วันที่ 21 พฤศจิกายน 2024

กรมการขนส่งฯตรวจเข้มรถโรงเรียน-รถรับส่งนักเรียนรับเปิดเทอม ย้ำ!!ทุกคันต้องได้รับอนุญาต

People unity news online : เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2560 นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกได้กำชับให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศตรวจสอบความปลอดภัยและการให้บริการของรถโรงเรียนและรถรับส่งนักเรียนอย่างเข้มงวด เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดภาคการศึกษาใหม่ของโรงเรียนทั่วประเทศ โดยรถโรงเรียนต้องมีลักษณะและอุปกรณ์ส่วนควบถูกต้องครบถ้วน จดทะเบียนและขออนุญาตอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะรถรับส่งนักเรียนที่เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลทั้งในลักษณะรถสองแถวและรถตู้ ต้องได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัด ซึ่งต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด อาทิ ห้ามติดฟิล์มกรองแสงที่กระจกรอบคัน วัสดุภายในรถส่วนของผู้โดยสารต้องไม่มีส่วนแหลมคม ที่นั่งผู้โดยสารต้องยึดแน่นอย่างมั่นคงแข็งแรง และต้องไม่มีพื้นที่สำหรับนักเรียนยืนในห้องโดยสารเด็ดขาด กรณีเป็นรถสองแถวต้องมีประตูและที่กั้นป้องกันนักเรียนตก ส่วนรถตู้ต้องจัดวางที่นั่งเป็นแถวตอนตามความกว้างของตัวรถเท่านั้น ทั้งนี้ รถรับส่งนักเรียนทุกคันต้องผ่านการรับรองจากโรงเรียนหรือสถานศึกษาด้วย โดยต้องนำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดที่โรงเรียนหรือสถานศึกษาตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ โดยจะได้รับอนุญาตครั้งละ 1 ภาคการศึกษาเท่านั้น

นอกจากนี้ ผู้ขับรถรับส่งนักเรียนต้องได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ หรือเป็นผู้ขับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ซึ่งต้องไม่เคยมีประวัติเสียหายอันเกิดจากการขับรถมาก่อน รวมถึงต้องมีผู้ควบคุมดูแลนักเรียนประจำรถ ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ประจำอยู่ในรถตลอดเวลาที่ใช้รับส่งนักเรียน เพื่อดูแลความปลอดภัยให้นักเรียนตลอดการรับส่งตามมาตรฐานความปลอดภัยของรถโรงเรียนตามกฎระเบียบของกรมการขนส่งทางบก เนื่องจากอุบัติเหตุรถรับส่งนักเรียนส่วนใหญ่เกิดจากการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยของพนักงานขับรถและผู้ควบคุมดูแลประจำรถ ประกอบการกับนำรถยนต์ส่วนบุคคลมารับจ้างรับส่งนักเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยทั้งในด้านผู้ขับรถ สภาพรถ และลักษณะรถ ตลอดจนพฤติกรรมการให้บริการซึ่งไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกห่วงใยสวัสดิภาพในการเดินทางของนักเรียน นอกจากมาตรการกำกับควบคุมความปลอดภัยแล้วยังดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับรถรับส่งนักเรียนเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยจัดโครงการเสริมความรู้สู่ถนนปลอดภัย ใส่ใจบริการ แก่พนักงานขับรถรับส่งนักเรียนเป็นประจำทุกปีทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยปีนี้ในส่วนกลางกำหนดจัดอบรมวันที่ 20 พฤษภาคม 2560 ณ กรมการขนส่งทางบก  โดยมีพนักงานขับรถเข้าร่วมประมาณ 100 คน ซึ่งจะเป็นการเสริมความรู้ สร้างความตระหนักถึงบทบาท หน้าที่ความรับผิดชอบ การให้บริการที่ดี และคอยดูแลความปลอดภัยของเด็กนักเรียนอยู่เสมอ ซึ่งจะช่วยให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความรอบคอบในความปลอดภัยสูงสุด ทั้งนี้ หากพบการฝ่าฝืนพิจารณาสั่งเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ใช้รถทันที และไม่สามารถขออนุญาตได้อีกจนกว่าจะพ้น 1 ปีไปแล้ว ทั้งนี้ เพื่อยกระดับความปลอดภัยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ปกครอง ซึ่งหากพบรถรับส่งนักเรียนมีพฤติกรรมขับขี่รถไม่ปลอดภัย ดัดแปลงสภาพตัวรถหรือสภาพรถไม่ปลอดภัย บรรทุกผู้โดยสารเกิน หรือห้อยโหน ร้องเรียนได้ที่สายด่วน โทร. 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด

People unity news online : post 12 พฤษภาคม 2560 เวลา 17.53 น.

“ลุงตู่” เตือนให้ระวังมัลแวร์เรียกค่าไถ่ WannaCry ที่ระบาดทั่วโลก

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

People unity news online : เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2560 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) ว่า ขณะนี้มีมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ชื่อ WannaCry ระบาดไปยังคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Microsoft ทั่วโลก จึงฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากโลกออนไลน์

“ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์อาจดาวน์โหลดมัลแวร์ หรือโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความเสียหายแก่ข้อมูลในคอมพิวเตอร์โดยไม่รู้ตัวจากการเปิดไฟล์เอกสารที่แนบมากับ e-mail เมื่อมัลแวร์เรียกค่าไถ่ WannaCry เข้ามาอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์แล้ว ก็จะเข้าไปล็อกไฟล์เอกสารต่างๆ ทำให้ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ และขู่ให้ผู้ใช้งานจ่ายเงินค่าไถ่เพื่อปลดล็อกไฟล์เอกสาร”

นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ ดศ. เร่งตรวจสอบสถานการณ์แพร่ระบาดของมัลแวร์เรียกค่าไถ่ในไทย พร้อมเผยแพร่คำแนะนำในการป้องกันและแก้ไขให้ประชาชนทราบโดยเร็ว พร้อมฝากเตือนประชาชนที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ระบบ Microsoft หลีกเลี่ยงการเปิดเอกสารแนบ email โดยไม่จำเป็น ซึ่งหากเอกสารใดจำเป็นต้องเปิดควรตรวจสอบกับผู้ส่งก่อนทุกครั้งว่ามีการส่งเอกสารนั้นมาจริงหรือไม่ พร้อมทั้งปรับปรุงระบบปฏิบัติการให้เป็นปัจจุบัน และหากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ประสานงานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (ThaiCERT) 1212

People unity news online : post 14 พฤษภาคม 2560 เวลา 20.53 น.

ด่วน! นายกฯยืนยันแล้ว “ข่าวไม่จริงเปิดให้เข้ากราบพระบรมศพถึงวันที่ 30 ก.ย.”

People unity news online : วันนี้ (18 กรกฎาคม 2560) เวลา 13.00 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีกรณีโซเชียลมีเดียเผยแพร่ว่า จะเปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพระบรมมหาราชวังจนถึงวันที่ 30 กันยายนนี้ ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ขออย่าตื่นตระหนกตกใจ หากจะดำเนินการต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการอำนวยการที่ดูแลเกี่ยวกับพระราชพิธีทั้งหมด และต้องกราบทูลขอพระราชวินิจฉัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10

People unity news online : post 18 กรกฎาคม 2560 เวลา 23.16 น.

อีก 2 เดือนเปิดเทอม สาธารณสุขห่วงเด็กนักเรียน ครู อาจารย์ พ่อแม่ ผู้ปกครอง

People Unity News : กระทรวงสาธารณสุข ย้ำหลังมาตรการผ่อนคลาย ทีมปฏิบัติการฉุกเฉินควบคุมโรคโควิด 19 คงเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ จับตาทุกความเสี่ยงที่อาจทำให้ยอดผู้ติดเชื้อกลับมาสูงอีกได้ กระตุ้นหน่วยงานรัฐ-เอกชน ออกแบบระบบ ทบทวนพฤติกรรมการทำงาน ระบบการเรียนการสอนสู่ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์ม รองรับการทำงาน ยอมรับโควิด 19 ยังอยู่อีกนาน ต้องรอวัคซีนพร้อมเพื่อป้องกันโรค

บ่ายวานนี้ (28 เมษายน 2563) ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า แม้จะมีมาตรการผ่อนคลายบางส่วน แต่ทีมสอบสวนควบคุมโรคและทีมปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน ยังต้องเฝ้าระวังการระบาดอย่างต่อเนื่อง จากนี้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนควรปรับแนวทางการทำงานที่จะไม่เหมือนเดิม อาทิ การทำงานจากบ้าน (Work from Home) อาจจะกลายเป็นความจำเป็นเพื่อลดความเสี่ยง ภาครัฐควรจะทำให้ได้ถึงร้อยละ 70 ส่วนภาคเอกชนต้องพิจารณาว่าจะปรับส่วนไหนได้บ้าง ต้องจัดให้เหลื่อมเวลาการทำงาน ตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยง หรือชั่วโมงทำงานแต่ละวันที่ไม่เท่ากัน และต้องยึดหลักเกณฑ์ลดการสัมผัส ไม่สร้างการรวมกลุ่มที่จะเสี่ยงติดเชื้อให้เกิดขึ้นได้อีก เพราะเรายังต้องอยู่กับสถานการณ์โรคโควิด 19

รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ยังกล่าวว่า สิ่งที่ต้องทำต่อเนื่องไม่เพียงแต่การเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร การออกแบบทางวิศวกรรมหรือสถาปัตยกรรมที่ต้องให้ความสำคัญเรื่องการป้องกันละอองฝอยของสารคัดหลั่ง การทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของวัสดุ ระบบคัดกรองคนทำงาน การออกระเบียบให้คนทำงานสามารถหยุดงานได้โดยไม่นับเป็นวันลาป่วยหากมีอาการเข้าได้กับโควิด รวมทั้งการเข้มงวดเรื่องสิ่งป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ สิ่งเหล่านี้จะต้องทำให้เป็นมาตรฐาน และทุกกิจการที่จะเข้าสู่การผ่อนคลายต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในการควบคุมการติดเชื้อ และการป้องกันการแพร่กระจายเป็นสำคัญอีกด้วย

“จากนี้ไปอีกประมาณ 2 เดือนที่โรงเรียนจะกลับมาเปิดเรียนเป็นปกติ ยังเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยร่วมกันหลายส่วน แม้สถิติออกมาว่าเด็กไม่ค่อยแสดงอาการหากติดเชื้อ แต่ที่ห่วงคือ ครู อาจารย์ พ่อแม่ผู้ปกครอง หรือผู้สูงอายุในบ้าน หากเด็กรับเชื้อมาจากโรงเรียนแล้วมาแพร่ที่บ้านจะเป็นความเสี่ยงใหม่ที่ท้าทาย อาจถึงเวลาที่ต้องมาวางแผนเรื่องการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล ทรานส์ฟอร์ม เพื่อไปสู่วิถีใหม่ทั้งการทำงานและการเรียน น่าจะเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนเช่นกัน” นพ.ธนรักษ์กล่าว

โฆษณา

“ประยุทธ์” เตือนคนไทยรับมือลานีญา ฝนตกนอกฤดูมากกว่าปกติ

People unity news online : สำนักบริหารจัดการน้ำแห่งชาติเตือนประเทศไทยจะเกิดปรากฏกการณ์ลานีญา ทำให้มีฝนตกนอกฤดูมากกว่าปกติ

วันนี้ (9 มกราคม 2560) เวลา 14.00 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า สำนักบริหารจัดการน้ำแห่งชาติฝากเตือนว่า จะมีปรากฏการณ์ลานีญาเกิดขึ้นในเอเชียรวมทั้งในประเทศไทย ซึ่งจะมีฝนตกนอกฤดูมากกว่าปกติ ทำให้มีปริมาณน้ำมากในบางช่วง จึงจำเป็นต้องพร่องน้ำและระบายน้ำในเขื่อน โดยปัจจุบันมีน้ำกักเก็บในเขื่อนรวมทั้งหมด 84% ถือเป็นจำนวนมากที่สุด จึงจำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ จึงฝากเตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น

People unity news online : post 9 มกราคม 2561 เวลา 19.30 น.

รัฐบาลเปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้งปี 61

People unity news online : 3 มีนาคม 2561 รัฐบาลเปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้งปี 61 เน้นเพิ่มปริมาณน้ำสำรอง แนะเกษตรกรวางแผนใช้น้ำอย่างระมัดระวัง พร้อมสั่งทุกหน่วยเร่งสร้างการรับรู้ช่วยชาวนา ตัดวงจรการเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง

รัฐบาลเปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2561 อย่างเป็นทางการแล้ว เพื่อรับมือกับปัญหาน้ำในช่วงฤดูแล้ง โดยคำนึงถึงความต้องการของเกษตรกรและผู้ใช้น้ำทั่วประเทศ ทั้งในพื้นที่เขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน รวมทั้งเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนในระบบบริหารจัดการน้ำด้วย

“แผนปฏิบัติการเริ่มตั้งแต่ 1 มี.ค. – 31 ต.ค.61 โดยจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการ 7 แห่งใน 5 ภูมิภาค ได้แก่ จ. เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครสวรรค์ กาญจนบุรี จันทบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย เช่น กรมฝนหลวงฯ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน ฯลฯ จะบูรณาการวิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศ ขึ้นบินทำฝนเทียม และแจ้งข้อมูลให้เกษตรกรและประชาชนทราบ”ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานว่า ในช่วงฤดูแล้งปีนี้อ่างเก็บน้ำทั่วประเทศยังมีปริมาณน้ำเพียงพอ แต่อยากให้พี่น้องเกษตรกรวางแผนการเพาะปลูกและใช้น้ำอย่างระมัดระวัง เพราะแม้ว่าจะมีปริมาณน้ำมาก แต่ก็อาจเสี่ยงกับการขาดแคลนได้ ถ้าหลายคนต้องการปลูกพืชนอกฤดูกาลมาก เช่น ข้าว เนื่องจากได้ราคาดี และเมื่อมีผลผลิตมากราคาก็จะตก จึงขอความร่วมมือทุกคนในเรื่องนี้ โดยอาจปลูกพืชใช้น้ำน้อยร่วมด้วย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในพื้นที่เร่งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับเกษตรกร เช่น ข้อมูลราคาผลผลิตที่แท้จริง สิทธิรับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ฯลฯ โดยได้ยกตัวอย่างการขายข้าวสดและข้าวตากที่มีความชื้นแตกต่างกันว่า ราคาขายที่เหมาะสมควรเป็นเท่าใด เป็นต้น เพื่อป้องกันการถูกเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลางหรือข้าราชการที่ฉวยโอกาสจากความไม่รู้ของประชาชน

People unity news online : post 3 มีนาคม 2561 เวลา 17.40 น.

เชื้อไวรัส COVID-19 สามารถเข้าทางบาดแผลในร่างกายได้หรือไม่??

People Unity News : เชื้อไวรัส COVID-19 สามารถเข้าทางบาดแผลในร่างกายได้หรือไม่??

ติดเชื้อไวรัสจากบาดแผลได้จริงหรือ ?

Q: เชื้อไวรัส COVID-19 สามารถเข้าทางบาดแผลในร่างกายได้หรือไม่ ??

A: จากการตรวจสอบ ยังไม่พบหลักฐานว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถติดต่อเชื้อทางบาดแผลได้แต่อย่างใด

ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

COVID-19

โฆษณา

สธ.เผยฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส แต่ป้องกันการติดเชื้อโควิด19ไม่ได้

People Unity News : กระทรวงสาธารณสุข เผยผลการศึกษาประสิทธิผลของสารสกัดฟ้าทะลายโจร และสารแอนโดรกราโฟไลด์ในฟ้าทะลายโจรในหลอดทดลอง พบมีฤทธิ์ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสโควิด-19 ได้ และศึกษานำร่องผลของยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยโรคโควิด- 19 ระดับความรุนแรงน้อย เดือนเมษายน – กรกฎาคมนี้ แนะกินทันทีเมื่อมีไข้ ไม่ควรกินเพื่อป้องกันโรค

19 เมษายน 2563 ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมด้วย ดร.สุภาพร  ภูมิอมร ผู้อำนวยการสถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงผลการวิจัยฟ้าทะลายโจรกับไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นความร่วมมือของกรมการแพทย์แผนไทยฯ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม

นพ.ปราโมทย์กล่าวว่า ผลการศึกษาสรุปได้ว่า ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้ แต่ไม่มีฤทธิ์ในการป้องกันเซลล์จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงไม่แนะนำให้รับประทานเพื่อการป้องกันโรค โดยที่ยังไม่มีอาการเพราะไม่มีผลในการป้องกัน แต่ให้รับประทานทันทีเมื่อเริ่มมีอาการคล้ายอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ (flu-like symptoms) ได้แก่ มีไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ก่อโรคไข้หวัดใหญ่ หรือไวรัสก่อโรคทางเดินหายใจอื่น รับประทานครั้งละ 4 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง (ครั้งละประมาณ 1,500 มิลลิกรัม) หลังอาหารและก่อนนอน ส่วนสารสกัดฟ้าทะลายโจร ครั้งละ 1 หรือ 2 แคปซูล เพื่อให้ได้รับสารสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์ประมาณ 20 มิลลิกรัม/ครั้ง วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร การรับประทานยาทั้งสองแบบในขนาดที่แนะนำ จะให้สารแอนโดรกราโฟไลด์ประมาณ 60 มิลลิกรัม/วัน แนะนำให้มียาฟ้าทะลายโจรเป็นยาประจำตัว/ประจำบ้าน อาจใช้ร่วมกับยาพาราเซตามอลได้ แต่หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ให้รีบพบแพทย์

นพ.ปราโมทย์กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าการทดลองในคน กรมการแพทย์แผนไทยฯ ร่วมกับสถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และองค์การเภสัชกรรม ศึกษานำร่องผลของยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยโรคโควิด- 19 ระดับความรุนแรงน้อย ในระหว่างเดือนเมษายน – กรกฎาคม 2563 รวมทั้งได้เตรียมความพร้อมให้เพียงพอกับความต้องการ โดยร่วมกับกรมวิชาการเกษตร ให้เกษตรกรปลูกในพื้นที่ 65 ไร่ ให้ได้วัตถุดิบ 50,000 กิโลกรัม สำรองไว้ 1 ล้านแคปซูลสำหรับบุคลากรสาธารณสุขที่ดูแลรักษาผู้ป่วย และประสานภาคธุรกิจเตรียมการผลิตเพิ่ม

ทั้งนี้ ห้ามใช้ยาฟ้าทะลายโจรในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร และผู้ป่วยที่มีอาการไข้เจ็บคอจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มีตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น หากมีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร เช่น เกิดผื่น ลมพิษ หน้าบวม ริมฝีปากบวม หายใจลำบาก ให้หยุดใช้ยาทันทีและไม่ใช้อีก รวมทั้งควรระวังในผู้ที่ใช้ยาวาร์ฟาริน แอสไพริน โคลพิโดเกรล ยาลดความดันโลหิต และการใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้แขนขาชา หรืออ่อนแรง สอบถามรายละเอียดที่กรมการแพทย์แผนไทยฯ โทร. 0 2149 5678 หรือเว็บไซต์ www.dtam.moph.go.th

ด้าน ดร.สุภาพร ภูมิอมร  ผู้อำนวยการสถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการศึกษาศึกษาฤทธิ์ต้านไวรัสโควิด-19 ของสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในหลอดทดลอง โดยทำการศึกษาจากสารสกัดหยาบเทียบกับแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ที่เป็นสารสำคัญ พบว่า กลไกต้านไวรัสโควิด-19 สามารถทำลายไวรัสโดยตรง และต้านไม่ให้ไวรัสเพิ่มจำนวนเซลล์ได้ แต่ไม่มีฤทธิ์ในการชักนำให้เซลล์หลั่งสารที่ช่วยยับยั้งไวรัสโควิด-19 จึงไม่แนะนำให้รับประทานเพื่อการป้องกันโรค และจำเป็นต้องทำการศึกษาวิจัยในคนต่อไป

โฆษณา

กรมทางหลวงเผย 8 เส้นทางอันตราย ทางตรงยาว เสี่ยง “หลับใน” มากที่สุด

People unity news online : กรมทางหลวงเผย 8 สายทางที่ผู้ขับขี่มีโอกาสหลับในมากที่สุด เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมแนะนำให้แวะพักที่จุดบริการกรมทางหลวง

นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ทล. เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวก ปลอดภัย เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ภายใต้นโยบาย One Transport รวมทั้งมอบให้สำนักทางหลวงและแขวงทางหลวงในพื้นที่ติดตั้งป้ายเตือน “ง่วงหยุดพัก” และจุดบริการประชาชนเพิ่มเติมในจุดที่เกิดอุบัติเหตุบนสายทางที่เกิดจากการหลับในของผู้ขับขี่มีสาเหตุเกิดจากความเหนื่อยล้า ประกอบกับเป็นทางตรงระยะยาว จากสถิติของสำนักอำนวยความปลอดภัย ทล. พบว่า ทางหลวงที่ผู้ขับขี่หลับในและเกิดอุบัติเหตุ จำนวน 8 สายทาง ดังนี้

– ทางหลวงหมายเลข 1 ตอนพาน – สันทรายหลวง ระหว่าง กม. ที่ 916 – 922 ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.เชียงราย

– ทางหลวงหมายเลข 323 ตอนแยกปากกิเลน – น้ำตกไทรโยคใหญ่ ระหว่าง กม. ที่ 110 – 115 ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี

– ทางหลวงหมายเลข 1 ตอนวังม่วง – แม่เชียงรายบน ระหว่าง กม. ที่ 535 – 540 ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.ตาก

– ทางหลวงหมายเลข 4 ตอนน้ำรอด – พ่อตาหินช้าง ระหว่าง กม. ที่ 415 – 425 ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.ชุมพร

– ทางหลวงหมายเลข 224 ตอนพะโค – หนองสนวน ระหว่าง กม. ที่ 90 – 95 ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา

– ทางหลวงหมายเลข 402 ตอนหมากปรก – เมืองภูเก็ต ระหว่าง กม. ที่ 30 – 35 ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต

– ทางหลวงหมายเลข 4 ตอนปากท่อ – สระพัง ระหว่าง กม. ที่ 123 – 133 ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม

– ทางหลวงหมายเลข 35 ตอนสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน – นาโคก ระหว่าง กม. ที่ 40 – 45 ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร

ทั้งนี้ ทล. ได้ติดตั้งป้ายเตือน “ง่วงหยุดพัก” ในจุดที่เหมาะสม เพื่อเตือนให้ผู้ใช้ทางที่ผ่านพื้นที่ดังกล่าวทราบว่า จุดดังกล่าวเป็นทางตรงระยะยาว มีโอกาสหลับในสูง และเป็นจุดที่ใกล้จะถึงจุดหมายของผู้ขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่ฝืนตัวเอง จึงขอให้หยุดพักเพื่อผ่อนคลาย โดยแนะนำให้หยุดพักที่จุดบริการ ทล. ซึ่งตั้งอยู่บนสายทางทุก 2 ชั่วโมง เนื่องจากมีความพร้อมในการรองรับทั้งที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องดื่ม และข้อแนะนำต่างๆ ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทาง ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารแต่พอดี หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือปฏิบัติตามนโยบายของกระทรวงฯ “ขับรถช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัดนิรภัย” หากมีปัญหาเกี่ยวกับการเดินทางสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรี 24 ชั่วโมง)

People unity news online : post 16 เมษายน 2561 เวลา 08.19 น.

ด่วน! “ปธน.ทรัมป์” สั่งถอนการลงมติร่างกฎหมาย “ทรัมป์แคร์” หลังมีเสียงสนับสนุนไม่พอในสภาฯ

APTOPIX Trump Health Overhaul

People unity news online : วันนี้ (25 มีนาคม 2560) “ปธน.ทรัมป์” สั่งถอนการลงมติร่างกฎหมาย “ทรัมป์แคร์” หลังมีเสียงสนับสนุนไม่พอในสภาฯ

บรรดาสมาชิกรัฐสภาที่สนับสนุนแผนประกันสุขภาพที่ทางพรรครีพับลิกันต้องการนำมาใช้แทนกฎหมาย Obamacare ได้ถอนการหารือและการลงมติในร่างกฎหมายนี้ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯไปแล้ว ตามคำขอของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์

เดิมทีมีการกำหนดว่าจะลงมติในร่างกฎหมายนี้ในวันนี้ แต่หลังจากที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ส.ส.พอล ไรอัน แจ้งให้ประธานาธิบดีทรัมป์ ทราบถึงสถานการณ์ล่าสุดของร่างกฎหมายที่สื่อมวลชนเรียกกันว่า “Trumpcare” ประธานาธิบดีทรัมป์จึงตัดสินใจถอนการลงมติดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจความเห็นประชาชนอเมริกัน ที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์สและ Ipsos ซึ่งเปิดเผยในวันศุกร์ แสดงให้เห็นว่าเกือบครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่า Trumpcare ไม่ได้ดีกว่า Obamacare แต่อย่างใด

เรื่องนี้ถือเป็นความชะงักงันล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วง 100 วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ซึ่งปกติแล้วเป็นช่วง “ฮันนีมูน” ที่รัฐสภาสหรัฐฯมักจะผ่านร่างกฎหมายต่างๆอย่างง่ายดาย

โดยก่อนหน้านี้ คำสั่งฝ่ายบริหารของ ปธน.ทรัมป์ ที่ห้ามพลเมืองมุสลิมจากบางประเทศในแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาตอนเหนือเข้าสหรัฐฯ ก็ถูกยับยั้งไปแล้วในศาล จนทำให้ต้องมีการลงนามในคำสั่งฉบับที่สองออกมาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่แล้ว

อีกเรื่องซึ่งเป็นที่โต้แย้งและได้รับแรงต้านจากสมาชิกรัฐสภาของทั้งสองพรรคเป็นอย่างมาก คือข้อเสนอของประธานาธิบดีทรัมป์เพื่อตัดงบประมาณของรัฐบาลกลางขนานใหญ่ โดยเฉพาะในส่วนของแผนงานสวัสดิการสังคมที่ช่วยเหลือคนยากจน และโครงการช่วยเหลือระหว่างประเทศของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในขณะที่จะเพิ่มงบประมาณกลาโหมมากเป็นประวัติการณ์ ถึง 54,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ (ข่าวจาก voathai.com)

People unity news online : post 25 มีนาคม 2560 เวลา 12.51 น.

Verified by ExactMetrics