วันที่ 22 ธันวาคม 2024

การเมืองแห่งความหวัง! หนังสือขายดีอันดับหนึ่ง”ปิยบุตร”เขียน

People Unity : “การเมืองแห่งความหวัง” อันดับ 1 หนังสือขายดี – ร้าน “ก็องดิด” เตรียมจัดกิจกรรมพบปะ “ปิยบุตร” คุยหัวข้อ “หนังสือคือความหวัง”

วันที่ 25 ต.ค.2562 ร้านหนังสือก็องดิด( Candide Books) เผยแพร่เชิญชวนร่วมกิจกรรม “หนังสือคือความหวัง” โดยระบุว่า “คุยกันเรื่องหนังสือ การอ่าน และหนังสือเล่มใหม่ การเมืองแห่งความหวัง กับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ นักการเมืองที่เปิดเผยทรัพย์สินว่ามีหนังสือในครอบครอง 2,500 เล่ม ชวนคุยโดยภาณุ ตรัยเวช นักเขียนผู้เป็นหนอนหนังสือตัวฉกาจ และเป็นเจ้าของเพจ Our History เรื่องเล่า เรา โลก”

ขณะเดียวกัน ได้เปิดเผยถึง 10 อันดับขายดีประจำวันที่ 15 – 21 ตุลาคม ที่ผ่านมาของร้าน ทั้งผ่านทางหน้าร้านและทางระบบออนไลน์ ออนไลน์ www.candidebooks.com ซึ่งปรากฏว่าหนังสือ “การเมืองแห่งความหวัง” ผลงานล่าสุดของนายปิยบุตรติดในลำดับที่ 1 หนังสือขายดี โดยเป็นหนังสือรวมบทสัมภาษณ์ทุกแง่มุมชีวิต การปราศรัยทั้งการเปิดตัวพรรค นโยบายต่างๆ การหาเสียง ตลอดจนการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะ ส.ส.ที่มีบทบาทเด่นเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่อันดับ 2 และ 3 ได้แก่วรรณกรรมแปลจากญี่ปุ่น คือ “วันที่เหมาะกับขนมปัง ซุป และแมว”, “อันตัวข้าพเจ้านี้คือแมว” ตามลำดับ ส่วน “ลงเรือแป๊ะ” ผลงานของ วิษณุ เครืองาม ติดอยู่ในหนังสือขายดีลำดับที่ 4 ด้วย ทั้งนี้ กิจกรรมหนังสือคือความหวัง จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคมนี้ เวลา 17.00 -18.30 น. ที่ร้านหนังสือก็องดิด เดอะ แจมแฟคทอรี ( The Jam Factory) คลองสาน

ส.ส.-ส.ว.แห่รับ! “ธรรมนัส”ลุยหาแหล่งน้ำ แก้หนี้เกษตรกร มอบส.ป.ก.” พิจิตร-ขอนแก่น”

People Unity : “ธรรมนัส”ลุยแก้ปัญหาแหล่งน้ำขาดแคลน หนี้สินเกษตรกร จ.พิจิตร ก่อนมอบ ส.ป.ก. 4-01 จ.ขอนแก่น ลั่นเดินหน้ายึดคืนที่ดินแปลงใหญ่จากนายทุนทำผิดวัตถุประสงค์ เพื่อแจกให้เกษตรกรไร้ที่ทำกิน

วันที่ 25 ตุลาคม 2562 เวลา 09.30 น. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะทำงาน ลงพื้นที่ตรวจราชการและพบปะประชาชนจังหวัดพิจิตร โดยมีนายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมส่วนราชการในสังกัด และ ส.ส. ส.ว. ในพื้นที่ ให้การต้อนรับ ณ บริเวณห้องประชุมแฮปปี้พลาซ่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร โอกาสนี้ ร.อ.ธรรมนัส ได้เป็นประธานพิธีมอบสินเชื่อการแก้ไขหนี้นอกระบบ และพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) โครงการตลาดน้ำ การผลิตข้าวพันธุ์ กข 79 ระหว่างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ชุมชนผู้ผลิต 15 ชุมชน และบริษัท ทีบีเอสไรซ์มิลล์ จำกัด

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวช่วงหนึ่งว่า ชาวจังหวัดพิจิตร โชคดีที่มีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)และ และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) รวม 5 คน ซึ่งหลังการเลือกตั้งทุกคนก็พร้อมร่วมกันทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งการลงพื้นที่ของตนในวันนี้ ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตลอดจน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้มารับฟังปัญหาของพี่น้องเกษตกรร ทั้งปัญหาหนี้สิน และปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาแหล่งน้ำ เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ จังหวัดพิจิตร อาจจะเป็นพื้นที่หนึ่ง ที่จะเป็นเป้าหมายในการประชุม ครม.สัญจรในเร็ว ๆ นี้

จากนั้น เวลาประมาณ 14.20 น. ร.อ.ธรรมนัส พร้อมคณะทำงาน ได้เดินทางไปที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นประธานพิธีมอบหนังสืออนุญาตการเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) แก่เกษตรกร จำนวน 150 ราย พร้อมมอบปัจจัยการผลิต เมล็ดพันธุ์ปอเทือง และสระน้ำในไร่นา ณ วัดสะอาดหนองไห ตำบลหนองแปน อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น ก่อนจะมอบปัจจัยการผลิต ทั้งเมล็ดพันธุ์ปอเทือง สารเร่ง พด.1 และพด.2 รวมทั้งสระน้ำในไร่นาให้แก่เกษตรกร 119 ราย ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาล ตำบลโนนทอง อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น โดยนายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมนายเอกราช ช่างเหลา สส. ในพื้นที่และตัวแทนส่วนราชการในสังกัด หน่วยราชการส่วนท้องถิ่น และและประชาชนในพื้นที่คอยให้การต้อนรับ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงผลการลงพื้นที่ตรวจราชการในวันนี้ ว่า ในส่วนของจังหวัดพิจิตร ได้พบว่า ปัญหาหลักคือ ปัญหาแหล่งน้ำขาดแคลน ซึ่งต้นน้ำน่านกับต้นน้ำยม เวลานี้มีปัญหาตั้งแต่ นครสวรรค์ กำแพงเพชร จนถึงจังหวัดพิจิตร ซึ่งต้องรีบบริหารจัดการแบ่งน้ำให้เกษตรกรให้ทั่วถึง ทั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดพิจิตร ต้องรีบจัดการเรื่องน้ำใต้ดิน โดยเจาะบ่อบาดาล ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เข้าไปช่วย เช่นเดียวกับจังหวัดขอนแก่น ที่พบว่าลำน้ำชี มีปริมาณน้ำเหลือน้อย ทั้งที่เพิ่งเกิดเหตุอุทกภัยผ่านมาไม่กี่วัน ต้องแก้โดยสร้างประตูกักน้ำ ในลำน้ำชี จึงต้องปะสานไปทางสำนักจัดการบริหารน้ำแห่งชาติ ขอให้กรมชลประทาน บรรจุแผนให้เร่งดำเนินการเร็วที่สุด นอกจากนี้ คือปัญหาที่ทำกิน ที่วันนี้ได้มามอบ หนังสืออนุญาตการเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) และที่อยู่อาศัย แก่เกษตรกร 2 อำเภอ คือ มัญจาคีรี และ หนองเรือ ส่วนอื่นๆ ทางกรมพัฒนาที่ดิน ยังได้มามอบเมล็ดพันธุ์พืช ปุ๋ยสด ปอเทือง การช่วยปรับคุณภาพดิน ส่วนนอกเขตชลประทาน ก็มามอบแหล่งน้ำขนาดเล็ก ให้เกษตรกรหลายราย ด้วย ร.อ.ธรรมนัส ยังย้ำว่า มีนโยบายเรื่องการมอบ ส.ป.ก. 4-01 แก่เกษตรกร ไร้ที่ทำกิน โดยกำชับให้ ส.ป.ก.มอบสิทธิทำกินให้เกษตรกรจริงๆ โดยเฉพาะที่ดินแปลงใหญ่ที่กลุ่มนายทุนนำไปประกอบธุรกิจที่ผิดระเบียบผิดวัตถุประสงค์ จำเป็นต้องยึดคืน เพื่อนำมามอบให้เกษตรกรที่ไร้ที่ทำกิน จริงๆ ต่อไป

ฝรั่งในไทยส่งจม.ชม”วราวุธ”! ยกเลิกถุงพลาสติกหูหิ้วในห้าง

People Unity : ฝรั่งในไทยส่งจม.ชม”วราวุธ”! ยกเลิกถุงพลาสติกหูหิ้วในห้าง พร้อมแนะส่งเสริมช่องทางการรีไซเคิลขยะพลาสติกให้แพร่หลายมากขึ้น

วันที่ 25 ตุลาคม 2562 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โพสต์เล่าเรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “Top Varawut ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา” ถึงจดหมายที่ได้รับจากชายชาวต่างชาติรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย พร้อมพัสดุกล่องใหญ่ เป็นขยะถุงพลาสติกหูหิ้ว ที่ชายคนนี้ได้รับจากร้านค้าในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยจดหมายที่ส่งถึงรัฐมนตรีฯ ความว่า

“ตนรู้สึกดีใจมากที่ได้ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ ว่าในอีกระยะเวลาไม่ถึง 3 เดือนนี้ ประเทศไทยจะยกเลิกใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วในห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศแล้ว ถือเป็นก้าวที่ดีในการลดปัญหาขยะพลาสติกในเมืองไทย อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าการจะป้องกันขยะพลาสติกไม่ให้หลุดลอดไปสู่สิ่งแวดล้อม นอกจากวิธีลดการใช้พลาสติกแล้ว การรีไซเคิลก็สำคัญไม่แพ้กัน อยากขอให้กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมช่องทางการรีไซเคิลขยะพลาสติกให้แพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะถุงพลาสติกหูหิ้ว ที่ร้านรับซื้อของเก่าในละแวกบ้านและชุมชนไม่รับซื้อ วันนี้ตนจึงนำถุงพลาสติกหูหิ้วที่ได้รับในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งได้ผ่านการทำความสะอาดเรัยบร้อยแล้ว ส่งมาให้ท่านนำไปรีไซเคิลต่อไป”

ด้วยความนับถือ
โรเบิร์ต แมคเกรเกอร์

ด้านนาย วราวุธ หลังได้รับจดหมายและพัสดุจากนายโรเบิร์ต ก็ลงมือเขียนจดหมายตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษด้วยลายมือตนเองทันที ความว่า

“25 ตุลาคม 2562
ถึง โรเบิร์ต

ขอบคุณสำหรับจดหมายลงวันที่ 11 ตุลาคม พร้อมถุงพลาสติกหูหิ้วกล่องใหญ่ ที่ส่งมาให้ เป็นวิธีการที่ฉลาดมากในการย้ำเตือนพวกเรา โดยเฉพาะภาครัฐให้เดินหน้าแก้ปัญหาอย่างจริงจัง โปรดวางใจว่าผมจะทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่ในการผลักดันการรีไซเคิลให้แพร่หลายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมการยกเลิกใช้พลาสติกประเภทครั้งเดียวทิ้งให้เป็นจริงทั่วประเทศ ไม่แค่เฉพาะในร้านสะดวกซื้ออย่างแน่นอน

เพราะเราไม่ได้รับมรดกโลกใบนี้มาจากคนรุ่นก่อน แต่กำลังยืมโลกใบนี้มาใช้จากคนรุ่นต่อไปในอนาคต มาร่วมกันรับผิดชอบ รักษา และส่งต่อโลกใบนี้ให้เจ้าของตัวจริงกันครับ”

ด้วยความปรารถนาดี
วราวุธ ศิลปอาชา

โดยนายวราวุธ ได้เขียนบนแฟนเพจว่า การรีไซเคิล เป็นอีกประเด็นที่ตนให้ความสำคัญ และตั้งใจเดินหน้าผลักดัน เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถร่วมกันรีไซเคิลขยะพลาสติกได้อย่างสะดวกสบายมากที่สุด พร้อมทั้งขอบคุณจดหมายของนายโรเบิร์ต ที่มองเห็นความพยายามในการทำงานของตน

ทั้งนี้ หลังจาก 3 เดือนที่ผ่านมา นายวราวุธ ได้เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และดำเนินโครงการ”ลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก” โดยจับมือกับ 46 ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ทั่วประเทศ ยกเลิกแจกถุงพลาสติกหูหิ้วให้ลูกค้า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป และจ่อผ่านกฏหมายแบนพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง 4 ประเภท ได้แก่ ถุงพลาสติกหูหิ้ว หลอดพลาสติก แก้วน้ำพลาสติก กล่องโฟม ภายในปี 2564

ที่มา – https://www.facebook.com/674202746364334/posts/791495854635022/

“มนัญญา”วอน! สหรัฐฯเคารพกม.ไทย ปมแบน 3 สารพิษเกษตร

People Unity : “มนัญญา”ออกโรงวอน! สหรัฐฯอย่ายัดเยียดในสิ่งที่เราไม่ต้องการ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น ยืนยันสารเคมีพิษทำลายสุขภาพคนไทย เดินเครื่อง อุทัยธานีโมเดล เมืองปลอดสารพิษ สะอาดทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ

วันที่ 25 ต.ค.2562 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมทุกหน่วยงานของกระทรวงเกษตร ณ ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี เพื่อรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน ภายหลังการแบน 3 สารเคมี พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ให้ทุกหน่วยงาน ช่วยเหลือ ดูแล เกษตรกรในช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน ซึ่งจะนำร่องที่จังหวัดอุทัยธานี โดยมีเกษตรกร สมาชิกสหกรณ์การเกษตรในจังหวัดอุทัยธานี รวมไปถึงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล มาชูป้ายสนับสนุนนโยบายการแบนสารเคมีพิษภาคการเกษตร และ มอบดอกกุหลายสีแดง เพื่อให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก พร้อมตะโกนว่า “มนัญญา สู้สู้”

นางสาวมนัญญา กล่าวว่า ต้องการทราบความต้องการของเกษตรกรหลังจากที่เราละ ลด เลิก ใช้สารเคมีต่างๆ ไปแล้ว ซึ่งประเทศไทยเราไม่ต้องการให้มีสารเคมี หรือสารพิษที่ทำลายพี่น้องประชาชน แต่ทุกวันนี้เราต้องอยู่กับมัน เพื่ออะไร แล้วเราจะต้องทำอย่างไรต่อไป อากาศ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นของพี่น้องประชาชน ชาวไทยทุกคน ไม่มีใครมาบั่นทอนสุขภาพเราได้

ส่วนที่สถานทูตอเมริกาจะไม่ยอมให้แบนสารพิษนั้น นางมนัญญา กล่าวว่า “สถานทูตอเมริกา ต้องการให้เราใช้ต่อใช่ไหม เราต้องถามพี่น้องประชาชนคนไทย ว่าเราต้องการใช้หรือไม่ เพราะที่จริงแล้ว ระบบกฎหมายใครกฎหมายมันความต้องการของใครก็ความต้องการของมันอยู่แล้ว ถ้าเราต้องการจะให้อะไรกับใครสักคน เราต้องถามประเทศนั้น ๆ ว่าเขายอมรับหรือไม่ การยัดเยียดในสิ่งที่เราไม่ต้องการ มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น”

ส่วนที่สหรัฐอเมริกากดดันจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมติของ คณะกรรมการวัตถุอันตรายหรือไม่นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “มันอยู่ที่เรา ว่าเราจะยอมรับตรงนั้น หรือ ปฏิเสธตรงนั้น เราเดินหน้าในการแบนสาร 3 ตัว เราทำมานานแล้ว ต้องเข้าใจว่าเราทำมาหลายปีแล้ว และเมื่อหลายปีที่ผ่านมาต้องเข้าใจว่าทำไมถึงไม่ประสบความสำเร็จ และตัวดิฉันเอง ใช้เวลาทำ 3 เดือน ณ วันนี้ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ ว่าตัวดิฉันเจออะไรบ้าง ณ วันนี้ ทุกอย่างจะเริ่มเปิดเผยออกมาว่าที่ผ่านมาตัวดิฉันเอง ต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชนชาวไทย แต่ตัวดิฉันเองต้องสู้กับอะไร”

ส่วนที่ว่าจะมีการพิจารณาสารทดแทน หรือไม่นั้น นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “คือมันเป็นการพูดเฉย ๆ นะคะ ว่าสารทางเลือกหรือสารทดแทน หรือสารอะไรก็แล้วแต่ เป็นราคาที่สูง จริงๆ แล้วสารพวกนี้อยู่ในท้องตลาดที่เกษตรกรจับต้องได้อยู่แล้ว แต่ทางเลือกของเราต้องการให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ สรรพสิ่งในประเทศไทย สามารถนำมาทำปุ๋ยได้มากมาย นะคะ”

ส่วนจะทำหนังสือชี้แจงทางสหรัฐฯ หรือไม่นั้น นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “ถ้าทางสหรัฐอเมริกา ทำหนังสือมาที่กระทรวงเกษตร เราจะทำหนังสือตอบกลับไป แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นหนังสืออะไรมา เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์หรือตามไลน์ต่างๆ แต่ที่ส่งหนังสือเป็นทางการ ที่จะส่งมาที่กระทรวงเกษตร ยังไม่เห็น เรามีเหตุผลอยู่แล้วว่าทำไมต้องแบน”

เป็นที่คาดหมายหรือไม่ที่สหรัฐอเมริกา อาจจะลดการนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศไทย นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “อันนี้ก็ต้องดูต่อไปว่าหลังจากนี้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น การจะไปคาดการณ์ล่วงหน้าในสิ่งที่ยังไม่เกิด จะกลายเป็นการสร้างให้เกษตรกรตื่นกลัว หรือจะเป็นการเข้าทาง คือทุกวันนี้เราไม่ได้สู้กับเกษตรกร เกษตรกรทุกคนพร้อมแล้วที่จะ ลด ละ เลิก สารเคมี ซึ่งสารพวกนี้ไม่ได้เป็นผลดีทั้งผู้บริโภค และผู้ที่ฉีดหรือเกษตรกรอยู่แล้ว จริงๆ เรามุ่งหวังจะรักษาสุขภาพชาวไทย เราต้องการมีเกษตรกรที่น่ารักและมีครอบครัวที่สมบูรณ์ ในประเทศไทยเรามากกว่า เราจะใช้การตลาดนำผลผลิตอยู่แล้ว”

สำหรับการมาประชุมที่ จ.อุทัยธานี หลังจากการแบน 3 สารเคมี นี้จะดำเนินการอะไรบ้าง นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “เราจะให้จังหวัดอุทัยธานี เป็นเมืองปลอดสารพิษ เป็นจังหวัดแรก ๆ ที่ปลอดภัย และปลอดสารเคมี เราจะทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ใครมาอุทัยธานี ดิน น้ำ ลม ไฟ ต้องดี ต้องสะอาด ไม่ใช่แค่จังหวัดอุทัยธานี ตัวดิฉันเองจะไปให้ทุกจังหวัดเพื่อจะสร้างโมเดลแบบนี้ให้กับทุกจังหวัด เพียงแต่ว่าจังหวัดนี้เป็นจังหวัดบ้านเกิด เราก็อยากทำอะไรให้กับบ้านเกิดเมืองนอนของเรา เราเติบโตมาจากที่นี่ และเราก็เติบโตมาจากประเทศไทย เพราะเราก็นเป็นคนไทย”

“วิสาร”ลั่นตรวจเข้มงบมหาดไทย แจกงบซื้อใจส.ส.พรรคร่วม

People Unity : “วิสาร”กรรมาธิการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย ลั่นตรวจเข้มงบมหาดไทย แจกงบซื้อใจส.ส.พรรคร่วม กมธ.จ่อเรียก”บิ๊กป๊อก”พร้อมปลัดเข้าแจง

วันที่ 25 ตุลาคม 2562 นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ทางพรรคร่วมฝ่ายค้านให้ความสำคัญมาก ล่าสุดคณะกรรมาธิการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย มีมติเชิญ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวง และผู้ว่าราชการบางจังหวัดมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีการใช้งบประมาณ จำนวน 15,800 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ว่าทำอะไรไปบ้างและได้ผลสัมฤทธิ์แค่ไหน เพราะคณะกรรมาธิการได้รับการร้องเรียนมาหลายจังหวัดว่าอาจจะมีการทุจริตเกิดขึ้น

นอกจากนี้ ทราบว่าที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยมีการจัดสรรงบประมาณในการแก้ปัญหาภัยธรรมชาติ ทั้งน้ำท่วมและภัยแล้งอย่างไม่เป็นธรรม และเน้นจังหวัดที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะได้มากกว่าจังหวัดที่มีส.ส.ฝ่ายค้าน อาทิ จังหวัดระนองได้รับงบประมาณแก้ปัญหาภัยธรรมชาติ 200 ล้านบาท เท่ากับจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่กว่ามาก ในขณะที่จังหวัดศรีษะเกษ กับ สุรินทร์ได้ไปจังหวัดละ 500 ล้านบาท

นอกจากนี้พบว่ามีความไม่ชอบพากลมากในการใช้งบประมาณ หลายพื้นที่ใช้วิธีพิเศษในการอนุมัติงบประมาณให้กับผู้รับเหมา จึงอยากให้รัฐมนตรีตอบคำถามของคณะกรรมาธิการว่าเหตุผลในการใช้จ่ายงบประมาณมาจากอะไรทำไมจังหวัดเล็กได้มากกว่าจังหวัดใหญ่และทำไมต้องวิธีพิเศษในการอนุมัติ งบประมาณ

นายวิสาร กล่าวด้วยว่า ในขณะนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลในการใช้จ่ายเงินงบประมาณของกระทรวงมหาดไทยมีข้อร้องเรียนมาก โดยจะเก็บเป็นข้อมูลและสืบหาข้อเท็จจริงเพื่อเตรียมไว้ใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพราะในงบประมาณปี 2562 ทีผ่านมาจากการตรวจสอบพบปัญหาที่เชื่อได้ว่ามีการใช้งบประมาณที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายและอาจจะมีการทุจริตเกิดขึ้นได้

นอกจากนี้ตนจะตรวจสอบการใช้งบประมาเกี่ยวกับการแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรทั้งภัยแล้ง น้ำท่วม จากการตรวจสอบโครงการในหลายจังหวัดที่ประสบปัญหาและได้รับงบประมาณไปพบว่ามีขบวนการกินหัวคิวกับงบประมาณในโครงการขุดลอกคูคลองจนผู้รับเหมาทิ้งงานหรือไม่กล้ารับงานเป็นจำนวนมาก ผู้รับเหมาเรียกงบประมาณนี้ว่างบไม้ไอติม ซึ่งมีการกินจนไม่เหลือแม้กระไม้ไอติม ซึ่งตนจะตรวจหลักฐานไว้อภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างแน่นอน

“เทพไท”ฟันธง!”ธนาธร”เป็นกมธ.งบฯ63ได้ แนะตั้งสติสัมปชัญญะไร้อคติ 4 ต่อกัน

People Unity : “เทพไท”ฟันธง!”ธนาธร”เป็นกมธ.งบฯ63ได้ ยื่นตีความรกศาล แนะตั้งสติสัมปชัญญะไร้อคติ 4 ต่อกัน

วันที่ 25 ต.ค.2562 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเป็นกรรมาธิการงบประมาณของนายธนาธร จึงรุงเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ว่า เรื่องนี้มีความชัดเจนอยู่ตัวข้อบังคับการประชุมสภา และกฎหมายรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ไม่เห็นว่าจะต้องมีประเด็นใดนำมาโต้เถียงกันอีก และไม่ควรจะนำมาเป็นประเด็นทางการเมือง ที่จะดิสเครดิตกันอีก ถ้าจะยึดเอาความถูกต้องมากกว่าความถูกใจ

“นายธนาธรมีสิทธิ์เป็นกรรมาธิการได้ในสัดส่วนของบุคคลภายนอกโดยปราศจากข้อสงสัย แต่ถ้าจะเอาความถูกใจของใครบางคน หรือจะอ้างเอาความเหมาะสม ก็ไม่มาตรฐานใดมาวัดได้ บ้านเมืองของเรา ต้องใช้หลักกฎหมายในการปกครองประเทศ ต้องยึดหลักการมากกว่าหลักกู บ้านเมืองถึงจะเดินหน้าไปได้” นายเทพไท กล่าและว่า

การยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความขัดแย้งในประเด็นนี้ จะเป็นการสร้างคดีให้รกโรงรกศาลหรือไม่ อยากให้ทุกฝ่ายตั้งสติ ทำงานการเมืองอย่างตรงไปตรงมาโดยปราศจากอคติใดๆ บ้านเมืองก็เดินไปด้วยความเรียบร้อย มีความสงบสุข ไม่มีความขัดแย้งใดๆในสังคม แต่ถ้ามัวแต่จะแบ่งฝักแบ่งฝ่าย คอยจับผิดกัน ถ้าไม่ใช่พวกของตัวเองทำอะไรก็ผิดทั้งหมด บ้านเมืองก็จะเดินหน้าไปไม่ได้ ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ไม่มีอคติใดๆต่อกัน จะทำให้การเมืองเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่นแน่นอน

 

“ชวน”ชี้คุณสมบัติ “ธนาธร” เป็นสิทธิ์ 64 กมธ.งบฯ63ยื่น

People Unity : “ชวน”ชี้คุณสมบัติ “ธนาธร” เป็นสิทธิ์ 64 กมธ.งบฯ63ยื่น พร้อมชงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้ขาด ชี้สามารถสงวนคำแปรญัติติในวาระ 2-3ได้ “ช่อ”ปลื้มจากนี้ได้เห็น”ธนาธร”ในสภาฯเข้มข้นขึ้น

วันที่ 25 ต.ค.2562 นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ให้วินิจฉัยคุณสมบัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งถูกศาลสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว สามารถนั่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ได้หรือไม่ ว่า นายสุชาติสามารถทำหนังสือมายังตนได้ แต่กรณีดังกล่าวตนมองว่าฝ่ายที่ดูจะมีปัญหา คือ กมธ.ฯ งบประมาณ ทั้ง 64 คน หากพบว่าคุณสมบัติของนายธนาธรขัดต่อการดำรงตำแหน่งต้องยื่นมายังตนเพื่อพิจารณาตามกระบวนการคือส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวินิจฉัย

“กรณีการตั้งกมธ.ผมไม่ใช่ผู้แต่งตั้ง ประธานสภาฯ จึงไม่มีอำนาจวินิจฉัย รวมถึงการลาออกจากส.ส. ของคุณธนาธร เพื่อคงโควต้ากมธ.บุคคลภายนอก ซึ่งกมธ.งบประมาณจะต้องเป็นคนร้องหรือทำเรื่องเข้ามา”นายชวน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าบทบาทของนายธนาธรต่อกมธ.งบประมาณ จะแปรญัตติ และใช้สิทธิอภิปรายวาระ 2-3 ในการประชุมสภาฯ ได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ปรากฎบทบาทของนายธนาธร ว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง ดังนั้นหากคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญระบุให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ส.ส. นายธนาธรจึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ได้ยกเว้นแต่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการสงวนความเห็นและอภิปรายทำได้ฐานะกมธ.ฯเท่านั้น

“ช่อ”ปลื้มจากนี้ได้เห็น”ธนาธร”ในสภาฯเข้มข้นขึ้น

น.ส.พรรณิการ์ วาณิชโฆษกพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ทวิตเตอร์ @Pannika_FEP ระบุว่า “ชัดเจนนะคะ จากนี้ไปได้เห็นบทบาทธนาธรในสภาเข้มข้นต่อเนื่องแน่นอนในฐานะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณฯ ภาษีประชาชนทุกบาทจะต้องถูกจัดสรรเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนเต็มเม็ดเต็มหน่วยที่สุด อนาคตใหม่”

พล.อ.ประวิตรชื่นชมผลการประเมินความโปร่งใส กกท.ระดับ AA

People Unity :  พล.อ.ประวิตรชื่นชมผลการประเมินความโปร่งใส กกท.ระดับ AA สั่งขับเคลื่อนต่อเนื่อง เน้นประสิทธิภาพ

เมื่อ 25 ต.ค.62 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกรองนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า เวลา 10.00น.วันนี้(25ต.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ครั้งที่9/2562 ณ ห้องประชุม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการก่อสร้างสนามกีฬาประจำจังหวัดได้แก่จ.มหาสารคาม(รับมอบบางส่วน) จ.สกลนคร(รับมอบแล้ว) จ.อำนาจเจริญ(รับมอบบางส่วน) จ.สมุทรปราการ(รับมอบบางส่วน) จ.สระแก้ว(รับมอบแล้ว) จ.เพชรบูรณ์(รอการรับมอบ) และจ.นราธิวาส (ยกเลิกสัญญาจ้าง) พร้อมทั้งรับทราบรายงานผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2562 วงเงิน 2,997,790,700 บาท,งบรายจ่ายประจำ(เงินอุดหนุน)วงเงิน 2,435,953,900 บาทและ งบลงทุนวงเงิน 561,836,800 บาท

ที่ประชุมได้เห็นชอบการต่อสัญญาการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกรายการโมโตจีพีประจำปี 2564-2568(5ปี) เห็นชอบการโอนเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้กับจังหวัดที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติรุ่นอายุ 13ปี,15ปี,17ปีและ 19ปีรอบแชมเปี้ยนส์ชิพ 2018-2019 (เพิ่มเติม)และเห็นชอบประกาศกำหนดชนิดกีฬาที่สามารถจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมกีฬาเพิ่มเติมได้แก่กีฬาเคอร์ลิ่ง(Curling)และพาวเวอร์ลิฟติ้ง(Powerlifting)

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณคณะกรรมการฯและการกีฬาแห่งประเทศไทยที่ช่วยกันทำงานอย่างเต็มกำลังเพื่อขับเคลื่อนงานของการกีฬาแห่งประเทศไทยจนได้รับผลการประเมินระดับดีเยี่ยม อย่างน่าพอใจ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการยังคงต้องช่วยกัน กำกับดูแลและติดตามการดำเนินงานที่เหลือให้เป็นไปตามแผนงาน จะต้องมีการประเมินผลตามตัวชี้วัดพร้อมกำชับ กกท. จะต้องบริหารงานและงบประมาณ ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ โดยมุ่งให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อนักกีฬาและการกีฬาของประเทศชาติในภาพรวม

พิษAI! “สมคิด” เรียกอธิการบดีถกรับมือคนตกงาน 28 ต.ค.นี้

People Unity : ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผย พิษAI! “สมคิด” เรียกอธิการบดีถกรับมือคนตกงาน 28 ต.ค.นี้

วันที่ 25 ต.ค.2562 ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เชิญอธิการบดีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ รวมถึงบริษัทเอกชนรายใหญ่มาประชุมเรื่องการผลิตและพัฒนากำลังคน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ การตอบโจทย์กำลังคนในวัยทำงานในระบบ รวมถึงคนที่ต้องการจะเปลี่ยนงาน

ทั้งนี้เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดการว่างงานจำนวนมาก ซึ่งเพื่อที่จะหารือร่วมกันถึงการปรับปรุงและพัฒนาทักษะ การเพิ่มทักษะ และการสร้างทักษะใหม่ โดยภาคเอกชนอาจจะมาร่วมจัดทำหลักสูตรในอนาคต เพื่อให้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน เช่น ภาคเอกชนอาจจะทำหลักสูตรเอง แต่ให้ อว. เข้าไปส่งเสริมสนับสนุน หรือถ้าภาคเอกชนทำไม่ได้ก็ให้มหาวิทยาลัยเข้าช่วยทำ หรือมหาวิทยาลัยทำหลักสูตรเอง ซึ่งหลักสูตรที่จะทำให้จะทั้งแบบที่มีปริญญากับไม่มีปริญญาก็ได้ ดร.สุวิทย์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะมีการสำรวจความต้องการทักษะอาชีพ เพื่อจัดทำหลักสูตรให้สอดคล้อง โดยเฉพาะหลักสูตรที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ

1. กลุ่มสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มที่ไม่จำเป็นต้องมีปริญญา แต่ต้องพัฒนาไปสู่เกษตร 4.0 ให้ได้ 2. กลุ่มอุตสาหกรรม ที่จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าไปใช้ในกลุ่มคนทำงาน เช่น วิศวกร ช่างฝีมือ เป็นต้น และ 3. กลุ่มภาคบริการ เช่น การท่องเที่ยวแบบสร้างสรรค์ โดยในการทำงาน 3 กลุ่มนี้จะให้มหาวิทยาลัยเข้ามาจับคู่กัน เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) จะเน้นเรื่องภาคบริการ และความโดดเด่นของท้องถิ่น ที่จะมายกระดับความสามารถ ด้านภาษา การท่องเที่ยว การเกษตร ส่วนมหา วิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.)

และอีก 3 พระจอมเกล้าจะเน้นเรื่องของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เป็นต้น ขณะที่มหาวิทยาลัยกลุ่มใหญ่จะเน้นเรื่องการรับมือต่อกระแสดิสรัปชั่น ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาทักษะ การเพิ่มทักษะ และการสร้างทักษะใหม่ อย่างไรก็ตามการดำเนินการทั้งหมด เพื่อตอบโจทย์การ แก้ปัญหาแรงงานว่างงานในระบบ แรงงานที่ต้องการเปลี่ยนงาน และอาชีพในอนาคต ซึ่งตนได้ประสานกับ 10 บริษัทรายใหญ่ เพื่อให้มาทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยในการพัฒนาคนใน ยุคดิสรัปชั่นด้วย

“บิ๊กตู่”โยน! “อนุทิน”ลั่นไม่ชี้แจงสหรัฐฯ ยันมติเดิมแบน 3 สารพิษตาม กม.ไทย

People Unity : “บิ๊กตู่”โยนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจงปมทูตสหรัฐฯ ส่งหนังสือค้านแบนไกลโฟเซต อ้างไทยไร้หลักฐานวิทย์พิสูจน์สารอันตราย “อนุทิน” ลั่นไม่ชี้แจงบอกพิจารณาตาม กม.ไทย ยันตามมติเดิม

เมื่อเวลา 09.35 น.วันที่ 24 ตุลาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่ไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ปี 2562 โดยก่อนการประชุมผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีสถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อคัดค้านการห้ามใช้สารไกลโฟเชต ซึ่งเป็น 1 ใน 3 สารเคมีทางการเกษตร ที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยกเลิกใช้ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป โดยพล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธตอบถึงกรณีดังกล่าว พร้อมกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ชี้แจง”

ลั่นไม่ชี้แจงสถานทูตสหรัฐฯขอไทยทบทวนมติแบนสารพิษ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จริงๆ แล้วสภาหอการค้าสหรัฐอเมริกา ลงนามตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 2562 แต่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีการประชุมพิจารณาแบนสารเคมีเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำไมมีการออกหนังสือล่วงหน้ามาถึง 11 วัน เช่นนี้แสดงว่า เป็นการกดดันหรือไม่ จะมาบอกว่าจะมีปัญหาเรื่องการนำเข้า ตนคงไปว่าเขาไม่ได้ เพราะเขาห่วงเรื่องกระเป๋าของเขา ไม่ได้ห่วงสุขภาพของคนไทย เพราะฉะนั้นเราต้องมีมาตรการ ถ้ากังวลว่าจะมีสารตกค้างก็ต้องมาพิสูจน์ว่าจะนำเข้ามาโดยไม่มีสารตกค้าง แต่นี่กลัวขายของไม่ได้เลยมาบอกให้รัฐบาลยกเลิกการห้ามสารพิษเพื่อให้ใช้ได้ แล้วเราจะยอมหรือไม่

นายอนุทิน กล่าวว่า คณะกรรมการวัตถุอันตรายประชุมภายใต้กฎหมายของประเทศไทยใช่หรือไม่ หรือประชุมภายใต้กฎหมายต่างชาติ เพราะฉะนั้นกฎหมายไทยให้อำนาจคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาการใช้หรือห้ามใช้ ซึ่งคณะกรรมการวัตถุอันตรายจำนวน 29 คน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมีความรู้ทั้งนั้น ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะมาเรียกประชุมในวันเดียว แต่มีการเตรียมมาเป็นปี และมีมติการห้ามใช้สารเคมีเหล่านี้ ไม่ได้มีการกดดันใดๆ ทางการเมืองแม้แต่น้อย มติที่ออกมาให้มีการยกเลิกการใช้สารเคมีเหล่านี้ก็เป็นไปตามสำนึกความห่วงใยต่อพี่น้องและสุขภาพประชาชน

เมื่อถามว่า สถานทูตสหรัฐฯ ส่งหนังสือโดยแนบท้ายหนังสือของสภาหอการค้าสหรัฐฯ ขอให้ไทยมีการทบทวนมติแบนสารเคมี โดยเฉพาะไกลโฟเซต ไทยจะยืนยันตามมติเดิมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนของกระทรวงสาธารณสุขยืนยันตามมติเดิม ส่วนกระทรวงอื่นก็ต้องแล้วแต่เจ้ากระทรวง เราก้าวก่ายกันไม่ได้ จริงๆ ก็ไม่ควรก้าวก่ายกัน กฎหมายใครกฎหมายมัน เมื่อถามต่อว่าจะต้องชี้แจงปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้ส่งหนังสือมาถึงตน และตนก็ไม่ได้มีหน้าที่ต้องไปชี้แจง แต่หน้าที่ของ สธ.คือรับผิดชอบสุขภาพประชาชน อะไรก็ตามที่บริโภคเข้าไปแล้วเป้นอันตรายต่อร่างกาย สัมผัสแล้วเกิดแผลพุพอง สูญเสียอวัยวะ ตรงนี้เป็นคนละเรื่องกับการค้า ซึ่ง สธ.เกี่ยวข้องกับสุขภาพชีวิตคน เรื่องการค้าไม่ใช่เรื่องที่ สธ.จะให้ความเห็นอะไรได้ หรือจะมาเปลี่ยนแปลงจุดยืนของ สธ.ได้

Verified by ExactMetrics