วันที่ 25 พฤศจิกายน 2024

มวยไทยซอฟต์พาวเวอร์ที่คนไทยภูมิใจ

People Unity News : 4 กรกฎาคม 2566 วอชิงตัน ดี.ซี. – “บัวขาว” ซอฟต์เพาเวอร์มวยไทย ร่วมงานสวัสดี ดี.ซี. ไทยเฟสติวัล ที่สหรัฐ ย้ำเพราะมวยไทยทำให้คนรู้จัก ต่างชาติสนใจเรียนมวย เป็นความภูมิใจของคนไทย

“บัวขาว บัญชาเมฆ” นักมวยขวัญใจชาวไทยและแฟนมวยไทยทั่วโลก ร่วมงานสวัสดี ดี.ซี. ไทยเฟสติวัล บริเวณลานหน้าอาคารรัฐสภาสหรัฐ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. วันนี้ (3 ก.ค.) ตามเวลาสหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 11 ชั่วโมง เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่มาร่วมงาน ทั้งนี้ เตรียมศิลปะแม่ไม้มวยไทยมาโชว์ในงานนี้ เช่น การไหว้ครู โชว์เตะเป้า และเชิญแฟนคลับร่วมซ้อม ทั้งนี้ เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทุกหน่วยงานร่วมผลักดันมวยไทยศิลปะประจำชาติเป็น soft power ให้กระจายโด่งดังไปทั่วโลก และต่อยอดไปยังธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้

“ความจริงแล้วศิลปะแม่ไม้มวยไทยกระจายโด่งดังไปทั่วโลก ไปไหนก็มีค่ายมวยไทย มีชาวต่างชาติไปเรียนมวย พอขึ้นชื่อว่ามวยไทยเราก็มีความภาคภูมิใจ จะไปไหนก็มีแต่คนรู้จักมวยไทยไหม ยืดอกได้ เป็นความภาคภูมิใจของคนคนนั้นเลย” บัวขาว กล่าว

บัวขาว ยกตัวอย่างผลที่เกิดจาก soft powers แบบง่ายๆ ว่า ตัวของบัวขาวเองไม่มีคนรู้จัก แต่เพราะมวยไทยยกระดับทำให้มีชื่อเสียง หรือคนหันมาใส่กางเกงมวยในชีวิตประจำวันมากขึ้น พร้อมฝากถึงผู้ที่อยากเรียนมวยไทยว่าไม่จำกัดอายุ ขอเพียงกายพร้อมใจพร้อมเท่านั้น

“จริงๆ เขาไม่รู้จักตน แต่เพราะมวยไทย และการเป็นบัวขาวคือมวยไทย ศิลปะการต่อสู้ ยกระดับให้ตนมีชื่อเสียง คุณรู้จักตน” บัวขาว กล่าว

ด้านนายธนัท ยิ่งวิทยาคุณ เจ้าของค่ายมวยที่มาร่วมกิจกรรม กล่าวถึงความนิยมมวยไทยส่งผลให้คนหันมาสนใจเรียนมวยไทยจากทั่วโลก เพื่อซ้อมไว้ต่อสู้ ออกกำลังกาย และลดความอ้วน โดยเฉพาะคนทำงานไปจนถึงเด็ก

“แต่วัยทำงานเยอะมาก หลังเลิกงาน เขาจะเอาใจใส่สุขภาพ เพื่อออกกำลังกายด้วยมวยไทย เป็นแนวทางที่ดีที่จะผลักดันมวยไทยเป็น soft power จะทำให้คนจะมีงานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักมวยเก่าๆ และส่งเสริมศิลปะแม่ไม้มวยไทย” นายธนัท กล่าว

Advertisement

“พล.อ.ประยุทธ์” ปลื้ม “ข้าวหมกไก่-ไก่ย่าง” ติดอันดับเมนูไก่ดีที่สุดในโลก

People Unity News : 1 กรกฎาคม 2566 โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ปลื้ม TasteAtlas จัดอันดับอาหารไทย เมนู “ข้าวหมกไก่” และ “ไก่ย่าง” ติดอันดับ 1 ใน 50 อาหารเมนูไก่ที่ดีที่สุดในโลก 50 Best Rated CHICKEN DISHES in the World

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีกับผลการจัดอันดับอาหารเมนูไก่ จากเว็บไซต์ TasteAtlas เว็บไซต์อาหารชื่อดัง ที่จัดอันดับความอร่อยของอาหารหลากหลายจากทั่วโลก ในการจัดอันดับ 50 Best Rated CHICKEN DISHES in the World หรือ เมนูอาหารประเภทไก่ที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งผลการจัดอันดับเมนูไก่จากประเทศไทย ติด 1 ใน 50 อาหารเมนูไก่ที่ดีที่สุดในโลกถึง 2 รายการ ได้แก่ ข้าวหมกไก่ (อันดับที่ 38) และไก่ย่าง (อันดับที่ 46) (https://www.tasteatlas.com/50-best-rated-chicken-dishes-in-the-world)

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมนูข้าวหมกไก่ ได้รับการจัดอันดับอยู่ที่ 38 ด้วยคะแนน 4.3 คะแนน โดยเว็บไซต์ TasteAtlas ระบุว่า เมนูนี้ได้รับความนิยมในหมู่คนไทยมุสลิม เป็นเมนูฮาลาล ที่พ่อค้าเปอร์เซียได้แนะนำสู่คนไทยเมื่อศตวรรษที่ผ่านมา โดยเมนูนี้เป็นข้าวหมกไก่เวอร์ชั่นไทย และถูกกล่าวถึงครั้งแรกในบทประพันธ์ของไทย ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18

สำหรับ เมนูไก่ย่าง ได้รับการจัดอันดับอยู่ที่ 46 ด้วยคะแนน 4.2 คะแนน ทางเว็บไซต์ระบุว่า ไก่ย่างได้รับความนิยมรับประทานจากคนไทยทั่วประเทศ แม้ว่าจะมีต้นกำเนิดมาจากชาวลาวในภาคอีสานของไทยก็ตาม ปกติจะทานคู่กับข้าวเหนียว น้ำจิ้ม รวมถึงส้มตำ ที่หาทานได้ง่าย โดยไก่ย่างจะมีความแตกต่างจากไก่อื่น คือ กรรมวิธีการหมักไก่นั่นเอง ทั้งนี้ ในประเทศไทยจะหาเมนูไก่ย่างได้ตามร้านอาหารข้างทางทั่วประเทศไทย

“นายกรัฐมนตรีชื่นชมและเชื่อมั่นในอาหารไทยซึ่งได้รับการจัดอันดับอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงเอกลักษณ์ ความโดดเด่นทางวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลาย และมีรสชาติที่กลมกล่อม พิถีถันในการเลือกวัตถุดิบ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ทรงคุณค่ามีโภชนาการ เป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยว สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศอย่างต่อเนื่อง” นายอนุชา กล่าว

Advertisement

รฟท.ห่วงความปลอดภัยผู้โดยสาร หลังยุบตำรวจรถไฟ

People Unity News : 30 มิถุนายน 2566 รฟท. ห่วงความปลอดภัยผู้โดยสาร หลังยุบตำรวจรถไฟ เร่งหาแนวทางเพิ่มมาตรการดูแล

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า จากที่กองบังคับการตำรวจรถไฟ (บก.รฟ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะถูกยุบเลิก ตั้งแต่เดือน ต.ค. 66 นี้ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อ รฟท. ที่เดิมมีกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ทั้งสถานีและบนขบวนรถไฟ แม้ว่า รฟท. จะมีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในการให้บริการผู้โดยสารอยู่แล้ว แต่ก็มีข้อจำกัดในกรณีเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง

“การที่ไม่มีตำรวจรถไฟกระทบแน่นอน แต่ไม่ได้ทั้ง 100% เพราะมีเจ้าหน้าที่ รฟท. ดูแลอยู่แล้วส่วนหนึ่ง แต่ต้องเข้าใจว่ากรณีมีคนร้ายหรือเกิดเหตุรุนแรง การมี รปภ. กับมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจช่วยเราได้มาก ดังนั้น จะประสานกับตำรวจในการขอให้จัดกำลังมาดูแลในพื้นที่จำเป็น เพราะปัญหาจะอยู่ที่บนขบวนรถไฟ ซึ่งเดิมมีตำรวจรถไฟ ประจำบนขบวนรถไฟไปตลอดทาง โดยจะมีการจัดกำลังรับช่วงต่อกันในแต่ละพื้นที่ แต่เมื่อตำรวจรถไฟถูกยุบ กำลังตำรวจบนรถไฟก็จะหายไป” นายนิรุฒ กล่าว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา รฟท. ได้หารือกับทางตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ซึ่งจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยดูแลความปลอดภัยต่อไปก่อน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน แต่อาจจะมีประเด็นในเรื่องของเขตอำนาจในการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ อาจจะเป็นอุปสรรคอยู่บ้าง

ในส่วนของ รฟท. ได้เตรียมแผนรองรับ เช่น แนวทางจัดจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพิ่ม หรืออาจจะทำเอ็มโอยูร่วมกับตำรวจให้จัดกำลังมาดูแล โดย รฟท. อาจจะจัดงบประมาณรองรับในส่วนนี้ ซึ่งต้องหารือกันว่าโครงสร้างตำรวจจะดำเนินการในรูปแบบดังกล่าวได้หรือไม่

ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า จะเร่งหารือร่วมกับทางตำรวจเพิ่มเติม ซึ่งล่าสุดมีการเสนอการจัดพื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ให้ทางตำรวจ ขณะนี้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ประสานขอใช้พื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะมีตำรวจอีกหลายหน่วยที่จะเข้ามาใช้พื้นที่ เพราะในอนาคตสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จะเป็นศูนย์กลางการคมนาคม ซึ่งจะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก

Advertisement

WEF ระบุ โลกต้องใช้เวลาอีก 131 ปีถึงจะไม่มีช่องว่างชาย-หญิง

People Unity News : 21 มิถุนายน 2566 รายงานของเวทีเศรษฐกิจโลกหรือเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัมหรือดับเบิลยูอีเอฟ (WEF) ประเมินว่า โลกต้องใช้เวลาอีก 131 ปี ซึ่งหมายถึงปี พ.ศ.2697 จึงจะไม่มีช่องว่างระหว่างเพศชายและเพศหญิง

รายงานเรื่องช่องว่างระหว่างเพศระดับโลกประจำปี 2566 ของดับเบิลยูอีเอฟระบุว่า ช่องว่างระหว่างเพศชายและเพศหญิงโดยรวมลดลงเพียงร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับปี 2565 ความคืบหน้าที่น้อยนิดนี้ทำให้ต้องเร่งดำเนินการครั้งใหม่ร่วมกันในการลดช่องว่างระหว่างเพศ แม้ว่าดีขึ้นร้อยละ 4.1 เมื่อเทียบกับที่เริ่มจัดทำดัชนีช่องว่างระหว่างเพศในปี 2549 ก็ตาม

ดัชนีช่องว่างระหว่างเพศของดับเบิลยูอีเอฟวัดความเท่าเทียมระหว่างเพศใน 146 ประเทศ ครอบคลุม 4 ประเด็นประกอบด้วย การมีส่วนร่วมและมีโอกาสทางเศรษฐกิจ การได้รับการศึกษา สุขภาพและการอยู่รอด และอำนาจทางการเมือง รายงานประจำปี 2566 ระบุว่า โลกต้องใช้เวลา 169 ปี จึงจะไม่มีช่องว่างระหว่างเพศทางด้านเศรษฐกิจ และต้องใช้เวลา 162 ปี จึงจะไม่มีช่องว่างระหว่างเพศทางด้านการเมือง โดยพบว่าทั่วโลกมีเพียง 9 ประเทศที่สามารถลดช่องว่างลงได้อย่างน้อยร้อยละ 80 ประกอบด้วย ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ ฟินแลนด์ นิวซีแลนด์ สวีเดน เยอรมนี นิการากัว นามิเบีย และลิทัวเนีย นอกจากนี้ยังพบว่าไอซ์แลนด์ซึ่งครองอันดับ 1 มาเป็นปีที่ 14 ติดต่อกันยังคงเป็นประเทศเดียวที่ลดช่องว่างระหว่างเพศได้เกินร้อยละ 90 โดยลดได้ร้อยละ 91.2 ในปีนี้

Advertisement

รัฐบาลเชิญชวนประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป ตรวจเบาหวานฟรี

People Unity News : 18 มิถุนายน 2566 รัฐบาลเชิญชวนประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป ตรวจเบาหวานฟรี ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.66 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.67 ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความห่วงใยปัญหาสุขภาพของประชาชน ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงระบบบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง เพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ห่างไกลจากโรค ป้องกันการเจ็บป่วยเรื้อรัง ซึ่งจากข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ปัจจุบันคนไทยมีแนวโน้มป่วยเป็น “โรคเบาหวาน” มากขึ้น ทั้งนี้ จากฐานข้อมูลสุขภาพ ระบุว่า ในปี 2565 ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคเบาหวาน จำนวน 3.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 1.5 แสนคน ในส่วนของการคัดกรองผู้ป่วยรายใหม่ พบว่า การคัดกรองผู้ป่วยโรคเบาหวานในประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไปนั้น มีผู้ได้รับการคัดกรองเพียง 14 ล้านคนและยังไม่ได้รับการคัดกรองโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงมากถึง 8 ล้านคน จากเป้าหมายทั่วประเทศ 22 ล้านคน

นางสาวรัชดา กล่าวว่า รัฐบาล โดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ขอเชิญชวนประชาชนที่มีหลักเกณฑ์ตรงตามเงื่อนไขเข้ารับการตรวจเบาหวานฟรี ภายใต้โครงการคัดกรองความเสี่ยงโรคเบาหวานในประเทศไทยแบบบูรณาการ ประจำปี พ.ศ. 2566-2567 ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ซึ่งหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการเข้ารับบริการตรวจเบาหวานฟรี ดังนี้ 1.ประชาชนทั่วไปอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป 2.ไม่เคยตรวจเบาหวาน ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจแนะนำให้ประเมินความเสี่ยงโรคเบาหวาน กรณีได้คะแนนน้อยกว่า 6 คะแนน คือไม่เสี่ยง ไม่ต้องตรวจน้ำตาล กรณีได้คะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ 6 คะแนน คือเสี่ยง ต้องเจาะน้ำตาลที่ปลายนิ้ว

“ปัจจุบันมาตรการคัดกรองโรคเบาหวานในประชากรวัยผู้ใหญ่เป็นมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นมาตรการที่มีความคุ้มค่าโดยถูกบรรจุในแผนป้องกันและควบคุมโรคของประเทศไทยและอยู่ในสิทธิประโยชน์การส่งเสริมและป้องกันโรคของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประชาชนสามารถเข้ารับการคัดกรองโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป ต้องได้รับบริการตรวจคัดกรองโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตปีละ 1 ครั้ง ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อรับบริการตรวจคัดกรองได้โดยยื่นบัตรประชาชนเข้ารับบริการตามสิทธิการรักษาได้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ใกล้บ้านโดยไม่มีค่าใช้จ่าย” นางสาวรัชดา ย้ำ

Advertisement

แนะแก้ปัญหา “หยก” ด้วยเมตตาธรรม

People Unity News : 16 มิถุนายน 2566 “สมชัย” แนะ รร.แก้ปัญหา “หยก” ด้วยเมตตาธรรม จัดให้เข้าเรียนปกติ ใช้ระบบการเรียนวัดผลตามขั้นตอน ขณะที่คนเป็นผู้ปกครองต้องชอบด้วยกฎหมาย

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต  โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กกรณีน้องหยก เยาวชนนักเคลื่อนไหววัย 15 ปี ว่า หากเป็นผู้อำนวยโรงเรียน จะแก้ปัญหาแบบมีเมตตาธรรม ด้วยการเปิดประตูไว้ทั้งวัน อยากมาเรียนตอนไหนก็เดินเข้าได้ ไม่ต้องปีนรั้ว พอไม่ปีนรั้วก็ไม่เป็นข่าว นักข่าวก็คงไม่อยากมาทำข่าวเด็กเดินเข้าโรงเรียนทุกวัน

“โรงเรียนก็จัดโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งเรียน ให้เด็กได้เรียนวิชาการ ดีกว่าไปอยู่นอกห้องเรียน จัดการเรียน การสอน การวัดผลเป็นปกติ และแจ้งให้เด็กทราบเรื่องความจำเป็นต้องมีผู้ปกครองที่ได้รับมอบอำนาจมาลงทะเบียนให้ถูกต้อง เพื่อให้ได้ใบรับรองผลการศึกษาเพื่อไปเรียนต่อหรือประกอบอาชีพ ถ้าหากให้เรียนแล้ว เด็กขาดเรียน วัดผลแล้วสอบตกก็ให้เป็นไปตามระบบ หรือเรียนครบปียังไม่มีผู้ปกครองมาลงทะเบียน ก็ออกใบรับรองให้ไม่ได้ ดังนั้น คนเป็นผู้ปกครองปัจจุบันให้ไปหาทางทางกฎหมายให้เป็นผู้ปกครองโดยชอบด้วยกฎหมายด้วย” นายสมชัย กล่าว

Advertisement

เพิ่มจำนวนคลินิกกายภาพบำบัด เป็นเครือข่ายหน่วยบริการหลักประกันสุขภาพ

People Unity News : 11 มิถุนายน 2566 เชิญชวนคลินิกกายภาพบำบัดทั่วประเทศเข้าร่วมเป็นเครือข่ายหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพ รับผู้ป่วยบัตรทอง 4 กลุ่มโรคเข้าฟื้นฟูสมรรถภาพ เพิ่มความสะดวกและโอกาสการเข้าถึงลดความแออัดในโรงพยาบาล

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) อยู่ระหว่างการดำเนินแนวทางต่างๆ เพื่อสนับสนุนการลดความแออัดของผู้ใช้บริการในโรงพยาบาล ซึ่งรวมถึงการขยายเครือข่ายคลินิกกายภาพบำบัดที่เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) เพื่อรับผู้ป่วยสิทธิบัตรทองใน 4 กลุ่มโรค เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการกายภาพ ณ คลินิกใกล้บ้าน ไม่ต้องรอคิวนาน และลดความแออัดในโรงพยาบาล

ทั้งนี้ สปสช. ได้เริ่มอำนวยความสะดวกในการเข้ารับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพฯ แก่ผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง 4 กลุ่มโรค ได้แก่ 1.ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) 2.ผู้ป่วยสมองได้รับบาดเจ็บ (Traumatic brain injury) 3.ผู้ป่วยไขสันหลังได้รับบาดเจ็บที่ได้รับการรักษาจนเข้าสู่ภาวะคงที่ และ 4.ผู้ป่วยภาวะกระดูกสะโพกหักจากภยันตรายชนิดไม่รุนแรง (Fragility fracture hip ) มาตั้งแต่ปี 64 โดยระยะแรกมีคลินิกที่เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการนำร่อง 24 แห่ง และปัจจุบันมีคลินิกในเครือข่ายรับส่งต่อจากโรงพยาบาล 58 แห่ง

“ขณะนี้ สปสช. อยู่ระหว่างการขยายเครือข่ายคลินิกกายภาพบำบัดที่เข้ามาร่วมหน่วยบริการในระบบบัตรทอง โดยได้เชิญชวนคลินิกกายภาพฯ ที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 800 แห่งทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 1-13  และให้โรงพยาบาลในระบบ สปสช. ประสานคลินิกกายภาพฯ ในพื้นที่มาเข้าร่วมเป็นเครือข่ายของโรงพยาบาลด้วย” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การสนับสนุนให้ผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคเข้าถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพฯ มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงระยะ 3-6 เดือน หลังจากอาการของผู้ป่วยพ้นระยะวิกฤต หรือแพทย์ประเมินให้พ้นการเป็นผู้ป่วยใน ที่เป็นช่วงเวลาทองของการบำบัดรักษา (golden period) เนื่องจากเป็นระยะสมองและระบบประสาทต่างๆ ของร่างกายมีความพร้อมที่จะรับการฟื้นฟูสภาพ หากได้รับการบำบัดที่ถูกต้องและต่อเนื่อง ก็จะมีโอกาสทำให้ผู้ป่วยกลับสู่ภาวะปกติ และสามารถลดความพิการได้

สำหรับรูปแบบการให้บริการของคลินิกกายภาพบำบัดแก่ผู้มีสิทธิบัตรทองนั้น จะมีโรงพยาบาลทำหน้าที่เป็นแม่ข่ายประสานส่งต่อผู้ป่วยที่อาการพ้นระยะวิกฤตหรือที่แพทย์ประเมินจำหน่ายจากผู้ป่วยใน ให้มารับทำการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายต่อเนื่องที่คลินิกกายภาพบำบัด โดยมีหลักเกณฑ์การบริการกายภาพบำบัดแบบเข้มข้นร่วมกับหน่วยบริการไม่เกิน 20 ครั้ง ในช่วง golden period

Advertisement

แฉส่วยสติกเกอร์มีมานาน ทำเป็นขบวนการใหญ่

People Unity News : 30 พฤษภาคม 2566 นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน เผยสติกเกอร์ส่วยทางหลวงมีมานานแล้ว เชื่อทำเป็นขบวนการใหญ่ ลั่นไม่มีใครอยากทำผิดกฎหมาย ชี้ต้องแก้ไขทั้งระบบ

นายวิชัย สว่างขจร นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน เผยสติกเกอร์ส่วยทางหลวงมีมานานแล้ว เชื่อทำเป็นขบวนการใหญ่ มีผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่นักการเมืองระดับชาติ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ จนถึงตำรวจชั้นผู้น้อย ทั้งนี้ ผู้ประกอบอาชีพรถขนส่งสินค้าทุกคนไม่มีใครอยากทำผิดกฎหมาย และไม่มีใครอยากบรรทุกเกินมาตรฐาน เพราะจะทำให้รถเสื่อมโทรมง่าย แต่ค่าขนส่งที่ต่ำ ผู้ประกอบการหลายคนอยู่ไม่ได้ ถ้าจะแก้ปัญหา ก็ต้องแก้ไขทั้งระบบ ซึ่งจะต้องอาศัยอำนาจของรัฐบาลเท่านั้น จึงจะทำได้สำเร็จ เร็วๆนี้จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งให้ว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ช่วยกวาดล้างขบวนการนี้ให้หมดไปจากประเทศ เพื่อไม่ให้มีการทุจริตคอร์รัปชัน

Advertisement

ป.ป.ช. เปิด 6 ช่องทาง แจ้งเบาะแสทุจริต

People Unity News : 25 พฤษภาคม 2566 ป.ป.ช. เปิด 6 ช่องทางการร้องเรียนแจ้งเบาะแสทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับ เผยสถิติ 6 เดือนที่ผ่านมา รับเรื่องการตรวจรับคำกล่าวหามาแล้วกว่า 4,000 เรื่อง

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ระบุว่า จากสถิติคำกล่าวหาที่ร้องเรียนมายัง สำนักงาน ป.ป.ช. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 รอบ 6 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 – 29 มีนาคม 2566) จำนวน 4,099 เรื่อง  เป็นเรื่องที่ดำเนินการตรวจรับคำกล่าวหาแล้วเสร็จ จำนวน 3,486 เรื่อง (ร้อยละ 85.05), อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 613 เรื่อง (ร้อยละ 14.95) โดยจำแนกตามประเภทคำกล่าวหาพบว่า ร้อยละ 50.30 เป็นคำกล่าวหาประเภทหนังสือร้องเรียน จำนวน 2,062 เรื่อง รองลงมาเป็นคำกล่าวหาประเภทหนังสือราชการ จำนวน 931 เรื่อง (ร้อยละ 22.7) และบัตรสนเท่ห์ จำนวน 832 เรื่อง (ร้อยละ 20.30) ส่วนคำกล่าวหาอื่นๆ ที่มีจำนวนรองลงมา คือ ร้องเรียนผ่านเว็บไซต์ การแจ้งเบาะแสผ่านสื่อสังคมออนไลน์  การร้องเรียนด้วยตนเองที่สำนักงาน ป.ป.ช. ทั่วประเทศ  เรื่องที่มีเหตุอันควรสงสัยที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. หยิบยกขึ้นมาพิจารณา และคำกล่าวหาที่ไม่ปรากฏชื่อและตำแหน่งของผู้ร้อง

สำนักงาน ป.ป.ช. ยังขอความร่วมมือภาคประชาชนในการร่วมเป็นพลังในการต่อต้านการทุจริต หากพบเห็นเจ้าพนักงานของรัฐกระทำการทุจริต ขอให้แจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนมายังสำนักงาน ป.ป.ช. ผ่าน 6 ช่องทาง ได้แก่

1.เป็นหนังสือร้องเรียน ส่งถึง “เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.” สำนักงาน ป.ป.ช. เลขที่ 361 ถ.นนทบุรี ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี 11000 หรือ ส่งที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนภูมิภาค

2.ร้องเรียนด้วยตนเอง ต่อสำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง หรือสำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนภูมิภาค โดยพนักงานเจ้าหน้าที่จะทำการบันทึกคำกล่าวหาไว้เป็นพยานหลักฐาน

3.แจ้งเบาะแส/ร้องเรียนผ่านเว็บไซต์สำนักงาน ป.ป.ช. www.nacc.go.th โดยเลือกคลิกที่หัวข้อ “ศูนย์ร้องเรียน” จากนั้นไปที่หัวข้อ “ร้องเรียน Online”

4.ร้องเรียนหรือขอคำแนะนำทางโทรศัพท์ ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 1205 หรือโทรติดต่อสำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนภูมิภาค

5.ร้องเรียนผ่านเครือข่ายเฝ้าระวัง www.nacc.go.th/we

และช่องทางที่ 6.กล่องรับเรื่องร้องเรียน ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด

นายนิวัติไชย ย้ำว่าประชาชนทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตได้ โดยร่วมกัน จับตา สอดส่อง ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้เกิดแนวร่วมต้านทุจริตคอร์รัปชันในภาคประชาชนอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยสำนักงาน ป.ป.ช. จะตรวจสอบเรื่องกล่าวหาร้องเรียนการทุจริตต่างๆ และดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป รักษาผลประโยชน์ของประเทศไม่ให้ตกไปเป็นของบุคคลใดโดยมิชอบ

Advertisement

นายกฯ กำชับดูแลรถรับส่งนักเรียนปฏิบัติตามกฎหมายเคร่งครัด

People Unity News : 21 พฤษภาคม 2566 โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ห่วงใยความปลอดภัยนักเรียนเดินทางช่วงเปิดเทอม กำชับโรงเรียน สถานศึกษา กรมการขนส่งทางบก กำกับดูแลรถที่ให้บริการรับส่งนักเรียน ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยความปลอดภัยของนักเรียนในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ภายหลังกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นกับรถรับส่งนักเรียน ในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ปี 2563-2565 เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 27 ครั้ง บาดเจ็บและต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 485 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยนายกรัฐมนตรีกำชับให้โรงเรียน สถานศึกษา กรมการขนส่งทางบก กำกับดูแลรถที่ให้บริการรับส่งนักเรียน ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถรับส่งนักเรียน

นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยของรถรับส่งนักเรียน โดยอนุญาตให้นำรถที่จดทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน แต่ไม่เกิน 12 คน ทั้งรถสองแถวและรถตู้ มาใช้เป็นรถรับส่งนักเรียนได้ โดยต้องมีการรับรองการใช้รถดังกล่าวจากโรงเรียนหรือสถานศึกษา ซึ่งต้องได้มาตรฐานตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด อาทิ ห้ามติดฟิล์มกรองแสงที่กระจกรอบคัน ที่นั่งผู้โดยสารต้องยึดแน่นอย่างมั่นคงแข็งแรง และต้องไม่มีพื้นที่สำหรับนักเรียนยืนในห้องโดยสารเด็ดขาด กรณีเป็นรถสองแถว ต้องมีประตูและที่กั้นป้องกันนักเรียนตก ส่วนรถตู้ต้องจัดวางที่นั่งเป็นแถวตอนตามความกว้างของตัวรถเท่านั้น โดยต้องนำรถเข้าตรวจสอบ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดที่โรงเรียนหรือสถานศึกษาตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ ซึ่งจะได้รับอนุญาตเป็นครั้งคราว คือ ครั้งละ 1 ภาคการศึกษาเท่านั้น

นอกจากนี้ รถรับส่งนักเรียนทุกคันที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ต้องติดแผ่นป้ายพื้นสีส้ม มีข้อความตัวอักษรสีดำว่า “รถโรงเรียน” ติดอยู่ด้านหน้าและด้านท้ายของรถให้เห็นชัดเจน มีไฟสัญญาณสีเหลืองอำพันหรือสีแดงเปิดปิดเป็นระยะติดไว้ที่ด้านหน้าและด้านท้ายของรถ เพื่อให้รถคันอื่นมองเห็นได้อย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน พร้อมมีอุปกรณ์ส่วนควบตามที่กำหนด ต้องมีเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นกรณีฉุกเฉิน เช่น เครื่องดับเพลิง ค้อนทุบกระจก วัสดุภายในรถส่วนของผู้โดยสารต้องไม่มีส่วนแหลมคม ทางประตูทางขึ้นลงหรือเป็นช่องเปิดต้องมีความปลอดภัย ห้ามมีที่ยืนบนรถ โครงสร้างหลังคามั่นคงแข็งแรง และที่สำคัญผู้ขับรถโรงเรียนต้องได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ หรือเป็นผู้ขับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ซึ่งต้องไม่เคยมีประวัติเสียหายอันเกิดจากการขับรถมาก่อน รวมถึงต้องมีผู้ควบคุมดูแลนักเรียน ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ประจำอยู่ในรถตลอดเวลาที่ใช้รับส่งนักเรียน เพื่อดูแลความปลอดภัยให้นักเรียนตลอดการรับส่ง หากพบการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด สั่งเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ใช้รถทันที และไม่สามารถขออนุญาตได้อีก จนกว่าจะพ้น 1 ปีไปแล้ว

“นายกฯ เป็นห่วงความปลอดภัยของนักเรียนที่โดยสารรถรับส่งนักเรียน กำชับให้กรมการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ ประสานความร่วมมือกับสถานศึกษาในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำกับดูแลรถโรงเรียนและรถรับส่งนักเรียนร่วมกันอย่างเข้มงวด คุมเข้มมาตรการควบคุมดูแลคนขับรถและสภาพรถ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุให้ได้มากที่สุด รวมทั้งขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองที่ให้บุตรหลานขึ้นรถรับส่งนักเรียน ช่วยกันสังเกตตรวจดูรถทุกคันว่าได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ หากพบไม่ได้มาตรฐานให้แจ้งกับทางโรงเรียน หรือกรมการขนส่งทางบก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

ทั้งนี้ นอกจากการตรวจสอบความปลอดภัยของตัวรถและพนักงานขับรถแล้ว ขอเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 สำหรับรถรับส่งนักเรียนอย่างต่อเนื่อง พนักงานขับรถ ผู้ควบคุมนักเรียน และนักเรียน ควรสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง จัดให้มีแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือไว้ประจำรถ ทำความสะอาดรถรับส่งนักเรียนก่อนและหลังการให้บริการ โดยเฉพาะจุดที่มีการสัมผัสบ่อย ๆ เช่น ราวจับ ที่เปิดประตู เบาะนั่ง ที่วางแขน เป็นต้น เปิดหน้าต่างและประตูเพื่อถ่ายเทระบายอากาศภายในตัวรถ เพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจในการใช้บริการรถรับส่งนักเรียนของนักเรียนและผู้ปกครอง” นายอนุชา กล่าว

Advertisement

Verified by ExactMetrics