วันที่ 22 เมษายน 2025

“หมอยง” ชี้บทเรียนต่อสู้โควิด 2 ปีที่ผ่านมา คือ fake news, shock news, bully ความจริงแค่ 20%

People Unity News : “หมอยง” ชี้บทเรียนต่อสู้กับโควิด 2 ปีที่ผ่านมา คือ fake news, shock news, bully มีความจริงแค่ 20% ปั่นจนสังคมสับสน เสียหาย แนะปลูกฝังหลักการเหตุผลตั้งแต่เด็ก ป้องกันหลงเชื่อ

14 มี.ค.2565. ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า โควิด 19 การต่อสู้ที่สำคัญ คือ Fake news, ข่าวร้าย (shock news, breaking news) และการให้ร้าย รังแก bully

บทเรียนสำคัญในการต่อสู้กับโรคระบาดร้ายแรงใน 2 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการให้ข้อมูลที่ไม่เป็นจริง fake news, ข่าวร้าย shock news ข้อมูลที่สร้างความสับสน โดยเฉพาะข้อมูลมีความจริงเพียง 20% แล้วใส่ความเห็น โน้มน้าว ไม่ได้อยู่บนฐานของความเป็นจริง มีข่าวที่ไม่เป็นจริง และมีการส่งต่ออันมากมายบนสื่อสังคมในยุคปัจจุบันที่แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อความจริงปรากฏ ก็ไม่มีใครตามไปแก้ข่าว

ข้อมูลดังกล่าวถ้าได้รับฟังซ้ำๆ เชื่อเลย หลายคนคงจะเชื่อ เรื่องของโรคโควิด วัคซีนในการใช้ป้องกัน ทำให้เราเสียโอกาสไปมาก

การให้ข่าวร้าย ที่เรียกว่า shock news ทั้งที่อาจจะมีความจริงเพียง 10 ถึง 20 %

การทำวิจัยเบื้องต้นมาก จะทำให้เกิดอาการหวาดกลัว เกิดขึ้น และมีผลต่อจิตใจอย่างมาก (traumatic stress) เป็นอันตรายมากต่อ ร่างกาย สังคม และเศรษฐกิจ

การให้ร้าย รังแก (bully) บนสื่อสังคม จะมีให้เห็นทุกวัน ในสื่อสังคม

ในการทำงาน จะต้องมีความหนักแน่น ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ อดทน และในที่สุดความจริงก็ปรากฏ แต่ในบางครั้งก็อดเสียดาย เสียโอกาส ในการแก้ไขต่อสู้กับโรคร้าย ได้ทันท่วงที

“สิ่งที่สำคัญ จะต้องมีการเรียนการสอน ตั้งแต่วัยเด็ก ในการเรียนรู้ สร้างความเข้าใจ ไม่ให้เชื่อในสิ่งที่ไม่ได้มีการพิสูจน์ หลักการเหตุผล พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ สิ่งไหนจริงสิ่งไหนปลอม ต้องแยกวิเคราะห์ให้ได้ การส่งต่อข้อความข้อมูล จะต้องมั่นใจว่า มีแหล่งที่มาอย่างถูกต้อง ข้อมูลนั้นจะต้องถูกต้องและเชื่อถือได้” นพ.ยง เสนอแนะ

ในกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ได้ผ่านบทเรียน เป็นจำนวนมาก ที่สอนให้เรามีใจหนักแน่น อดทน มุ่งมั่นหาความรู้ สร้างองค์ความรู้ใหม่ เพื่อต่อสู้กับโรคภัยที่อุบัติใหม่ ไม่ให้เชื่ออะไรง่ายๆ ที่ส่งกันมา บนสื่อสังคม

Advertising

ยะลาชุบชีวิต “ต้าสวุ่ยต้อ” จากอุโมงค์หลบภัย สู่แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่

People Unity News : ยะลาชุบชีวิต “ต้าสวุ่ยต้อ” จากอุโมงค์หลบภัย สู่แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่

12 มี.ค. 2565 กรมป่าไม้ และ ศอ.บต. ดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและประวัติศาสตร์ อุโมงค์ใหญ่ “ต้าสวุ่ยต้อ” ป่าสงวนแห่งชาติ อ.เบตง จ.ยะลา ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์แก่คนรุ่นหลังและนักท่องเที่ยวที่สนใจ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ ต.ค. 64 – ก.ย. 67 โดยจะเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กห. เพื่อทราบ ในพิธีเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ดอนเมือง – เบตง วันจันทร์ที่ 14 มี.ค. 65

อุโมงค์ใหญ่ “ต้าสวุ่ยต้อ” ขุดด้วยแรงคนและใช้งานในสมัยการสู้รบระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์มลายากับรัฐบาลมาเลเซีย ช่วงปี พ.ศ. 2491 – 2532 เพื่อเป็นที่หลบภัยทางอากาศ มีการขุดเจาะหลายสิบอุโมงค์ทางเข้าออกหลายทางเชื่อมโยงถึงกันคล้ายใยแมงมุม มีห้องนอนและพื้นที่ปฏิบัติการ เช่น สถานีวิทยุ ห้องเก็บเสบียง ฯลฯ นับเป็นการก่อสร้างจากฝีมือมนุษย์ที่ชาญฉลาด

Advertising

เอาแล้ว!!นายกฯกำชับตำรวจสอบคดี “แตงโม” รอบด้าน โปร่งใส ตรงไปตรงมา ตอบข้อสงสัยสังคม

People Unity News : ประยุทธ์ กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนคดี “กรณีแตงโม” รอบด้าน อย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา เพื่อตอบข้อสงสัยของสังคม

วันนี้ (11 มี.ค. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวน เร่งรัดคดีการเสียชีวิตของนางสาวนิดา พัชรวีระพงษ์  “แตงโม” โดยเร่งสืบสวนทุกข้อสงสัย อย่างรอบคอบ ตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่สำคัญต้องโปร่งใส ด้วยกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์  พร้อมให้กำลังใจการทำงานของเจ้าหน้าที่  โดยให้ยึดข้อกฎหมาย วิชาชีพและให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

“นายกรัฐมนตรียังเตือนให้ประชาชน ที่ต้องดำเนินกิจกรรมที่จะมีการรวมกลุ่มขนาดใหญ่ในสถานที่ต่างๆ อย่างพิธีไว้อาลัยของ “แตงโม” ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11 – 13 มีนาคม 2565 ณ คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ เย็นวันนี้เป็นวันแรก ทราบว่าจะมีผู้ร่วมงานวันละ 1,000 คน ก็ขอให้มีความระมัดระวังปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข Universal Prevention อย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19  ต่อไป” นายธนกร กล่าว

Advertising

ครม.อนุมัติงบ 107 ลบ. โครงการอาชีวะ ฝีมือชน พัฒนากำลังคนชายแดนใต้ นักเรียนด้อยโอกาส

11367069 - yala, thailand - december 3: unidentified students attend for religious seminar in religious seminar for thai king's birthday on dec 3, 2011 at youth center yala, thailand

People Unity News : ครม.อนุมัติกว่า 107 ล้านบาท โครงการอาชีวะ ฝีมือชน พัฒนากำลังคนชายแดนใต้ สร้างทักษะอาชีพที่มั่นคงแก่นักเรียนด้อยโอกาส

9 มี.ค. 2565 ที่ประชุม ครม. วานนี้ (8 มี.ค. 65) ครม.อนุมัติโครงการอาชีวะ ฝีมือชน พัฒนากำลังคนชายแดนใต้ กรอบวงเงินงบประมาณ 107.6 ล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2564 – 2568 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือนักเรียนด้อยโอกาสในเขตพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้เรียนรู้วิชาชีพและสร้างทักษะประกอบอาชีพที่มั่นคง

โครงการอาชีวะ ฝีมือชน พัฒนากำลังคนชายแดนใต้นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ช่วยเหลือนักเรียนด้อยโอกาสและครอบครัวผู้มีรายได้น้อย 2)สร้างโอกาสให้เยาวชนในเขตพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ได้เรียนรู้วิชาชีพอย่างมีคุณภาพ 3)ลดความเหลื่อมล้ำทางด้านการศึกษาและสร้างแรงจูงใจให้เยาวชนได้มีโอกาสสร้างทักษะในการประกอบอาชีพที่มั่นคง โดยดำเนินการในลักษณะการจัดตั้งโรงเรียนประจำในสถานศึกษาสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดสงขลา ในอำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย รวม 4 แห่ง ได้แก่ 1)วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกปัตตานี 2)วิทยาลัยอาชีวศึกษายะลา 3)วิทยาลัยการอาชีพสุไหง-โกลก และ 4)วิทยาลัยเทคนิคจะนะ สำหรับกลุ่มเป้าหมายของโครงการจะเปิดรับนักเรียน/นักศึกษาในระดับ ปวช. จำนวน 135 คนต่อชั้นเรียน และระดับ ปวส. จำนวน 247 คนต่อชั้นเรียน ซึ่งเป็นนักเรียน/นักศึกษาที่ยากจน ถูกทอดทิ้ง ไม่มีผู้อุปการะ และได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีคุณสมบัติ อาทิ 1)ครอบครัวมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี โดยใช้ข้อมูลจากผู้ที่ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเพื่อรับสวัสดิการของรัฐ 2)เป็นนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3)มีภูมิลำเนาในจังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดสงขลา ในอำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย

โครงการนี้จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและสร้างโอกาสให้นักเรียนด้อยโอกาสในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ศึกษาต่อด้านวิชาชีพอย่างทั่วถึงและมีทักษะประกอบอาชีพที่มั่นคง ทั้งนี้ ผลการดำเนินโครงการในปีงบประมาณ พ.ศ.2561 – 2563 ที่ผ่านมา มีนักเรียน/นักศึกษาเข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 858  คน แบ่งเป็นระดับ ปวช .จำนวน 318 คน และระดับ ปวส.จำนวน 540 คน ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น

Advertising

รัฐบาลเผยวัคซีนโควิดสัญชาติไทยทดสอบในคนแล้ว 4 ชนิด แบบพ่นจมูกพร้อมทดสอบในคนปีนี้

People Unity News : รัฐบาลเผย มีการวิจัยวัคซีนโควิดสัญชาติไทยกว่า 20 ชนิด ทดสอบในคนแล้ว 4 ชนิด แบบพ่นจมูกพร้อมทดสอบในคนปีนี้

5 มี.ค.2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความก้าวหน้าในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ขณะนี้มีวัคซีนอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนาจำนวนกว่า 20 ชนิด โดยวัคซีนที่มีความก้าวหน้ามากที่สุด จำนวน 4 ชนิด ได้แก่ วัคซีน Chula-Cov19 วัคซีนHXP-GPOVac วัคซีนBaiya SARS-CoV-2 Vax และวัคซีนCovigen อยู่ในขั้นการทดสอบในมนุษย์ หากทดสอบครบสามระยะ ก็จะสามารถยื่นขอขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยา (อย.) ได้

สำหรับวัคซีนตัวอื่นๆมีความก้าวหน้าอยู่ในระดับทดสอบในสัตว์ทดลอง  มีหลายประเภท ทั้งชนิดใช้ไวรัสเป็นพาหะ (Viral Vector) ชนิดโปรตีนส่วนหนึ่งของเชื้อ (Protein Subunit ) ชนิดสารพันธุกรรม (mRNA) ชนิดอนุภาคไวรัสเสมือน ( Virus-like particle: VLP) เป็นต้น ความก้าวหน้าของการพัฒนาวัคซีนต่างๆ มาจากความร่วมมืออย่างเต็มที่ของหลายภาคส่วน

การพัฒนาวัคซีนโควิด-19 แบบพ่นจมูก ซึ่งแนวโน้มจะมีการใช้เพิ่มขึ้น ข้อดีคือใช้งานง่าย เป็นวัคซีนที่พ่นละอองฝอยในโพรงจมูกผ่านเข็มฉีดพ่นยาชนิดพิเศษที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งวัคซีนไปเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในเยื่อเมือกของระบบทางเดินหายใจส่วนบนโดยตรง ซึ่งไวรัสส่วนใหญ่มักจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางจมูกและก่อตัวขึ้นในโพรงจมูกก่อนที่จะแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆของร่างกายรวมถึงปอด ทีมนักวิจัยไบโอเทค ได้พัฒนาวัคซีนพ่นจมูก “NASTVAC” ที่ผ่านการทดลองในสัตว์แล้ว คาดว่าจะสามารถผลิตตัวอย่างวัคซีนประมาณ 200-300 โดส เพื่อใช้สำหรับการทดสอบในมนุษย์ได้ในไตรมาสสองปีนี้

นอกจากนี้ ยังมีสเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด-19  ซึ่งสเปรย์แอนติบอดีได้ผ่านการทดสอบเบื้องต้นในสัตว์ทดลองมีผลเป็นที่น่าพอใจ คาดว่าจะสามารถยื่นขอขึ้นทะเบียนต่อ อย. ประมาณเดือนมิถุนายน และจะผลิตออกสู่ตลาดประมาณไตรมาส 3 ของปีนี้เช่นกัน

Advertising

ประยุทธ์ ห่วงคนไทยถูกหลอกไปทำงานกัมพูชา กำชับเจ้าหน้าที่เร่งจับแก๊งมิจฉาชีพค้ามนุษย์

People Unity News : ประยุทธ์ ห่วงคนไทยถูกหลอกไปทำงานกัมพูชา กำชับเจ้าหน้าที่เร่งจับแก๊งมิจฉาชีพค้ามนุษย์มาดำเนินคดี

3 มี.ค.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ติดตามการช่วยเหลือคนไทย 56 คน ที่ถูกหลอกให้ไปทำงานในกัมพูชากลับมาประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นการช่วยเหลือรอบที่ 9 รวมคนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 583 คน พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริง ผู้ตกเป็นเหยื่อขบวนการขอให้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมกับบันทึกประวัติไว้อย่างละเอียดมอบหมายให้ส่วนราชการในพื้นที่คอยเฝ้าระวัง เพื่อความปลอดภัย และไม่ให้ถูกหลอกเป็นเหยื่ออีก

รวมทั้งให้ติดตามกลุ่ม แก๊ง กระบวนการที่มีพฤติกรรมหลอกลวงคนไปค้ามนุษย์ หรือแรงงานทาสในต่างประเทศ หากมีหลักฐานให้ขยายผล จับกุม ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อคำชักชวนให้ไปทำงานต่างประเทศ ที่มีข้อเสนอให้ค่าตอบแทนสูง ขอให้ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ พร้อมกับเน้นย้ำเรื่องการสอบสวนหากพบเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

Advertising

เปิดหลักเกณฑ์ “ประมูลเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ”

People Unity News : กรมการขนส่งทางบก เปิดหลักเกณฑ์ “ประมูลเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ”

19 ก.พ.65 กรมการขนส่งทางบก ออกประกาศหลักเกณฑ์การกำหนดตัวอักษรประจำหมวด และกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา และเงื่อนไขการประมูลหมายเลขทะเบียนรถของแผ่นป้ายทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยสามารถใช้คำหรือข้อความที่มีตัวอักษรมากกว่า 2 ตัว หรือตัวอักษรผสมสระหรือวรรณยุกต์ได้

สำหรับความพิเศษของแผ่นป้ายทะเบียนรถรูปแบบใหม่นี้ จะเป็นคำหรือข้อความที่มีความหมายเป็นมงคล ซึ่งประชาชนสามารถร่วมเสนอคำหรือข้อความที่ต้องการใช้กับป้ายทะเบียนที่มีลักษณะพิเศษ ได้ที่ www.tabienrod.com โดยจะมีคณะอนุกรรมการพิจารณาคำหรือข้อความตามหลักเกณฑ์ ก่อนจะนำออกมาเปิดประมูลเป็นการทั่วไป

Advertising

สปสช. ขยายสิทธิให้หญิงไทยทุกสิทธิ “ฝากครรภ์” คุณภาพ กับกองทุนบัตรทองได้

People Unity News : สปสช. ขยายสิทธิให้หญิงไทยทุกสิทธิ “ฝากครรภ์” คุณภาพ กับกองทุนบัตรทองได้

16 ก.พ. 65 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ขยายสิทธิประโยชน์เพื่อดูแลหญิงไทยตั้งครรภ์ทุกสิทธิ สามารถฝากครรภ์กับกองทุนบัตรทองได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง จากเดิมได้รับสิทธิฝากครรภ์ 5 ครั้ง ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ หากมีความจำเป็น ก็สามารถนัดตรวจติดตามเพื่อดูแลเพิ่มเติมได้

นอกจากนี้ ยังมีบริการตรวจอัลตราซาวด์ การตรวจสุขภาพช่องปากและบริการขัดทำความสะอาดฟัน การตรวจยืนยันธาลัสซีเมียและภาวะดาวน์ซินโดรม ตั้งแต่การมาฝากครรภ์ครั้งแรกหรือถัดมา และตรวจซิฟิลิส ไวรัสเอชไอวี ซ้ำอีกครั้ง เมื่อใกล้คลอด

พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้สามี หรือคู่ของหญิงตั้งครรภ์ทุกราย ตรวจคัดกรองพร้อมกับหญิงตั้งครรภ์

1) ตรวจคัดกรองโรคซิฟิลิส เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากสามีสู่หญิงตั้งครรภ์และส่งผลต่อทารกในครรภ์

2) ตรวจคัดกรองโรคธาลัสซีเมีย ที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรม เพื่อประเมินความเสี่ยงของการเกิดโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงของทารกในครรภ์ได้เร็วขึ้น ช่วยให้สามารถวางแผนการดูแลครรภ์ หรือเตรียมความพร้อมของพ่อแม่ด้วย

Advertising

รัฐบาลเพิ่มสิทธิ “หลักประกันสุขภาพ” ให้เหมาะกับแต่ละช่วงวัย ตั้งแต่เด็กแรกเกิดถึง 60 ปีขึ้น

People Unity News : รัฐบาลเพิ่มสิทธิ “หลักประกันสุขภาพ” ให้เหมาะสมกับความจำเป็นของแต่ละช่วงวัย ตรงตามความต้องการที่แตกต่างกันของชายหญิง

5 ก.พ. 65 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ปี 2565 รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้แก่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ให้กับประชาชนคนไทยทุกสิทธิหลักประกันสุขภาพ โดยเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ให้เหมาะกับความจำเป็นของแต่ละช่วงวัย ดังนี้

✅กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหลังคลอด สามารถขอรับคำปรึกษาการเตรียมความพร้อมที่จะมีบุตรได้ที่หน่วยบริการประจำที่ลงทะเบียนไว้ จากเดิมการดูแลการตั้งครรภ์ในสิทธิบัตรทองกำหนดไว้อย่างน้อย 5 ครั้ง ปรับขยายเป็น 8 ครั้ง และหากมีความจำเป็นสามารถดูแลได้มากกว่านั้น

✅กลุ่มเด็กเล็กอายุ 0 – 5 ปี เมื่อทารกคลอดออกมาจะได้รับการเจาะเลือดที่ส้นเท้า เพื่อตรวจภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนและโรคฟินิลคีโตนูเรีย โดยจะเพิ่มการตรวจคัดกรองโรคทางพันธุกรรมเมตาบอลิก 40 โรค ด้วยเครื่อง Tandem mass spectrometry

✅กลุ่มเด็กโต – วัยรุ่น อายุ 6 – 24 ปี สำหรับผู้หญิงเมื่อเริ่มมีประจำเดือน มีสิทธิประโยชน์ในการตรวจเลือด เพื่อคัดกรองภาวะโลหิตจางที่อาจจะเกิดขึ้นได้ พร้อมสิทธิรับยาเสริมธาตุเหล็กและกรดโฟลิก และกลุ่มผู้ตั้งครรภ์ไม่พร้อม สามารถขอรับคำปรึกษาได้

✅กลุ่มผู้ใหญ่อายุ 25 – 59 ปี มีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม คือ

> ตรวจคัดกรองการกลายพันธุ์ของยีนโรคมะเร็งเต้านม คือ ยีน BRCA1 BRCA2 ในคนที่เป็นมะเร็งเต้านม และติดตามญาติสายตรง ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงมารับการตรวจคัดกรอง ซึ่งจะได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง

> ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี HPV DNA Test หรือแป็บสเมียร์ (Pap smear)

> ตรวจคัดกรองโรคเสี่ยงมะเร็งและมะเร็งช่องปากในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป และการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีหลังการสัมผัสเชื้อ (HIV PEP) กรณีหลังนี้ให้สิทธิในทุกกลุ่มวัย

✅กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป สิทธิประโยชน์จะมีความคล้ายคลึงกับกลุ่มวัยผู้ใหญ่ ซึ่งจะตรวจคัดกรองความดัน  เบาหวาน มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น

Advertising

ประยุทธ์ ชื่นชมผลงาน สวทช. คิดค้นชุดตรวจ ATK สัญชาติไทย “NanoCOVID-19”

People Unity News : ประยุทธ์ ชื่นชมผลงาน สวทช. คิดค้นชุดตรวจ ATK สัญชาติไทย “NanoCOVID-19”

3 ก.พ. 65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกรัฐบาล เผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชื่นชมความสำเร็จของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้คิดค้น ชุดตรวจ ATK “NanoCOVID-19” ที่นำฐานความรู้จากชุดตรวจคัดกรองไวรัสไข้หวัดใหญ่มาต่อยอดร่วมกับวัสดุตอบสนองทางด้านนาโนเทคโนโลยีและระบบเซ็นเซอร์ และได้สร้างเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับชุดตรวจใน 2 รูปแบบ ได้แก่ ATK Professional Use สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และ ATK Home Use สำหรับประชาชนทั่วไป และเชื่อมั่นว่า การคิดค้นชุดตรวจ ATK ครั้งนี้ จะสามารถต่อยอดองค์ความรู้ทำให้สามารถส่งออกชุดตรวจ ATK ไปยังตลาดโลกได้ในที่สุด

รัฐบาลพร้อมสนับสนุนงานวิจัย การพัฒนาด้านนวัตกรรม เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมทางการแพทย์เติบโต และต่อยอดในเชิงพาณิชย์ ตามยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพื่อเป็นโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่ออนาคตต่อไป

ขณะเดียวกันเมื่อใช้ชุดตรวจ ATK จำนวนมากจึงเป็นปัญหาเรื่องการจัดการขยะชุดตรวจ หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า จึงขอให้ประชาชนช่วยกันแยกขยะ เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการจัดการขยะและเพื่อรักษาสุขอนามัยที่ดี

Advertising

Verified by ExactMetrics