วันที่ 22 พฤศจิกายน 2024

“บิ๊กตูี”ปดกลางสภาฯ แฉบางคนเรียกรับเงินบริษัทก่อสร้างรถไฟฟ้า

People Unity : “บิ๊กตูี”ปดกลางสภาฯ แฉบางคนเรียกรับเงินบริษัทก่อสร้างรถไฟฟ้า ลั่นหากพบหลักฐานดำเนินคดีทั้งหมด ไม่บังคับใครให้รับร่างงบฯปี63

วันที่ 18 ตุลาคม 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏรในการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ในประเด็นการทุจริตในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลาย 10 ปี ไม่สามารถดำเนินการได้ หรือดำเนินการแล้วมีปัญหา เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ในช่วงระยะทาง 1 กม. ซึ่งเป็นเรื่องการจัดทำแผนงานและงบประมาณ

แต่เมื่อตนเข้ามาก็พยายามเร่งรัดดำเนินการ กระทั่งแก้ไขปัญหารถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ พร้อมกับเร่งรัดพัฒนารถไฟฟ้าอีกหลายสาย เพราะเป็นความต้องการของประชาชน สมัยที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นการลงทุนโดยใช้งบประมาณของภาครัฐที่ตั้งไว้อยู่แล้ว และได้ตั้งคณะกรรมการทำงานแบบรัฐร่วมเอกชน ฉะนั้น หากแบ่งการลงทุนเป็น 3 ส่วน รัฐจะลงทุน 1 ส่วน เอกชน 2 ส่วน เพื่อลดความเสี่ยงของฝ่ายรัฐ ซึ่งคณะกรรมการจะพิจารณาด้วยความถูกต้องเหมาะสม และรับฟังทุกฝ่าย รัฐบาลไม่สามารถชี้สั่งได้ ตนไม่เคยทำแบบนั้น

“ส่วนเรื่องอ้างว่ามีการทุจริตต่างๆ ผมก็ได้ข่าวเหมือนกันว่ามีบางคนไปเรียกรับบริษัทเขา เดี๋ยวผมจะหาข่าวแล้วกันว่าใคร และถ้าใครพบเรื่องพวกนี้ ถ้ามีหลักฐานไปหามาเลยว่าใครเรียกเงิน ถ้าตรวจสอบพบจะดำเนินการทั้งสิ้น ขอให้เข้าใจกันตามนี้ ขอให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น เมื่อเช้าที่หายไปเพราะไปงานจิตอาสา จากนั้นก็ไปถวายพระพร เห็นว่ามีคนถามหา นั่งรถก็ฟังท่าน เปิดทีวีฟังท่านมาตลอด เมื่อคืนกลับไปถึงตีหนึ่งครึ่ง ตีสองเข้านอนยังได้ยินเสียงของท่านอยู่เลย ดังนั้นจึงคิดถึงท่านเลยต้องมา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวและว่า

สำหรับเรื่องงบประมาณจะรับหรือไม่รับก็เรื่องของท่าน ตนไปบังคับไม่ได้ แต่สำคัญคือประเทศต้องเดินหน้า ส่วนเรื่องกู้เงินนั้น ส่วนเรื่องที่บอกว่ารัฐบาลกู้เงินจำนวนมาก อยากให้ไปดู เพราะหลักฐานมีอยู่ในช่วงรัฐบาลไหนไม่รู้ ระยะเวลาเท่านี้หากนับ 3- 5 ปี ของตนถ้ารวมยอดแล้วตนกู้น้อยกว่า และเท่าที่จำได้หากย้อนไปในระยะเวลา 10 ปี มีรัฐบาลเดียวซึ่งตนไม่อยากเอ่ยนาม ที่ทำงบประมาณแบบสมดุลได้ เพราะ IMF ไม่ทำโครงการแบบขาดดุล เป็นช่วงการกู้ IMF เป็นรัฐบาลไหนไม่รู้ไปหามา อย่าไปพูดแบบไม่มีหลักฐานไม่มีอะไร

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าส่วนเรื่องเงินคงคลังที่ถามกันว่าทำไมไม่เอามาใช้ ท่านไม่เข้าใจระบบงบประมาณอะไรเลยจะพูดแบบนี้ไม่ได้ กระทรวงการคลังต้องมีเงินสำรองจ่ายเก็บไว้ก้อนหนึ่ง จากนั้น เวลาที่จะใช้คณะกรรมการก็จะต้องอนุมัติ และจะมีการเบิกจ่ายงบประมาณเรื่อยๆ ตอนนี้ในระยะเวลา 1 ปี จะมีการเก็บรายได้ส่งคลังถึงปีละ 2 ครั้ง ดังนั้น ในช่วงที่ภาษียังเข้ามาไม่ถึงแต่โครงการยังเดินหน้า ก็จะใช้เงินคงคลังใช้จ่ายไปก่อนจึงค่อยชดเชย

ส่วนกรณีบ่อนที่สีลม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อย่าแค่ถ่ายรูปอย่างเดียวให้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเลย และตนจะตรวจสอบเอง แจ้งเดี๋ยวนั้นจะไปทันที แต่ก็ขอบคุณที่แนะนะ และขอให้คนเชื่อมั่นเป็นหัวหน้ารัฐบาล

“บิ๊กตู่”ถามกลับ”สมพงษ์”สั่งรัฐบาลทำงบฯใหม่ได้หรือ?

People Unity : “บิ๊กตู่”เข้าสภาฯพิจารณงบฯวันที่สองอย่างอย่างอารมณ์ดีรับเครียดอะไรเลย หงุดหงิดนิดหน่ือยถามกลับ”สมพงษ์”สั่งรัฐบาลทำงบฯใหม่ได้หรือ

วันที่ 18 ต.ค.2562 ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 โดยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดีถึงภาพรวมการอภิปรายเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ว่า ก็ไม่มีอะไร วันนี้ก็ให้เกียรติสภา ให้เกียรติผู้แทน ไม่ได้เครียดอะไรเลย เมื่อถามว่ากังวลถึงผลโหวตหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ไม่มีหรอก จะมีอะไรละ

เมื่อถามว่าจากการฟังฝ่ายค้านอภิปรายร่างงบประมาณมีประเด็นอะไรจะนำไปปรับปรุงร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องของงบประมาณตนดูมาแล้ว ซึ่งต้องรอในวาระที่ 2 ที่กรรมาธิการงบประมาณจะพิจารณาอีก

เมื่อถามอีกว่า นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านระบุให้รัฐบาลไปร่างพ.ร.บ.งบประมาณมาใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวพร้อมมีสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อยว่า “เขาสั่งได้เหรอ”

เมื่อถามว่าระหว่างที่ชี้แจงการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อวันที่ 17 ต.ค. เหมือนนายกฯจะมีอารมณ์หงุดหงิด พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่าก็เป็นทหารเก่าไง ต้องการพูดให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา รู้สึกว่าเราก็ห่วงใยชีวิตของเขา เพราะเจ้าหน้าที่ก็เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายทุกวัน เบี้ยเลี้ยง เงินเดือน ก็มีเท่านั้น ไม่ได้มากมายอะไร แต่รักษาบ้านเมืองให้อยู่อย่างสุขสงบประชาชนปลอดภัย แต่เขาเองก็อันตรายบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก แล้วเราจะไปพูดให้เสียหายเสียกำลังใจไม่ได้ อย่างอื่นไม่ได้มีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่าคิดว่าฝ่ายค้านจะเข้าใจสิ่งที่ชี้แจงไปหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ต้องไปถามเขาสิจ๊ะ”

การเมือง/วิเคราะห์ : จับตาเกมถล่ม “อุตตม”-“สนธิรัตน์” ลดทอนอำนาจบารมี “ขั้วสมคิด”!!??

People Unity : กลายเป็น “จำเลย” ทั้งคู่ “อุตตม สาวนายน” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กับกรณีที่พรรคเล็กก่อหวอดเคลื่อนไหวจะแยกตัวออกจากซีกรัฐบาล เนื่องจากไม่พอใจที่ไม่ได้รับการเหลียวแลไม่ได้รับการจัดสรรตำแหน่งในรัฐบาล

โดยถูกหัวหน้าพรรคการเมืองที่มี ส.ส.เพียงเสียงเดียวอย่าง “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์”  หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งเป็นแกนนำพรรคเล็กที่ออกมาก่อหวอด ระบุชื่ออย่างไม่ให้เกียรติว่า เหตุผลหนึ่งที่จะแยกตัวออกจากรัฐบาลเพราะไม่พอใจอุตตมและสนธิรัตน์

ถูกหัวหน้าพรรคเล็กไม่ให้เกียรติยังไม่พอ ยังมาถูกผู้ใหญ่ในพรรคอย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า”  รมช.เกษตรและสหกรณ์ ออกมาให้ท้ายมงคลกิตติ์และพรรคเล็ก ว่า “ใครไปสัญญาอะไรกับพรรคเล็กไว้ ก็ต้องไปทำตามสัญญา ไปแก้ปัญหากันเอง” ซึ่งพูดอย่างนั้นแม้ไม่เอ่ยชื่อใครก็รู้ว่าหมายถึงอุตตมและสนธิรัตน์ เพราะในช่วงที่กำลังรวบรวมเสียง ส.ส.เพื่อให้ได้เกินกึ่งหนึ่งเพื่อสนับสนุน “ลุงตู่” เป็นนายกฯ ทั้งอุตตมในฐานะหัวหน้าพรรคและสนธิรัตน์ในฐานะเลขาธิการพรรคต้องแบกรับภาระวิ่งสิบทิศเพื่อหาเสียงมาสนับสนุน “ลุงตู่” ให้พอ โดยไปเกลี้ยกล่อม 10 พรรคเล็กให้มาสนับสนุน “ลุงตู่” เป็นนายกฯด้วย

แต่มาตอนนี้ ตั้งรัฐบาลเสร็จ ผู้ใหญ่ในพรรคได้ตำแหน่งรัฐมนตรีกันถ้วนหน้า แฮปปี้กันแทบทุกกลุ่มทุกมุ้ง เหลือแต่ 10 พรรคเล็กที่ยังไม่มีตำแหน่งในรัฐบาลให้ ก็โยนความผิดและภาระความรับผิดชอบมาให้อุตตมและสนธิรัตน์แก้ปัญหาเพียงลำพัง มันก็ออกจะ “โหด” เกินไป

ถ้าตอนนั้นอุตตมและสนธิรัตน์ไม่ไปเกลี้ยกล่อม 10 พรรคเล็กมาตุนเสียงไว้ในมือก่อน 10 พรรคเล็กก็คงไปเป็นฝ่ายค้าน และบางที “ลุงตู่” ก็อาจไม่ได้นั่งเก้าอี้นายกฯ เพราะเสียงสนับสนุนไม่พอ และจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ

เหตุการณ์จัดตั้งรัฐบาลตอนนั้น ก็รู้กันอยู่ว่ายากลำบากขนาดไหน เพราะ 7 พรรคฝ่ายค้านก็สู้จนยกสุดท้ายในการชิงตั้งรัฐบาล แต่ที่เหนื่อยหนักที่สุดและเป็นสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานที่สุด คือ พรรคใหญ่ต่างเล่นตัวต่อรองไม่ยอมตอบโอเคเข้าร่วมรัฐบาลง่ายๆ ทั้งประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา ทั้งอุตตมและสนธิรัตน์จึงต้องใช้กลยุทธ์ “ป่าล้อมเมือง” หันไปดึงเสียงเล็กเสียงน้อยของ 10 พรรคเล็กมาตุนไว้ก่อน เพื่อให้มีอำนาจต่อรองกับพรรคใหญ่ ไม่ใช่ตัวเปล่าเล่าเปลือย และเพื่อมิให้ 10 เสียงของพรรคเล็กพรรคน้อยกระเด็นไปเป็นของฝ่ายค้าน ไม่งั้นจะยุ่งไปกันใหญ่

ล่าสุด อุตตมและสนธิรัตน์รับผิดชอบแก้ปัญหา 10 พรรคเล็กสำเร็จ ด้วยการหาเก้าอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ให้กับพรรคเล็กนั่งกันถ้วนหน้า โดยตนเองนั้นมอบเก้าอี้ผู้ช่วยรัฐมนตรีในกระทรวงที่ตนเป็นรัฐมนตรีให้ คือ คลัง และ พลังงาน

คิดแล้วมันน่าน้อยใจ สร้างพรรคมากับมือ กระสุนก็หาให้พรรค ทำทุกอย่างจน “ลุงตู่” ได้เป็นนายกฯ พรรคได้เป็นแกนรัฐบาล พอวันนี้ถูกพวก “มาทีหลัง” ดิสเครดิตไม่เว้นแต่ละวัน เป้าหมายลึกๆนั้นหวังแซะให้พ้นเก้าอี้หัวหน้าและเลขาฯพรรค โดยจะเชิด “ลุงตู่” เป็นหัวหน้าพรรค “ลุงป้อม” เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค ต่อจากนั้นจะได้ยึดเก้าอี้ รมว.พลังงาน และคลัง ลดทอนอำนาจบารมี “ขั้วสมคิด” !!??

จับตาเกมโค่น “อุตตม”-“สนธิรัตน์” ให้ดีๆ ทั้งการหาเหตุโจมตีการทำงานในพรรคและการทำงานในกระทรวงการคลังและพลังงาน?

การเมือง/วิเคราะห์ : จับตาเกมถล่ม “อุตตม”-“สนธิรัตน์” ลดทอนอำนาจบารมี “ขั้วสมคิด”!!??

People Unity : post 13 สิงหาคม 2562 เวลา 12.00 น.

“บิ๊กตู่”บอกจะไม่พูดเรื่องถวายสัตย์ฯไม่ครบอีก ย้ำขอรับผิดชอบคนเดียว รบ.ต้องทำงานต่อให้ได้

People Unity : นายกรัฐมนตรี ยืนยัน กรณีกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ขอรับผิดชอบเพียงผู้เดียว ย้ำทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว พร้อมมุ่งหวังให้ทุกคนทำงานต่อไป

8 สิงหาคม 2562 – พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงนโยบายเร่งด่วนแก่หัวหน้าส่วนราชการ โดยตอนหนึ่งกล่าวถึงประเด็นเรื่องของรัฐธรรมนูญที่ขณะนี้กังวลว่าจะทำอย่างไรให้ทำงานได้ โดยบอกว่าพร้อมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว และขอโทษรัฐมนตรี ยืนยันทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว พร้อมมุ่งหวังให้ทุกคนทำงานต่อไป และต้องไปศึกษารัฐธรรมนูญว่าเขียนไว้อย่างไร

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญของไทยมีมาแล้วหลายฉบับ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละช่วง ซึ่งรัฐธรรมนูญทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยและเป็นสากล แต่สำคัญที่สุด ปัญหาไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ แต่คือการนำไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งทั้งหมดอยู่ที่ตัวผู้ปฏิบัติว่าจะทำอย่างไรให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ต้องทำด้วยความสุจริต ไม่เอื้อประโยชน์ หรือทำให้เกิดความขัดแย้ง ส่วนประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น มีกฎหมายและกรอบไว้แล้ว ซึ่งตนเองไม่ขัดข้อง แต่ต้องสอบถามประชาชนด้วยว่าถ้าแก้แล้วได้ประโยชน์อย่างไร ทั้งนี้ตนเองมีความสุขกับการทำงานและเห็นความตั้งใจที่ทุกคนจะทำงานเพื่อประชาชน ฝากพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้านต้องทำงานให้ประชาชนเป็นสำคัญ ส่วนเรื่องอื่นๆก็ให้เป็นเรื่องการเมืองไป

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า วันนี้เป็นเวทีที่จะทำให้ข้าราชการได้พบปะกับคณะรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่าคนทุกคนคาดหวังว่าประเทศไทยจะเดินหน้าไปได้อย่างไร ด้วยความสงบเรียบร้อย ซึ่งเรื่องใดก็ตามที่บกพร่องและมีปัญหา ก็ต้องขอโทษ และรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว แต่อย่างไรก็ตามประเทศต้องเดินหน้าและรัฐบาลนี้ต้องทำงานให้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเองเชื่อมั่นและตั้งใจไว้ โดยจะไม่ตอบคำถามเรื่องนี้อีกแล้ว

การเมือง : “บิ๊กตู่” บอกจะไม่พูดเรื่องถวายสัตย์ฯไม่ครบอีกแล้ว ย้ำขอรับผิดชอบคนเดียว รัฐบาลต้องทำงานต่อไปให้ได้

People Unity : post 8 สิงหาคม 2562 เวลา 11.00 น.

“ประยุทธ์” นั่งประธาน ครม.เศรษฐกิจ รูปแบบไหนดีที่สุด?

People Unity : 26 กรกฎาคม 2562 : ปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศและประชาชนในขณะนี้ แต่จากการที่รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลผสม ทำให้กระทรวงเศรษฐกิจต่างๆกระจายไปอยู่กับหลายพรรค คือ พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ทำให้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานด้านเศรษฐกิจ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน กังวลว่าจะทำให้การทำงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลเกิดปัญหาไม่เป็นเอกภาพ หรือไม่บูรณาการกันดีพอ หรืออาจเกิดการประสานงากัน จนทำให้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมีปัญหาและเกิดความล่าช้า

จนล่าสุด นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯซึ่งดูแลงานด้านเศรษฐกิจมาตลอดในสมัยรัฐบาลประยุทธ์ 1 ได้เสนอให้มีการตั้ง ครม.เศรษฐกิจ ขึ้นเป็นการเฉพาะในรัฐบาลประยุทธ์ 2  โดยให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน ครม.เศรษฐกิจ และเป็นประธานการประชุม ครม.เศรษฐกิจ เพื่อทำให้การทำงานด้านเศรษฐกิจมีเอกภาพ

ผมเห็นด้วยว่า การมี ครม.เศรษฐกิจ จะทำให้เกิดเอกภาพในการทำงานด้านเศรษฐกิจได้ดีขึ้น ซึ่งผมคิดว่ารูปแบบและโครงสร้างของ ครม.เศรษฐกิจ ควรเป็นดังนี้

1.พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน ครม.เศรษฐกิจ นายสมคิดเป็นรองนายกฯกำกับดูแลนโยบายเศรษฐกิจมหภาคทั้งหมดของรัฐบาลและของทุกกระทรวงเศรษฐกิจ นายอนุทิน รองนายกฯจากพรรคภูมิใจไทย กำกับดูแลการทำงานของกระทรวงคมนาคม และกระทรวงท่องเที่ยว ภายใต้ประธาน ครม.เศรษฐกิจ และภายใต้นโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่กำกับดูแลโดยนายสมคิด เช่นเดียวกับ นายจุรินทร์ รองนายกฯจากพรรคประชาธิปัตย์ กำกับดูแลการทำงานของกระทรวงเกษตร และกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้ประธาน ครม.เศรษฐกิจ และภายใต้นโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่กำกับดูแลโดยนายสมคิด

รูปแบบนี้ แก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ดีที่สุด

2.พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน ครม.เศรษฐกิจ นายสมคิดเป็นรองนายกฯกำกับดูแลนโยบายเศรษฐกิจมหภาคทั้งหมดของรัฐบาลและของทุกกระทรวงเศรษฐกิจ นายกฯหรือประธาน ครม.เศรษฐกิจ กำกับดูแลกระทรวงเศรษฐกิจทุกกระทรวง คลัง อุตสาหกรรม พลังงาน ดิจิทัล เกษตร พาณิชย์ คมนาคม ท่องเที่ยว ส่วนนายอนุทิน และนายจุรินทร์ กำกับดูแลกระทรวงอื่นที่มิใช่กระทรวงเศรษฐกิจ เช่น สาธารณสุข พัฒนาสังคม และหน่วยงานอื่นที่นายกฯมอบหมาย

รูปแบบนี้ดีที่สุดในความเห็นของผม นโยบายก็เป็นเอกภาพ การทำงานก็ขึ้นตรงต่อนายกฯคนเดียว หรือนายกฯจะมอบหมายให้นายสมคิดซึ่งเป็นรองนายกฯที่กำกับดูแลนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ช่วยกำกับดูแลบางกระทรวงก็ได้ เช่น พลังงาน ดิจิทัล อุตสาหกรรม

โดย : พูลเดช กรรณิการ์

การเมือง : “ประยุทธ์” นั่งประธาน ครม.เศรษฐกิจ รูปแบบไหนดีที่สุด?

People Unity : post 26 กรกฎาคม 2562 เวลา 01.20 น.

หรือ “บิ๊กป้อม” กำลังจะ “หาเหา” ใส่หัวตัวเองตอนแก่?

People Unity : มีกระแสข่าวว่า “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตัดสินใจเล่นการเมืองเต็มตัว โดยจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ต่อจากนั้นจะดำรงตำแหน่งเป็นประธานพรรค หรืออาจเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเอง

หากข่าวนี้เป็นจริง พรรคพลังประชารัฐจะหนีไม่พ้นถูกมองเป็น “พรรคทหาร” เต็มตัว จากที่ก่อนหน้านี้ถูกมองอยู่แล้วว่าเป็นพรรคสืบทอดอำนาจของ คสช. ซึ่งผลที่จะตามมาก็คือ พรรคพลังประชารัฐจะทำงานการเมืองยากขึ้น เพราะมีภาพเป็นพรรคทหาร และเป็นจุดอ่อนให้ 7 พรรคการเมืองฝ่ายค้านใช้ต่อต้านพลังประชารัฐได้ถนัดมือยิ่งขึ้น ส่วนกลุ่มประชาชนหรือมวลชนฝ่ายประชาธิปไตยก็จะมีข้ออ้างหรือเงื่อนไขออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง

ขณะที่ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ก็จะเจอกับแรงต้านจากพรรคฝ่ายค้านและกลุ่มประชาชนไม่ต่างจากพรรคพลังประชารัฐไปด้วย เพราะพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ก็ต้องจับตาดูว่าอยู่ดีๆไม่ว่าดี “บิ๊กป้อม” จะ “หาเหา” ใส่หัวตัวเองตอนแก่ และ “หาเรื่อง” นำมาสู่รัฐบาลหรือไม่?

การเมือง : หรือ “บิ๊กป้อม” กำลังจะ “หาเหา” ใส่หัวตัวเองตอนแก่?

People Unity : post 22 กรกฎาคม 2562 เวลา 02.31 น.

ด่วน! เปิดนโยบายหลักของรัฐบาล 12 ด้าน และนโยบายเร่งด่วน 12 เรื่อง

People Unity : 20 กรกฎาคม 2562 มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลว่า นโยบายของรัฐบาลประยุทธ์ 2 ที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ จะประกอบไปด้วยนโยบายหลัก 12 ด้าน และนโยบายเร่งด่วน 12 เรื่อง ดังนี้

นโยบายหลัก 12 ด้าน

1.การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์

2.การสร้างความมั่นคง ความปลอดภัยของประเทศ และความสงบสุขของประเทศ

3.การทำนุบำรุงศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม

4.การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก

5.การพัฒนาเศรษฐกิจ และความสามารถในการแข่งขันของไทย

6.การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ และการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค

7.การพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก

8.การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ และการพัฒนาศักยภาพคนไทยทุกช่วงวัย

9.การพัฒนาระบบสาธารณสุขและหลักประกันทางสังคม

10.การพื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

11.การปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐ

12.การป้องกันปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และกระบวนการยุติธรรม

นโยบายเร่งด่วน 12 เรื่อง

1.การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน

2.การปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน

3.มาตรการเศรษฐกิจเพื่อรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก

4.การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม

5.การยกระดับศักยภาพของแรงงาน

6.การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต

7.การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21

8.การแก้ไขปัญหาทุจริตประพฤติมิชอบในวงราชการ ทั้งฝ่ายการเมือง ฝ่ายราชการประจำ

9.การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้

10.การพัฒนาระบบการให้บริการประชาชน

11.การจัดเตรียมมาตรการรองรับภัยแล้งและอุทกภัย

12.การสนับสนุนให้มีการศึกษา รับฟังความคิดเห็นประชาชน และดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ

การเมือง : ด่วน! เปิดนโยบายหลักของรัฐบาล 12 ด้าน และนโยบายเร่งด่วน 12 เรื่อง

People Unity : post 20 กรกฎาคม 2562 เวลา 23.31 น.

“สมคิด” ชง “ประยุทธ์” ตั้ง ครม.เศรษฐกิจ ระบุสร้างเอกภาพการทำงาน-กลั่นกรองงานดีขึ้น

People Unity : จากสภาพที่รัฐบาลประยุทธ์ 2 เป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค ทำให้กระทรวงเศรษฐกิจทุกกระทรวงกระจายไปอยู่ในความดูแลของพรรคการเมืองหลายพรรค โดยพรรคพลังประชารัฐได้ดูแลกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงดิจิทัล ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ดูแลกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ และพรรคภูมิใจไทยดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงท่องเที่ยวฯ จึงอาจก่อให้เกิดปัญหาการทำงานไม่เป็นเอกภาพ ขาดการบูรณาการร่วมกัน และยังจะทำให้การทำงานแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมีความล่าช้า

ล่าสุด นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดตั้ง ครม.เศรษฐกิจ ระหว่างการหารือกับ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 ก.ค.2562 ว่า จะเสนอนายกฯ ตั้ง ครม.เศรษฐกิจ เพื่อสร้างกลไกขับเคลื่อนนโยบาย ลดข้อจำกัดรัฐบาลหลายพรรคดูแลงานด้านเศรษฐกิจ โดยจะให้นายกฯเป็นประธานการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ส่วนการพิจารณาให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจหรือไม่ ประเด็นนี้นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณาว่าควรใช้รูปแบบ ครม.เศรษฐกิจ หรือควรใช้รูปแบบอื่นในการดำเนินการทำงานของทีมเศรษฐกิจที่เหมาะสมกว่า ซึ่งรัฐบาลในอดีตมีการตั้ง ครม.เศรษฐกิจขึ้นมาขับเคลื่อน เช่น รัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รัฐบาลพรรคไทยรักไทยสมัย 1 และรัฐบาลพรรคไทยรักไทยสมัย 2 ที่เป็นรัฐบาลพรรคเดียวก็ยังมี ครม.เศรษฐกิจ

“ขณะนี้กำลังดูลู่ทางว่าจะขับเคลื่อนงานเศรษฐกิจอย่างไร เพราะเรารู้ข้อจำกัดของรัฐบาล โดยถ้าใช้รูปแบบ ครม.เศรษฐกิจ ผู้ที่เข้าร่วมประชุมก็เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การตั้ง ครม.เศรษฐกิจขึ้นมาจะทำให้การขับเคลื่อนนโยบายด้านเศรษฐกิจเร็วขึ้น เพราะเป็นการกลั่นกรองมาแล้วอีก 1 ขั้นก่อนเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ซึ่ง ครม.เศรษฐกิจถือเป็นกลไกที่ดีและนายกรัฐมนตรีสามารถสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เลย” นายสมคิดกล่าว

การเมือง : “สมคิด” ชง “ประยุทธ์” ตั้ง ครม.เศรษฐกิจ ระบุสร้างเอกภาพการทำงาน-กลั่นกรองงานดีขึ้น

People Unity : post 20 กรกฎาคม 2562 เวลา 19.31 น.

“อนุทิน” น้อมนำพระราชดำรัส ร.10 เป็นแนวทางการทำงาน

People Unity : รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการที่กระทรวงสาธารณสุข

เช้าวันนี้ (18 กรกฎาคม 2562) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โดยได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อความเป็นสิริมงคล  และมอบแนวทางการทำงานให้แก่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข โดยมี นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ให้การต้อนรับ

นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข เป็นกระทรวงที่มีคุณูปการใหญ่หลวงต่อประเทศและประชาชนคนไทย หลักในการทำงานช่วงแรกระหว่างรอการแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรีต่อรัฐสภา ประการสำคัญคือขอให้เร่งรัดงานสนองพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมราชจักรีวงศ์ เพื่อเป็นการถวายและเทิดพระเกียรติให้ประชาชนได้ทราบถึงพระราชกรณียกิจของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่ทำเพื่อประชาชน โดยขอน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่16 กรกฎาคม2562 มอบให้ทุกท่านเป็นแนวทางการทำงาน ดังนี้ “งานใดๆ ก็ต้องมีอุปสรรค งานใดๆ ก็ต้องมีปัญหา เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องแก้ปัญหา และเข้าหางาน เพื่อให้การบริหารประเทศ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามสถานการณ์โดยแก้ไขให้ตรงเป้าตรงจุดและมีความเข้มแข็งอดทน”

ในเรื่องการบริการประชาชน ขอเน้นการให้บริการประชาชนที่ดี มีคุณภาพ เพราะเมื่อประชาชนมีสุขภาพที่ดี จะช่วยลดรายจ่ายของภาครัฐ โดยมีสโลแกนว่า “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ร่างกายแข็งแรง ทำให้เศรษฐกิจประเทศแข็งแรง” ทั้งนี้ จะลงพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อให้กำลังใจ/รับฟังปัญหา ขอให้การต้อนรับเป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่เป็นภาระต่อพื้นที่

ด้าน ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาปฏิบัติงานด้านสุขภาพ โดยจะร่วมแรงร่วมใจในการพัฒนางานด้านสาธารณสุขให้ดียิ่งขึ้น สิ่งที่ต้องการเห็นมี 3 ประเด็นคือ 1. รณรงค์ให้ประชาชนออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ เน้นการดูแลสุขภาพของตนเอง ป้องกันการเจ็บป่วย ลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาโรค 2. พัฒนาระบบบริการสาธารณสุข ลดความแออัดในโรงพยาบาลทุกระดับ โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน  3.ใช้เทคโนโลยีสนับสนุนการพัฒนาระบบสาธารณสุขให้ประชาชนเป็นเจ้าของข้อมูลทางการแพทย์ของตนเอง มีการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพในทุกหน่วยบริการ

การเมือง : “อนุทิน” น้อมนำพระราชดำรัส ร.10 เป็นแนวทางการทำงาน

People Unity : post 18 กรกฎาคม 2562 เวลา 22.50 น.

ไม่มีฝักฝ่าย! “สนธิรัตน์” เผยจะนำนโยบายดีๆของพรรคฝ่ายค้านมาบรรจุในนโยบายรัฐบาล

People Unity : นับเป็นนิมิตหมายใหม่ที่ดีของการเมืองไทย ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน เมื่อพรรคฝ่ายรัฐบาลได้มีการหารือกันจะนำเอานโยบายของพรรคฝ่ายค้านมาพิจารณาเพื่อนำส่วนที่ดีและมีประโยชน์มาบรรจุในนโยบายของรัฐบาล และพร้อมที่จะพบปะหารือกับพรรคฝ่ายค้านเพื่อรับฟังแนวคิดและความคิดเห็นจากพรรคฝ่ายค้านด้วย โดยไม่แบ่งเขาแบ่งเรา หรือผูกขาดความคิดในการแก้ไขปัญหาของประเทศไว้ที่ฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น

โดยเมื่อวันที่ 12 ก.ค.2562 ที่ห้องประชุมทีโอที ชั้น 14 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะทำงานประสานงานและจัดทำนโยบายของรัฐบาล ได้แถลงภายหลังการประชุมคณะทำงานประสานงานและจัดทำนโยบายของรัฐบาล ครั้งที่ 2  เพื่อเตรียมทำเนื้อหาด้านนโยบายแถลงต่อรัฐสภา โดยมีตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล และคณะทำงานร่วมประชุม ว่า การจัดทำนโยบายไม่อยากให้ถูกมองว่าเป็นเรื่องที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดเท่านั้น ดังนั้นประเด็นใดที่เป็นประโยชน์กับประชาชนจะนำมาพิจารณาเขียนไว้ด้วย ส่วนรายละเอียดที่จะนำไปปฏิบัตินั้น หากมีโอกาสตนอยากหารือร่วมกับพรรคการเมืองฝ่ายค้านด้วยเช่นกัน

นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อว่า ในการหารือวันนี้ (12 ก.ค.) ได้พูดคุยในเรื่องที่นายกฯบอกว่าจะนำนโยบายของพรรคฝ่ายค้านมาบรรจุด้วย โดยได้นำนโยบายของพรรคฝ่ายค้านมาพิจารณาและสังเคราะห์ในส่วนที่ดีและมีประโยชน์มาใช้ ซึ่งเราไม่อยากให้คิดว่าเป็นนโยบายของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เรามองว่านโยบายที่ดีจะต้องเป็นสิ่งที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน และสามารถนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับประชาชนได้

“นายกฯเคยแสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่าต้องเปิดกว้าง และดูว่านโยบายของพรรคฝ่ายค้านมีเรื่องใดที่ดีบ้าง เราก็ปฏิบัติตามข้อเสนอของนายกฯ โดยนำนโยบายของพรรคฝ่ายค้านมาดู เรื่องใดที่สามารถปฏิบัติได้แล้วเกิดประโยชน์กับประชาขน ก็ต้องนำมาปรับและบรรจุลงในนโยบายของรัฐบาล”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทางรัฐบาลจะหารือกับพรรคฝ่ายค้านเพื่อพูดคุยหารือถึงรายละเอียดการปฏิบัติตามนโยบายนั้นๆด้วยหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ถ้ามีโอกาสก็ดี เพราะถ้ารัฐบาลสามารถนำแนวคิดที่ดีจากทุกฝ่ายมาใช้ประโยชน์ได้ ตนคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เรายินดีหากมีโอกาสได้มาพูดคุยกัน ทั้งนี้ขอให้การทำนโยบายของรัฐบาลโดยร่วมเสร็จสิ้นก่อน แล้วจึงจะพิจารณาว่าจะเชิญฝ่ายค้านมาร่วมพูดคุยกันอีกที

การเมือง : ไม่มีฝักฝ่าย! “สนธิรัตน์” เผยจะนำนโยบายดีๆของพรรคฝ่ายค้านมาบรรจุในนโยบายรัฐบาล

People Unity : post 13 กรกฎาคม 2562 เวลา 00.50 น.

Verified by ExactMetrics