากดิจิทัลไปเมื่อวานนี้ เป็นวันแรก มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ เป็นตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัล จำนวน 2,920 ราย โดยสำนักงานสลากฯจะเปิดรับสมัครไปจนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ผ่านทางเว็บไซต์ www.glo.or.th ทั้งนี้ หากถึงกำหนดในการเปิดรับสมัครเบื้องต้นแล้วยังได้จำนวนตัวแทนสลากดิจิทัลไม่ครบตามที่กำหนดไว้ สำนักงานฯจะพิจารณาเปิดรับสมัครเพิ่มจากกลุ่มผู้สมัครลงทะเบียนซื้อ-จองล่วงหน้าปี 2565 ต่อไป

ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อไปอีกว่า คุณสมบัติของผู้สมัครจะต้องเป็นตัวแทนจำหน่ายรายย่อยทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค  หรือ ผู้ซื้อจองล่วงหน้าที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้ว เมื่อสำนักงานฯพิจารณาคุณสมบัติแล้ว จะดำเนินการจัดทำสัญญาตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัล เบื้องต้นจัดทำเป็นสัญญา 1 ปี  โดยจะได้รับสลาก 5 เล่ม ตามสัญญานี้สัญญาเดียวเท่านั้น  สำหรับสลากที่จะได้รับสลากรายละ 5 เล่มนั้น จะนำเข้าสู่ระบบจําหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มของสำนักงานฯทั้งหมด เพื่อทำการจำหน่ายผ่านแอปฯ เป๋าตังและถุงเงิน ของธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป

พันโท หนุน ศันสนาคม กล่าวในตอนท้ายว่า โครงการจำหน่ายสลากฯผ่านแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือสลากดิจิทัลนี้ เป็นหนึ่งในมาตรการที่สำนักงานสลากฯมุ่งหมายจะใช้ในการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ประกอบกับมาตรการอื่นๆไม่ว่าจะเป็น โครงการสลาก 80 ซึ่งขณะนี้เปิดให้บริการแล้ว 209 จุด ในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคกลาง คาดว่าจะครบทุกภูมิภาคในเดือนกรกฎาคม 2565 ส่วนโครงการลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ที่มีผู้สมัครเข้ามาทั้งรายเก่าและรายใหม่จำนวนกว่า 1 ล้านราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยืนยันการเป็นผู้ขายจริง ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินการอีกระยะหนึ่ง สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะยาวด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่นั้น จะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและศึกษาผลกระทบทางสังคม  คาดว่าจะลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นได้กลางปีนี้

Advertisement

กรมทางหลวง เพิ่มเส้นทางให้รถวิ่ง 120 กม./ชม. อีก 3 เส้นทาง เริ่ม 1 พ.ค.นี้

People Unity News : 30 เม.ย. 65 นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่กรมทางหลวง (ทล.) ได้เริ่มเปิดให้รถวิ่งใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. (เฉพาะช่องทางขวาสุด) ในเส้นทางนำร่อง (ระยะที่ 1) ที่ ทล. 32 ถนนสายเอเชีย ช่วงบางปะอิน – อ่างทอง กม. ที่ 4+100 – 50+000 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้ทางได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการเดินทาง และได้ประกาศให้ใช้ความเร็ว 120 กม./ชม. ในระยะที่ 2 เพิ่มอีก 6 สายทาง เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 ประกอบด้วย ทล.1 สนามกีฬาธูปะเตมีย์ – ประตูน้ำพระอินทร์ กม. ที่ 35+000 – 45+000 จังหวัดปทุมธานี ทล.1 หางน้ำหนองแขม – วังไผ่ กม. ที่ 306+640 – 330+600 จังหวัดนครสวรรค์ ทล.2 บ่อทอง – มอจะบก กม. ที่ 74+500 – 88+000 จังหวัดนครราชสีมา ทล.32 อ่างทอง – โพนางดำออก กม. ที่ 50+000 – 111+473 จังหวัดอ่างทองและสิงห์บุรี ทล.34 บางนา – ทางเข้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กม. ที่ 1+500 – 15+000 จังหวัดสมุทรปราการ และ ทล. 304 คลองหลวงแพ่ง – ฉะเชิงเทรา กม. ที่ 53+300 – 63+000 จังหวัดฉะเชิงเทรา

ปัจจุบัน ทล. ได้กำหนดเพิ่มเส้นทางให้ใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. และไม่ต่ำกว่า 100 กม./ชม. ในช่องทางขวาสุด ในระยะที่ 3 ตามประกาศผู้อำนวยการทางหลวงแผ่นดิน โดยจะมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป จำนวน 3 สายทาง ทั้งขาเข้าและขาออก ประกอบด้วย ทล.4 จำนวน 2 ช่วง ได้แก่ เขาวัง – สระพระ ระหว่าง กม. ที่ 160+000 – 167+000 และระหว่าง กม. ที่ 172+000 – 183+500 จังหวัดเพชรบุรี  (เป็นช่วงๆ) ทล.9 บางแค – คลองมหาสวัสดิ์ ระหว่าง กม. ที่ 23+400 – 31+600 กรุงเทพมหานคร และ ทล.35 นาโคก – แพรกหนามแดง กม. ที่ 56+000 – 80+600 จังหวัดสมุทรสงคราม (เป็นช่วงๆ) ซึ่ง ทล. โดยแขวงทางหลวงในพื้นที่ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมในการรองรับการใช้อัตราความเร็วใหม่ในช่วงสายทางดังกล่าว โดยคำนึงในเรื่องความปลอดภัยกับประชาชนผู้ใช้ทางสูงสุด

อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้ทำการประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนผู้ใช้ทางได้ทราบอย่างต่อเนื่อง โดยได้บูรณาการร่วมกับตำรวจในพื้นที่ ตำรวจทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ใช้ทางขับขี่ด้วยความระมัดระวังปฏิบัติตามกฎจราจร ป้ายเตือน ป้ายแนะนำ หากประชาชนผู้ใช้ทางต้องการแจ้งอุบัติเหตุหรือสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง โทร. 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) สายด่วนมอเตอร์เวย์ โทร. 1586 กด 7 และตำรวจทางหลวง โทร. 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง

Advertisement

“อนุชา” ชี้ขายสลากบนแพลตฟอร์ม ต้องมีปริมาณมากพอ ปัญหาสลากเกินราคาจะลดลง คาดเริ่มงวด 16 มิ.ย.ได้

People Unity News : วันนี้ (27 เมษายน 2565) เวลา 15.00 น. ณ ห้องประชุมอเนกประสงค์ชั้น 3 สานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้ เป็นการประชุมเพื่อรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะ โดยในเบื้องต้น ที่ประชุมได้เห็นชอบ มาตรการที่จะเพิ่มความเข้มข้นในการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคา ได้แก่ มาตรการทางแพ่ง มาตรการทางอาญา และมาตรการทางกฎหมายอื่นๆ โดยมาตรการทางแพ่ง ต้องมีการแก้ไขสัญญาการรับสลากไปจำหน่าย ระหว่างสำนักงานสลากฯ กับตัวแทน รายย่อย และสมาคม องค์กร โดยเพิ่ม “หน้าที่และความรับผิดชอบ” ในการควบคุมกำกับดูแลตัวแทนจำหน่าย เพื่อแก้ไขและลดปัญหาการเปลี่ยนมือของสลาก มีวางเงิน “มัดจำ” เพื่อเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญา รวมถึง การกำหนด “เบี้ยปรับ” กรณีมีการกระทำผิดสัญญา ซึ่งคณะอนุกรรมการจะศึกษาในรายละเอียดต่อไป และเห็นว่า การปรับแก้ไขรูปแบบของสัญญาสามารถดำเนินการได้ทันที นอกจากนี้ ต้องมีการเพิ่มมาตรการทางอาญา โดยเห็นควรออกใบอนุญาตให้ผู้ขายสลาก รวมถึงการใช้มาตรการทางกฎหมายอื่นๆ เช่น การกำหนดฐานความผิดเพิ่ม กรณีมีทำให้ราคาสลากมีความปั่นป่วน การขายสลากเกินราคาที่กระทำโดยเปิดเผย กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน การตรวจสอบการชำระภาษีอากร เป็นต้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความคืบหน้าของมาตรการต่างๆ ที่สำนักงานฯกำลังดำเนินการ ประกอบด้วย โครงการสลาก 80 ขณะนี้ ให้บริการแล้ว จำนวน 209 จุดใน กทม. และภาคกลาง ในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 151 ราย ภาคตะวันออก 48 ราย อยู่ระหว่างการจัดทำสัญญา และจะเดินทางไปคัดเลือกที่ภาคเหนือ และภาคใต้ อีกเกือบ 1,500 ราย ภายในเดือนพฤษภาคม 2565 เพื่อให้โครงการ สลาก 80 ทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของการจำหน่ายสลากบนแพลตฟอร์ม โดยร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย พัฒนาแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยใช้แอปถุงเงินและแอปเป๋าตัง เป็นหลัก  คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในงวด 16 มิถุนายน 2565 โดยสำนักงานฯ จะนำเสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อให้ความเห็นชอบในวันพรุ่งนี้ (28 เมษายน 2565) สำหรับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ สำนักงานฯ เตรียมนำเสนอคณะกรรมการสลากฯ เพื่อดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและศึกษาผลกระทบทางสังคม ประจาปี 2565 โดยระยะแรก จะรับฟังความคิดเห็น 2 รูปแบบ ได้แก่ สลากตัวเลข 3 หลัก และสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก หรือแบบที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน คาดว่าจะลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นได้กลางปีนี้

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนท้ายว่า กรณีแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่สำนักงานฯ กำลังทดสอบระบบและเริ่มดำเนินการเร็วๆนี้ ปริมาณสลากที่จะนำเข้าจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น ควรจะมีปริมาณมากพอที่จะสร้างแรงกระเพื่อม ทำให้ความรุนแรงของปัญหาสลากเกินราคาลดลงได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ได้ขอให้สำนักงานฯ ศึกษาวิเคราะห์ ส่วนลดจากการจำหน่าย มีความเหมาะสมหรือเพียงพอหรือไม่อย่างไร และในส่วนของมาตรการต่างๆของสำนักงานฯ ที่จะดำเนินการต่อจากนี้ไป ขอให้คณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง เร่งสร้างการรับรู้และสื่อสารให้ประชาชนอย่างแพร่หลายต่อไป สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบการค้าสลากออนไลน์เกินราคา ขอให้ประสานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการพิจารณาความเหมาะสมในการปิดให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดการค้าสลากเกินราคาในรูปแบบออนไลน์อีกต่อไป

Advertisement

Verified by ExactMetrics