People Unity News : สรุปผลประชุมสุดยอด COP26 ไม่เกิดข้อตกลงใหญ่ แต่บรรลุผลข้อตกลงย่อยลดก๊าซมีเทน-ยกเลิกตัดไม้
4 พ.ย.64 บรรดาผู้นำประเทศในแอฟริกาที่เข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก หรือ COP26 ที่เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ กล่าววิพากษ์วิจารณ์ประเทศร่ำรวยว่าล้มเหลวในการปฏิบัติตามคำสัญญาที่ว่าจะมอบเงิน 100,000 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยประเทศยากจนรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ประเทศยากจนที่ส่วนใหญ่อยู่ในแอฟริกาคือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนมากที่สุด ในขณะที่ประเทศรายได้สูงซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่ม G-20 มีปริมาณการปล่อยก๊าซที่เป็นสาเหตุของปรากฏการณ์เรือนกระจกรวมกันคิดเป็น 80% ของปริมาณทั่วโลก
เมื่อสองปีที่แล้ว ประเทศร่ำรวยให้สัญญาว่าจะมอบเงิน 100,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีให้แก่ประเทศยากจนเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก แต่เป้าหมายในคำสัญญาดังกล่าวถูกเลื่อนไปเป็นปี ค.ศ. 2023 ในการประชุม COP26 ครั้งนี้
ประธานาธิบดีกาน่า นานา อัดโด ดังกวา อะคูโฟ-อัดโด กล่าวต่อที่ประชุม COP26 ในวันอังคาร แสดงความขุ่นเคืองและผิดหวังที่ประเทศพัฒนาแล้วเหล่านั้นผิดคำสัญญา
ในการประชุมครั้งนี้ ผู้นำประเทศกว่า 100 คนตกลงกันว่าจะยุติการตัดไม้ภายในปี ค.ศ. 2030 โดยมีการให้เงินอุดหนุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนรวมเกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์ และมีการลงนามในคำสัญญาร่วมระหว่างสหรัฐฯ – สหภาพยุโรป ว่าด้วยการลดก๊าซมีเทนทั่วโลกลง 30% ภายในปี ค.ศ. 2030
อย่างไรก็ตาม จีนและรัสเซียซึ่งเป็นสองประเทศที่ปล่อยก๊าซมีเทนมากที่สุดในโลก มิได้ร่วมลงนามในคำสัญญาฉบับดังกล่าว ทำให้เกิดคำถามถึงประสิทธิผลที่แท้จริงของการประชุม COP26 ครั้งนี้ว่าจะช่วยนำไปสู่การควบคุมภาวะโลกร้อนได้จริงหรือไม่
เมื่อวันอังคาร นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน กล่าวแสดงความมั่นใจต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการประชุม ขณะที่บรรดาผู้จัดงานแสดงความหวังว่า แม้จะไม่เกิดข้อตกลงในเรื่องใหญ่ๆเกี่ยวกับการลดก๊าซที่เป็นสาเหตุของปรากฏการณ์เรือนกระจก แต่การประชุมครั้งนี้ก็ทำให้เกิดข้อตกลงย่อยๆ ที่มุ่งเป้าไปที่เรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น การลดก๊าซมีเทน การยกเลิกการตัดไม้ทำลายป่า และการช่วยเหลือประเทศหมู่เกาะที่เปราะบางต่างๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ การประชุมสุดยอด COP26 ของบรรดาผู้นำประเทศต่างๆได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่คณะทำงานของแต่ละประเทศจะยังคงร่วมหารือในวาระอื่นๆต่อไปจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้
ที่มา VOA
Advertising