วันที่ 22 พฤศจิกายน 2024

รัฐบาลชี้แจง ก.ศึกษาฯ ไม่ได้สั่งยกเลิกแต่งชุดนักเรียน แค่ผ่อนผันบางราย ลดค่าใช้จ่าย

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 19 พฤษภาคม 2567 รัฐบาลแจง ก.ศึกษาธิการ ไม่ได้สั่งประกาศยกเลิกแต่งชุดนักเรียน ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ ย้ำเป็นการยกเว้นหรือผ่อนผัน เพื่อลดค่าใช้จ่าย

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีผู้โพสต์ข้อมูลในเฟซบุ๊กว่า กระทรวงศึกษาธิการ สั่งประกาศให้ยกเลิกแต่งชุดนักเรียนนั้น ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ พร้อมขอชี้แจงว่า การยกเว้นหรือผ่อนผันการแต่งเครื่องแบบนักเรียน เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของนักเรียนและผู้ปกครอง ทางกระทรวงศึกษาธิการจึงแจ้งให้สถานศึกษาในสังกัดพิจารณายกเว้นหรือผ่อนผันการแต่งเครื่องแบบและรองเท้าของนักเรียน เป็นชุดหรือรองเท้าอื่น โดยคำนึงถึงความประหยัดและเหมาะสม

นายคารม ระบุว่า การยกเว้นหรือผ่อนผัน สถานศึกษาจะพิจารณาเป็นรายตามความเหมาะสม พร้อมรายงาน รมว.ศธ.ทราบ ไม่ใช่การสั่งยกเลิกชุดนักเรียน เนื่องจากเริ่มมีเพจออนไลน์บางเพจตั้งใจสื่อสารว่า กระทรวงฯ ยกเลิกชุดนักเรียน ซึ่งคำว่า ยกเลิก กับ ยกเว้น มีความหมายแตกต่างกัน ทั้งนี้ การออกหนังสือของ ศธ. มีวัตถุประสงค์ให้ยกเว้นหรือผ่อนผัน เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง ซึ่งผู้บริหารสถานศึกษาสามารถตัดสินใจได้เอง การออกหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริหารสถานศึกษาดำเนินการได้ในแนวทางเดียวกัน

“ยกเว้นการแต่งชุดนักเรียน หมายถึง พิจารณาแล้วว่าเด็กมีความจำเป็นเรื่องการหาชุดนักเรียนตามระเบียบมาใส่ อาจยกเว้นไม่ต้องแต่งชุดนักเรียน โดยใส่ชุดอื่นที่เหมาะสม เช่น ชุดพละ หรือชุดที่มีอยู่ไปก่อน เมื่อจัดหาชุดนักเรียนได้แล้วก็ใส่ชุดนักเรียนตามปกติ ส่วนยกเลิกการแต่งชุดนักเรียน หมายถึง ทุกคนในประเทศไม่ต้องแต่งชุดนักเรียน เครื่องแบบนักเรียนจะไม่มีอีกต่อไป” นายคารม ย้ำ

Advertisement

เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก ส่วนภาคใต้ตกหนักบางแห่ง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 19 พฤษภาคม 2567 กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง กับลมกระโชกแรงบางแห่ง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล และภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง เตือน 22-26 พ.ค.67 ทั่วไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณเกาะสุมาตรา ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 20 – 23 พ.ค.67 ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 22 – 26 พ.ค.67 จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวมะตะบัน ประเทศเมียนมา และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1–2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดการเดินเรือ ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

Advertisement

ชาวนครปฐมถูกรางวัลสลากออมสินฉลองครบรอบ 111 ปีธนาคารออมสิน111 ล้านบาท!!

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 16 พฤษภาคม 2567 ออมสิน ประกาศผล ผู้โชคดีชาวนครปฐม รับ 111 ล้านบาท! ถูกรางวัลสลากออมสินงวดที่ 604 หมวดอักษร D หมายเลขสลาก 9523723 รางวัลใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ออมสิน เฉลิมฉลองครบรอบ 111 ปี ธนาคารเพื่อสังคม

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ร่วมเป็นสักขีพยานในการออกรางวัลสลากออมสินพิเศษ 1 ปี รางวัลที่ 1 มูลค่า 111 ล้านบาท งวดประจำวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ซึ่งเป็นแคมเปญส่งเสริมการออมครั้งยิ่งใหญ่ ฉลองครบรอบ 111 ปี ธนาคารออมสิน โดยเปิดรับฝากตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 15 พฤษภาคม 2567 มีลูกค้าประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยยอดเงินฝากสลากออมสินสูงถึงกว่า 120,000 ล้านบาท ภายใน 1 เดือนครึ่ง โดยผู้โชคดีเป็นเศรษฐีคนใหม่จังหวัดนครปฐม รับเงินรางวัลสูงถึง 111 ล้านบาท ได้แก่ ผู้ถือสลากงวดที่ 604 หมวดอักษร D หมายเลขสลาก 9523723 ซึ่งจะมีการรับมอบรางวัลอย่างเป็นทางการในโอกาสต่อไป

การออกรางวัลสลากออมสินพิเศษ 1 ปี ในโอกาสเฉลิมฉลอง 111 ปี ธนาคารออมสิน มีผู้ทรงคุณวุฒิและสื่อมวลชน เป็นกรรมการออกรางวัล ประกอบด้วย นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พันตำรวจเอกหญิง จิตตวัฒนา ไชยคุณ ผู้กำกับการ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายมาชัย ไพศาลธนสมบัติ ปลัดเทศบาลนครนนทบุรี และนางสาวบุญลาภ ภูสุวรรณ บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้า โดยมีการออกรางวัลเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567   ณ ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่

ทั้งนี้ สลากออมสินพิเศษ 1 ปี หน่วยละ 100 บาท ไม่จำกัดวงเงินฝากสูงสุด ฝากครบ 1 ปี จะได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 0.35 บาท พร้อมกับเงินต้น นอกจากเงินรางวัล 111 ล้านแล้ว ลูกค้ายังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลในงวดต่อไปได้ทุกเดือน ทั้งรางวัลที่ 1 เงินรางวัล 10 ล้านบาท รางวัลอื่นๆ รวมถึงรางวัลเลขท้าย รวม 12 ครั้ง และกำหนดออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของทุกเดือน ซึ่งธนาคารออมสินยังคงมุ่งมั่นในการส่งเสริมการออม พร้อมสร้างวินัยทางการเงินแก่เด็ก เยาวชน และประชาชนอย่างต่อเนื่อง ด้วยผลิตภัณฑ์เงินฝากที่หลากหลายและให้ผลตอบแทนที่เหมาะสม เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน

Advertisement

ประเทศไทยตอนบนฝนฟ้าคะนอง อีสาน-ตอ. ตกหนักบางพื้นที่

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 13 พฤษภาคม 2567 กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคอีสานและภาคตะวันออก ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝน 40% ของพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ส่วนชาวเรือควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยมีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์น้อย เนื่องจากในบริเวณดังกล่าวมีฝนตกหลายพื้นที่ และการระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

พยากรณ์อากาศรายภาค

กทม.-ปริมณฑล : อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคเหนือ : อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง : อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา และ กาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก : อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) : อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) : อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

Advertisement

การประปาฯ เปิดจุดให้บริการน้ำประปาดื่มได้ฟรี เริ่ม 13 พ.ค.นี้

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 12 พฤษภาคม 2567 กปน. เปิดจุดให้บริการน้ำประปาดื่มได้ฟรี ที่สำนักงานประปาสาขา ทั้ง 18 แห่ง และ กปน. สำนักงานใหญ่ เริ่ม 13 พ.ค. 67 นี้

นายรักษ์ศักดิ์ สุริยหาร รองผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กปน. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงรุนแรงในปีนี้ กปน. ได้เปิดจุดให้บริการน้ำประปาดื่มได้ฟรีที่สำนักงานประปาสาขาทั้ง 18 แห่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากภัยแล้งดังกล่าว

โดยประชาชนสามารถนำภาชนะมารับน้ำประปาดื่มได้ฟรี ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 08.00 – 20.00 น. ที่สำนักงานประปาสาขาทั้ง 18 สาขาใกล้บ้านท่าน และ สำนักงานใหญ่ การประปานครหลวง เปิดให้บริการในวันและเวลาราชการ เวลา 08.30 – 16.30 น.

ทั้งนี้ น้ำประปา ณ จุดบริการดังกล่าว ผลิตจากโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ซึ่งใช้แหล่งน้ำดิบที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำทะเลหนุน หรือเป็นน้ำประปาที่ผ่านระบบรีเวอร์ส ออสโมซีส (Reverse Osmosis หรือ RO) ที่สามารถกำจัดความเค็มของน้ำประปาได้ อย่างไรก็ตาม กปน. ขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด นำน้ำกลับมาใช้ใหม่อย่างรู้คุณค่า โดยสามารถติดตามสถานการณ์น้ำประปาในช่วงวิกฤตภัยแล้งผ่านทุกช่องทางของ กปน. ได้ดังนี้ http://twqonline.mwa.co.th แอปพลิเคชัน MWA onMobile, Facebook, Line, X และ Instagram : @MWAthailand หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ MWA Call Center 1125 ตลอด 24 ชั่วโมง

Advertisement

การประปาฯ-กรมชลประทาน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนรอบใหม่ 5-15 พ.ค.นี้

Wash your hands with clean water from the faucet.

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 6 พฤษภาคม 2567 ปทุมธานี – กปน.-กรมชลประทาน เตรียมแผนรับมือน้ำทะเลหนุนรอบใหม่วันที่ 5-15 พ.ค.นี้ หลังช่วงปลายเดือน เม.ย. ทำให้น้ำเค็มเกินมาตรฐาน ส่งผลให้น้ำประปาอาจมีรสชาติเปลี่ยนแปลงบ้าง มั่นใจทุกขั้นตอนผลิตน้ำประปาที่ต้นสถานีสูบน้ำดิบสำแลถึงผลิต 3 แห่ง น้ำประปามีคุณภาพสูง ขอให้ประชาชนสบายใจ และขอให้ตามข้อมูลคุณภาพน้ำสม่ำเสมอ

นายรักษ์ศักดิ์ สุริยหาร รองผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กปน.กล่าวว่า จากปัญหาภัยแล้งและสภาพอากาศร้อนจัดที่เกิดขึ้น กปน. ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้ชิด โดยที่ผ่านมา ได้เกิดภาวะน้ำทะเลหนุนถึงจุดรับน้ำดิบเข้าคลองประปาของ กปน. บริเวณสถานีสูบน้ำดิบสำแล อ.เมือง จ.ปทุมธานี ในบางช่วงเวลา ซึ่ง กปน. ได้ประสานความร่วมมือกับกรมชลประทาน ในการผลักดันน้ำเค็มให้ไกลบริเวณสถานีสูบน้ำดิบสำแล เพื่อให้ลูกค้าได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และหากการระบายน้ำยังอยู่ในอัตราคงที่ อาจส่งผลให้น้ำประปามีรสชาติเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในบางช่วงเวลา ในบางพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ

ทั้งนี้ หลังค่าความเค็มที่บริเวณสถานีสูบน้ำดิบสำแล อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี จากภาวะน้ำทะเลหนุนสูงช่วงในช่วงวันที่ 25-30 เมษายนที่ผ่ามา เกินมาตรฐานที่ 0.50 กรัมต่อลิตรบางช่วงเวลานั้น ทั้งกรมชลประทานและ กปน.เฝ้าติดตามใกล้ชิด แต่ขณะนี้เริ่มคลี่คลายลงไปมากแล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงอีกรอบในช่วงวันที่ 5-15 พฤษภาคมนี้ อาจทำให้บริเวณสถานีสูบน้ำดิบสำแลมีน้ำเค็มเกินมาตรฐานอีกขึ้นมาได้ และล่าสุดในเวลา 06.00 น. วันที่ 5 พ.ค. ค่าน้ำอยู่ที่ 0.27 กรัมต่อลิตร เท่ากับวานนี้ ตลอดทั้งวันของเมื่อวานนี้ ถือว่าไม่เกินค่ามาตรฐานที่ 0.50 กรัมต่อลิตรแต่อย่างใด

ทั้งนี้ การติดตามโดยกรมชลประทานได้ประสานกับการประปานครหลวงจะลดการสูบน้ำเข้าระบบช่วงที่ค่าความเค็มเกินเกณฑ์มาตรฐาน หากช่วงที่ไม่เกินมาตรฐานให้เพิ่มปริมาณการสูบเข้าระบบ เพื่อเจือจางไม่ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านรสชาติของน้ำประปาที่ส่งเลี้ยงพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ หากช่วงน้ำทะเลหนุน แต่หากมีความเค็มเกินมาตรฐาน กปน.จะแจ้งข่าวสารให้ประชาชนทราบ อาจทำให้น้ำประปามีรสชาติเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยช่วงเวลาบางพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ดังนั้น กปน. ขอความร่วมมือประชาชนกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ติดตามข้อมูลคุณภาพน้ำจาก กปน. อย่างสม่ำเสมอ และร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อรักษาทรัพยากรน้ำอันมีค่า พร้อมรับมือกับปริมาณน้ำที่น้อยลงในปีนี้

อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างความมั่นใจต่อการบริโภคน้ำดื่ม น้ำใช้ แก่ประชาชน กปน. โดยสถานีสูบน้ำดิบสำแล ตั้งอยู่ในตำบลบ้านกระแชง อำเภอเมืองจังหวัดปทุมธานี เป็นจุดเริ่มต้นของการรับน้ำดิบจากแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านคลองประปาฝั่งตะวันออก ก่อนเข้าสู่กระบวนการผลิตและนำจ่ายภาคครัวเรือนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 100% อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร 41 กิโลเมตรไกลจากปากอ่าวไทย 90 กิโลเมตรมีปริมาณการสูบน้ำดิบประมาณ 3.8 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งระบบการผลิตและสูบน้ำประปานั้น เริ่มจากการดึงแหล่งน้ำดิบจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่การคัดกรองภายในจนได้น้ำดิบผ่านออกทางคลองประปาฝั่งตะวันออกระยะทาง 30.5 กิโลเมตร เข้าสู่ระบบผลิตที่ผลิตน้ำบางเขน โรงผลิตน้ำสามเสนและโรงผลิตน้ำธนบุรี ก่อนส่งต่อสถานีจ่ายน้ำฝั่งตะวันออกสู่สำนักงานประปาสาขาและไปยังภาคครัวเรือนให้ประชาชนได้ใช้กัน

ทัังนี้ ทุกขั้นตอน ก่อนจะส่งน้ำดิบเข้าสู่คลองชลประทานทุกระบบมีการจัดการที่ดีมากทั้งการติดตั้งประตูตะแกรงดักจับขยะถึง 3 ชั้น มีการตรวจสอบคุณภาพน้ำเป็นประจำ มีระบบหมุนเวียนน้ำ โดยใช้ปลาตะเพียนขาวอายุประมาณ 3 เดือน เป็นตัวทดสอบ ซึ่งปลาตะเพียนขาวเป็นสัตว์ที่ไวต่อสารเคมีและสิ่งเจือปนในน้ำ หากพบผิดปกติทางเจ้าหน้าที่จะเร่งนำตัวอย่างน้ำเข้าตรวจสอบทันที ดังนั้น การใช้ปลาตะเพียนขาว จะมีการเปลี่ยนยกชุดทุกๆ 1 เดือน และภายในสถานีมีเครื่องผลิตน้ำดิบถึง 9 เครื่อง เพื่อให้การผลิตประปาเพียงพอและทันต่อการบริโภคของประชาชน โดยทุกขั้นตอนคำนึงถึงคุณภาพและความสะอาดเป็นหลัก เพื่อมอบสิ่งที่ดีและความสะอาดให้กับประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร

ที่สำคัญ สถานีแห่งนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างเพิ่มเติมประตูป้องกันน้ำท่วมและกำแพงสูงโดยรอบเพื่อป้องกันในแต่ละปีเมื่อถึงรอบน้ำเยอะจนทำให้แม่น้ำเจ้าพระยามีน้ำสูงและท่วมโดยรอบบริเวณได้ ซึ่งประตูป้องกันน้ำท่วมนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า นอกจากเป็นประตูป้องกันน้ำท่วมแล้ว จะใช้ควบคู่ในช่วงปกติหากเวลาใดน้ำทะเลหนุนสูงและมีความเค็มเกินมาตรฐานจะปิดประตูป้องกันน้ำท่วมชั่วคราวเพื่อลดปัญหาน้ำเค็มเข้ามาในสถานีแห่งนี้ได้ พร้อมทั้งมีแผนขยายพื้นที่เก็บน้ำภายในสถานีหากช่วงเวลาน้ำทะเลหนุนมีความเค็มภายนอกนานจะได้ปล่อยน้ำที่ไม่เกินค่ามาตรฐานไปยัง 3 สถานีผลิตน้ำสะอาดได้ต่อไป

ประชาชนสามารถติดตามคุณภาพน้ำประปารายวันได้ ผ่านช่องทางการติดต่อออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง Facebook / Line / X และ Instagram : @MWAthailand และสามารถติดตามค่าคุณภาพน้ำต่าง ๆ แบบเรียลไทม์ได้ทาง http://twqonline.mwa.co.th และแอปพลิเคชัน MWA onMobile ได้

Advertisement

กรมอุตุฯ เผยอากาศยังร้อนถึงร้อนจัด

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 4 พฤษภาคม 2567 กรมอุตุฯ เผยอากาศยังร้อนถึงร้อนจัด เตือนไทยตอนบนเฝ้าระวัง “พายุฤดูร้อน” ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก

กรมอุตุนิยมวิทยา เผยความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วย สำหรับคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนผ่านปกคลุมภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมีลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก รวมถึงอันตรายจากฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

สำหรับลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน โดยมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ชาวเรือควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

Advertisement

พายุฤดูร้อนถล่ม 31 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 3 พฤษภาคม 2567 กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง วันนี้ (3 พ.ค.) ได้รับผลกระทบ 31 จังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 มีผลกระทบในช่วงวันที่ 3-7 พฤษภาคม 2567

ในช่วงวันที่ 3–5 พ.ค. 67 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่วนในช่วงวันที่ 6-7 พ.ค.67 จะมีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นหลายพื้นที่ โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้

วันที่ 3 พฤษภาคม 2567

ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร นครราชสีมา และอุบลราชธานี

ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี และกาญจนบุรี

วันที่ 4 พฤษภาคม 2567

ภาคเหนือ : จังหวัดน่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง : จังหวัดอุทัยธานี และกาญจนบุรี

วันที่ 5 – 6 พฤษภาคม 2567

ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

วันที่ 7 พฤษภาคม 2567

ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์

ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และตราด

Advertisement

การประปาฯเผยน้ำทะเลหนุนสูง น้ำประปามีรสชาติเปลี่ยนแปลง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 2 พฤษภาคม 2567 กปน. เผยน้ำทะเลหนุนสูงเหนือสำแล อ.เมือง จ.ปทุมธานี อย่างต่อเนื่อง น้ำประปาอาจมีรสชาติเปลี่ยนแปลงบ้าง แนะลูกค้าติดตามข้อมูลคุณภาพน้ำสม่ำเสมอ

นายรักษ์ศักดิ์ สุริยหาร รองผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กปน. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้น กปน. ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาเกิดภาวะน้ำทะเลหนุนถึงจุดรับน้ำดิบเข้าคลองประปาของ กปน. บริเวณสถานีสูบน้ำดิบสำแล อ.เมือง จ.ปทุมธานี ในบางช่วงเวลา ซึ่ง กปน. ได้ประสานความร่วมมือกับกรมชลประทาน ในการผลักดันน้ำเค็มให้ไกลบริเวณสถานีสูบน้ำดิบสำแล เพื่อให้ลูกค้าได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

อย่างไรก็ตาม หากการระบายน้ำยังอยู่ในอัตราคงที่อาจส่งผลให้น้ำประปามีรสชาติเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในบางช่วงเวลา ในบางพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ที่อยู่บริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงนี้ ซึ่งหากปริมาณหรือคุณภาพน้ำประปาเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงปกติ กปน. จะมีการแจ้งข่าวสารให้ทราบอย่างต่อเนื่อง

โดยลูกค้าสามารถติดตามคุณภาพน้ำประปารายวันได้ ผ่านช่องทางการติดต่อออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง Facebook/ Line/ X และ Instagram : @MWAthailand และสามารถติดตามค่าคุณภาพน้ำต่างๆ แบบเรียลไทม์ได้ทาง http://twqonline.mwa.co.th และแอปพลิเคชัน MWA onMobile เพื่อให้ลูกค้าเตรียมตัวรับสถานการณ์ ตลอดจนวางแผนการใช้น้ำประปาและสำรองน้ำประปาได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที

นายรักษ์ศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กปน. ขอความร่วมมือประชาชนในกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ติดตามข้อมูลคุณภาพน้ำจาก กปน. อย่างสม่ำเสมอ และร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อรักษาทรัพยากรน้ำอันมีค่า พร้อมรับมือกับปริมาณน้ำที่น้อยลง

Advertisement

ด่วน!! กรมอุตุฯออกประกาศเตือนฉบับที่ 3 พายุฤดูร้อนถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ-อีสาน-กลาง 3-7 พ.ค.นี้

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 2 พฤษภาคม 2567 กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือน พายุฤดูร้อนบริเวณไทยตอนบน ฉบับที่ 3 มีผลกระทบ 3-7 พ.ค.67 โดยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 3 มีผลกระทบในช่วงวันที่ 3-7 พฤษภาคม 2567

ในช่วงวันที่ 3–5 พ.ค. 67 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่วนในช่วงวันที่ 6-7 พ.ค. 67 จะมีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นหลายพื้นที่ โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้

วันที่ 3 – 4 พฤษภาคม 2567

ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี และกาญจนบุรี

วันที่ 5 – 6 พฤษภาคม 2567

ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

วันที่ 7 พฤษภาคม 2567

ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์

ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และตราด

Advertisement

Verified by ExactMetrics