วันที่ 23 พฤศจิกายน 2024

เตือนผู้ที่มีภาวะไขมันส่วนเกินสะสมมากกว่าปกติเสี่ยงเป็นโรคหอบหืด

People Unity : กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคทรวงอก เตือนผู้ที่มีภาวะไขมันส่วนเกินสะสมมากกว่าปกติ หรือโรคอ้วนลงพุง ทำให้ระบบหายใจทำงานติดขัด ก่อให้เกิดโรคหอบหืดตามมา

วันที่ 25 ต.ค.2562 นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า การรับประทานอาหารเกินความต้องการของร่างกาย ทำให้เกิดภาวะที่มีไขมันสะสมมากผิดปกติหรือมากเกินกว่าที่ร่างกาย จะเผาผลาญออกไป ส่งผลให้พุงยื่นออกมาอย่างชัดเจน เรียกว่า โรคอ้วนลงพุง ซึ่งผลแทรกซ้อนของ โรคดังกล่าว อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา คือ เสี่ยงกับภาวะไขมันอุดตันหลอดเลือดและหัวใจ อาทิ โรคหลอดเลือดแดงแข็ง โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง ไตวาย มะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะหัวใจล้มเหลว อีกทั้งไขมันส่วนเกินนั้นยังสามารถเข้าไปสะสมในปอดจนเบียดทางเดินหายใจ ทำให้หลอดลมตีบลง เกิดอาการเหนื่อยง่าย หายใจลำบากซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหอบหืดได้ ทั้งนี้ผู้ที่เข้าเกณฑ์เสี่ยงโรคอ้วนลงพุงจะมีลักษณะต่างๆ อย่างน้อย 3 ข้อ ดังนี้ คือ 1. ภาวะอ้วนลงพุง 2. ความดันโลหิตสูง 130/85 มม.ปรอทขึ้นไป 3. น้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารสูงกว่า 100 มิลลิกรัม ต่อเดซิลิตรขึ้นไป 4. ไขมันไตรกลีเซอไรด์สูงกว่า 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร 5. มีไขมันดี ชนิด HDL ต่ำ โดยเพศชายน้อยกว่า 40 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร และเพศหญิงน้อยกว่า 50 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หากพบว่าร่างกายมีลักษณะดังกล่าว ต้องรีบหาแนวทางการรักษาและป้องกันโรคอ้วนลงพุง เพื่อห่างไกลโรคร้ายแทรกซ้อนที่จะตามมาอย่างทันท่วงที

นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคอ้วนลงพุง เป็นกระบวนการหนึ่งที่ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดลม ทำให้มีอาการโรคหอบหืดตามมา อาการในผู้ป่วยโรคหอบหืดมักจะเหนื่อยหอบเวลาออกแรง ไอ เสมหะเหนียวข้น หายใจลำบาก แน่นหน้าอก และมีเสียงดังวี๊ดๆ หรือมีอาการในช่วงกลางคืน และมีค่าความเร็วของลมหายใจออกสูงสุดอยู่ระหว่าง 50 – 80 % ของค่าที่ดีที่สุด ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรค ผู้ป่วยต้องปฏิบัติตนด้วยการคุมอาหารและลดน้ำหนักในรายที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วัน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารไม่ให้มีปริมาณมากเกินไป หลีกเลี่ยงอาหารประเภททอด มัน กะทิ ดื่มน้ำเปล่าหลีกเลี่ยงน้ำหวานและน้ำอัดลม หากสามารถปฏิบัติตนตามคำแนะนำต่างๆเหล่านี้ ได้อย่างถูกต้อง สม่ำเสมอ จะทำให้หลีกหนีโรคอ้วนลงพุง ส่งผลให้มีสุขภาพแข็งแรงห่างไกลโรคร้ายที่แทรกซ้อนตามมาอีกด้วย

กรมสุขภาพจิตร่วมกับกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ ให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยอุบลฯ

People Unity : กรมสุขภาพจิตร่วมมือกับกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ ลงพื้นที่ฟื้นฟูเติมกำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมร่วมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกภาคส่วน ณ จ.อุบลราชธานี

วันที่ 25 ต.ค.2562 นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า แม้เหตุอุทกภัยจะผ่านมาได้สักระยะแล้ว แต่สุขภาพจิตยังคงเป็นเรื่องสำคัญในระยะยาวของคนที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติ กรมสุขภาพจิตจึงได้ร่วมกับกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ ลงพื้นที่ฟื้นฟูเติมกำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม ณ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2562 โดยร่วมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกภาคส่วน ซึ่งได้เดินทางไปยังหมู่บ้านคูสว่าง เพื่อมอบอุปกรณ์การเรียน กีฬา และปัจจัยซ่อมแซมอาคารโรงเรียนบ้านคูสว่าง มีการปลูกฝังเยาวชนให้เป็นคนคิดบวก มีพลังใจที่เข้มแข็ง รวมทั้งทำกิจกรรมฟังด้วยใจ เปลี่ยนร้ายกลายเป็นพลัง สร้างสรรค์สังคมไทยรักใคร่กลมเกลียวให้กับผู้ประสบภัย หลังจากนั้น ได้เยี่ยมผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงที่อาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมบ้านเรือนพังเสียหาย พร้อมมอบดอกไม้และของขวัญ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมดังกล่าว

“การทำงานครั้งนี้ เป็นการร่วมมือกันระหว่างกรมสุขภาพจิตและกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ โดยเป็นที่น่าปลื้มใจเมื่อเห็น น้องเกรซ นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 ลงพื้นที่ทำงานอย่างเต็มตัวในฐานะทูตด้านสุขภาพจิต ซึ่งน้องเกรซเอง ก็มีความตั้งใจจริงในการทำงานด้านนี้ และต้องการลงพื้นที่ไปพบปะกับประชาชนอย่างใกล้ชิด การทำงานด้านสุขภาพจิตด้วยมิติใหม่เช่นนี้ จะเป็นการขับเคลื่อนงานด้านสุขภาพจิต โดยเฉพาะงานวิกฤตสุขภาพจิต ให้เข้าถึงประชาชนชาวไทย และสร้างขวัญกำลังใจให้พี่น้องชาวไทย มีแรงใจต่อสู้กับภัยพิบัติหรืออุทกภัยได้ต่อไปในอนาคต โดยยึดหลักที่ว่า สุขภาพจิตไทย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

ทางด้านนายแพทย์ประภาส อุครานันท์ ผู้อำนวยการรพ.พระศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสภาพจิตใจของผู้ประสบภัยจ.อุบลราชธานี ในครั้งนี้ ทางรพ.พระศรีมหาโพธิ์ ทีมสุขภาพจิต MCATT (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team : MCATT) และกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ ได้ลงพื้นที่ร่วมกัน โดยมีเป้าหมายเสริมสร้างกำลังใจให้คนที่ประสบภัยพิบัติสามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข โดยรูปแบบกิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีและการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพี่น้องชาวอุบล เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ทั้งจิตอาสา ครูอาจารย์ ทหาร เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และชาวบ้าน ล้วนมีกำลังใจที่ดีในการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นและกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ โดยหลังจากนี้ ทีมสุขภาพจิต MCATT จะยังคงติดตามสภาพจิตใจของคนในพื้นที่เป็นระยะ และน้องเกรซ นรินทร แบรนด์แอมบาสเดอร์กรมสุขภาพจิต จะยังเดินหน้าช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตของคนไทยอย่างต่อเนื่อง

จบรถไฟฟ้า-แบน 3 สารพิษ! “อนุทิน”ลุยยันปลูกกัญชา 6 ต้น

People Unity : จบรถไฟฟ้า-แบน 3 สารพิษ! “อนุทิน”ลุยยันปลูกกัญชา 6 ต้น รุดตรวจองค์การเภสัชกรรมพัฒนาสายพันธุ์แปรรูปเป็นผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ พร้อมรับปากกทวงหนี้ 5 พันล้านคืนให้

วันที่ 25 ต.ค.2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีแและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หลังจากตรวจเยี่ยมองค์การเภสัชกรรม คลอง 10 จ.ปทุมธานี ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพที่เกี่ยวกับกัญชาผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน ตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าของการพัฒนาสายพันธุ์กัญชาเพื่อให้ได้สารสกัดน้ำมันกัญชาในระดับ MEDICAL GRADE ซึ่งมีสรรพคุณในการรักษาโรคต่างๆด้วยความปลอดภัยและมีมาตรฐานในทุกช่วงของกระบวนการผลิต หลังจากนี้ก็จะได้มีการรวบรวมสถิติข้อมูลจากการใช้รักษาโรคเพื่อนำไปสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติกัญชาที่พรรคภูมิใจไทยได้เสนอต่อรัฐสภาไปเรียบร้อยแล้ว

ที่ถามมาว่าปลูกที่บ้านหกต้นอยู่ที่ไหน โกหกหรือเปล่า นี่คือคำตอบ ถ้าประชาชนที่เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการใช้กัญชาในทางการแพทย์ออกมาช่วยกันผลักดัน ก็จะเห็นผลเร็วขึ้น ทุกอย่างผมต้องเน้นความปลอดภัยและทำให้มีสายพันธุ์ที่ให้สารสกัดที่ปลอดภัย ไม่ใช่มั่วเอาอะไรก็ได้”

ทั้งนี้ตามที่นายอนุทินได้ตรวจเยี่ยมองค์การเภสัชกรรม คลอง 10 จ.ปทุมธานีนั้น ได้กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมเป็นหน่วยงานที่มีศักยภาพ สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ออกมาได้มากมาย ซึ่งล้วนแต่มีคุณภาพ ที่ประทับใจมากคือการพัฒนาสายพันธุ์กัญชา มีแปลงปลูกระดับเมดิคัลเกรด และปลูกมาก่อนปี 62 เท่ากับองค์การเภสัชกรรม เห็นประโยชน์จากกัญชา เป็นไปตามนโยบายปัจจุบัน ขอขอบคุณที่มาลงเรือลำเดียวกัน

ทั้งนี้ พูดอยู่เสมอว่าเรื่องนี้ หากไม่พบประโยชน์ มีแต่โทษ ก็ไม่ต้องเดินหน้าต่อ แต่องค์การเภสัชกรรม ยังเดินหน้าอยู่ แสดงว่ากัญชาต้องมีดี และองค์การเภสัชกรรม นับว่ามีองค์ความรู้เรื่องกัญชาที่มีประโยชน์ ข้อมูลดังกล่าวจะสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องแก่สังคมให้เปิดใจยอมรับมากขึ้น เวลาโพสต์อะไร มักจะมีคนถามเรื่อง 6 ต้น ขอทำความเข้าใจว่า เมื่อก่อนน้ำมันกัญชา อยู่ใต้ดิน ต้องแอบทำ แอบใช้ ตอนนี้ อนุญาตให้ใช้ตามสถานพยาบาลแล้ว นี่คือความคืบหน้าที่จับต้องได้ ตนมาเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ เพราะมองเห็นประโยชน์ภาพรวมต่อคนไทย สำหรับเรื่อง 6 ต้น กำลังผลักดันผ่านช่องทางสภา ยืนยัน ทำเต็มความสามารถ ส่วนญาติพี่น้อง ไม่มีใครยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจกัญชาทั้งสิ้น

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า องค์การเภสัชกรรมมีศักยภาพในการแข่งขัน และทำกำไรได้อย่างน่าชื่นชม กระทั่งเป็นเจ้าหนี้ถึง 5 พันล้านบาท มีลูกหนี้คือกระทรวงสาธารณสุข 3 พันล้านบาท และ สปสช. 2 พันล้านบาท ซึ่งในฐานะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะรับทวงหนี้ให้ โดยงบกระทรวงมีหลักแสนล้านบาท มันต้องมีวิธีจัดการ ตอนนี้ ปัญหา ยังพอมีทางออก แต่ถ้าปล่อยให้หนี้สูงถึงระดับหมื่นล้านบาท รับรองว่าแก้ยากแน่นอน แนวทางแก้ไข อาจจะให้ทยอยจ่ายให้จบใน 3 ปี

“ขอให้องค์การเภสัชกรรมรักษามาตรฐานการทำงานต่อไป เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว สมัยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ เกิดวิกฤติไข้หวัดนก แล้วหายายากมาก ทำให้ตระหนักถึงคุณค่าขององค์การเภสัชกรรมทันที ทั้งนี้ การให้คือบุญที่ยิ่งใหญ่ หากเกิดภาวะโรคระบาด แล้วไทยมีสำรองยาสำหรับนานาชาติ มันจะเป็นเรื่องดีแค่ไหน”นายอนุทิน กล่าว

14 พ.ย.! กรมควบคุมโรคฉีดวัคซีนป้องโรคหัด กลุ่มเด็กอายุ 1-12 ปี ฟรีที่ยังไม่เคยรับ

People Unity : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์โรคหัดในไทยดีขึ้น สามารถควบคุมได้ โดยมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดติดตามสถานการณ์โรคหัดทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และรัฐบาลได้สนับสนุนงบกลางเพื่อดำเนินการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดในกลุ่มเด็กอายุ 1-12 ปีทั่วประเทศ ฟรี ในกลุ่มที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน เริ่ม 14 พ.ย.นี้ แนะหากมีไข้สูง 3-4 วัน มีผื่นนูนแดงขึ้นที่ใบหน้าแล้วแพร่กระจายไปตามลำตัว แขน ขา ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว

วันที่ 25 ตุลาคม 2562 นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงนี้มีรายงานข่าวว่าพบผู้ป่วยโรคหัดเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งประเทศที่มีผู้ป่วยโรคหัดสูง ได้แก่ มาดากัสการ์ อินเดีย ยูเครน ฟิลิปปินส์ ไนจีเรีย คาซัคสถาน บราซิล แองโกลา และพม่า นอกจากนี้ในช่วงต้นปียังเคยมีการระบาดในบางเมืองของสหรัฐอเมริกาด้วย ส่วนประเทศไทย ตั้งแต่มีการให้วัคซีนหัด จำนวนผู้ป่วยโรคหัดลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ในปี 2558 พบผู้ป่วยจำนวนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ และในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันหนาแน่น เช่น เรือนจำ โรงเรียน ค่ายทหาร ทั้งนี้ ประเทศไทยตั้งเป้าหมายลดจำนวนผู้ป่วยโรคหัดให้เหลือไม่เกิน 1 รายต่อประชากร 1 ล้านคน ภายในปี 2563 จึงได้มีการจัดทำโครงการกำจัดหัด เพื่อให้มีการค้นหาและรายงานผู้ป่วยไข้ออกผื่นหรือสงสัยหัดให้ครบถ้วน ตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งจากโครงการดังกล่าว ในปี 2562 พบผู้ป่วยไข้ออกผื่นหรือสงสัยหัด 7,470 ราย เสียชีวิต 21 ราย (1 มกราคม–18 ตุลาคม 2562) จังหวัดที่พบมาก ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี ตาก ภูเก็ต และชลบุรี

นอกจากนี้ กลุ่มอายุที่พบจะแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ส่วนใหญ่อายุน้อยกว่า 1 ปี ซึ่งสัมพันธ์กับความครอบคลุมของวัคซีนต่ำในพื้นที่ และผู้ป่วยในพื้นที่อื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยแรงงาน อายุ 20–39 ปี โดยผู้ป่วยมักพบในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันหนาแน่น ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และหน่วยงานสาธารณสุข ได้ร่วมกันดำเนินการเพื่อป้องกันควบคุมโรคหัดอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องในทุกพื้นที่ จนทำให้สถานการณ์โรคหัดในประเทศไทยดีขึ้นอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และได้มอบหมายให้กองระบาดวิทยา และกองโรคป้องกันด้วยวัคซีน ติดตามสถานการณ์โรคหัดทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด

นายแพทย์อัษฎางค์ กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยมีการให้วัคซีนป้องกันโรคหัดตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคตั้งแต่ปี 2527 แก่เด็กอายุ 9 เดือน ต่อมาในปี 2539 ได้เพิ่มการฉีดวัคซีนโรคหัดเข็มที่สอง ดังนั้น ในผู้ใหญ่ที่เกิดก่อนปีที่เริ่มให้วัคซีน อาจไม่มีภูมิคุ้มกันถ้าไม่เคยเป็น ประกอบกับมีแรงงานต่างชาติจากประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามาทำงาน ทั้งนี้ รัฐบาลได้สนับสนุนงบกลางเพื่อดำเนินการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดในกลุ่มเด็กอายุ 1-12 ปีทั่วประเทศ พ.ศ.2562-2563 ตามแผนเร่งรัดการกำจัดโรคหัดของประเทศไทย โดยไม่เสียค่าใช่จ่ายใดๆ เพื่อรณรงค์ให้วัคซีนเก็บตกในกลุ่มเด็กไทยและเด็กต่างชาติช่วงอายุดังกล่าว ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ทุกราย โดยเป็นการให้วัคซีนป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (MMR) แก่เด็กอายุ 1-7 ปี และให้วัคซีนป้องกันโรคหัด-หัดเยอรมัน (MR) แก่เด็กอายุ 7-12 ปี จะเริ่มดำเนินการทั่วประเทศ ในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้

อาการที่พบบ่อยของโรคหัด คือไข้ออกผื่น โดยมักมีไข้สูง 3-4 วัน แล้วเริ่มมีผื่นนูนแดงขึ้นจากหลังหูแล้วลามไปยังใบหน้า กระจายไปตามลำตัว แขน ขา จากนั้นไข้จะลดลงและผื่นค่อยๆ จางหายไป ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่พบได้คือ คออักเสบ หลอดลมอักเสบจนถึงปอดบวม หูชั้นกลางอักเสบ เยื่อบุตาอักเสบ ท้องเสีย และสมองอักเสบซึ่งเป็นภาวะที่รุนแรงที่สุด หากป่วยด้วยโรคหัดหรือสงสัยว่าเป็นโรคหัดควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว ทั้งนี้ โรคหัดสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน ซึ่งตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข จะฉีดวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน (MMR) จำนวน 2 เข็ม เข็มแรกเมื่อเด็ก อายุ 9 เดือน และเข็มที่สองเมื่ออายุ 2 ปีครึ่ง หากพบว่าบุตรหลานยังรับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ ผู้ปกครองสามารถพาไปรับวัคซีนได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐทุกแห่ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

สธ.ปรับโฉมสมุนไพรไทยคุณภาพสู่ตลาดโลก

People Unity : กระทรวงสาธารณสุขส่งเสริมสมุนไพรไทยคุณภาพ สู่ตลาดโลกภายใต้แนวคิด “สมุนไพรไทย ตำรับไทย มรดกโลก” เพิ่มช่องทางการตลาด เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ พร้อมปรับโฉมรูปแบบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สปา บาล์ม และเครื่องดื่มชาสมุนไพร

วันที่ 25 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ที่คิงเพาเวอร์ ศรีวารี คอมเพล็กซ์ จ.สมุทรปราการ นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เยี่ยมชมนิทรรศการพร้อมรับฟังผลการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการในงานนิทรรศการแสดงสินค้า Thai Herbal Pavilion ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-27 ตุลาคม 2562 โดยมีอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ร่วมเยี่ยมชม

นายแพทย์สุขุมกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน จัดทำโครงการนำสมุนไพรคุณภาพสู่ตลาดโลกภายใต้แนวคิด สมุนไพรไทย ตำรับไทย มรดกโลก (Thailand KISS The World) เพิ่มช่องทางการตลาด ส่งเสริมการขายและการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพให้เป็นที่รู้จัก ผ่านตลาดทั้งในและต่างประเทศ จัดอบรมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการตามตลาดที่ได้รับการส่งเสริม อาทิ ตลาดนักท่องเที่ยว ตลาดร้านยา มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจกับบริษัทชั้นนำ ได้แก่ KING POWER และ CP EXTRA ซึ่งมีจำนวน 11 บริษัทที่ผ่านการคัดเลือกจากผู้ประกอบการทั้งสิ้น 35 บริษัท จัดนิทรรศการแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างการยอมรับในตลาดต่าง ๆ อาทิ เช่น การออกนิทรรศการ LANNA HERB 2019 ณ จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์, การออกนิทรรศการงาน Thai Festival in Hanoi 2019 (Local Best, Global Taste) ร่วมกับสถานเอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย และเพิ่มช่องทางการขายทั้ง Online และOffline อาทิ ร้านค้าปลอดภาษีอากรของ KING POWER, ร้านยา SEVEN EXTRA

นายแพทย์สุขุมกล่าวต่อว่า การจัดนิทรรศการแสดงสินค้า Thai Herbal Pavilion ในวันนี้ได้รับความร่วมมือจากคิงเพาเวอร์ ศรีวารี คอมเพล็กซ์ จังหวัดสมุทรปราการ เปิดพื้นที่นิทรรศการแสดงสินค้าให้กับเครือข่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพที่ได้รับรางวัล Prime Minister Herbal Awards (PMHA), Premium Products, Quality Thai Herbal Products (QTHP) ร่วมออกบูธกว่า 29 บริษัทจำหน่ายและแสดงสินค้า ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง เครื่องดื่มชาสมุนไพร กาแฟ ผลิตภัณฑ์สปา ยาสมุนไพร เป็นการเปิดตลาดในระดับสากล เน้นเจาะตลาดกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวประเทศจีนที่นิยมผลิตภัณฑ์สมุนไพรประเภทครีมไพลและบาล์มสูตรร้อน อาหารเสริมกระชายดำ และซื้อเป็นของฝากในโอกาสได้มาท่องเที่ยวประเทศไทย โดยผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่มีโอกาสเติบโตในตลาดประเทศจีน ได้แก่ น้ำมันสมุนไพรแก้อาการปวดเมื่อย ผลิตภัณฑ์ธุรกิจสปา ยาดม ยาอมสมุนไพร ยาหม่อง เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้การผลิตสมุนไพรไทยตรงกับความต้องการของตลาด คาดว่าในปี 2562-2565 จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวหรือ 7.8 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ สำหรับ 11 บริษัทที่ผ่านการคัดเลือก เป็นสินค้าประเภทเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สปา บาล์ม และเครื่องดื่มชาสมุนไพร ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบผลิตภัณฑ์ การบรรจุหีบห่อให้สวยงาม ดึงดูด น่าสนใจ รวมทั้งพัฒนาคุณภาพให้ได้มาตรฐานภายใต้เงื่อนไขของบริษัท KING POWER ต่อไป

แจกฟรี!…”ท้าวเวสสุวรรณ” งานบุญทอดกฐิน หลวงพ่อณะโอ่งประจวบคีรีขันธ์

People Unity : แจกฟรี!…”ท้าวเวสสุวรรณ” งานบุญทอดกฐิน หลวงพ่อณะโอ่ง วันที่ 26 – 27 ตุลาฯ 62 @ สำนักปฏิบัติธรรมบ้านยุบพริกต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

สำนักปฏิบัติธรรมบ้านยุบพริก ตั้งอยู่ ม.11 บ้านยุบพริก ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีอาจารย์ปุณณะ อนิญชิโต หรือ หลวงพ่อณะโอ่ง เป็นเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้มากกว่า 20 ปี หลวงพ่อณะโอ่งได้มาจำพรรษาอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมบ้านยุบพริก เพื่อต้องการความเงียบสงบและปฏิบัติธรรม ท่านมีความเชี่ยวชาญในการอ่านเขียนอักขระขอมโบราณ และภาษาบาลี ได้เริ่มเขียนอักขระบนวัตถุมงคลเมื่อประมาณ 20 ปี ที่ผ่านมา โดยเฉพาะช้อนเงินช้อนทอง ที่ผ่านมาได้จารอักขระบนช้อนเงิน (สเตนเลส) จำนวนหลายพันคัน

นอกจากนี้ยังจารอักขระและเขียนรูปไก่บนช้อนทอง (ทองเหลือง) ซึ่งมีเพียง 50 คัน หลวงพ่อโอ่งให้เหตุผลว่า “ที่เขียนไก่ เพราะเป็นสัตว์ที่ขยัน ต้องหากินตลอดเวลา จึงเป็นเครื่องเตือนสติแก่ผู้ได้รับว่า ต้องเป็นผู้ซื่อสัตย์ ประกอบสัมมาอาชีพ และขยันทำกิน”

สิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากพระรูปอื่นๆ คือหลวงพ่อณะโอ่งไม่นิยมแจกวัตถุมงคลพร่ำเพรื่อ ท่านจะแจกให้คนสนิทใกล้ชิด หรือพระที่ปฏิบัติธรรม เพื่อนำไปเป็นทุนในการบำรุงพระศาสนา บางรายเดินทางมาไกลหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อวัตถุมงคล ไม่ได้กลับไปก็มีด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม วันที่ 26 – 27 ตุลาฯ 62 ขอญเชิญร่วม บุญทอดกฐิน กับหลวงพ่อณะโอง แห่งสำนักปฏิบัติธรรมบ้านยุบพริก ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

ผู้ที่มาร่วมงานแจก “ท้าวเวสสุวรรณ” ทุกท่าน ปลุกเสกวันที่ 19 ตุลาคม 2562 อีกทั้งยังมี ตะกรุด ลูกสะกด ปรกจ้อย จระเข้และปลัดขิก โดยได้รับแจกอย่างใดอย่างหนึ่ง้ท่านั้น ผู้ที่เป็นกรรมการพิเศษจะได้ทั้งหมด 6 อย่าง

“ม.สงฆ์ มจร” มุ่งพัฒนา “MCU TV” ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกสื่อสารในยุคปัจจุบัน

People Unity : “ม.สงฆ์ มจร” มุ่งพัฒนา “MCU TV” ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกสื่อสารในยุคปัจจุบัน กำหนดประชุมคณะกรรมการบิหาร 2 เดือนต่อครั้ง เพื่อประเมินผลของการพัฒนาสถานี

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2562 ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ. วังน้อย จ. พระนครศรีอยุธยา พระครูโสภณพุทธิศาสตร์ ,ผศ.ดร.รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ ในฐานะประธานคณะกรรมการบิหารสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษาและเผยแผ่ธรรมะ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษาฯ (MCU TV) เพื่อรับฟังความคิดเห็นในการขับเคลื่อนกลยุทธ์เชิงรุก และจัดทำแผนพัฒนาสถานีโทรทัศน์ MCU TV 5 ปี

โดยมีคณะกรรมการเข้าร่วมกระชุม อาทิ พระสุวรรณเมธาภรณ์, ผศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ พระเมธีธรรมาจารย์,รศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา พร้อมผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตรายการโทรทัศน์มาร่วมให้คำแนะนำใน เช่น พระเทพสุวรรณเมธี นายมานพ จีรกาญจน์ไพศาล นางขวัญเรือน แก้วพิจิตร โดยที่ปีะชุมได้ให้ข้อคิดเห็นและเสนอแนะใน การผลิตโทรทัศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตเนื้อหาออกอากาศให้ทันเหตุการณ์และเผยแพร่ควบคู่ไปกับสื่อออนไลน์ ปรับปรุงอุปกรณ์ให้มีความทันสมัย

จัดการบริหารเป็นสัดส่วน เน้นบุคลากรภายใน และสร้างเครือข่ายจากวิทยาเขตวิทยาลัยสงฆ์ ในเครือของมหาวิทยาลัย และประสานความร่วมมือจากบุคลากรภายนอก ในการผลิตรายการ รวมถึงงบประมาณจัดสรรในการผลิตรายการ นอกจากนี้ ต้องเน้นกลยุทธ์ ปรับผังรายการให้เข้ากับยุคสมัยและหารายได้จากภายนอกเข้ามาสนับสนุนการผลิตรายการในสถานีโทรทัศน์ MCU TV และได้กำชับในการใช้ลิขสิทธิ์ในถูกต้อง พร้อมทั้งเน้นเนื้อหาด้านข่าวให้มีความรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ นำออกเผยแพร่ทั้งทางดาวเทียมและสื่อออนไลน์ เพื่อกระจายให้สังคมรับรู้ข้อมูลข่าวสารของมหาวิทยาลัยและของคณะสงฆ์ โดยให้ผู้บริหารนำไปพิจารณา ปรับปรุงแล้วนำเสนอในการประชุมต่อไป

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังกำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหาร ระยะเวลา 2 เดือนต่อครั้ง เพื่อประเมินผลของการพัฒนาสถานีต่อไป

สมเด็จพระสังฆราชทรงโปรดให้คณะกรรมการ มส.ชุดใหม่เข้าถวายสักการะ

People Unity : สมเด็จพระสังฆราชทรงโปรดให้คณะกรรมการ มส.ที่ได้รับโปรดเกล้าแต่งตั้งใหม่ในรัชกาลที่ ๑๐ เข้าถวายสักการะ พร้อมประทานพระโอวาท

วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๖.๐๐ น. ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร) ทรงโปรดให้คณะกรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) ที่ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งใหม่ เข้าถวายสักการะ จากนั้นทรงมีพระโอวาทว่า กรรมการมส.ชุดนี้ มีทั้งที่เคยปฏิบัติหน้าที่มาแล้ว และที่เพิ่งจะได้ปฏิบัติหน้าที่ใหม่เป็นวาระแรกในคราวนี้ ขอถวายกำลังใจแด่ทุกท่านในการปฏิบัติหน้าที่ให้ได้เต็มกำลังความสามารถ ด้วยความหนักแน่นมั่นคงในปณิธาน เพื่อความสถิตสถาพรของพระบวรพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ไทย

สมเด็จพระสังฆราช มีพระโอวาทต่อไปว่า ขอให้ทุกท่านระลึกถึงพระเดชพระคุณของบูรพาจารย์ มีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นปฐม ตลอดจนถึงอดีตพระมหาเถระที่ท่านเคารพบูชาเป็นครูบาอาจารย์ด้วยความกตัญญูกตเวที แล้วศึกษาทบทวนใคร่ครวญให้ถ้วนถี่ว่าแต่ละพระองค์และแต่ละท่านได้ทำอย่างไร วางตัวอย่างไร ประพฤติดีปฏิบัติชอบอย่างไร ทุ่มเทอุทิศสรรพกำลังเพื่อการพระศาสนาอย่างไร จึงเป็นที่กราบไหว้ได้เต็มมือ และสนิทใจ เหตุไฉนบูรพาจารย์พระองค์นั้นๆ หรือท่านนั้นๆ จึงสถิตในที่สูงเป็นทิฏฐานุคติของอนุชน ยังมีกลิ่นหอมของศีล ปัญญา อบอวลทวนกระแสกาลเวลานับร้อยนับพันปีไม่จืดจางหาย ให้พวกเราได้ชื่นใจเมื่อได้ระลึกถึงตราบเท่าทุกวันนี้

บัดนี้ ท่านได้ชื่อว่าเป็นมหาเถระเป็นผู้ปกครองคณะสงฆ์ มีตำแหน่งอยู่ในมส.พุทธบริษัทไทยเฝ้ามองการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน และตั้งความหวังไว้ที่ท่านท่านจะประคับประคอง สนองภารธุระของการคณะสงฆ์ให้ราบรื่นเรียบร้อย สามารถฟันฝ่าปัญหาและอุปสรรคไปได้อย่างไร แบบนั้นมีอยู่แล้ว ขอจงอย่าทิ้งทางครู โดยเฉพาะทางของสมเด็จพระบรมครู ผู้ยังเสด็จดำรงอยู่เป็นศาสดาของพวกเรา ในองค์คุณแห่งพระธรรมวินัย

ขอถวายกำลังใจแด่ทุกท่านอีกครั้ง ขออาราธนาให้ท่านตั้งปณิธาน อุทิศชีวิตนี้เพื่อบูชาคุณพระรัตนตรัยด้วยปฏิบัติบูชา ขอให้เห็นแก่ความเจริญมั่นคงของคณะสงฆ์เป็นอุดมการณ์สูงสุด เพื่อสนองพระบรมราชปณิธานของสมเด็จพระมหากษัตริยาริราชเจ้าทุกๆ พระองค์และสนองคุณของบรรพชนไทย ที่สู้อุตส่าห์เสียสละชีวิตเลือดเนื้อหยาดเหงื่อ กำลังกาย กำลังใจและกำลังสติปัญญา เพื่ออุปถัมภ์และพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนาไว้บนแผ่นดินไทย

ศธ.คลอดหลักสูตรลูกเสือมัคคุเทศก์ นำร่องอบรม 8 จังหวัดภาคเรียนที่2

People Unity : ศธ.คลอดหลักสูตรลูกเสือมัคคุเทศก์ เดินหน้าพร้อมจัดอบรม 8 จังหวัดนำร่อง รับภาคเรียนที่ 2/62

ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยความก้าวหน้าของการจัดทำหลักสูตรเพื่อฝึกอบรมให้กับลูกเสือที่เข้าร่วม “โครงการลูกเสือมัคคุเทศก์”ภายหลังจากสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการลูกเสือมัคคุเทศก์” (Guide Scout) เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา ณ โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย โดยสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อจัดทำหลักสูตรลูกเสือมัคคุเทศก์ ร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้หลักสูตรที่ครอบคลุมการสร้างสมรรถนะ ความรู้ และทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการเป็นลูกเสือมัคคุเทศก์ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ให้ได้มากที่สุด

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ได้ร่วมกับกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดทำหลักสูตร คู่มือ สื่อฝึกอบรม และอบรมแกนนำลูกเสือมัคคุเทศก์เสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมนำไปจัดอบรมให้กับลูกเสือที่เข้าร่วมโครงการลูกเสือมัคคุเทศก์ รวมจำนวนทั้งสิ้น 425 คน ใน 8 จังหวัดนำร่อง ได้แก่จังหวัดปราจีนบุรี พัทลุง เชียงใหม่ เลย สุโขทัย นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา และบุรีรัมย์

โดยการจัดอบรมโครงการลูกเสือมัคคุเทศก์ จะเริ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2562 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งหลักสูตรประกอบด้วย การชี้แจงทำความเข้าใจ การให้ความรู้ ตลอดจนการฝึกปฏิบัติจริง รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 60 ชั่วโมง แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่

ระยะที่ 1 ก่อนการฝึกอบรม จำนวน 13 ชั่วโมง สำหรับการศึกษาค้นคว้าจัดทำข้อมูลและเรียงความเกี่ยวกับบ้านเกิด

ระยะที่ 2 การฝึกอบรมเป็นเวลา 4 วัน จำนวน 27 ชั่วโมง เน้นการชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นมาของโครงการ การให้ความรู้ด้านวิชาการ 10 หน่วยเรียนรู้
ทั้งหลักการมัคคุเทศก์ การสื่อสาร ความรู้พื้นฐานของพื้นที่และพื้นที่ข้างเคียง จิตวิทยาการให้บริการ การเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และจิตอาสาของลูกเสือมัคคุเทศก์ ตลอดจนกระบวนการค้นหาเรื่องราวและเรื่องเล่าของท้องถิ่น การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และการใช้เทคโนโลยีเพื่อการมัคคุเทศก์

ระยะที่ 3 คือการฝึกปฏิบัติในสถานที่ท่องเที่ยว เป็นเวลา 20 ชั่วโมง ซึ่งกำหนดจัดกิจกรรม “Kick Off การฝึกประสบการณ์ลูกเสือมัคคุเทศก์” ในพื้นที่ 8 จังหวัดนำร่องในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ด้วย

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังการฝึกอบรมจะจัดให้มีพิธีมอบเครื่องหมายลูกเสือมัคคุเทศก์ (Badge) และมอบวุฒิบัตรแก่ผู้ผ่านหลักสูตร เพื่อนำไปใช้รับรองและเทียบประสบการณ์ (สะสมเครดิต) ที่จะเป็นประโยชน์ในการเรียนต่อระดับอุดมศึกษา การประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ หรือการมีโอกาสได้เป็นตัวแทนลูกเสือไทยเข้าร่วมโครงการของสำนักงานลูกเสือในเวทีระดับนานาชาติในอนาคต

“ขณะเดียวกัน สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ และกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะจัดให้มีการนิเทศการฝึกประสบการณ์ของลูกเสือมัคคุเทศก์ในทุกจังหวัดนำร่อง เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ผลการประเมิน นำไปสู่การปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาหลักสูตรให้ดียิ่งขึ้น พร้อมใช้เป็นต้นแบบในการขยายผลการฝึกอบรมลูกเสือมัคคุเทศก์ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศต่อไป” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว

คกก.ควบคุมโรคติดต่อเห็นชอบยกระดับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ

People Unity : คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบประกาศกระทรวงสาธารณสุข ยกระดับการป้องกันควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เพิ่มคณะทำงานโรคติดต่อ ลดและเพิ่มโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อไม่ให้เข้าประเทศ

วันที่ 24 ต.ค.2562 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ครั้งที่ 2/2562 ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ในการดำเนินการที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันควบคุมโรคติดต่อไม่ให้เข้าสู่ประเทศ จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….เห็นชอบให้ยกระดับการป้องกันควบคุมโรค ณ “จุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก” อ.ภูซาง จ.พะเยา ให้เป็น “ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศพรมแดนบ้านฮวก” ซึ่งปัจจุบันมีด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศจำนวนทั้งสิ้น 68 ด่าน

นายแพทย์สุขุม กล่าวต่อว่า สำหรับ (ร่าง) ประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เรื่อง การเพิ่มเติมผู้แทนจากหน่วยงานของรัฐในคณะทำงานประจำช่องทางเข้าออก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เห็นชอบให้เพิ่มเติมผู้แทนจากหน่วยงานของรัฐในคณะทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานประจำช่องทางเข้าออกประเทศใน 5 ช่องทาง พื้นที่ จ.สงขลา ได้แก่ ด่านท่าเรือสงขลา ด่านพรมแดนสะเดา ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ ด่านพรมแดนบ้านประกอบ และท่าอากาศยานหาดใหญ่

นอกจากนี้ ได้เห็นชอบ (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. โดยเพิ่ม 2 โรค คือ โรคพยาธิใบไม้ตับ และการติดเชื้อในโรงพยาบาล และตัดรายชื่อ 4 โรคออกจากโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ พยาธิทริโคโมแนสของระบบสืบพันธุ์และทางเดินปัสสาวะ, โลนที่อวัยวะเพศ, หูดข้าวสุก และโรคบิด ทำให้ขณะนี้มีโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังทั้งสิ้น 55 โรค

Verified by ExactMetrics