วันที่ 21 พฤศจิกายน 2024

นายกรัฐมนตรีเผยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

People Unity News : นายกรัฐมนตรีเผยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ยืนยันรัฐบาลไม่เคยทอดทิ้ง เร่งผลักดันน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วและได้มากที่สุด

เมื่อวานนี้ (7 พ.ย. 63) เวลา 10.00 น. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ประสบอุทกภัย ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ พร้อมมอบสิ่งของผู้ประสบอุทกภัย ณ ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่  จังหวัดนครศรีธรรมราช

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้นำความพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ทรงมีความห่วงใยมาถึงทุกคน รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบด้วย วันนี้ ได้นำรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาด้วย ยืนยันรัฐบาลไม่เคยทอดทิ้ง ซึ่งจากสถานการณ์ฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณฝนสะสมมากกว่า 900 มิลลิเมตร เกิดปริมาณน้ำไหลหลากเข้าสู่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช  แม้จะไม่ได้เดินทางมาด้วยตนเองตั้งแต่ต้น แต่ก็ติดตามข้อมูลต่างๆด้วยความห่วงใย และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบกับอุทกภัยในพื้นที่อย่างเร่งด่วน โดยเร่งผลักดันน้ำออกให้มากที่สุด

ทั้งนี้  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ทรงห่วงใยประชาชน โดยพระราชทานถุงยังชีพพระราชทานผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวน 10,000 ชุด และจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน 1 แห่ง และพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ผ่านมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวว่า ทุกวันนี้ โลกมีการเปลี่ยนแปลง คนต้องอยู่กับน้ำให้ได้ แต่ต้องไม่ขาดแคลนทั้งสิ่งของเครื่องใช้  ซึ่งรัฐบาลจึงได้เดินหน้าโครงการต่างๆ เช่น โครงการเที่ยวด้วยกัน  โครงการคนละครึ่ง ที่กำลังเดินหน้าไปด้วยดี และกำลังจะมีโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ในเดือนมกราคม  นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า คาดว่าวัคซีนสำหรับโควิด-19 น่าจะเกิดขึ้นในช่วงประมาณกลางปีหน้า ดังนั้น ทุกคนต้องไม่ประมาท ให้ระมัดระวังตนเอง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นยืนยันยังไม่ใช่การระบาดขนาดใหญ่ หรือ ซุเปอร์สเปรดเดอร์  เพราะสามารถติดตามย้อนกลับไป ซึ่งสถานการณ์โควิด-19 ในไทยอยู่อันดับท้ายๆของโลก ที่สำคัญ คือ คนไทยทุกคนต้องรักกัน รวมทั้งขอให้ยึดมั่นในชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์  เพื่อรวมกันเดินประเทศไทย สู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน

Advertising

ซ้อมย่อยครั้งที่ 5 จัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 4 กันยายน 2567 ราชนาวิกสภา วานนี้ (3 ก.ย.) – กองทัพเรือจัดการซ้อมย่อย ครั้งที่ 5 ในการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

พลเรือโท วิจิตร ตันประภา รองเสนาธิการทหารเรือ สายงานกำลังพล ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดเตรียมความพร้อมขบวนเรือพระราชพิธี (ประธาน คตร.) ได้ตรวจการเตรียมความพร้อม ณ จุดรวมพลบริเวณใต้สะพานพระราม 8 ในโอกาสนี้ หัวหน้าหน่วยรับเรือของกำลังพลฝีพายเรือแต่ละลำ ในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ได้ร่วมรับประทานอาหารและพบปะพูดคุยกับผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัดของตน ณ จุดรวมพล ใต้สะพานพระราม 8 รวมถึงบริเวณจุดรวมพลอื่นๆ ทั้งที่ อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ และ กองเรือเล็ก กรมขนส่งทหารเรือ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจก่อนการฝึกซ้อม พร้อมทั้งร่วมชมการฝึกซ้อมย่อย ครั้งที่ 5 บริเวณอาคารราชนาวิกสภา

สำหรับการจัดขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ ใช้เรือพระราชพิธีจำนวนทั้งสิ้น 52 ลำ ความยาว 1,280 เมตร กว้าง 90 เมตร โดยใช้กำลังพลประจำเรือในขบวนเรือพระราชพิธี จำนวนทั้งสิ้น 2,399 นาย ซึ่งการฝึกซ้อมขบวนเรือพระราชพิธีเป็นการจัดรูปขบวนตามรูปแบบโบราณราชประเพณีทุกประการ โดยการฝึกซ้อมเป็นขบวน จะเริ่มทำการซ้อมย่อยเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 10 ครั้ง ดังนี้

วันที่ 1 ,8 ,15 ,22 สิงหาคม วันที่ 3 ,12 ,19 ,26 กันยายน วันที่ 3 และ 10 ตุลาคม โดยในครั้งนี้เป็นการซ้อมย่อยครั้งที่ 5 และการซ้อมใหญ่ จำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 15 และ 22 ตุลาคม โดยพระราชพิธีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2567

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถรับชม การฝึกซ้อมได้ตลอดเส้นทางที่ขบวนเรือแล่นผ่านโดยพื้นที่สาธารณะที่สามารถรับชมได้อย่างใกล้ชิด มีดังนี้ ฝั่งธน บริเวณใต้สะพานพระราม 8 ด้านพระบรมราชานุเสาวรีย์รัชกาลที่ 8 บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ข้างโรงพยาบาลศิริราช ท่าน้ำวัดระฆังโฆษิตาราม และวัดอรุณราชวราราม ฝั่งพระนคร ที่สวนสันติชัยปราการ ข้างป้อมพระสุเมรุ ท่ามหาราช และท่าช้าง ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ที่เรือพระราชพิธีเริ่ม เคลื่อนขบวนบริเวณสะพาน พระราม 8 จนเสร็จพิธีที่วัดอรุณราชวราราม

Advertisement

นายกฯ นำ ครม. วางพวงมาลา เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

People Unity News : 23 ตุลาคม 2566 ลานพระราชวังดุสิต – นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) อาทิ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคนนาคม ร่วมพิธีวางพวงมาลา เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่พระบรมราชานุสาวรีย์ ลานพระราชวังดุสิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีหน่วยงานราชการ ข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา ภาคเอกชน ประชาชนทุกหมู่เหล่า ขณะที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นตัวแทนประธานรัฐสภา เดินทางมาวางพวงมาลาและถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

Advertisement

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้องคมนตรีติดตามโครงการฯอ่างเก็บน้ำยางชุม

People unity news online : สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชกระแสให้ติดตาม ขับเคลื่อน เร่งรัด รวมทั้งแก้ไขปัญหาอุปสรรคการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุดต่อประชาชน

วันนี้ (14 พฤศจิกายน 2560) เวลา 16.30 น. พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคกลาง พร้อมคณะอนุกรรมการฯ ได้เดินทางไปยังโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำของอ่างเก็บน้ำยางชุม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการฯ โดยมี นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยผู้แทนจากกรมชลประทานบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการฯ และสถานการณ์น้ำในเขตพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเพชรบุรี พร้อมกับเยี่ยมชมอ่างเก็บน้ำ

โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำของอ่างเก็บน้ำยางชุมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เกิดขึ้นจากพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่พระราชทานพระราชดำริไว้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2546 สรุปความว่า ให้พิจารณาหาทางเพิ่มปริมาณเก็บกักของอ่างเก็บน้ำยางชุมฯ ต่อมาในปี 2547-2548 กรมชลประทานจึงได้ดำเนินโครงการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำยางชุม โดยปรับปรุงเขื่อนดินเพื่อเพิ่มความสูงของตัวเขื่อนและเพิ่มความจุของน้ำจาก 32.00 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 41.10 ล้านลูกบาศก์เมตร ปรับปรุงอาคารระบายน้ำล้น ปรับปรุงอาคารท่อระบายน้ำปากคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ก่อสร้างอาคารท่อระบายน้ำลงลำน้ำเดิม และติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดพฤติกรรมเขื่อน

ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำยางชุมฯ สามารถส่งน้ำให้พื้นที่รับประโยชน์เพิ่มขึ้นจากเดิม 15,300 ไร่ เป็น 20,300 ไร่ ส่งผลให้ราษฎรได้ใช้ประโยชน์ในการทำการเกษตรโดยปลูกพืช เช่น สับปะรด มะม่วง มะพร้าว อ้อย พืชผักต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น ผลักดันน้ำเค็มในช่วงฤดูแล้งเพื่อรักษาคุณภาพน้ำและสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าโดยรอบ นอกจากประโยชน์ที่เกิดขึ้นโดยตรงแล้วอ่างเก็บน้ำย่างชุมฯยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดให้กับราษฎรได้มีแหล่งอาหารโปรตีนไว้บริโภค รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกแห่งของจังหวัดทำให้ราษฎรมีรายได้จากการทำประมงและจากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกด้วย

จากการติดตามการดำเนินงานโครงการฯของคณะองคมนตรีในครั้งนี้ ได้สร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการดำเนินงานโครงการฯ ให้บังเกิดความมั่นคง ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อสนองพระราชปณิธานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานไว้ให้บังเกิดประโยชน์สูงสุดกับราษฎรต่อไป (NNT)

People unity news online : post 14 พฤศจิกายน 2560 เวลา 22.50 น.

นายกฯ เป็นประธานพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 28 กรกฎาคม 2567 นายกฯ เป็นประธานพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ (28 กรกฎาคม 2567)  เวลา 08.00 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีคณะรัฐมนตรี ข้าราชการการเมือง ข้าราชการระดับสูงของทุกส่วนราชการ ทั้งพลเรือน ทหาร ตำรวจ มหาวิทยาลัยของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ และภาคประชาชน  เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน

เมื่อนายกรัฐมนตรีถึงบริเวณเวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง เดินขึ้นสู่เวที ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วถวายธูปเทียนแพ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ถวายเครื่องราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้น นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล และกล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ ความว่า

ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม

ข้าพระพุทธเจ้า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในนามของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐทั่วประเทศ ต่างมีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น ที่ได้มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท วันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2567 นี้

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปวงข้าพระพุทธเจ้าต่างประจักษ์ในพระราชวิริยอุตสาหะ และพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อความเจริญงอกงามของประเทศชาติ และประโยชน์สุขของอาณาราษฎรทุกหมู่เหล่า ทรงดำรงพระองค์ เป็นแบบอย่างแก่บรรดาข้าราชการในการปฏิบัติงาน เพื่อตอบแทนคุณของแผ่นดินด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม เน้นประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าจักเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมสืบไป

ในโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอตั้งจิตอธิษฐาน อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล ดลบันดาลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระเจริญพร้อมด้วยสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล พระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระบารมีเกริกไกรแผ่ไพศาล สถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าปวงข้าพระพุทธเจ้า และเหล่าพสกนิกรตราบกาลนาน

ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต นำข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณดังต่อไปนี้

“ข้าพระพุทธเจ้า …….(ออกนามของผู้กล่าว แต่ละบุคคล) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะประพฤติปฏิบัติตนเป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดิน มีความซื่อสัตย์สุจริต เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทมุ่งมั่นแน่วแน่แก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดิน และดำเนินชีวิตโดยยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนแห่งศาสนา ตามแนวทางพระบรมราโชวาทตลอดไป” ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

จบแล้ว นายกรัฐมนตรีและผู้ร่วมพิธีร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและร้องเพลงสดุดีจอมราชา เป็นอันเสร็จพิธี

สำหรับพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ประกอบไปด้วยกิจกรรมทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยกิจกรรมส่วนกลาง กำหนดจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ณ ท้องสนามหลวง กิจกรรมส่วนภูมิภาค กำหนดจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ณ ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด หรือในสถานที่เหมาะสม ซึ่งสำนักงาน ก.พ. ได้เชิญชวนหน่วยงานจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณฯ โดยดำเนินการพร้อมกับพิธีที่จัดขึ้น ณ ท้องสนามหลวง

Advertisement

รัฐบาลเดินหน้าจัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 25 พฤษภาคม 2567 รัฐบาล เดินหน้าจัดโครงการจัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เดินหน้าเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาวิกฤตของสังคม ปัญหาโครงสร้างประชากร เตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

นายคารม กล่าวว่า กรมส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.)  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดโครงการจัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยการจัดหากายอุปกรณ์ เช่น วีลแชร์ ขาเทียม เท้าเทียม ไม้เท้าต่าง ๆ จำนวน 72,000 ชุด ให้กับคนพิการผ่านกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานข้อมูลคนพิการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวบรามข้อมูลคนพิการ แล้วส่งเรื่องผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดก่อนที่จะส่งมายังส่วนกลาง

“จากที่นายกรัฐมนตรี ได้นำคณะรัฐมนตรีเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน รัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ได้ต่อยอดแนวทางตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์แห่งพระราชา และองค์ความรู้ต่าง ๆ นำมาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมในแต่ละส่วนราชการ โดยกระทรวง พม. ได้มีแนวคิดที่จะให้นิคมสร้างตนเอง 43 แห่งทั่วประเทศสังกัดกระทรวง พม. โดยจะจำลองบางส่วนของศูนย์ฯ มาใช้เพื่อขยายต่อยอดแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์แห่งพระราชา  เพื่อให้พี่น้องประชาชนเข้าใจอย่างถ่องแท้ และขยายต่อจากรุ่นสู่รุ่นต่อไป” นายคารม ระบุ

Advertisment

เสวนาวันดินโลก ขอตระหนักคุณค่าของดิน

People Unity News : 2 ธันวาคม 2565 อนุ กมธ.ด้านคุณธรรมฯ วุฒิสภา จัดเสวนา “วันดินโลก” เทิดพระเกียรติในหลวง ร.9

คณะอนุกรรมาธิการด้านคุณธรรมและจริยธรรม ในคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา โดยนางศิรินา ปวโรฬารวิทยา ประธานอนุ กมธ.ฯ จัดเสวนาเรื่อง “วันดินโลก” โดยพลอากาศเอกวีรวิท คงศักดิ์ รองประธานอนุกรรมาธิการด้านคุณธรรมและจริยธรรม กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติให้การรับรองให้วันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นวันดินโลก เพื่อเทิดเกียรติในพระวิริยะอุตสาหะของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งพระองค์มีโครงการพระราชดำริเกี่ยวกับดินอย่างน้อย 9 โครงการ ทั้งโครงการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม โครงการทดลองแก้ปัญหาดินเปรี้ยว โครงการหญ้าแฝก โครงการแกล้งดิน โครงการศูนย์ศึกษาพัฒนาเขาหินซ้อน โครงการศูนย์ศึกษาพัฒนาเขาห้วยทราย โครงการศูนย์ศึกษาพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ ทั้งนี้ย้ำว่า อาหารก่อกำเนิดจากดิน จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันรักษาดิน เพื่อให้ได้อาหารที่ปลอดภัย

น.ส.นฤกมล จันทร์จิราวุฒิกุล จากกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า ดินมีความสำคัญและถือเป็นแหล่งสะสมธาตุอาหาร และเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศบนบก รวมทั้งยังเป็นแหล่งกักเก็บน้ำ อากาศ และเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ขนาดใหญ่ จึงมีผลต่อการหมุนเวียนในระบบนิเวศ ดินดีจึงเป็นพื้นฐานของการผลิตอาหารที่ดี ดังนั้นการทำให้ดินดี จะเป็นการสนับสนุนแหล่งอาหาร ทำให้เกิดการบรืโภคและการผลิตที่ยั่งยืน และทรัพยากรดินเป็นทรัพยากรที่มียู่อย่างจำกัด จึงควรรักษาเอาไว้ และต้องรณรงค์ให้ทุกฝ่ายให้ความสนใจตระหนักในคุณค่าของดิน

Advertisement

มท. เปิดตัวบทเพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์  : 17 สิงหาคม 2567 กระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมกับ โกไข่ ศิลปินจิตอาสา เปิดตัวบทเพลง “THE LIGHT OF LOVE” บทเพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พระผู้ทรงเป็นหลักชัยและศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งนับตั้งแต่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติ พระองค์เปรียบประดุจแสงแห่งความรัก ผู้ทรงทศพิธราชธรรม ที่ฟูมฟักทะนุถนอมประชาชนคนไทย ยังผลให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ด้วยทรงมีพระราชปณิธานอันมุ่งมั่นแน่วแน่ ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานทั้งปวงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เคียงคู่พระบารมี เสด็จพระราชดำเนินไปประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ ยังประโยชน์สุขให้กับประชาชนคนไทย

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย จึงได้ร่วมกับศิลปินจิตอาสา คือ ดร. จุมพล ทองตัน (โกไข่) ประพันธ์บทเพลง “THE LIGHT OF LOVE – บทเพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ซึ่งมีเนื้อหาบทเพลงที่สะท้อนความรักของประชาชนคนไทย ที่พร้อมเพรียงในการถวายหัวใจแห่งความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการปฏิบัติบูชา สืบสานงานตามพระราชดำริ ทั้งงานจิตอาสา และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นหลักชัย ผู้ทรงเปรียบประดุจแสงแห่งความรักที่ส่องสว่างให้ประชาชนคนไทยได้มีสิ่งที่ดีงามของชีวิต

สำหรับเนื้อเพลง “THE LIGHT OF LOVE” มีคำร้อง ดังนี้

A

When the sky is gray

It seems too hard to see

Soon, the dawn will shine bright The golden light will be back again

B

It’s the light of our love

That’s ready to be found

All the crowd will shout from their hearts

C

We’ll preserve all the things And contribute all your guides

Your vision will be in our lives

In our great beloved

King Vachiralongkorn.

D

The love of all Thai people

Together with our beloved queen

Forever we’ll be good

We’ll change all the wrong to be right.

We’ll apply the idea

Of life long living to our plan

Oh, in this motherland

We all will forever be on your side

(Repeat B / C / D)

E

With heart and unity

Volunteer society will be rise

Your light of love’s shining bright My life will be serving you forever

Forever

Forever

“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศ ได้ร่วมรับฟัง และร่วมแชร์บทเพลงแสงแห่งรัก ผ่านทางเว็บไซต์ https://youtu.be/o4e_bJbqUJk?si=Kov1Oyn_MFj2t5h_ เพื่อร่วมกันน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และ เผยแผ่พระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ขจรขจาย ด้วยความจงรักภักดี โดยพร้อมเพียงกัน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย

Advertisement

รัฐบาลเตรียมงานเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ

People Unity News : วันนี้ 18 เม.ย. 65 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (Centenary Celebration of Her Royal Highness Princess Galyani Vadhana, 2023) ครั้งที่ 1/2565 ณ ทำเนียบรัฐบาล

โดยรัฐบาลรับเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเป็นงานที่ได้รับพระบรมราชานุญาตจัดงาน และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระมหากรุณาให้การจัดงานอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์

เพื่อให้งานดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติ และบรรลุวัตถุประสงค์ของการน้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณ ที่ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทยทุกกลุ่ม และผลงานพระกรณียกิจต่างๆ ยังเป็นที่ประจักษ์ในระดับสากล ดังที่องค์การยูเนสโกได้มีมติร่วมเฉลิมฉลองในวาระบุคคลสำคัญที่มีผลงานดีเด่น

ขณะนี้ แผนกิจกรรมเฉลิมฉลองของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน มีจำนวนกิจกรรมเฉลิมฉลองทั้งสิ้น 110 โครงการ แบ่งเป็น

☑️โครงการด้านการส่งเสริมการศึกษา 24 โครงการ คือ โครงการในประเทศ 21 โครงการ ในต่างประเทศ 3 โครงการ (สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐฝรั่งเศส และสมาพันธรัฐสวิส)

☑️โครงการด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐานและคณิตศาสตร์ จำนวน 21 โครงการ

☑️โครงการด้านการส่งเสริมวัฒนธรรมและการแลกเปลี่ยนทัศนะระหว่างวัฒนธรรม จำนวน 22 โครงการ คือแบ่งเป็นโครงการในประเทศ 19 โครงการ และโครงการในต่างประเทศ 3 โครงการ

☑️โครงการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต จำนวน 19 โครงการ

☑️โครงการประชาสัมพันธ์พระกรณียกิจและงานเฉลิมฉลอง จำนวน 23 โครงการ คือ โครงการในประเทศ 20 โครงการ และโครงการในต่างประเทศ 3 โครงการ

☑️พิธีบำเพ็ญพระกุศลถวายสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

Advertisement

ขอทรงพระเจริญ วันคล้ายวันประสูติ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ 5 เมษายน 2562

People Unity : ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี (พระนามเดิม สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี; ประสูติ: 5 เมษายน 2494) เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และเป็นพระเชษฐภคินีพระองค์เดียวในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

หลังจากทรงสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี ณ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว ทรงประกาศลาออกจากฐานันดรศักดิ์เป็นสามัญชน เพื่อเข้าพระพิธีเสกสมรสกับปีเตอร์ แลดด์ เจนเซน ในพระบรมหาราชวังตามพระราชประเพณี แล้วเสด็จไปประทับด้วยพระสวามี ณ สหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ.2515 ก่อนจะเสด็จนิวัตประเทศไทยเป็นการถาวรเมื่อ พ.ศ.2544 โดยหลังเสด็จนิวัตประเทศไทยเป็นการถาวร พระองค์ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจในด้านการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ทรงช่วยเหลือราษฎรและให้โอกาส ผู้พิการ เยาวชน ตลอดจนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ทั้งยังทรงแสดงภาพยนตร์ตามบทพระนิพนธ์หลายเรื่อง และทรงเป็นผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์

พระประวัติ

ประสูติ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ประสูติเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2494 เวลา 23.28 น. ณ โรงพยาบาลมองชัวซีส์ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้เสด็จนิวัตพระนคร แล้วประทับ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต และเมื่อถึงงานพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่แล้ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระอิสริยยศเมื่อประสูติ คือ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี” โดยพระนามของพระองค์มาจากพระนามและนามของพระประยูรญาติหลายพระองค์ อันได้แก่

สร้อยพระนาม “สิริ” มาจากพระนามาภิไธยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

สร้อยพระนาม “วัฒนา” มาจากพระนามาภิไธยเดิมของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า คือ สว่างวัฒนา ซึ่งเป็นสมเด็จพระอัยยิกาฝ่ายพระราชชนก

พระนาม “อุบลรัตน์” มีความหมายว่า บัวแก้ว มาจากนามของหม่อมหลวงบัว กิติยากร พระอัยยิกาฝ่ายพระราชชนนี

ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงตรัสเรียกว่า “เป้” อันเป็นคำลดรูปของคำว่า ลาปูเป (ฝรั่งเศส: La Poupée) ซึ่งเป็นคำมาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า ตุ๊กตา ส่วนพระราชวงศ์และบุคคลอื่นๆจะเรียกพระองค์ว่า “ทูลกระหม่อมฟ้าหญิงใหญ่” ส่วนพระอนุชาและพระขนิษฐาจะเรียกพระองค์ว่า “พี่หญิง”

การศึกษา ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ทรงเข้ารับการศึกษาขั้นต้นจนสำเร็จจากโรงเรียนจิตรลดา ครั้นทรงสำเร็จมัธยมศึกษา ได้เสด็จไปประทับ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อทรงเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีจนสำเร็จ ณ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในสาขาวิชาคณิตศาสตร์ และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ ชีวเคมี (Bachelor of Science Degree in Bio-Chemistry) จากนั้น ทรงเข้ารับการศึกษาต่อจนสำเร็จปริญญาโท ณ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส ณ ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ในสาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ (Statistics and Public Health) จนสำเร็จในการศึกษา

การอภิเษกสมรส เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ.2515 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ เพื่อทรงอภิเษกสมรสกับปีเตอร์ แลด เจนเซน ชาวอเมริกัน ในพระบรมหาราชวังตามราชประเพณี และเสด็จประทับอยู่สหรัฐอเมริกา ทั้งทรงเปลี่ยนพระนามเป็น จูลี เจนเซน (อังกฤษ: Julie Jensen) ทั้งสองมีโอรส-ธิดา 3 คน ทั้งหมดเกิดในสหรัฐอเมริกา ได้แก่

คุณพลอยไพลิน เจนเซน (เกิด 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2524)

คุณพุ่ม เจนเซน (นามเดิม: ภูมิ เจนเซน; เกิด 16 สิงหาคม พ.ศ.2526 ต่อมา 26 ธันวาคม พ.ศ.2547 เสียชีวิตจากเหตุการณ์คลื่นสึนามิอันเกิดจากแผ่นดินไหวในปี พ.ศ.2547)

คุณสิริกิติยา เจนเซน (นามเดิม: ใหม่ เจนเซน; เกิด 18 มีนาคม พ.ศ.2528)

ในปี พ.ศ.2541 ได้ทรงหย่ากับปีเตอร์ เจนเซน กลับมาใช้นามเดิมคือ อุบลรัตน์ มหิดล

การเสด็จนิวัตประเทศไทย เมื่อทรงหย่ากับปีเตอร์ แลด เจนเซน เมื่อ พ.ศ.2541 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จนิวัตประเทศไทยและประทับอยู่เป็นการถาวรเมื่อ พ.ศ.2544

ภายหลังเสด็จนิวัตประเทศไทยเป็นการถาวร พระองค์ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจนานัปการในด้านการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจนเป็นที่ประจักษ์และยอมรับในระดับประเทศและนานาชาติ นอกจากนี้ยังทรงให้การช่วยเหลือราษฎรและให้โอกาส ผู้พิการ เยาวชน ตลอดจนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่างๆ โดยมีพระดำริให้จัดตั้งมูลนิธิต่างๆขึ้นในการช่วยเหลือและให้โอกาสประชาชน อีกทั้งยังทรงพระปรีชาสามารถในแสดงภาพยนตร์ตามบทพระนิพนธ์หลายเรื่อง เป็นต้นว่า หนึ่งใจ… เดียวกัน (พ.ศ.2551), มายเบสต์บอดีการ์ด (พ.ศ.2552) โดยนำรายได้ทั้งหมดในการจัดฉายภาพยนตร์ดังกล่าวทั้งในประเทศและต่างประเทศไปช่วยเหลือประชาชนและผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆทั่วประเทศ และเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยในระดับนานาชาติอีกด้วย

พระกรณียกิจ

ด้านสังคมสงเคราะห์ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจด้านการช่วยเหลือราษฎรใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข โดยทรงตั้งมูลนิธิชีวิตสดใสเป็นองค์การสาธารณกุศล

นอกจากนี้ ยังทรงตั้งมูลนิธิ Miracle of Life เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ประสบปัญหาต่างๆ เช่น ด้านการศึกษา ด้านสังคมสงเคราะห์ ด้านการช่วยเหลือ ด้านการศาสนา โดยได้เสด็จหรือทรงโปรดให้ผู้แทนพระองค์ไปดูความคืบหน้าของโครงการอยู่เป็นประจำ

ด้านเทคโนโลยี พระองค์ทรงเป็นเจ้าฟ้าสมัยใหม่ มีช่องทางสื่อสารกับประชาชนโดยตรง ผ่านแอปพลิเคชัน โซเชี่ยลมีเดีย ชื่อว่า อินสตาแกรม โดยทรงใช้พระนามแฝงว่า Nichax เพื่อโพสต์พระรูปส่วนพระองค์ในพระอิริยาบถต่างๆให้ประชาชนเข้าไปชื่นชม และพูดคุยจนเป็นที่ชื่นชมจากพสกนิกร

ด้านการรณรงค์การแก้ไขปัญหายาเสพติด ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มีพระดำริให้มีและทรงรับเป็นองค์ประธานโครงการ “TO BE NUMBER ONE” เพื่อรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาทั่วประเทศ และหน่วยงาน องค์กร ชุมชนต่างๆ ตามพระปณิธาน “ทุกคนเป็นหนึ่งได้โดยไม่พึ่งยาเสพติด” มุ่งหมายให้เยาชนใช้เวลาว่างมาร่วมกิจกรรมอันเปิดโอกาสให้กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก นอกจากนี้ ยังมี “ศูนย์เพื่อนใจวัยรุ่น” ซึ่งให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาต่างๆของเยาวชน เช่น ปัญหาครอบครัว และปัญหายาเสพติด มีสมาชิกเข้าร่วมโครงการทั้งเยาวชนและผู้ใหญ่มากถึง 31 ล้านคน หรือครึ่งประเทศ

นอกจากนี้ ยังทรงเปิดศูนย์เพื่อนใจวัยรุ่นทั่วประเทศ และเสด็จมาเยี่ยมชมกับพระราชทานรางวัลในการประกวดของชมรมทูบีนัมเบอร์วันและงานรวมพลคนทูบีครั้งใหญ่ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีด้วย

ต่อมา รัฐบาลเม็กซิโกได้กราบทูลเชิญทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เพื่อทรงเป็นองค์ประธานในงานประชุมเยาวชนโลก (World Youth Conference) ประจำปี 2553 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศเม็กซิโก โดยเม็กซิโกให้ความสนใจโครงการทูบีนัมเบอร์วันและให้การยกย่องว่า เป็นต้นแบบในการป้องกันเยาวชนติดยาเสพติดเป็นผลสำเร็จ และต่างชื่นชมในความเป็นผู้นำที่สร้างสรรค์ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี

ด้านเด็กออทิสติก ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงเห็นว่า เด็กออทิสติกไม่ได้เรียนหนังสือ จนทำให้เป็นคนไม่ปกติ จึงทรงตั้งมูลนิธิคุณพุ่มขึ้นเมื่อ พ.ศ.2548 ภายหลังจากที่ คุณพุ่ม เจนเซ่น พระโอรสซึ่งเป็นโรคออทิสติกด้วยนั้น ได้เสียชีวิตลง เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2548 บางปียังพระราชทานเงินส่วนพระองค์ให้แก่เด็กออทิสติกนำไปใช้จ่ายเป็นทุนการศึกษาและเพื่อให้เด็กออทิสติกได้พัฒนาตนเอง

ด้านการกีฬา ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มีพระปรีชาในกีฬาเรือใบ และเคยทรงลงแข่งกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเมื่อแปรพระราชฐานยังพระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นอกจากนี้ ทรงเคยเข้าร่วมการแข่งขันเรือใบประเภทโอเค ในฐานะนักกีฬาทีมชาติ ที่งานกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 สนามศุภชลาศัย กรีฑาสถานแห่งชาติ วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2510 และทรงทำคะแนนรวมได้เป็นที่ 1 เสมอด้วยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงร่วมการแข่งขันเช่นกัน จึงได้รับพระราชทานเหรียญทองจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ร่วมกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ผลงานในวงการบันเทิง

ด้านการแสดงละคร เมื่อปี พ.ศ.2546 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้ทรงละครสองเรื่องแรก คือ กษัตริยา และ มหาราชกู้แผ่นดิน ตามคำกราบทูลเชิญของบริษัทกันตนา ละครทั้งสองออกอากาศสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 19:30 นาฬิกา

ต่อมาในปี พ.ศ.2549 ได้ทรงแสดงนำในละครเรื่อง อนันตาลัย ซึ่งทรงประพันธ์เค้าโครงเรื่องด้วยพระองค์เองโดยใช้พระนามแฝงว่า “พลอยแกมเพชร” ละครดังกล่าวออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี

ต่อมาในปี พ.ศ.2559 พระองค์ได้ทรงร่วมแสดงในละครโทรทัศน์ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 คู่ขนานกับ ช่อง 3 HD ช่อง 33 เรื่อง ดาวหลงฟ้า ภูผาสีเงิน ทรงรับบทเป็น “อัมราภาชินี”

การออกรายการโทรทัศน์ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้เสด็จมาทรงถ่ายรายการโทรทัศน์ที่เกี่ยวกับพระองค์เป็นประจำ ตามคำกราบทูลเชิญคณะบุคคลต่างๆ เพื่อออกเผยแพร่ทางโทรทัศน์ โดยเฉพาะรายการที่พระองค์ทรงออกรายการทางโทรทัศน์อยู่เป็นประจำเป็นรายการที่มีความรู้และสาระต่างๆ ที่ประชาชนได้รับชมอยู่จนถึงปัจจุบัน มีทั้งหมด 2 รายการ มีดังนี้

ทูบีนัมเบอร์วัน วาไรตี้ เมื่อ พ.ศ.2550 จนถึงปัจจุบัน ส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เพื่อห่างไกลยาเสพติด ผลิตโดย โครงการทูบีนัมเบอร์วันและกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข พระองค์จะออกช่วง Talk to the Princess ตอบจดหมายจากผู้ชม จะออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 20:30–21:30 นาฬิกา ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย

พรินเซสไดอารี (Princess Diary) เมื่อ พ.ศ.2551 เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของต่างประเทศ ปัจจุบัน เปลี่ยนรูปแบบใหม่เป็นการสัมภาษณ์ดารารับเชิญในห้องส่ง โดยเล่าประวัติและผลงานของดารารับเชิญ ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 23:05–24:00 นาฬิกา ทาง โมเดิร์นไนน์ ทีวี

การแสดงภาพยนตร์ เมื่อ พ.ศ.2551 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้ทรงถ่ายภาพยนตร์เรื่อง หนึ่งใจเดียวกัน เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในพระองค์ จากบทพระนิพนธ์ เรื่องสั้นที่…ฉันคิด ทำรายได้ 50 ล้านบาท ต่อมา ยังทรงแสดงในภาพยนตร์เรื่อง มายเบสต์บอดีการ์ด และ พระนางจามเทวี ภาพยนตร์ทั้งสามได้เข้าฉายในงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ โดยเสด็จมาทรงร่วมในพิธีเมื่อ พ.ศ.2551, 2552 และ 2553

ใน พ.ศ.2555 ทรงร่วมแสดงภาพยนตร์อีกสองเรื่อง คือ เรื่อง ว่ายน้ำข้ามทะเลดาว ร่วมกับ โทนี่ รากแก่น เทิดพระเกียรติยศพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในวันพระราชสมภพ 5 ธันวาคม 2555 เข้าฉายในวันที่ 1–23 ธันวาคม พ.ศ.2555 และเรื่อง ทูเก็ตเตอร์ วันที่รัก ร่วมกับ สหรัถ สังคปรีชา และ ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์ เข้าฉายวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2555

ด้านการร้องเพลง ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงมีผลงานเพลงหลายผลงานในสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เช่น เพลงประจำโครงการทูบีนัมเบอร์วัน เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง หนึ่งใจ…เดียวกัน เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง มาย เบส บอดี้การ์ด เพลง “ทางของฉัน” และเพลง “ผู้ชายคนนั้น” นอกจากนี้ ยังทรงได้รับเชิญเข้าร่วมร้องเพลง “ขวานไทยใจหนึ่งเดียว” เมื่อปี 2547 ด้วย

ใต้ร่มพระบารมี : ขอทรงพระเจริญ วันคล้ายวันประสูติ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ 5 เมษายน 2562

People Unity : post 5 เมษายน 2562 เวลา 12.00 น.

Verified by ExactMetrics