พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 17 กรกฎาคม 2567 “คารม” ย้ำ กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาคิดดอกเบี้ยในอัตรา 1% ตั้งแต่เริ่มกู้จนชำระเสร็จสิ้น ไม่มีการคิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ย ขอให้ผู้กู้ยืมชำระหนี้ตามจำนวนที่แจ้งในหน้าแอปพลิเคชัน กยศ.Connect ยืนยันไม่มีใครเสียสิทธิ์อันพึงได้ตามกฎหมายอย่างแน่นอน
วันนี้ (17 กรกฎาคม 2567) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีที่สื่อออนไลน์ได้นำเสนอข่าวเรื่อง ผู้กู้ยืมได้มีข้อสงสัยเกี่ยวกับยอดหนี้ที่ปรากฏในแอปพลิเคชัน กยศ.Connect กับตารางผ่อนชำระ 15 ปี มีจำนวนไม่ตรงกันนั้น กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ชี้แจงว่า ตารางชำระหนี้ของผู้กู้ยืมได้กำหนดขึ้นหลังจากจบการศึกษาและปลอดหนี้ 2 ปีแล้ว ซึ่งยอดหนี้และอัตราการผ่อนชำระของผู้กู้ยืมแต่ละรายจะไม่เท่ากัน โดยกำหนดผ่อนชำระให้เสร็จสิ้นภายใน 15 ปี สำหรับอัตราการผ่อนชำระรายปีกำหนดให้แบ่งชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ดังนี้ ปีที่ 1 ชำระเงินต้น 1.5% ไม่มีดอกเบี้ย ปีที่ 2 ชำระเงินต้น 2.5% พร้อมดอกเบี้ย 1% ของเงินต้นคงเหลือ และปีที่ 3 ชำระเงินต้น 3% พร้อมดอกเบี้ย 1% ของเงินต้นคงเหลือ โดยจะชำระเป็นขั้นบันไดจนถึงปีที่ 15 (ปีสุดท้าย) จะชำระเงินต้น 13% พร้อมดอกเบี้ย 1% ของเงินต้นคงเหลือ
“กองทุนฯ คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพียง 1% ไม่มีการคิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ย ส่วนกรณีที่ยอดรวมที่ต้องชำระมีจำนวนแตกต่างกับตารางที่กำหนดนั้น เกิดจากเหตุต่าง ๆ เช่น ความเข้าใจคลาดเคลื่อนและชำระเงินไม่ตรงตามกำหนดทำให้เกิดดอกเบี้ยค้างหรือเบี้ยปรับ ซึ่งกองทุนฯ ขอให้ชำระตามยอดรวมที่ต้องชำระที่ปรากฏในแอปพลิเคชัน กยศ. Connect ส่วนดอกเบี้ยที่ผู้กู้ยืมมีข้อสงสัยว่าทำไมเพิ่มขึ้นรายวันนั้น ขอชี้แจงว่า หากเงินต้นจำนวน 200,000 บาท ดอกเบี้ย 1% ต่อปี จะเกิดดอกเบี้ยปีละ 2,000 บาท เมื่อคำนวณเป็นรายวัน จะเกิดดอกเบี้ย 5.48 บาทต่อวัน ทั้งนี้ ในระบบจะมีการคำนวณดอกเบี้ยเป็นรายวันจนกว่าผู้กู้ยืมจะชำระหนี้เสร็จสิ้น ขณะนี้กองทุนฯ อยู่ในระหว่างการคำนวณภาระหนี้ย้อนหลังนับตั้งแต่วันเริ่มกู้จนถึงปัจจุบันให้กับผู้กู้ยืม 3.6 ล้านราย ซึ่งมีรายการคำนวณประมาณ 100 ล้านรายการ และเมื่อการคำนวณภาระหนี้ทั้งหมด ในระบบเสร็จสมบูรณ์แล้ว กองทุนฯจะขึ้นระบบเพื่อทราบต่อไป และขอยืนยันว่าจะไม่มีใครเสียสิทธิ์อันพึงได้ ตามกฎหมายอย่างแน่นอน” นายคารม ย้ำ
Advertisement