วันที่ 21 พฤศจิกายน 2024

รัฐบาลขับเคลื่อน “มหาวิทยาลัยปลอดบุหรี่” ป้องกันนักสูบหน้าใหม่ 

People Unity News : 10 กรกฎาคม 2565 รัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนการสร้าง “มหาวิทยาลัยให้เป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่” โดยกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงนามบันทึกข้อตกลงกับอธิการบดีสถาบันอุดมศึกษา 155 แห่งทั่วประเทศ และสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ให้มหาวิทยาลัยประกาศเป็นนโยบายสถานศึกษา จัดสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่ จัดบริการคัดกรอง บำบัด ฟื้นฟูผู้ต้องการเลิกบุหรี่ สอดแทรกเนื้อหาในการเรียน และปฏิเสธการสนับสนุนจากผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจยาสูบ

เนื่องจากบุหรี่เป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดโรคไม่ติดต่อ เช่น โรคมะเร็ง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งปัจจุบันมีนิสิต นักศึกษา สูบบุหรี่เกือบ 900,000 คน และมีการพบเห็นการสูบบุหรี่หรือได้รับควันบุหรี่เพิ่มขึ้น 5 เท่าจากปี 2560 นอกจากนี้ ยังต้องป้องกันเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อควบคุมยาสูบ พบว่าทำให้เกิดการเริ่มใช้บุหรี่ได้มากขึ้น 4 เท่าด้วย เพื่อป้องกันการเกิดนักสูบหน้าใหม่ และคุ้มครองสุขภาพเยาวชนอันเป็นอนาคตของประเทศ

Advertisement

“ครู กศน.”งง! บรรยายให้ฟัง”หญิงหน่อย”ฟัง โดนย้ายออกนอกพื้นที่เลย

People Unity News : คุณหญิงสุดารัตน์ ประกาศทวงความยุติธรรมให้ครูกศน.บ้านโต้น หลังถูกย้ายออกนอกพื้นที่ เพราะมาบรรยายให้ฟัง ทั้งที่ตั้งใจทำงานให้ประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจของตนเอง โดยระบุว่า ทำกันแบบนี้ได้หรือ ข้าราชการที่ทำงานเพื่อประชาชน ต้องถูกกลั่นแกล้ง ทวงคืนความยุติธรรมให้ครูประยุทธ

คุณหญิงสุดารัตน์ ได้เล่ารายละเอียดสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนเองได้ลงพื้นที่ตำบลบ้านโต้น อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น เพื่อมาพบกับเกษตรกรกลุ่มเกษตรอินทรีย์ อีสานเขียวบ้านโต้น ที่ทำงานร่วมกันมาหลายปี ในการสนับสนุนพี่น้องที่ปลูกข้าวอินทรีย์ พร้อมทั้งให้กำลังใจ เพราะขณะนี้ ข้าวเปลือกราคาตกต่ำมาก ทั้งที่ปีนี้ ผลผลิตข้าวของชาวนามีปริมาณน้อย จากภัยแล้งและน้ำท่วมภาคอีสาน และยังถูกกดราคาขาย โดยที่รัฐไม่ได้ลงมาเหลียวแลเลย

เกษตรกรกลุ่มเกษตรอินทรีย์ อีสานเขียวบ้านโต้น มีครูประยุทธ ขันหนองโพธิ์ เป็นผู้นำกลุ่ม ซึ่งมีความเข้มแข็ง ปลูกข้าวอินทรีย์คุณภาพ ด้วยความตั้งใจ จนได้รับใบรับรองจากกรมการข้าว เป็นข้าวอินทรีย์ระยะปรับเปลี่ยนเข้าสู่ปีที่ 3

คุหญิงสุดารัตน์ระบุอีกว่า ครูประยุทธ ขันหนองโพธิ์ เป็นหัวหน้า กศน.บ้านโต้น ครูทุ่มเททำงานให้กับชาวบ้าน พัฒนาการขายข้าวด้วยการใช้ช่องทางออนไลน์ นำเทคโนโลยีเข้ามาสร้างมูลค่าให้กับกลุ่มเกษตรอินทรีย์ของชุมชน ถึงขนาดเคยถูกเสนอชื่อให้ได้รับรางวัลอีสานทองคำมาแล้ว หน่อยเชื่อว่า ครูมีแต่ความตั้งใจดี ที่จะพัฒนาชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านมีชีวิตที่ดีขึ้น

เกษตรกรกลุ่มเกษตรอินทรีย์ อีสานเขียวบ้านโต้น ได้เข้าร่วมโครงการข้าวสานธรรม ของมูลนิธิไทยพึ่งไทย โดยคุณหญิงสุดารัตน์ได้รับซื้อข้าวคุณภาพจากเกษตรกร เพื่อมาจำหน่ายให้ผู้บริโภคในกรุงเทพฯ ได้รับประทานข้าวออแกนิกซ์ ที่ปลอดสารพิษ และยังมีคุณค่าทางอาหารมากมาย โดยปีนี้ ได้ซื้อข้าวจากเกษตรกรกลุ่มนี้ 6,000 กก. เพื่อช่วยให้เกษตรกรขายข้าวได้ในราคายุติธรรม

“แต่หลังจากตนเองกลับมาจากขอนแก่น ก็มีเรื่องให้เศร้าใจ และรู้สึกถึงความอยุติธรรม ที่ไร้เหตุผลอย่างยิ่ง เพราะมีการสั่งย้ายครูประยุทธ ข้าราชการน้ำดี ที่ตั้งใจทำงานพัฒนาชุมชนบ้านโต้นมาโดยตลอด ออกจากพื้นที่ เพียงเพราะมาทำงานกับหน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ระบุ

พร้อมยังบอกอีกว่า หลังจากที่ครูประยุทธถูกย้ายออกจากพื้นที่ คุณแม่ของครูซึ่งอายุมากแล้ว ก็ล้มป่วย เพราะเป็นห่วงลูก มิหน้ำซ้ำ เมื่อ ส.ส.บัลลังก์ อรรณนพพร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้นำเรื่องนี้มาหารือในสภา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ครูประยุทธกลับถูกตั้งกรรมการสอบ ทั้ง ๆ ที่ ไม่มีผู้ร้องเรียน หรือหาเหตุผลใด ๆไม่ได้เลย จึงชัดเจนว่านี่คือการเล่นการเมืองสกปรกของนักการเมืองเลวบางคน ที่มุ่งแต่จะใช้อำนาจเพื่อตัวเอง ไม่มองผลประโยชน์ของประชาชน

ท้ายสุด คุณหญิงสุดารัตน์ประกาศว่า ตนเองและทีมเพื่อไทย จะไม่ปล่อยให้คนดีต้องโดนผู้มีอำนาจกลั่นแกล้ง อย่างไร้ความยุติธรรม และขอยืนเคียงข้างครูประยุทธ พร้อมยืนยันว่า ครูมีแต่ความตั้งใจดีเพื่อชาวบ้านเอาประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง

“ขอเรียกร้องความยุติธรรมของครูกลับคืนมา นี่ไม่ใช่เรื่องการเมือง เป็นเรื่องการช่วยเกษตรกร ครูไม่ใช่คนของใคร แต่เป็นคนของชาวบ้านและชุมชนค่ะ แล้วทำไม ผู้มีอำนาจต้องย้ายครูประยุทธ นายกฯ ประยุทธ์ ช่วยตอบให้ชัด ๆ ด้วย” คุณฆยิงสุดารัตน์ระบุทิ้งทาย

ครม.แต่งตั้ง ธนกร วังบุญคงชนะ เป็นโฆษกรัฐบาลคนใหม่

People Unity News : 24 ส.ค. 64 คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบเปลี่ยนตัว โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จากนายอนุชา บูรพชัยศรี มาเป็นนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และย้ายนายอนุชา บูรพชัยศรี ไปเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง

นายอนุชา กล่าวอำลา จากตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ขอขอบคุณพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้ไว้วางใจให้ได้ทำหน้าที่โฆษกฯมาตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมา และตอนนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบโอกาสให้ทำงานทางด้านบริหารเพิ่มเติมและเกี่ยวข้องกับนโยบายมากขึ้นในตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความร่วมมือนำเสนอข่าวไปสู่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกันและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างสร้างสรรค์

นายอนุชา กล่าวด้วยว่า ขอบคุณเลขาธิการนายกฯ ที่ดูแลกำกับการทำงานสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงเจ้าหน้าที่และหน่วยงานทุกองค์กรที่ให้ข้อมูลข่าวสารแก่สำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อสื่อสารให้กับประชาชนได้ทันเหตุการณ์ ทั้งนี้ยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ฟังเสียงและคำเสนอแนะของประชาชนและเพื่อนำมาประกอบการทำงานรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพ จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าพลเอก ประยุทธ์รับฟังความคิดเห็นของประชาชนตลอด ในช่วงที่ตนเองเข้ามาทำหน้าที่ 1 ปีในฐานะโฆษกรัฐบาล นายกรัฐมนตรีได้ให้คำแนะนำมาตลอดว่าไม่ใช่เป็นการสื่อสารในทางเดียว แต่จะต้องสื่อสารทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อนำมาปฏิบัติและปรับปรุงให้รัฐบาลสามารถทำงานให้ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ด้านนายธนกร กล่าวว่า ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้ความไว้วางใจและให้โอกาสทำหน้าที่ในตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันจะตั้งไจทำงานอย่างสุดความสามารถ ในการที่จะสื่อสารให้กับประชาชนให้เข้าใจการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายต่างๆ นอกจากนั้นจะต้องสื่อสาร 2 ทางให้ประชาชนเข้าใจ โดยต้องรับฟังปัญหาของประชาชนที่สะท้อนมายังรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไข นอกจากนั้นจะต้องทำงานในเชิงรุกในเรื่องของระบบดิจิทัลต่างๆ ที่จะต้องสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน เนื่องจากทุกวันนี้สถานการณ์โควิด-19 เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ รัฐบาลพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย ฉะนั้นการสื่อสารกับประชาชนถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมาต้องขอชื่นชมนายอนุชาและทีมงานที่ทำหน้าที่ได้อย่างดี

Advertising

ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯแจง พ.ร.บ.ไซเบอร์ไม่คุกคามสิทธิประชาชน

People unity : 1 มีนาคม 2562 : นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ลงมติในวาระที่ 3 เห็นสมควรประกาศใช้ร่าง “พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. ….” และร่าง “พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ….” เป็นกฎหมาย ขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการเตรียมนำทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อลงพระปรมาภิไธย ก่อนประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ความสำคัญของกฎหมายทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว จะช่วยสร้างความพร้อมให้กับประเทศไทยในการรับมือความเสี่ยงและภัยคุกคามทางไซเบอร์ยุคใหม่จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลที่อาจส่งผลกระทบสร้างความเสียหายต่อความมั่นคงประเทศและเศรษฐกิจโดยรวม ตลอดจนถึงการคุ้มครองข้อมูลประชาชนทั่วไป อีกทั้งจะช่วยสร้างความมั่นใจในการใช้เทคโนโลยีดิทัลหนุนการขับเคลื่อนประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างมีเข้มแข็งและยั่งยืน

โดยหลักการสำคัญที่ต้องมี พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เพราะปัจจุบันการให้บริการสำคัญต่างๆใช้ระบบดิจิทัล ซึ่งมีความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ เช่น ไวรัส มัลแวร์ การโจมตีระบบจากอาชญากรคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจกระทบต่อการให้บริการแก่ประชาชน หรือความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ดังนั้น เพื่อให้สามารถป้องกันหรือรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างทันท่วงที กฎหมายนี้จึงมีการกําหนดหน่วยโครงสร้างพื้นฐานสําคัญทางสารสนเทศ (Critical Information Infrastructure : CII ) ทั้งหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานเอกชน ตลอดจนกําหนดให้มีมาตรฐานและแนวทางการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อให้สามารถบริการได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ โครงสร้างพื้นฐานสําคัญทางสารสนเทศ ได้กำหนดไว้ 7 ด้าน ได้แก่ ด้านบริการของรัฐที่สำคัญ เช่น ระบบการเบิกจ่ายเงินของกรมบัญชีกลาง เป็นต้น ด้านการเงิน ด้านการสื่อสารโทรคมนาคม ด้านความมั่นคง ด้านพลังงานและสาธารณูปโภค และด้านสารธารณสุข ทั้งนี้สามารถเพิ่มด้านอื่นๆได้อีกในอนาคต

“กฎหมายนี้จึงมิได้ส่งผลกระทบและมิได้ไปคุกคามสิทธิต่อประชาชนโดยทั่วไปแต่อย่างใด แต่จะสามารถป้องกันและรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างทันท่วงที เพราะปัจจุบันเกิดปัญหาการโจมตีทางไซเบอร์อยู่เสมอ ซึ่งกฎหมายได้ระบุประเภทภัยคุกคามทางไซเบอร์ไว้ 3 ระดับ (1) ภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับไม่ร้ายแรง (2) ภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับร้ายแรง และ (3) ภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับวิกฤติ”

โดยภัยคุกคามในระดับไม่ร้ายแรง หน่วยงานนั้นๆและหน่วยงานกำกับดูแลต้องดำเนินการตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ส่วนภัยในระดับร้ายแรงซึ่งทำให้บริการที่สำคัญต้องหยุดชะงัก สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงไซเบอร์แห่งชาติจะให้ความช่วยเหลือในการแก้ปัญหา โดยในการเข้าไปในสถานที่หรือเข้าไปตรวจค้น เจ้าหน้าที่จะต้องขอหมายศาล ขณะที่ภัยระดับวิกฤติต้องเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่บริการที่สำคัญถูกโจมตีจนล่มไม่สามารถให้บริการได้เป็นวงกว้าง หรือมีประชาชนเสียชีวิตและมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ จึงให้ใช้อำนาจตามกฎหมายด้านความมั่นคง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อาจต้องดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนพร้อมกับแจ้งศาลโดยเร็ว

สำหรับความจำเป็นของร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. …. เนื่องจากปัจจุบันมีการล่วงละเมิดสิทธิและข้อมูลส่วนบุคคลเป็นจำนวนมาก จนสร้างความเดือดร้อนรำคาญหรือความเสียหายให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งประเทศต่างๆได้มีการออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิและข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว และบังคับใช้แก่ผู้เก็บรวบรวมข้อมูลที่อยู่ในไทยซึ่งมีการเก็บข้อมูลของคนประเทศนั้นๆด้วย จึงต้องกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และมาตรการกำกับดูแลในการเก็บรวบรวม การใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นมาตรฐานสากล

นางสาวอัจฉรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้มี พ.ร.บ.สำคัญเพื่อการขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศไทยอีก 4 ฉบับ ซึ่งนำเสนอโดยกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ผ่านการพิจารณารับร่างในวาระ 3 เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมนำทูลเกล้าฯถวายเพื่อลงพระปรมาภิไธย ประกอบด้วย 1. ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่..) พ.ศ. …. 2. ร่างพระราชบัญญัติสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ…. 3. ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล)  และ 4.ร่างพระราชบัญญัติสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย พ.ศ……

“เป็นสัญญาณที่ดีที่ประเทศไทยจะมีความพร้อมไปสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลในมาตรฐานที่เป็นสากล ทำให้สามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงและสามารถรับมือกับภัยคุกคามซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ทั่วโลกเผชิญหน้าอยู่” ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ กล่าว

การเมือง : ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯแจง พ.ร.บ.ไซเบอร์ไม่คุกคามสิทธิประชาชน

People unity : post 1 มีนาคม 2562 เวลา 18.00 น.

นายกฯ ขอบคุณทุกฝ่าย “แก้ปัญหาค้ามนุษย์” ดันไทยสู่ “เทียร์ 2” สำเร็จ ระยะต่อไปตั้งเป้า “เทียร์ 1”

People Unity News : 10 สิงหาคม 65 ในที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 65 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รับทราบรายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ประจำปี 64

พร้อมกล่าวชื่นชมและขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันแก้ปัญหาค้ามนุษย์ จนทำให้สถานะการค้ามนุษย์ไทยอยู่ระดับ “เทียร์ 2” ซึ่งดีขึ้นกว่าเมื่อสองปีก่อน และขอให้ผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วน ประสบความสำเร็จในเป้าหมายระยะต่อไป คือการนำพาประเทศไทยไปสู่ระดับ “เทียร์ 1”

สำหรับผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ปี 64 นั้น กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ รายงานว่า จับกุมและเริ่มการดำเนินคดีอาญา 188 คดี เพิ่มขึ้นจากปี 63 ร้อยละ 41.75 และเป็นคดีที่มาจากการสืบสวนสอบสวนช่องทางออนไลน์มากที่สุด 107 คดี หรือร้อยละ 56.91 ของจำนวนคดีค้ามนุษย์ในชั้นสืบสวนทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องอีก 17 คน พร้อมให้ความช่วยเหลือและให้ความคุ้มครองผู้เสียหาย 414 คน เพิ่มขึ้นจากปี 63 ร้อยละ 79.22 สำหรับแผนการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในระยะต่อไป เช่น

✔️เพิ่มขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย 

✔️ถอดบทเรียนแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  

✔️ยกระดับศูนย์บัญชาการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน / จัดสรรอัตรากำลังเพิ่มเติม

✔️ยกระดับระบบรับเรื่องร้องทุกข์ ร้องเรียนการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน การบริหารจัดการข้อมูล และการส่งต่อคดี

✔️ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจต่อต้านการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

Advertisement

“บิ๊กตู่” เมิน 5 พรรคเล็กสร้างอำนาจต่อรอง

People Unity News : ‘บิ๊กตู่’เมิน 5 พรรคเล็กสร้างอำนาจต่อรอง พร้อมมอบ รมช.กลาโหมแจงกมธ.”เสรีพิศุทธ์”แทน “หมอระวี”ยันแค่ไปอวยพรวันเกิด”ชัชวาลล์” ย้ำยังทำงานร่วมรัฐบาล

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคเกิดความระหองระแหงจนอาจทำให้รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพว่า “ผมไม่เห็นมีเลย ใครหรือ ผมยังไม่เห็น ได้ข่าวอะไรเลย” เมื่อถามว่า แต่มีบางพรรคร่วมรัฐบาลระบุว่าอาจจะไม่ร่วมโหวตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ ประชาธิปไตยก็เป็นแบบนี้

เมื่อถามถึงกรณี 5 พรรคเล็ก เริ่มเคลื่อนไหวต่อรองอีกครั้ง หากรัฐบาลไม่สามารถชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้จะโหวตสวนรัฐบาล นายกฯกล่าวว่า ก็แล้วแต่เขา ประเทศชาติอยู่ตรงไหนตนก็ไม่รู้เหมือนกัน วันนี้เขามองประเทศชาติอยู่ตรงไหนล่ะ จะเดินเกมการเมืองกันอย่างเดียวก็ตามใจท่าน ประชาชนก็จะรู้เองว่า เลือกกันมาแล้วทำประโยชน์กันบ้างหรือเปล่า ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน
เมื่อถามย้ำว่า ดูเหมือนเป็นพฤติกรรมต่อรองทุกครั้งในการใช้เสียงรัฐบาล นายกฯ ตอบว่า “ไม่มีหรอก มาต่อรองอะไรผมไม่ได้อยู่แล้ว ยืนยันว่าไม่กังวลอะไรกับเรื่องเหล่านี้ ผมทำงานของผมให้ดีที่สุด แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องยอมรับมัน ประเทศก็ต้องรับไปด้วย ประชาชนก็เดือดร้อนไปด้วย รับไปด้วย ผมก็ทำของผมดีที่สุดแล้วแหละ”

เมื่อถามว่า นายกฯ ได้มอบหมายพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ไปชี้แจงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ กรณีการเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2563 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ไปสิ เขาให้ไปก็ไป

“หมอระวี”ยันแค่ไปอวยพรวันเกิด”ชัชวาลล์” ย้ำยังทำงานร่วมรัฐบาล

นพ.ระวี มาศฉมาดล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ได้เดินทางไปวันคล้ายวันเกิดครบรอบ76 ปี ของนายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย ซึ่งมีแกนนำ 4 พรรคเล็กเข้าร่วมอวยพรวันเกิดและประกาศการทำงานการเมืองร่วมกันได้แก่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรม นายปรีดา บุญเพลิง หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ว่า ตนไปร่วมงานวานนี้ เพราะนายชัชวาลล์ถือเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักกันเป็นการส่วนตัวและให้ความเคารพ ตั้งใจจะมาอวยพรวันเกิดเท่านั้น ไม่ได้มีนัยยะทางการเมืองซ่อนเร้น

เมื่อถามว่าทราบมาก่อนหรือไม่ว่าจะมีการประกาศรวมตัวของ 5 พรรค นพ.ระวี กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน ได้รับแจ้งเพียงแค่ว่าจะมีการจัดงานวันเกิดของนายชัชวาลล์เท่านั้น ตนก็เดินทางมาร่วม

เมื่อถามต่อว่า ในอนาคตจะมีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมกับกลุ่ม 5 พรรคหรือไม่ นพ.ระวี กล่าวว่า ในวันนี้ตนและพรรคพลังธรรมใหม่ยังเชื่อว่า สามารถทำงานร่วมกับรัฐบาล เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติได้อยู่ ส่วนตัวตนมองว่า การร่วมตัวของ 5 พรรคในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะเชื่อว่าหากรัฐบาลทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่มีการทุจริต คอร์รัปชั่น ทั้ง 5 พรรคคงจะไม่มีการตีรวนทางการเมือง เพราะ ส.ส.ทุกคนที่เข้ามาก็ต้องยึดประโยชน์ของบ้านเมืองและประชาชนเป็นหลัก

นายกฯแจกหนังสือ “The SPEED of Trust” ให้ ครม.ปลุกกำลังใจทำงาน

People unity news online : ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2560 เวลา 16.00 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผย ว่า วันนี้ตนได้แจกหนังสือ 1 เล่มให้ ครม.ไปอ่านกันชื่อว่า The SPEED of Trust เป็นหนังสือเกี่ยวกับการสร้างความไว้วางใจ คนเขียนเป็นคนมีชื่อเสียงของโลกเกี่ยวกับการสร้างแรงบันดาลใจ กระบวนการปรับทัศนคติที่จะทำให้คนมีกำลังใจในการทำงาน มีการสร้างการปลุกจิตสำนึกให้กับตัวเองและองค์กร ซึ่งตนพยายามจะขับเคลื่อนเรื่องเหล่านี้มาตลอดรวมถึงตัวเองด้วย

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ผมก็ศึกษาอ่านและทำความเข้าใจ อะไรที่ผมต้องปรับแก้กับตัวเองได้ เช่น อารมณ์ร้อน พูดจาไม่เพราะ ผมก็พยายามปรับของผมไปเรื่อย แต่ท่านก็ต้องเห็นใจผมด้วยเพราะผมก็เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งเหมือนกัน ถึงแม้จะเป็นนายกรัฐมนตรีก็ตาม อาจจะไม่ค่อยน่ารักเท่าไร แต่ผมก็ทำงานเต็มที่ เกิน 100 เปอร์เซ็นต์ของผม”

People unity news online : post 14 กันยายน 2560 เวลา 22.00 น.

“เทวัญ”แจงงบฯปี63! หนุน พศ. ลดยกเหตุจำนวนพระเณรลดลง

People Unity : “เทวัญ”แจงงบฯปี63! หนุน พศ. ลดยกเหตุจำนวนพระเณรลดลง ยันยังส่งเสริมให้พระอยู่ดูแลปลูกป่าเช่นเดิม ส่วนงบฯสนันสนุนม.สงฆ์ พศ.ไม่ได้ดูแล

วันที่ 19 ต.ค.2562 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563 ในส่วนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติอภิปรายนายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ที่ระบุลดลงว่า สาเหตุที่ลดมีอยู่หลายปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากการลดลงของพระภิกษุ และสามเณร เนื่องจากปัจจุบันนี้เยาวชนได้หันไปเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมากขึ้น ส่วนงบประมาณสนับสนุนมหาวิทยาลัยสงฆ์นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับ พศ. ประกอบกับปัจจุบันนี้มหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งสามารถบริหารจัดการตัวเองได้

“ขณะที่ข้อกังวลเรื่องจะทุบวัดและไล่พระออกจากป่านั้นก็ไม่เป็นความจริง ต่อไปนี้รัฐบาลจะสนับสนุนให้พระเป็นประหนึ่งเจ้าหน้าที่คอยดูแลป่าส่งเสริมการปลูกป่า ดังนั้นรัฐบาลนี้จึงให้การสนับสนุนพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจง

นายกฯ ประกาศไทยพร้อมเป็น “เจ้าภาพ” จัดการแข่งขันกีฬาระดับภูมิภาค

People Unity News :  21 มิถุนายน 65 ไทยพร้อมเป็น “เจ้าภาพ” จัดการแข่งขันกีฬาระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง หลังรัฐคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ดี ส่งผลให้ต่างชาติเชื่อมั่น

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ไทยได้รับความไว้วางใจจากประเทศสมาชิกในภูมิภาคให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากการที่รัฐสามารถควบคุมสถานการณ์โรคโควิด-19 ได้ดี บวกกับความพร้อมและศักยภาพในด้านอุตสาหกรรมกีฬาของไทย

ล่าสุด ประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬานานาชาติ 2 ชนิด คือ 1.สควอชเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 29 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 19 มิ.ย. 65 ณ จ.ชลบุรี และ 2.เทเบิลเทนนิสเยาวชนชิงแชมป์อาเซียน ครั้งที่ 26 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 22 มิ.ย. 65 รวมทั้งเทเบิลเทนนิสชิงแชมป์อาเซียน ครั้งที่ 12 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 28 มิ.ย. 65 ณ ไอส์แลนด์ฮอลล์ ชั้น 3 ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์

ทั้งนี้ นายกฯ ได้ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกำชับให้เร่งเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และเตรียมความพร้อมก่อนต่อยอดในการเป็นเจ้าภาพกีฬา SEA GAME 2025

Advertisement

“อาเบะ”หารือ”บิ๊กตู่” พร้อมจับมือพัฒนาอีอีซี-แก้รัฐยะไข่

People Unity News : “อาเบะ”หารือ”บิ๊กตู่”ชมบทบาทผู้นำไทยในการประชุมอาเซียนจนเกิดผลสำเร็จในการพัฒนาภูมิภาค พร้อมหารือพัฒนาอีอีซี-สถานการณ์รัฐยะไข่-กีฬา

วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2562 เวลา 08.00 น. ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พบหารือกับนายชินโซ อาเบะ (Mr. Shinzo Abe) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเยือนประเทศไทยในรอบ 6 ปี ยินดีที่อาเซียนและญี่ปุ่นบรรลุการเจรจาถ้อยแถลงร่วมของการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 22 ว่าด้วยความเชื่อมโยง พร้อมหวังว่าอาเซียนจะได้ร่วมมือกับญี่ปุ่นภายใต้ ASEAN Outlook on Indo-Pacific โดยเฉพาะในประเด็นการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การเข้าถึงบริการทางการเงิน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการปกป้องสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงการจัดการขยะทะเล นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้ญี่ปุ่นสนับสนุนการส่งเสริมความเชื่อมโยง การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งชื่นชมญี่ปุ่นในฐานะประธาน G20 ในการจัดทำเอกสารผลลัพธ์สำคัญต่างๆ ของการประชุม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง G20 Principles on Quality Infrastructure Investment ซึ่งเป็นการส่งเสริมการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยง เพื่อสอดประสานข้อริเริ่มด้านความเชื่อมโยงทั้งระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาค

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นชื่นชมบทบาทการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทย โดยเฉพาะบทบาทผู้นำของนายกรัฐมนตรีที่สามารถผลักดันให้บรรลุผลการประชุมที่สำคัญต่อการพัฒนาภูมิภาคประสบความสำเร็จ โดยญี่ปุ่นจะเดินหน้าร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป รวมถึงความร่วมมือการแก้ไขปัญหาประเด็นท้าทายสำคัญในภูมิภาคด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีทั้งสองต่างยินดีต่อความร่วมมือในการส่งเสริม SMEs และ Startups โดยมีการ การลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างบริษัทขนาดใหญ่และ Startups ของไทยและญี่ปุ่น จำนวน 6 ฉบับ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจของทั้งสองฝ่าย และการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ในไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการจัดตั้ง Startups ที่มีนวัตกรรมของรัฐบาลไทยภายใต้โครงการ Innospace (Thailand) รวมทั้ง ความร่วมมือไทย – ญี่ปุ่น ในการพัฒนาประเทศที่สาม ซึ่งมีการลงนามบันทึกช่วยจำว่าด้วยกรอบความร่วมมือแบบหุ้นส่วนระหว่างญี่ปุ่นกับไทย ระยะที่สาม (Memorandum on Japan-Thailand Partnership Programme Phase 3) เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2562 เพื่อต่อยอดความร่วมมือที่มีอยู่ในด้านการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาในประเทศที่สาม โดยเฉพาะประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และอาเซียน โดยใช้ประสบการณ์ องค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศของไทยและญี่ปุ่น

นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายยังได้หารือประเด็นความร่วมมือในภูมิภาคสำคัญ เช่น ความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียนและกรอบ G20 ซึ่งไทยและญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพในปีนี้ ความร่วมมือภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง (ACMECS) และกรอบลุ่มน้ำโขง – ญี่ปุ่น ความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) สถานการณ์ในรัฐยะไข่ และ ความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและกีฬาระหว่างไทยกับญี่ปุ่น

ก่อนจบการหารือ นายกรัฐมนตรีได้อวยพรให้ญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกใน ปี 2563

Verified by ExactMetrics