วันที่ 24 พฤศจิกายน 2024

พิษAI! “สมคิด” เรียกอธิการบดีถกรับมือคนตกงาน 28 ต.ค.นี้

People Unity : ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผย พิษAI! “สมคิด” เรียกอธิการบดีถกรับมือคนตกงาน 28 ต.ค.นี้

วันที่ 25 ต.ค.2562 ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เชิญอธิการบดีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ รวมถึงบริษัทเอกชนรายใหญ่มาประชุมเรื่องการผลิตและพัฒนากำลังคน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ การตอบโจทย์กำลังคนในวัยทำงานในระบบ รวมถึงคนที่ต้องการจะเปลี่ยนงาน

ทั้งนี้เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดการว่างงานจำนวนมาก ซึ่งเพื่อที่จะหารือร่วมกันถึงการปรับปรุงและพัฒนาทักษะ การเพิ่มทักษะ และการสร้างทักษะใหม่ โดยภาคเอกชนอาจจะมาร่วมจัดทำหลักสูตรในอนาคต เพื่อให้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน เช่น ภาคเอกชนอาจจะทำหลักสูตรเอง แต่ให้ อว. เข้าไปส่งเสริมสนับสนุน หรือถ้าภาคเอกชนทำไม่ได้ก็ให้มหาวิทยาลัยเข้าช่วยทำ หรือมหาวิทยาลัยทำหลักสูตรเอง ซึ่งหลักสูตรที่จะทำให้จะทั้งแบบที่มีปริญญากับไม่มีปริญญาก็ได้ ดร.สุวิทย์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะมีการสำรวจความต้องการทักษะอาชีพ เพื่อจัดทำหลักสูตรให้สอดคล้อง โดยเฉพาะหลักสูตรที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ

1. กลุ่มสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มที่ไม่จำเป็นต้องมีปริญญา แต่ต้องพัฒนาไปสู่เกษตร 4.0 ให้ได้ 2. กลุ่มอุตสาหกรรม ที่จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าไปใช้ในกลุ่มคนทำงาน เช่น วิศวกร ช่างฝีมือ เป็นต้น และ 3. กลุ่มภาคบริการ เช่น การท่องเที่ยวแบบสร้างสรรค์ โดยในการทำงาน 3 กลุ่มนี้จะให้มหาวิทยาลัยเข้ามาจับคู่กัน เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) จะเน้นเรื่องภาคบริการ และความโดดเด่นของท้องถิ่น ที่จะมายกระดับความสามารถ ด้านภาษา การท่องเที่ยว การเกษตร ส่วนมหา วิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.)

และอีก 3 พระจอมเกล้าจะเน้นเรื่องของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เป็นต้น ขณะที่มหาวิทยาลัยกลุ่มใหญ่จะเน้นเรื่องการรับมือต่อกระแสดิสรัปชั่น ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาทักษะ การเพิ่มทักษะ และการสร้างทักษะใหม่ อย่างไรก็ตามการดำเนินการทั้งหมด เพื่อตอบโจทย์การ แก้ปัญหาแรงงานว่างงานในระบบ แรงงานที่ต้องการเปลี่ยนงาน และอาชีพในอนาคต ซึ่งตนได้ประสานกับ 10 บริษัทรายใหญ่ เพื่อให้มาทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยในการพัฒนาคนใน ยุคดิสรัปชั่นด้วย

“บิ๊กตู่”โยน! “อนุทิน”ลั่นไม่ชี้แจงสหรัฐฯ ยันมติเดิมแบน 3 สารพิษตาม กม.ไทย

People Unity : “บิ๊กตู่”โยนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจงปมทูตสหรัฐฯ ส่งหนังสือค้านแบนไกลโฟเซต อ้างไทยไร้หลักฐานวิทย์พิสูจน์สารอันตราย “อนุทิน” ลั่นไม่ชี้แจงบอกพิจารณาตาม กม.ไทย ยันตามมติเดิม

เมื่อเวลา 09.35 น.วันที่ 24 ตุลาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่ไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ปี 2562 โดยก่อนการประชุมผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีสถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อคัดค้านการห้ามใช้สารไกลโฟเชต ซึ่งเป็น 1 ใน 3 สารเคมีทางการเกษตร ที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยกเลิกใช้ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป โดยพล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธตอบถึงกรณีดังกล่าว พร้อมกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ชี้แจง”

ลั่นไม่ชี้แจงสถานทูตสหรัฐฯขอไทยทบทวนมติแบนสารพิษ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จริงๆ แล้วสภาหอการค้าสหรัฐอเมริกา ลงนามตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 2562 แต่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีการประชุมพิจารณาแบนสารเคมีเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำไมมีการออกหนังสือล่วงหน้ามาถึง 11 วัน เช่นนี้แสดงว่า เป็นการกดดันหรือไม่ จะมาบอกว่าจะมีปัญหาเรื่องการนำเข้า ตนคงไปว่าเขาไม่ได้ เพราะเขาห่วงเรื่องกระเป๋าของเขา ไม่ได้ห่วงสุขภาพของคนไทย เพราะฉะนั้นเราต้องมีมาตรการ ถ้ากังวลว่าจะมีสารตกค้างก็ต้องมาพิสูจน์ว่าจะนำเข้ามาโดยไม่มีสารตกค้าง แต่นี่กลัวขายของไม่ได้เลยมาบอกให้รัฐบาลยกเลิกการห้ามสารพิษเพื่อให้ใช้ได้ แล้วเราจะยอมหรือไม่

นายอนุทิน กล่าวว่า คณะกรรมการวัตถุอันตรายประชุมภายใต้กฎหมายของประเทศไทยใช่หรือไม่ หรือประชุมภายใต้กฎหมายต่างชาติ เพราะฉะนั้นกฎหมายไทยให้อำนาจคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาการใช้หรือห้ามใช้ ซึ่งคณะกรรมการวัตถุอันตรายจำนวน 29 คน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมีความรู้ทั้งนั้น ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะมาเรียกประชุมในวันเดียว แต่มีการเตรียมมาเป็นปี และมีมติการห้ามใช้สารเคมีเหล่านี้ ไม่ได้มีการกดดันใดๆ ทางการเมืองแม้แต่น้อย มติที่ออกมาให้มีการยกเลิกการใช้สารเคมีเหล่านี้ก็เป็นไปตามสำนึกความห่วงใยต่อพี่น้องและสุขภาพประชาชน

เมื่อถามว่า สถานทูตสหรัฐฯ ส่งหนังสือโดยแนบท้ายหนังสือของสภาหอการค้าสหรัฐฯ ขอให้ไทยมีการทบทวนมติแบนสารเคมี โดยเฉพาะไกลโฟเซต ไทยจะยืนยันตามมติเดิมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนของกระทรวงสาธารณสุขยืนยันตามมติเดิม ส่วนกระทรวงอื่นก็ต้องแล้วแต่เจ้ากระทรวง เราก้าวก่ายกันไม่ได้ จริงๆ ก็ไม่ควรก้าวก่ายกัน กฎหมายใครกฎหมายมัน เมื่อถามต่อว่าจะต้องชี้แจงปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้ส่งหนังสือมาถึงตน และตนก็ไม่ได้มีหน้าที่ต้องไปชี้แจง แต่หน้าที่ของ สธ.คือรับผิดชอบสุขภาพประชาชน อะไรก็ตามที่บริโภคเข้าไปแล้วเป้นอันตรายต่อร่างกาย สัมผัสแล้วเกิดแผลพุพอง สูญเสียอวัยวะ ตรงนี้เป็นคนละเรื่องกับการค้า ซึ่ง สธ.เกี่ยวข้องกับสุขภาพชีวิตคน เรื่องการค้าไม่ใช่เรื่องที่ สธ.จะให้ความเห็นอะไรได้ หรือจะมาเปลี่ยนแปลงจุดยืนของ สธ.ได้

“ชวลิต”จี้รัฐรีบตั้งห้องแล็บด่านเชียงของตรวจผักผลไม้จีนอาจปนเปื้อสารเคมี

People Unity : “ชวลิต”จี้รัฐรีบตั้งห้องแล็บที่ด่านเชียงของใน 1 ธ.ค.62 หรือระงับการนำเข้าผัก ผลไม้จากจีนไว้ก่อน

วันที่ 25 ต.ค.2562 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส. นครพนม ในฐานะประธานคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฏร ให้ความเห็นภายหลังคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติแบน 3 สารพิษร้ายแรงในภาคเกษตรกรรม คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 ว่า ยังมีผัก ผลไม้ ที่ไทยนำเข้าจากจีนผ่านด่านเชียงของ จ.เชียงราย ป้อนผู้บริโภคชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยในปี 2561 ผัก ที่นำเข้าจากจีนผ่านด่านเชียงของ มีมูลค่า ปีละกว่า 2,600 ล้านบาท ผลไม้ มีมูลค่าปีละ 2,450 ล้านบาท สำหรับในปี 2562 แม้ยังไม่สิ้นปี ผัก มีการนำเข้าเพิ่มขึ้น 23% คิดเป็นมูลค่า 3,200 ล้านบาท และผลไม้มีมูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาท

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ที่ด่านเชียงของไม่มีห้องแล็บสำหรับสุ่มตรวจผัก ผลไม้ จากจีนว่ามีสารเคมีปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานหรือไม่ อย่างไร นับว่าเป็นความบกพร่องของส่วนราชการในการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคอย่างยิ่ง ดังนั้น เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากสารเคมีอันตราย เมื่อมีมาตรการควบคุมการใช้สารเคมีในประเทศดังที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายได้มีมติดังกล่าวแล้ว นั้น ผัก ผลไม้ ที่นำเข้าจากต่างประเทศ รัฐบาลก็ควรมีมาตรการที่จะคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากสารเคมีที่อาจปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานด้วยเช่นกัน

“จึงขอเสนอให้รัฐบาลเร่งจัดตั้งห้องแล็บที่ด่านเชียงของ จะเป็นห้องแล็บถาวร หรือเคลื่อนที่ หรือจะใช้บริการห้องแล็บจากภาคเอกชน ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยขอให้เริ่มดำเนินการสุ่มตรวจได้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 เช่นกัน หากไม่สามารถดำเนินการได้ภายในเวลาดังกล่าว ก็ควรระงับการนำเข้าผัก ผลไม้ จากจีนไว้ชั่วคราวจนกว่าการจัดตั้งห้องแล็บจะเรียบร้อย ทั้งนี้ เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยเป็นเป้าหมายสำคัญสูงสุด” นายชวลิต กล่าว

“ธนกร”ป้อง”บิ๊กตู่” ยัน”ชิม ช้อป ใช้”ช่วยพยุงเศรษฐกิจ

People Unity : “ธนกร”ป้อง”บิ๊กตู่” ยัน”ชิม ช้อป ใช้”ช่วยพยุงเศรษฐกิจ จวก”พิชัย”ดีแต่พูด ประชาชนจำไม่ได้ด้วยซำ้เคยสร้างผลงานอะไรเอาไว้ ชูใช้เงินกระเป๋า 2 ถึง 5 หมื่น รับแคชแบ็กกลับถึง 8,500 บาท

วันที่ 25 ต.ค.2562 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่นายพิชัย นริพทะพันธ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่าโครงการชิม ช้อป ใช้ เฟส2 ไม่ได้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อ้างว่าอาบน้ำร้อนมาก่อน แต่คิดได้แค่แจกเงินว่า ต้องทำความเข้าใจกับนายพิชัยก่อนว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลออกมามีหลายมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ เป็นมาตรการหนึ่งเท่านั้น เป็นการทำงานเชิงรุกของภาครัฐที่ประเมินสถานการณ์และเตรียมการรับมือเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง จึงมีการวางแผนและออกแบบมาตรการพยุงเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและทันท่วงที โดยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศผ่านการให้แรงจูงใจ ดึงผู้มีกำลังซื้อออกมาใช้จ่ายในพื้นที่ต่างๆ เกิดความคึกคักในการจับจ่าย กระจายเม็ดเงินไปยังเศรษฐกิจฐานราก และการจ้างงานต่อเนื่อง ไม่เพียงใช้แล้วหมดไป ซึ่งการใช้จ่ายงบประมาณในการสร้างแรงจูงใจจะคุ้มค่าเพราะก่อให้เกิด Multiplier Effect จากการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของเศรษฐกิจไทยโดยในช่วงที่ผ่านมา

นายธนกร กล่าวอีกว่า นายพิชัยเป็นอดีตรัฐมนตรีที่ไม่เคยมีผลงานอะไรเลย เมื่อเทียบกับพล.อ.ประยุทธ์แล้วประชาชนนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่านายพิชัยเป็นใคร แต่ประชาชนทั่วประเทศรับรู้ได้ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของพล.อ.ประยุทธ์ในการทำงานให้กับบ้านเมือง ที่ผ่านมามีผลงานมากมาย แต่นายพิชัยทำได้เพียงรับใช้นายทุนเท่านั้น อย่างอื่นตนนึกไม่ออกเลย อย่างไรก็ตาม มาตรการชิม ช้อป ใช้ เฟส2ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ซึ่งในส่วนกระเป๋า2นั้น หากใช้ 30,000 บาทจะได้แคชแบ็กถึง 15 เปอร์เซนต์ แต่หากใช้300,00บาทขึ้นไป จะได้แคชแบ็กถึง 20 เปอร์เซนต์ พูดง่ายๆ คือ หากใช้ถึง 50,000 บาทจะได้เงินแคชแบ็กคืนมาถึง 8,500 บาท ทั้งนี้ สามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์ทวิตเตอร์ Pichai Naripthaphan/พิชัย นริพทะพันธุ์ ระบุว่า การแจกเงินชิมช้อปใช้ ซึ่งประชาชนนำไปใช้แล้วก็หมดไป ไม่ได้สร้างความยั่งยืนทางการพัฒนา หรือ ความยั่งยืนทางรายได้ และที่สำคัญไม่ได้แก้ปัญหาการว่างงานที่จะเกิดขึ้นรวมกว่า 5 แสนคนในปีหน้าได้ นักศึกษาที่จบใหม่จะตกงานกันอย่างมาก ทั้งนี้มาจากการลงทุนที่หดหายมากว่า 5 ปี

เดินหน้าปลูกกัญชา 6 ต้น! “อนุทิน”ปลื้ม! 3 เดือนปิดจ็อบรถไฟฟ้า-แบน 3 สารพิษ

People Unity : “อนุทิน”มั่นใจโครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินไปลิ่ว ไร้อุปสรรค เผย สธ.ไม่ยุ่งเรื่องสารทดแทนแต่หากพบมีอันตรายก็ต้องแบน โชว์ความคืบหน้า 3 เดือน นโยบายกัญชาย้ำพอใจ หลาย รพ.ใช้รักษาโรค ยันไม่ทิ้งนโยบาย 6 ต้น เผยกฎหมายถึงสภาฯแล้ว ลั่นภูมิใจไทยพร้อมผลักดันสุดกำลัง

วันที่ 25 ต.ค.2562 จากการลงนามสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. มูลค่าโครงการ 224,544.36 ล้านบาท ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่ม CPH) ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ที่เพิ่งเสร็จสิ้นเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะ กล่าวว่า เป็นนิมิตหมายอันดี ที่แสดงให้เห็นว่าโครงการ EEC ไม่ใช่การขายฝัน แต่เรากำลังเดินหน้าอย่างเต็มที่ และมีความพร้อมในการรับการลงทุนจากทั่วโลก ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน มีความสำคัญ เพราะเป็นตัวจุดประกายความสำเร็จให้กับโครงการ EEC หลังจากการเซ็นสัญญาจะมีการจ้างงาน จะเกิดการใช้จ่ายมหาศาล เศรษฐกิจจะขยายตัว มีเงินอัดฉีดเข้าไปในระบบ และจะเกิดโครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามมา

“การเจรจาจบแล้ว ถึงได้มีการลงนาม การลงนามที่มีนายกฯ เป็นประธาน มันต้องเอาจริง ต้องทำให้เสร็จ จะมาเล่นๆไม่ได้ โครงการไปได้แน่นอน และคิดว่าน่าจะเปิดใช้งานได้ตามกำหนดเวลา อย่างที่ผมเคยบอก อะไรที่ช่วยกันได้ ไม่ผิดกฎหมาย ก็ให้ช่วยเหลือกัน การตีความกฎหมาย อย่าไปตีหาอุปสรรค แต่ให้หาทางออก เพราะยิ่งทำได้เร็ว ยิ่งเกิดประโยชน์กับคนไทย”

รองนายกฯ กล่าวอีกว่า การสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โครงการกรุงเทพฯขึ้นเชียงใหม่ และกรุงเทพ ลงไปสุราษฎร์ธานีล้วนอยู่ในแผนการพัฒนา แต่ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสม อย่างไรก็ตามตอนนี้ ต้องจัดการเรื่องท่าเรือ และสนามบินอู่ตะเภา เพื่อผลักดันโครงการ EEC ก่อน

เผย สธ.ไม่ยุ่งเรื่องสารทดแทนแต่หากพบมีอันตรายก็ต้องแบน

นายอนุทิน กล่าวถึงข้อสงสัยเรื่องสารทดแทน ที่จะให้ใช้แทน 3 สารที่ถูกแบน หรือ พาราควอต ไกรโฟเซต คลอร์ไพริฟอส โดยคณะกรรมการวัตถุอันตรายว่า หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้หาทางรับมือไว้แล้ว แต่ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้มีหน้าที่ตรงนี้ ต้องเรียนให้เข้าใจก่อน เราต้องดูแลสุขภาพของประชาชน ซึ่งถ้าสารทดแทน มีอันตรายต่อชีวิตประชาชน ก็ปล่อยให้ใช้ไม่ได้

ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขร่วมแรงร่วมใจในการแบนสารพิษ แสดงพลังขึ้นป้ายต่อต้านการใช้ โดยไม่ได้นัดหมาย คิดว่าบุคลากรทางการแพทย์ น่าจะเคยเห็น เคยรักษาผู้ที่ป่วยจากสารพิษ ซึ่งบางคนเนื้อเน่า ไปถึงเป็นมะเร็ง และตระหนักว่าจะปล่อยให้ใช้ต่อไปไม่ได้ นี่เป็นหลักการ ดังนั้น สารที่มาใช้แทน ถ้าเกิดมีผลกระทบกับสุขภาพคนไทย เราเดินหน้าลุยแน่ มันเป็นหน้าที่ ที่ต้องทำ

เมื่อถามถึงความกังวลเรื่องกลุ่มต้านการแบนสารพิษ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกฝ่ายมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้อง แต่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติออกมาแล้ว ก็ต้องเป็นไปตามนั้น ยกเว้นศาลจะมีคำสั่งเป็นอื่น พร้อมยอมรับ ส่วนกระทรวงสาธารณสุข หน้าที่ของเรายังไม่จบ ต้องดูแลคนไทยต่อไป ให้ประชาชนได้รับการบริการด้านสุขภาพที่ดีที่สุด

ลั่นไม่ชี้แจงสถานทูตสหรัฐฯขอไทยทบทวนมติแบนสารพิษ

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่กรณีสถานทูตสหรัฐอเมริกา ทำหนังสือถึงรัฐบาลไทยเพื่อขอให้ทบทวนการแบนสารเคมีอันตราย โดยเฉพาะสารไกลโฟเซต โดยนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า จริงๆ แล้วสภาหอการค้าสหรัฐอเมริกา ลงนามตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 2562 แต่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีการประชุมพิจารณาแบนสารเคมีเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำไมมีการออกหนังสือล่วงหน้ามาถึง 11 วัน เช่นนี้แสดงว่า เป็นการกดดันหรือไม่ จะมาบอกว่าจะมีปัญหาเรื่องการนำเข้า ตนคงไปว่าเขาไม่ได้ เพราะเขาห่วงเรื่องกระเป๋าของเขา ไม่ได้ห่วงสุขภาพของคนไทย เพราะฉะนั้นเราต้องมีมาตรการ ถ้ากังวลว่าจะมีสารตกค้างก็ต้องมาพิสูจน์ว่าจะนำเข้ามาโดยไม่มีสารตกค้าง แต่นี่กลัวขายของไม่ได้เลยมาบอกให้รัฐบาลยกเลิกการห้ามสารพิษเพื่อให้ใช้ได้ แล้วเราจะยอมหรือไม่

นายอนุทิน กล่าวว่า คณะกรรมการวัตถุอันตรายประชุมภายใต้กฎหมายของประเทศไทยใช่หรือไม่ หรือประชุมภายใต้กฎหมายต่างชาติ เพราะฉะนั้นกฎหมายไทยให้อำนาจคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาการใช้หรือห้ามใช้ ซึ่งคณะกรรมการวัตถุอันตรายจำนวน 29 คน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมีความรู้ทั้งนั้น ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะมาเรียกประชุมในวันเดียว แต่มีการเตรียมมาเป็นปี และมีมติการห้ามใช้สารเคมีเหล่านี้ ไม่ได้มีการกดดันใดๆ ทางการเมืองแม้แต่น้อย มติที่ออกมาให้มีการยกเลิกการใช้สารเคมีเหล่านี้ก็เป็นไปตามสำนึกความห่วงใยต่อพี่น้องและสุขภาพประชาชน

เมื่อถามว่า สถานทูตสหรัฐฯ ส่งหนังสือโดยแนบท้ายหนังสือของสภาหอการค้าสหรัฐฯ ขอให้ไทยมีการทบทวนมติแบนสารเคมี โดยเฉพาะไกลโฟเซต ไทยจะยืนยันตามมติเดิมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนของกระทรวงสาธารณสุขยืนยันตามมติเดิม ส่วนกระทรวงอื่นก็ต้องแล้วแต่เจ้ากระทรวง เราก้าวก่ายกันไม่ได้ จริงๆ ก็ไม่ควรก้าวก่ายกัน กฎหมายใครกฎหมายมัน เมื่อถามต่อว่าจะต้องชี้แจงปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้ส่งหนังสือมาถึงตน และตนก็ไม่ได้มีหน้าที่ต้องไปชี้แจง แต่หน้าที่ของ สธ.คือรับผิดชอบสุขภาพประชาชน อะไรก็ตามที่บริโภคเข้าไปแล้วเป้นอันตรายต่อร่างกาย สัมผัสแล้วเกิดแผลพุพอง สูญเสียอวัยวะ ตรงนี้เป็นคนละเรื่องกับการค้า ซึ่ง สธ.เกี่ยวข้องกับสุขภาพชีวิตคน เรื่องการค้าไม่ใช่เรื่องที่ สธ.จะให้ความเห็นอะไรได้ หรือจะมาเปลี่ยนแปลงจุดยืนของ สธ.ได้

โชว์ความคืบหน้า 3 เดือนนโยบายกัญชายันไม่ทิ้งนโยบาย 6 ต้น

นายอนุทิน กล่าวถึงนโยบายกัญชา ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญในการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมาว่า ได้ผลักดันนโยบายนี้มาเป็นเวลา 3 เดือนเต็ม ซึ่งผลงานออกมาเป็นที่น่าพอใจ จากที่กัญชาต้องอยู่ใต้ดิน ไม่มีโอกาสที่จะขึ้นมาบนดิน วันนี้จะเห็นว่าหลายโรงพยาบาลมีคลีนิคกัญชา ให้บริการใช้กัญชารักษาโรค องค์การเภสัชกรรม มีสารสกัดจากกัญชา ส่งไปยังหลายโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อใช้รักษาประชาชน

สำหรับโรงพยาบาลเอกชน สามารถประสานขอใช้ได้เช่นกัน โดยแพทย์ที่จ่ายยา ต้องผ่านการอบรมอย่างเคร่งครัด นอกจากนั้น หมอพื้นบ้าน มีโอกาสนำสูตรยากัญชามาขึ้นทะเบียน ระหว่างการใช้รักษา ได้มีการจดบันทึกผลการรักษาอยู่ตลอด นี่คือรูปธรรมที่เกิดขึ้น เป็นความพยายามเปลี่ยนกัญชาจากผู้ร้ายให้เป็นพระเอก ส่วนกัญชง ได้ออกประกาศ ให้ขึ้นมาอยู่บนดินแล้ว เราพยายามทำอย่างเต็มที่

นายอนุทิน กล่าวต่อว่าเรื่อง 6 ต้นที่เคยหาเสียงไว้ จำเป็นต้องมีการแก้กฎหมาย เพราะมันไม่เหมือนเรื่องการใช้ทางการแพทย์ ที่สามารถใช้อำนาจของรัฐมนตรีแก้ไขได้เลย แต่นโยบาย 6 ต้น เกี่ยวพันกับหลายภาคส่วน ทั้งหน่วยงานการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ต้องแก้กฎหมาย ผ่านสภา ซึ่งได้นำกฎหมายเข้าไปแล้ว 2 ฉบับ นายชวน หลักภัย ประธานสภา มารับเรื่องด้วยตนเอง เท่ากับนับ 1 แล้ว จากนี้ กระบวนการจะเป็นไปตามขั้นตอน เราเดินหน้าอย่าวรัดกุม รอบคอบ มันมีเรื่องต้องพิจารณามากมาย เราลุยแน่ ขอให้ใจเย็น

“สมมุติ ถ้าทำนโยบายกัญชาแบบไม่รอบคอบ ปล่อยให้ประชาชนพกสารสกัดกัญชาไปไหนมาไหน แล้วพกไปต่างประเทศแบบไม่มีความรู้ เผลอนำเข้าไปในประเทศที่ยังให้กัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ หากถูกจับได้ แม้จะอธิบายว่าไม่ตั้งใจ แต่ก็ต้องโดนโทษหนักมาก ถ้าเราไม่อยากเห็นเหตุการณ์แบบนี้ มันต้องทำนโยบาย และวางมาตรการอย่างรอบคอบที่สุด แต่ขำย้ำว่า ถึงมันจะยาก แต่พรรคภูมิใจไทยต้องพยายาม”

นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้ายว่า นโยบายกัญชา หลักใหญ่คือต้องเป็นไปเพื่อการรักษาโรค เมื่อทำสำเร็จ กัญชากลายเป็นพระเอก การดำเนินนโยบายต่อไปจะง่ายทันที ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ นโยบายนี้ ไม่ใช่แค่ฝ่ายการเมืองขยับ แต่ข้าราชการก็ทำงานเต็มที่ ไม่มีเกียร์ว่าง เพราะรัฐมนตรีมาด้วยความวางใจของประชาชน ต้องตอบแทนประชาชน ต้องทำงาน ให้เกิดผลจับต้องได้ โดยอาศัยการขับเคลื่อนของข้าราชการอีกต่อหนึ่ง ดังนั้น จึงไม่มีข้าราชการที่ทำงานแบบเช้าชามเย็นชามแน่นอน

“ม.สงฆ์ มจร” มุ่งพัฒนา “MCU TV” ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกสื่อสารในยุคปัจจุบัน

People Unity : “ม.สงฆ์ มจร” มุ่งพัฒนา “MCU TV” ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกสื่อสารในยุคปัจจุบัน กำหนดประชุมคณะกรรมการบิหาร 2 เดือนต่อครั้ง เพื่อประเมินผลของการพัฒนาสถานี

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2562 ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ. วังน้อย จ. พระนครศรีอยุธยา พระครูโสภณพุทธิศาสตร์ ,ผศ.ดร.รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ ในฐานะประธานคณะกรรมการบิหารสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษาและเผยแผ่ธรรมะ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษาฯ (MCU TV) เพื่อรับฟังความคิดเห็นในการขับเคลื่อนกลยุทธ์เชิงรุก และจัดทำแผนพัฒนาสถานีโทรทัศน์ MCU TV 5 ปี

โดยมีคณะกรรมการเข้าร่วมกระชุม อาทิ พระสุวรรณเมธาภรณ์, ผศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ พระเมธีธรรมาจารย์,รศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา พร้อมผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตรายการโทรทัศน์มาร่วมให้คำแนะนำใน เช่น พระเทพสุวรรณเมธี นายมานพ จีรกาญจน์ไพศาล นางขวัญเรือน แก้วพิจิตร โดยที่ปีะชุมได้ให้ข้อคิดเห็นและเสนอแนะใน การผลิตโทรทัศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตเนื้อหาออกอากาศให้ทันเหตุการณ์และเผยแพร่ควบคู่ไปกับสื่อออนไลน์ ปรับปรุงอุปกรณ์ให้มีความทันสมัย

จัดการบริหารเป็นสัดส่วน เน้นบุคลากรภายใน และสร้างเครือข่ายจากวิทยาเขตวิทยาลัยสงฆ์ ในเครือของมหาวิทยาลัย และประสานความร่วมมือจากบุคลากรภายนอก ในการผลิตรายการ รวมถึงงบประมาณจัดสรรในการผลิตรายการ นอกจากนี้ ต้องเน้นกลยุทธ์ ปรับผังรายการให้เข้ากับยุคสมัยและหารายได้จากภายนอกเข้ามาสนับสนุนการผลิตรายการในสถานีโทรทัศน์ MCU TV และได้กำชับในการใช้ลิขสิทธิ์ในถูกต้อง พร้อมทั้งเน้นเนื้อหาด้านข่าวให้มีความรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ นำออกเผยแพร่ทั้งทางดาวเทียมและสื่อออนไลน์ เพื่อกระจายให้สังคมรับรู้ข้อมูลข่าวสารของมหาวิทยาลัยและของคณะสงฆ์ โดยให้ผู้บริหารนำไปพิจารณา ปรับปรุงแล้วนำเสนอในการประชุมต่อไป

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังกำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหาร ระยะเวลา 2 เดือนต่อครั้ง เพื่อประเมินผลของการพัฒนาสถานีต่อไป

สมเด็จพระสังฆราชทรงโปรดให้คณะกรรมการ มส.ชุดใหม่เข้าถวายสักการะ

People Unity : สมเด็จพระสังฆราชทรงโปรดให้คณะกรรมการ มส.ที่ได้รับโปรดเกล้าแต่งตั้งใหม่ในรัชกาลที่ ๑๐ เข้าถวายสักการะ พร้อมประทานพระโอวาท

วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๖.๐๐ น. ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร) ทรงโปรดให้คณะกรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) ที่ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งใหม่ เข้าถวายสักการะ จากนั้นทรงมีพระโอวาทว่า กรรมการมส.ชุดนี้ มีทั้งที่เคยปฏิบัติหน้าที่มาแล้ว และที่เพิ่งจะได้ปฏิบัติหน้าที่ใหม่เป็นวาระแรกในคราวนี้ ขอถวายกำลังใจแด่ทุกท่านในการปฏิบัติหน้าที่ให้ได้เต็มกำลังความสามารถ ด้วยความหนักแน่นมั่นคงในปณิธาน เพื่อความสถิตสถาพรของพระบวรพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ไทย

สมเด็จพระสังฆราช มีพระโอวาทต่อไปว่า ขอให้ทุกท่านระลึกถึงพระเดชพระคุณของบูรพาจารย์ มีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นปฐม ตลอดจนถึงอดีตพระมหาเถระที่ท่านเคารพบูชาเป็นครูบาอาจารย์ด้วยความกตัญญูกตเวที แล้วศึกษาทบทวนใคร่ครวญให้ถ้วนถี่ว่าแต่ละพระองค์และแต่ละท่านได้ทำอย่างไร วางตัวอย่างไร ประพฤติดีปฏิบัติชอบอย่างไร ทุ่มเทอุทิศสรรพกำลังเพื่อการพระศาสนาอย่างไร จึงเป็นที่กราบไหว้ได้เต็มมือ และสนิทใจ เหตุไฉนบูรพาจารย์พระองค์นั้นๆ หรือท่านนั้นๆ จึงสถิตในที่สูงเป็นทิฏฐานุคติของอนุชน ยังมีกลิ่นหอมของศีล ปัญญา อบอวลทวนกระแสกาลเวลานับร้อยนับพันปีไม่จืดจางหาย ให้พวกเราได้ชื่นใจเมื่อได้ระลึกถึงตราบเท่าทุกวันนี้

บัดนี้ ท่านได้ชื่อว่าเป็นมหาเถระเป็นผู้ปกครองคณะสงฆ์ มีตำแหน่งอยู่ในมส.พุทธบริษัทไทยเฝ้ามองการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน และตั้งความหวังไว้ที่ท่านท่านจะประคับประคอง สนองภารธุระของการคณะสงฆ์ให้ราบรื่นเรียบร้อย สามารถฟันฝ่าปัญหาและอุปสรรคไปได้อย่างไร แบบนั้นมีอยู่แล้ว ขอจงอย่าทิ้งทางครู โดยเฉพาะทางของสมเด็จพระบรมครู ผู้ยังเสด็จดำรงอยู่เป็นศาสดาของพวกเรา ในองค์คุณแห่งพระธรรมวินัย

ขอถวายกำลังใจแด่ทุกท่านอีกครั้ง ขออาราธนาให้ท่านตั้งปณิธาน อุทิศชีวิตนี้เพื่อบูชาคุณพระรัตนตรัยด้วยปฏิบัติบูชา ขอให้เห็นแก่ความเจริญมั่นคงของคณะสงฆ์เป็นอุดมการณ์สูงสุด เพื่อสนองพระบรมราชปณิธานของสมเด็จพระมหากษัตริยาริราชเจ้าทุกๆ พระองค์และสนองคุณของบรรพชนไทย ที่สู้อุตส่าห์เสียสละชีวิตเลือดเนื้อหยาดเหงื่อ กำลังกาย กำลังใจและกำลังสติปัญญา เพื่ออุปถัมภ์และพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนาไว้บนแผ่นดินไทย

“ประภัตร”เปิดด่านการค้าโค-กระบือ ที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สอด​ จ.ตาก

People Unity : “ประภัตร”เปิดด่านการค้าโค-กระบือ ที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สอด​ จ.ตาก พร้อมลงนามความร่วมมือระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่กับหน่วยงานภาครัฐ

วันที่ 24 ต.ค.2562 นายประภัตร โพธสุธน  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดด่านการค้าโค-กระบือ  ที่บริเวณท่า 23 (ท่าลุงคำ) ริมแม่น้ำเมย บ้านวังแก้ว(ห้วยกะโหลก หมู่ 4 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก​ นายชัยวุฒิ บรรณวัตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตาก เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์  นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตาก เขต 3  พรรคพลังประชารัฐ​ นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด​ ดร.เทอดเกียรติ​ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด​ ​และเกษตรกรผู้เลี้ยงโค กระบือ จำนวนกว่า 300 คน ให้การต้อนรับ

ในโอาสนี้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก  กล่าวรายงานสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าโค-กระบือ จากนั้นรมช.เกษตรได้ตรวจเยี่ยมคอกสัตว์ และพบปะเกษตรกรผู้เลี้ยง กลุ่มผู้ค้าขาย โค-กระบือ และผู้เลี้ยงโคขุน หลังจากนั้นได้มีการประชุมเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงาน ที่ด่านกักกันสัตว์ตาก(แม่สอด) คอกกักบ้านวังแก้ว
นายประภัตร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ จีนเข้ามาตีตลาด โค กระบืออย่างหนัก และยังกดราคา  ทำให้เมื่อ 2-3 เดือน​ เราจำเป็นต้องปิดด่าน เพื่อให้ตลาดขาดและมีความต้องการมากขึ้น

วันนึ้จึงมาทำให้เปิดด่านการค้าโค-กระบือ ที่ชายแดนไทย-เมียนมา และเพิ่มราคาระหว่าง กก.ละ   99 -​100  บาท และกลับส่งไปขายจีน กก.ละ 105-110 บาท​ (ซึ่งคิดนน.ตัวโค ระหว่าง 320-400 กก.) ส่วนขนาด นน.ตัวที่เล็กก็ราคาลดน้อยลง กก.ละ  95 บาท เพื่อนำไปขุนต่อ  โดยมีตลาดกลางซื้อขาย และมีการประกันราคาด้วย  ทั้งนี้แต่ละครอบครัวจะได้รับโค- กระบือรายละ 5 ตัวต่อครอบครัวและสามารถนำมาเป็นหลักประกัน ในการกู้ได้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้อีกด้วย นอกจากนี้ภายในงานกลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่ได้ลงนาม MOU ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการดำเนินโครงการฯ เป็นอย่างดี

ศธ.คลอดหลักสูตรลูกเสือมัคคุเทศก์ นำร่องอบรม 8 จังหวัดภาคเรียนที่2

People Unity : ศธ.คลอดหลักสูตรลูกเสือมัคคุเทศก์ เดินหน้าพร้อมจัดอบรม 8 จังหวัดนำร่อง รับภาคเรียนที่ 2/62

ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยความก้าวหน้าของการจัดทำหลักสูตรเพื่อฝึกอบรมให้กับลูกเสือที่เข้าร่วม “โครงการลูกเสือมัคคุเทศก์”ภายหลังจากสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการลูกเสือมัคคุเทศก์” (Guide Scout) เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา ณ โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย โดยสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อจัดทำหลักสูตรลูกเสือมัคคุเทศก์ ร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้หลักสูตรที่ครอบคลุมการสร้างสมรรถนะ ความรู้ และทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการเป็นลูกเสือมัคคุเทศก์ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ให้ได้มากที่สุด

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ได้ร่วมกับกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดทำหลักสูตร คู่มือ สื่อฝึกอบรม และอบรมแกนนำลูกเสือมัคคุเทศก์เสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมนำไปจัดอบรมให้กับลูกเสือที่เข้าร่วมโครงการลูกเสือมัคคุเทศก์ รวมจำนวนทั้งสิ้น 425 คน ใน 8 จังหวัดนำร่อง ได้แก่จังหวัดปราจีนบุรี พัทลุง เชียงใหม่ เลย สุโขทัย นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา และบุรีรัมย์

โดยการจัดอบรมโครงการลูกเสือมัคคุเทศก์ จะเริ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2562 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งหลักสูตรประกอบด้วย การชี้แจงทำความเข้าใจ การให้ความรู้ ตลอดจนการฝึกปฏิบัติจริง รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 60 ชั่วโมง แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่

ระยะที่ 1 ก่อนการฝึกอบรม จำนวน 13 ชั่วโมง สำหรับการศึกษาค้นคว้าจัดทำข้อมูลและเรียงความเกี่ยวกับบ้านเกิด

ระยะที่ 2 การฝึกอบรมเป็นเวลา 4 วัน จำนวน 27 ชั่วโมง เน้นการชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นมาของโครงการ การให้ความรู้ด้านวิชาการ 10 หน่วยเรียนรู้
ทั้งหลักการมัคคุเทศก์ การสื่อสาร ความรู้พื้นฐานของพื้นที่และพื้นที่ข้างเคียง จิตวิทยาการให้บริการ การเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และจิตอาสาของลูกเสือมัคคุเทศก์ ตลอดจนกระบวนการค้นหาเรื่องราวและเรื่องเล่าของท้องถิ่น การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และการใช้เทคโนโลยีเพื่อการมัคคุเทศก์

ระยะที่ 3 คือการฝึกปฏิบัติในสถานที่ท่องเที่ยว เป็นเวลา 20 ชั่วโมง ซึ่งกำหนดจัดกิจกรรม “Kick Off การฝึกประสบการณ์ลูกเสือมัคคุเทศก์” ในพื้นที่ 8 จังหวัดนำร่องในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ด้วย

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังการฝึกอบรมจะจัดให้มีพิธีมอบเครื่องหมายลูกเสือมัคคุเทศก์ (Badge) และมอบวุฒิบัตรแก่ผู้ผ่านหลักสูตร เพื่อนำไปใช้รับรองและเทียบประสบการณ์ (สะสมเครดิต) ที่จะเป็นประโยชน์ในการเรียนต่อระดับอุดมศึกษา การประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ หรือการมีโอกาสได้เป็นตัวแทนลูกเสือไทยเข้าร่วมโครงการของสำนักงานลูกเสือในเวทีระดับนานาชาติในอนาคต

“ขณะเดียวกัน สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ และกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะจัดให้มีการนิเทศการฝึกประสบการณ์ของลูกเสือมัคคุเทศก์ในทุกจังหวัดนำร่อง เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ผลการประเมิน นำไปสู่การปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาหลักสูตรให้ดียิ่งขึ้น พร้อมใช้เป็นต้นแบบในการขยายผลการฝึกอบรมลูกเสือมัคคุเทศก์ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศต่อไป” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว

ฝ่าแรงต้าน! “ธนาธร” ผงาดนั่งเก้าอี้ที่ปรึกษากมธ.งบฯ63

People Unity : “กมธ.งบฯ63” ถกนัดแรก “อุตตม” นั่งโต๊ะ รอง 19 คนเลขาฯ 13 คนขณะที่โฆษก14 คน “ธนาธร”นั่งที่ปรึกษา ขณะที่ “สิระ”ตามราวีต่อยื่นศาลตีความหัวหน้าพรรค อนค.นั่งกมธ.งบฯ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 24 ตุลาคม 2562 ที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563 นัดแรกเพื่อเลือกตำแหน่งต่างๆประกอบด้วยประธานรองประธานและโฆษกกรรมาธิการรวมทั้งวางกรอบการทำงาน โดยที่ประชุมมีมติเลือกนายอุตตมสาวนายนรมว.คลังเป็นประธานกรรมาธิการและรองประธานมีทั้งสิ้น 19 คน

ส่วนตำแหน่งเลขานุการกรรมาธิการมีทั้งสิ้น 13 คนมีนายเรืองไกรลีกิจวัฒนะตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยเป็นด้วย ขณะตำแหน่งโฆษกมีจำนวน 14 คนอาทินายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ นายภราดรปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทองพรรคภูมิใจไทย นายธารา ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่นายธราธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นที่ปรึกษากรรมาธิการ

ทั้งนี้ที่ประชุมกรรมาธิการได้กำหนดวันแปรญัตติเริ่มตั้งแต่วันที่28ต.ค.-13ธ.ค.62ซึ่งจะมีการประชุมวันจันทร์ถึงวันศุกร์โดยในวันจันทร์และวันอังคารจะเริ่มประชุมตั้งแต่เวลา13.00-22.00น.ส่วนวันพุธและวันพฤหัสบดีจะเริ่มเวลา09.00-18.00น.ขณะที่วันศุกร์จะเริ่มประชุมเวลา09.00-17.00 น.

“สิระ”ตามราวีต่อยื่นศาลตีความ “ธนาธร” นั่งกมธ.วิสามัญงบฯ

ขณะที่นายสิระ​ เจนจาคะ​ ส.ส.พลังประชารัฐ เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ​ขอให้พิจารณาสถานภาพนายธนาธร​ จึงรุ่งเรืองกิจ​ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคต​ใหม่ที่มาเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ​2563 ว่า​ สามารถเป็นกมธ.วิสามัญฯได้หรือไม่​ หลังจากได้ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรและ กมธ.งบประมาณปี 2563แล้ว

Verified by ExactMetrics