วันที่ 8 กันยายน 2024

กระทรวงการคลังเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อแอปลงทะเบียนเราชนะปลอม ของจริงรอ 19 ม.ค.

People Unity News : กระทรวงการคลังเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวเกี่ยวกับเรื่อง “แอปพลิเคชันลงทะเบียนเราชนะ”

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏว่ามีการเผยแพร่ “แอปพลิเคชันลงทะเบียนเราชนะ” ตามสื่อต่างๆนั้น กระทรวงการคลัง ขอเรียนว่า แอปพลิเคชันดังกล่าว ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับโครงการเราชนะของรัฐบาลและกระทรวงการคลังแต่อย่างใด ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดความสับสน และความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโครงการเราชนะของรัฐบาล จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังในการอ่าน ส่ง หรือแชร์ข้อมูลต่างๆ ที่มิได้ถูกเผยแพร่อย่างเป็นทางการจากกระทรวงการคลัง

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังขอเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมแอบอ้างโดยมีเจตนาหลอกลวงหรือทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าวโดยหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจะมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด และหากพบว่ามีการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายทันที

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาโครงการเราชนะในวันอังคารที่ 19 มกราคม 2564 นี้ และจะมีการแถลงข้อมูลที่เป็นทางการอย่างชัดเจน โดยสามารถติดตามสืบค้นข้อมูลข่าวสารและความคืบหน้าที่ถูกต้องเกี่ยวกับโครงการเราชนะ ได้จากแถลงข่าวกระทรวงการคลัง ในเว็บไซต์ www.mof.go.th หรือในเฟซบุ๊ก “สถานีข่าวกระทรวงการคลัง”

Advertising

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ

People Unity News : สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์–1 มีนาคม 2564 ในวันทำการ ระหว่างเวลา 09.00–15.00 น. ณ สำนักบริหารทรัพยากรบุคคล ชั้น 7 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จังหวัดนนทบุรี ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ www.glo.or.th หรือสอบถามได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2528-9818 ตั้งแต่เวลา 07.30–15.30 น. เว้นวันหยุดราชการ

Advertising

สอท.แนะประชาชนซื้อของออนไลน์อย่างปลอดภัยหลังพบมีผู้เสียหายถูกหลอกซื้อสินค้าจำนวนมาก

People Unity News : ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แนะนำการซื้อของออนไลน์อย่างปลอดภัย หลังพบมีผู้เสียหายถูกหลอกซื้อสินค้าจำนวนมาก

พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ประชาชนหันไปซื้อของออนไลน์มากขึ้น แต่กลับมีกลุ่มมิจฉาชีพ ฉวยโอกาสในสถานการณ์นี้หลอกลวงขายสินค้าให้กับประชาชนผ่านช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ พลตำรวจโท กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการ สอท. จึงเร่งวางมาตรการในการป้องกัน สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน หรือผู้ใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ให้ถูกลอกหลวงจากผู้ที่ฉวยโอกาสในการกระทำความผิด พร้อมแนะนำประชาชนระมัดระวังการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ โดยก่อนที่จะทำการสั่งซื้อ ต้องมีมาตรการป้องกันตนเองเบื้องต้น เช่น  ตรวจสอบชื่อร้าน ชื่อผู้ขาย หรือเลขที่บัญชี ว่าเคยมีประวัติไม่ดี หรือเคยถูกร้องเรียนมาก่อนหรือไม่ ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้าว่าได้ทำการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์หรือไม่ ตรวจสอบว่าสินค้ามีอยู่จริงหรือไม่ ขอดูภาพสินค้าหลายๆมุม รวมถึงสอบถามตำหนิก่อนการสั่งซื้อ สิ่งสำคัญคือ ต้องระมัดระวังการสั่งซื้อสินค้าที่มีราคาถูกเกินไป เพราะอาจถูกหลอกได้ ควรหลีกเลี่ยงการสั่งซื้อของออนไลน์ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ที่ไม่มีหน้าร้าน หรือเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับ และต้องเก็บหลักฐานการสั่งซื้อได้แก่ ข้อความประกาศขาย หน้าเว็บไซต์ รูป ชื่อที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และเลขที่บัญชีของร้านค้าข้อความการพูดคุยสั่งซื้อสินค้า เอกสารการชำระเงิน ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินการเปลี่ยนสินค้า หรือแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โฆษก สอท. ยังกล่าวเตือนบุคคลที่มีพฤติกรรมซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน ในช่วงนี้ให้เลิกการกระทำ เนื่องจากอาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งมีอัตราโทษสูงทั้งจำและปรับ โดย สอท. จะเร่งดำเนินการจับกุมปราบปรามการกระทำความผิดลักษณะดังกล่าว มาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดทุกราย

Advertising

ครม.อนุมัติจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด -19 อีก 35 ล้านโดสเพียงพอกับคนไทยทั้งประเทศ

People Unity News : ครม.อนุมัติงบจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด -19 อีก 35 ล้านโดส ให้เพียงพอกับคนไทยทั้งประเทศ

5 ม.ค. 2564 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. อนุมัติงบประมาณ ให้กระทรวงสาธารณสุข ไปดำเนินการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยปลายเดือนมีนาคมจะได้ล็อตแรก 8 หมื่นโดส สำหรับประชาชน 4 แสนคน ส่วนเมษายนได้อีก 1 ล้านโดส เพียงพอกับประชาชน 5 แสนคน และปลายเดือนพฤษภาคม อีก 26 ล้านโดส สำหรับประชาชนอีก 13 ล้านคน โดยทั้งหมดต้องผ่านมาตรฐาน อย.ของไทยและต่างประเทศ และสั่งจองเพิ่มวัคซีนจากบริษัท แอสตราเซนเนก้า 35 ล้านโดส ซึ่งจะเพียงพอกับประชาชน 66 ล้านคน  โดยแบ่งฉีด 2 ครั้งต่อ 1 คน ทั้งนี้เมื่อได้รับวัคซีนจะฉีดทันที และการฉีดต้องเป็นไปตามมาตรฐานกรมควบคุมโรค โดยกลุ่มเป้าหมายแรกเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยง ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ

สำหรับวัคซีนล็อตต่อไป จะมีการติดต่อจัดหาวัคซีนจากประเทศอื่นๆ เพื่อให้รวดเร็วกับความต้องการ ทั้งนี้วัคซีนจากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า มีข้อตกลงที่จะผลิตร่วมกันกับบริษัทสยามไบโอไซด์ ที่จะผลิตได้ปีละ 200 ล้านโดส ซึ่งจะเพียงพอกับทั้งประเทศ พร้อมเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนจัดหาวัคซีนเองได้ แต่ต้องผ่านมาตรฐานของ อย. ส่วนผลข้างเคียงกับประชาชนนั้นถือว่ามีสัดส่วนที่ต่ำอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ซึ่งจะต้องติดตามต่อไป ยืนยันสิ่งสำคัญที่สุดคือ คนไทยปลอดภัย

Advertising

กองทัพบกตั้งจุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ตั้งแต่ 25 ธันวาคมถึง 6 มกราคม 2564

People Unity News : กองทัพบกตั้งจุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ ถึงวันที่ 6 มกราคม 2564 เพื่อดูแลความปลอดภัย ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 เน้นอัพเดทข้อมูลแต่ละพื้นที่

28 ธ.ค. 2563 พันตรีหญิง พัชรินทร์ บุศยกุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่า ขณะนี้หน่วยทหารของกองทัพบก จัดตั้งจุดบริการประชาชนหน้าค่ายทหารในแต่ละพื้นที่ จำนวน 226 จุด ตลอด 24 ชั่วโมง กระจายตามแต่ละกองทัพภาค โดยเฉพาะหน่วยทหารมีที่ตั้งหน่วยตามเส้นทางคมนาคมสายหลัก อาทิ ถนนพหลโยธิน ถนนสุขุมวิท ถนนมิตรภาพ และถนนเพชรเกษม จุดบริการดังกล่าวดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม และจะดำเนินการต่อเนื่องจนถึงวันที่ 6 มกราคม 2564

สำหรับเทศกาลปีใหม่ในปีนี้ อยู่ในช่วงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ประชาชนจำเป็นต้องได้รับทราบข้อมูลและข้อปฏิบัติที่มีความเฉพาะในแต่ละจังหวัด โดยเจ้าหน้าที่ในจุดบริการจะนำข้อมูลมาให้ความรู้ และอัพเดทสถานการณ์พร้อมแนวทางป้องกันตนเองให้กับประชาชนที่มารับบริการ รวมทั้งมีการวัดอุณหภูมิ แจกจ่ายหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ สำหรับพื้นที่ที่สามารถจัดกิจกรรมปีใหม่ กองทัพบกจะสนับสนุนกำลังพลตามการร้องขอในการช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

นอกจากนี้ กองทัพบกยังให้ความสำคัญเรื่องการป้องกันอัคคีภัย ได้เตรียมเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลช่วยเหลือหากเกิดเหตุอัคคีภัยขึ้น ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบก มีข้อห่วงใยในความปลอดภัย กำชับกำลังพลให้ตระหนัก เน้นมาตรการดื่มไม่ขับ เฉลิมฉลองที่บ้าน รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

Advertising

“ประยุทธ์” แถลง “การระบาดอีกครั้งของโควิด” ระบุหากไม่เข้มงวดแต่ตอนนี้เศรษฐกิจจะพัง

People Unity News : ประยุทธ์ แถลงการณ์ “การระบาดอีกครั้งของโควิด – เราต้องเข้มแข็ง” ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย

22 ธันวาคม 2563 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวแถลงการณ์ “การระบาดอีกครั้งของโควิด – เราต้องเข้มแข็ง” ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการระบาดใหม่ของโควิด-19 ที่เพิ่งเกิดขึ้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ได้ถูกจัดการอย่างเร่งด่วนทันทีด้วยการใช้มาตรการที่เข้มข้น พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี การระบาดที่เกิดใหม่นี้ย้ำว่า โควิด-19 ยังเป็นภัยร้ายแรงสำหรับประเทศ ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ สถานการณ์โควิดทั่วโลกก็รุนแรงและกะทันหันด้วย ไม่กี่วันก่อนอังกฤษยืนยันพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถติดต่อกันได้ง่ายกว่าและเร็วกว่า มีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนคนภายในแค่สัปดาห์เดียวและพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ในประเทศอื่นๆด้วย ซึ่งสถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลกในเดือนธันวาคมเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดมา หลายประเทศรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดเป็นร้อยๆคนภายในสัปดาห์เดียว  และมีบางประเทศที่เสียชีวิตเป็นพันๆคนภายในหนึ่งสัปดาห์

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์โควิดทั่วโลกที่ส่งผลกระทบไม่ดีถึงประเทศไทยว่า  ผลกระทบแรก คือเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ที่จะช้ากว่าที่คาดการณ์ตามไปด้วย  ผลกระทบที่สอง คือ ยังคงต้องระมัดระวังมาตรการการผ่อนคลายให้คนต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยต่อไปอีก ความเสี่ยงสุดคือคนต่างชาติที่เข้าประเทศไทยอาจจะนำเชื้อโควิดเข้ามาในประเทศซึ่งจะสร้างปัญหาให้กับระบบสาธารณสุขของไทย และสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจมากกว่าที่มีอยู่หลายเท่า จึงต้องเข้มงวดและระมัดระวังเต็มที่ทั้งที่สนามบินและช่องทางเข้าประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางรถไฟ รถบัส เรือ รวมถึงช่องทางธรรมชาติ หากมีผู้ติดเชื้อโควิดเล็ดลอดเข้าประเทศมาเพียงไม่กี่คนจะสร้างปัญหาอย่างหนักให้กับเศรษฐกิจ และสุขภาพของคนนับแสนๆ  ผลกระทบที่สาม คือ เมื่อสถานการณ์ทั่วโลกยิ่งแย่ลง ทำให้ยิ่งต้องตั้งการ์ดให้สูงขึ้น เพิ่มและปรับมาตรการต่างๆให้มีความรัดกุมยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่สมุทรสาครว่า ปัจจุบันมีการกักกันและอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเชิงรุก ซึ่งจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดใกล้เคียงและกรุงเทพมหานคร ได้ออกมาตรการที่เข้มงวดขึ้น ทั้งการทำกิจกรรมต่างๆ การตรวจคัดกรองการเข้า-ออกสถานที่ การเว้นระยะห่าง ทั้งนี้ อาจจำเป็นต้องประกาศมาตรการเพิ่มเติม โดยเฉพาะกิจกรรมเฉลิมฉลองปีใหม่ ซึ่งจะมีมาตรการอย่างไรหรือต้องงดจัด ในสัปดาห์นี้จะประชุมกับ ศบค. และจะออกมาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ถ้าอ่อนหรือผ่อนคลายมาตรการมากเกินไป โควิดจะสร้างปัญหาทางเศรษฐกิจที่มากกว่านี้และกระทบทั้งประเทศ ซึ่งหลายประเทศตอนนี้เริ่มกลับไปใช้มาตรการที่เข้มงวด ทั้งการบังคับไม่ให้ประชาชนออกจากบ้าน การออกข้อกำหนดมากมายสำหรับคนที่ต้องการเข้าประเทศ  ร้านค้าร้านอาหารส่วนใหญ่ต้องปิด รวมถึงปิดสถานที่บันเทิงและสถานที่สาธารณะต่างๆด้วย หรือบางประเทศอย่างฝรั่งเศส ถึงขั้นห้ามไม่ให้มีการขนส่งสิ่งของเข้าและออกประเทศเป็นการชั่วคราว

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงต้นปีที่ผ่านมาตอนที่โควิดเริ่มเป็นภัยร้ายแรงของโลก มีประเทศที่ไม่เข้มงวดปกป้องดูแลสุขภาพและสาธารณสุขเพราะกังวลว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของตนเอง ปัจจุบันเจอผลกระทบหนักต่อเศรษฐกิจทั้งสิ้น เพราะสุดท้ายแล้วการระบาดของโควิดทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ เมื่อคนเป็นโควิดเยอะ สุดท้ายก็สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจ ฉะนั้นการเข้มงวดเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชนและสาธารณสุขของประเทศ จึงเป็นวิธีที่จะปกป้องความเสียหายต่อเศรษฐกิจไม่ให้รุนแรงมากกว่าที่เรากำลังเจออยู่

นายกรัฐมนตรีเน้นถึงเหตุผลที่ไทยเจอปัญหาเศรษฐกิจที่เบากว่าประเทศอื่นๆหลายประเทศว่า ตั้งแต่ต้นไทยเข้มงวดการปกป้องดูแลสุขภาพของประชาชน จึงยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเกือบเป็นปกติ โรงพยาบาลและสถานสาธารณสุขต่างๆยังทำงานกันได้ตามปกติ ดูแลคนไข้โรคอื่นๆได้ โดยไม่ถูกคนไข้โควิดรบกวน ที่สำคัญที่สุดก็คือ คนไทยไม่ต้องเจอกับการสูญเสียชีวิตของพ่อแม่พี่น้องลูกหลานไปกับโควิด ซึ่งเป็นฝันร้ายที่คนในหลายประเทศทั่วโลกยังต้องเจอกันอยู่ทุกวัน  โดยต้องยกความดีความชอบให้ประชาชนคนไทยทุกคนที่ให้ความร่วมมือ มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน มีความรับผิดชอบต่อสังคม เสียสละความสะดวกสบายส่วนตัว เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมกันต่อไป สวมหน้ากากอนามัยกันอยู่ตลอด ล้างมือบ่อยๆเป็นประจำ และรักษาระยะห่างทางสังคม พร้อมชื่นชมการทำงานอย่างหนักของอาสาสมัครสาธารณสุข บุคลากรสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ต่างๆทั่วประเทศ ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐทุกส่วนที่ร่วมมือกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วย

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า เพียงคนไม่กี่คนที่ละเลยความรับผิดชอบต่อสังคม และมีพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัว จะสร้างปัญหาให้คนเป็นล้านๆ จึงต้องขอให้คนไทยทุกคนใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมในระดับที่สูงมากกว่าปกติ และขอให้ทำด้วยความภูมิใจว่า สิ่งที่ทำทุกวันแม้จะดูเล็กน้อยแต่มีผลกับทั้งประเทศ สร้างความแตกต่างให้ประเทศไทยได้ ทุกคนได้มีส่วนช่วยกันทำให้ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าอีกหลายประเทศ นายกรัฐมนตรียืนยันขบวนการนำแรงงานเถื่อนเข้าประเทศจะต้องถูกดำเนินคดี ถูกทำลายให้สิ้นซากไม่ว่าจะเป็นทั้งเจ้าหน้าที่รัฐหรือประชาชนที่เกี่ยวข้อง เพราะการแพร่ระบาดครั้งนี้ ตรวจพบผู้ติดเชื้อจากแรงงานต่างด้าวมากที่สุด

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวมั่นใจว่า แม้ว่าเส้นทางจะยังยาวไกลกว่าสถานการณ์จะกลับเป็นปกติ หากทุกคนยังร่วมมือกัน ไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศที่รับผลกระทบน้อยที่สุดในโลก เราเป็นประเทศที่ประชาชนรู้ว่าเราพึ่งพาตัวเองได้ และหวังพึ่งพาคนอื่นๆในสังคมได้ด้วย ขอให้ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมกำชับดูแลให้มั่นใจว่า หน่วยงานต่างๆของรัฐ จะยังคงทำงานแบบบูรณาการและใกล้ชิดกัน ให้ทุกฝ่ายยึดมั่นรับฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุข และจะเร่งจัดหาและพัฒนาวัคซีนให้พร้อมใช้งานเร็วที่สุดเท่าที่จะเร่งได้ หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเจรจาให้ผู้พัฒนาวัคซีนที่ดีที่สุดในโลกรายหนึ่ง มาตั้งศูนย์ผลิตวัคซีนในประเทศไทย  ในช่วงโควิดนอกประเทศไทยรุนแรงขึ้นอีก จึงยิ่งต้องระมัดระวังมากขึ้น ขอคนไทยทุกคนให้ความร่วมมือ และอยู่เคียงข้าง ต่อสู้ไปด้วยกัน ให้ผ่านพ้นสถานการณ์ไปให้ได้

Advertising

กลับมาอีกแล้ว!! ฝุ่น PM 2.5 บุก กทม. เผยต่อเนื่องถึง 17 ธ.ค.

People Unity News : ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เผย สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จะมีต่อเนื่องไปจนถึง 17 ธันวาคม เพราะสภาพอากาศปิด ประสานกรมควบคุมมลพิษ กรมการขนส่งทางบก และ กทม. ตรวจสอบรถควันดำในกรุงเทพ ให้ทำต่อเนื่องจนถึงหน้าแล้ง และประสาน สตช.ดูแลการจราจรบริเวณสี่แยก-จุดกลับรถ เพราะพบ PM 2.5 สูงในบริเวณดังกล่าว

นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการสื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลทางอากาศภาพรวม โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า สภาพอากาศค่อนข้างนิ่ง รวมทั้งการยกตัวของมวลอากาศ ทำให้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพิ่มขึ้น จึงประสานกรมควบคุมมลพิษ กรมการขนส่งทางบก และกรุงเทพมหานคร ช่วยกันตรวจสอบรถควันดำ โดยเฉพาะรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งจากการสุ่มตรวจ 100 คัน จะพบถึง 46 คันที่ก่อมลพิษ โดยวางแผนให้ทำการตรวจรถทุกวันต่อเนื่องไปจนถึงช่วงหน้าแล้ง และจากการตรวจสอบจุดที่ฝุ่น PM 2.5 สูง คือ บริเวณแยก หรือ สี่แยก รวมทั้งจุดกลับรถ ที่มีปริมาณรถสะสม จึงประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร ช่วยดูแลด้านการจราจร ในจุดดังกล่าวให้เกิดความคล่องตัวขึ้น

ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ประสานไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำความเข้าใจเกษตรกร งดการเผาเศษวัชพืชในที่โล่งไปจนถึงวันที่ 17 ธันวาคม ส่วนประชาชนทั่วไป ขอความร่วมมือใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และช่วยกันตรวจบำรุงรักษารถยนต์ตามวงรอบ ซึ่งสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จะมีต่อเนื่องไปจนถึง 17 ธันวาคม เนื่องจากสภาพอากาศปิด

Advertising

กรมอุตุฯเผยกรุงเทพฯและปริมณฑลอากาศเย็น กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาฯ

People Unity News : กรมอุตุฯเผยกรุงเทพฯและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาฯ สูงสุด 30-32 องศาฯ ส่วนไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ อากาศเย็นถึงหนาว

6 ธ.ค.63 กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยมีลมแรงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ส่วนยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศเย็น กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส

Advertising

สธ.เตือนฝุ่น PM 2.5 เริ่มกลับมา แนะปรับการใช้ชีวิตประจำวัน ลดกิจกรรมกลางแจ้ง ใส่หน้ากาก

Smog city from PM 2.5 dust. Cityscape with bad air pollution. PM 2.5 concept

People Unity News : สธ.แนะประชาชนติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ปรับกิจกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ลดกิจกรรมกลางแจ้ง ใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นขนาดเล็กได้

22 พฤศจิกายน 2563 นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้สภาพอากาศพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบมีปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ในบางช่วงเวลาและบางวัน ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เนื่องจากค่าฝุ่นละอองในแต่ละวันไม่เท่ากัน ควรปรับกิจกรรมการดำเนินชีวิตประจำวัน เน้นความปลอดภัยของตนเอง โดยติดตามได้ที่แอปพลิเคชัน Air4Thai (แอร์ ฟอร์ ไทย) ของกรมควบคุมมลพิษ หรือเพจ “คนรักอนามัย ใส่ใจอากาศ PM2.5” หากอยู่ในพื้นที่สีเหลือง สีส้ม สีแดง ควรหลีกเลี่ยงหรือลดกิจกรรมกลางแจ้ง แต่หากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงค่าฝุ่นสูง ควรใส่หน้ากาก N95 และไม่ควรอยู่เป็นเวลานาน สำหรับประชาชนทั่วไป สามารถใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้

นอกจากนี้ ควรลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นในบ้าน เช่น กวาด/เผาขยะ จุดธูป ควรปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด ดูแลทำความสะอาดบ้านให้ปลอดฝุ่น โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดแทนการกวาด ป้องกันการฟุ้งกระจาย และขอความร่วมมือประชาชนลดการเผาป่า/เผาไร่นา ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการเกิดฝุ่นควันได้อีกทางหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ ประชาชนควรหมั่นสังเกตอาการที่อาจเกิดขึ้น หากมีโรคประจำตัวต้องระมัดระวังเป็นพิเศษควรพักผ่อนให้เพียงพอ ลดการทำกิจกรรมและออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หรือวิงเวียนศีรษะ ให้รีบไปพบแพทย์ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

Advertising

ด่วน! แรงงานไทยในลิเบียขอกลับไทย หวั่นโควิดระบาดหนักในลิเบีย สุชาติสั่งสอบไปได้ไง

People Unity News : สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีบริษัทจัดหางานลักลอบส่งแรงงานไทยไปทำงานในลิเบีย หากผิดจริงให้ลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

รมว.แรงงาน เผย ได้รับรายงานจากสำนักงานแรงงานไทยในประเทศซาอุดิอาระเบีย (กรุงริยาด) ว่ามีแรงงานไทยในลิเบีย ร้องขอความช่วยเหลือในการเดินทางกลับประเทศไทยจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม จึงสั่งการ กกจ. ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ได้รับรายงาน จากสำนักงานแรงงานไทยในประเทศซาอุดิอาระเบีย (กรุงริยาด) ว่ามีแรงงานไทยจำนวน 19 คน ที่ทำงานอยู่ในประเทศลิเบียกับนายจ้างบริษัท Mellitah Oil & Gas B.V. Libyan Branch ตั้งอยู่ที่เมือง Awijilah (จาลู) ใกล้ชายแดนอียิปต์ ห่างจากกรุงตริโปลี ประมาณ 1,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้า (Joint Venture) กันระหว่างบริษัท Eni North Africa ของประเทศอิตาลี กับ National Oil Cooperation Noc ลิเบีย ซึ่งแรงงานไทยแจ้งว่าเดินทางไปทำงานโดยการจัดส่งของบริษัทจัดหางาน  เวิลด์พาวเวอร์ เซอร์วิส จำกัด ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม ว่าต้องการเดินทางกลับประเทศไทย เนื่องจากกลัวจะติดเชื้อโควิด – 19 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศลิเบีย จึงได้สั่งการให้กรมการจัดหางานตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าบริษัทจัดหางานดังกล่าวเป็นผู้จัดส่งจริงหรือไม่ หากพบว่ากระทำผิดจริงจะลงโทษตามกฎหมาย และจะเร่งประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศในการให้ความช่วยเหลือเรื่องการเดินทางกลับประเทศไทยต่อไป

ด้านนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ได้สั่งการให้กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน ตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อมูลการเดินทางไปทำงานของแรงงานไทยจำนวน 19 คนดังกล่าว พบว่าทั้งหมดไม่ได้แจ้งการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ ตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจาก กรมการจัดหางานไม่อนุญาตให้ดำเนินการจัดส่งคนหางานไปทำงานในประเทศลิเบีย เพราะเป็นประเทศที่เกิดภัยสงครามกลางเมือง จึงระงับการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในประเทศลิเบียทุกกรณี ตั้งแต่ปี 2557 ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม 2563 กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน ได้เชิญบริษัทจัดหางาน เวิลด์พาวเวอร์ เซอร์วิส จำกัด ซึ่งแรงงานไทยแจ้งว่าเป็นผู้จัดส่งไปทำงานในประเทศลิเบีย มาชี้แจงข้อเท็จจริง หากพบว่าบริษัทจัดหางานดังกล่าวเป็นผู้จัดส่งจริง จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป

“ขอย้ำเตือนว่า คนหางานที่ประสงค์จะไปทำงานในต่างประเทศ ก่อนตัดสินใจไปทำงาน ควรตรวจสอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจน ว่าตำแหน่งงาน และประเทศที่จะไปนั้น มีอยู่จริงหรือไม่ มีสัญญาจ้าง เงินเดือน หรือสวัสดิการ ตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อเป็นการป้องกันการถูกหลอกลวง” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน

Advertising

Verified by ExactMetrics