วันที่ 24 พฤศจิกายน 2024

เตือน! เหนือ – อีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก 30 มิ.ย. – 2 ก.ค. นี้

People Unity News : 29 มิถุนายน 65 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 16 จังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในช่วงวันที่ 30 มิ.ย. – 2 ก.ค. 65 เนื่องจากคาดการณ์ว่าสภาวะอากาศในพื้นที่ดังกล่าวจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ดังนี้

📍ภาคเหนือ 9 จังหวัด

– จ.แม่ฮ่องสอน ทุกอำเภอ

– จ.เชียงใหม่ ได้แก่ อ.เมือง แม่แจ่ม เวียงแหง เชียงดาว แม่แตง ดอยสะเก็ด สะเมิง หางดง กัลยาณิวัฒนา และอมก๋อย

– จ.เชียงราย ได้แก่ อ.เมือง แม่สรวย แม่ฟ้าหลวง แม่จัน และเวียงแก่น

– จ.ลำพูน ได้แก่ อ.เมือง แม่ทา บ้านโฮ่ง ทุ่งหัวช้าง ลี้ และบ้านธิ

– จ.ลำปาง ได้แก่ อ.เมือง เถิน เสริมงาม สบปราบ วังเหนือ เมืองปาน แจ้ห่ม งาว แม่เมาะ ห้างฉัตร แม่ทะ และแม่พริก

– จ.พะเยา ได้แก่ อ.เมือง เชียงคา ปง จุน และภูซาง

– จ.น่าน ได้แก่ อ.นาหมื่น สองแคว เฉลิมพระเกียรติ ปัว เวียงสา ทุ่งช้าง ท่าวังผา บ่อเกลือ และแม่จริม

– จ.แพร่ ทุกอำเภอ

– จ.อุตรดิตถ์ ได้แก่ อ.ท่าปลา บ้านโคก น้ำปาด และลับแล

📍ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด

– จ.เลย ได้แก่ อ.เมือง นาแห้ว ด่านซ้าย ภูเรือ ภูหลวง และปากชม

– จ.หนองบัวลำภู ได้แก่ อ.สุวรรณคูหา

– จ.บึงกาฬ ได้แก่ อ.บุ่งคล้า

– จ.อุดรธานี ได้แก่ อ.นายูง และน้ำโสม

– จ.หนองคาย ได้แก่ อ.สังคม

– จ.นครพนม ได้แก่ อ.เมือง

– จ.สกลนคร ได้แก่ อ.ภูพาน

พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จัดเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรกลฯ และทีมปฏิบัติการให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนทันที โดยหากประชาชนสามารถแจ้งเหตุหรือขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ @1784DDPM/ แอปฯ “พ้นภัย”/ สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชม. รวมถึงติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปฯ “THAI DISASTER ALERT”

Advertisement

ครม.ยกเลิกกฎหมาย “เช็คเด้ง” ระบุไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและกติการะหว่างประเทศ

People Unity News : 25 มิถุนายน 65 ที่ประชุม ครม. (21 มิ.ย. 65) เห็นชอบยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการใช้เช็คในการทำธุรกรรม และกำหนดให้การใช้เช็คที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีลักษณะหลอกลวงเป็นการกระทำความผิดทางอาญา

แต่เดิมกฎหมายกำหนดความผิด สำหรับการใช้เช็คที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในลักษณะที่เป็นการหลอกลวง มีโทษปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งไม่สอดคล้องกับมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่กำหนดหลักการให้พึงกำหนดโทษทางอาญาเฉพาะความผิดร้ายแรง และไม่สอดคล้องกับกติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองในข้อ 11 ที่กำหนดให้บุคคลจะถูกจำคุกเพียงเพราะเหตุว่าไม่สามารถปฏิบัติการชำระหนี้ตามสัญญาไม่ได้

โดยกฎหมายดังกล่าว จะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ทั้งนี้หากลูกหนี้สั่งจ่ายเช็คโดย “ไม่มีเจตนาทุจริต” แต่เช็คไม่สามารถขึ้นเงินได้ เช่น เงินในบัญชีของลูกหนี้ไม่เพียงพอ เป็นต้น เจ้าหนี้สามารถฟ้องผิดสัญญา “ทางแพ่ง” ได้เพื่อบังคับให้ลูกหนี้ใช้เงินตามเช็คนั้น

แต่กรณีลูกหนี้ “มีเจตนาทุจริต” เพื่อไม่ให้เจ้าหนี้ได้รับเงิน อาจเข้าข่ายเป็นความผิดอาญาตามกฎหมายอื่นได้ เช่น ความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

Advertisement

จ่ายแน่! กรกฎาคมนี้ เงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ จ่ายย้อนหลัง เม.ย. – ก.ค. 65

People Unity News : วันนี้ 24 มิถุนายน 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงผู้สื่อข่าวต่อประเด็นการจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษเพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากค่าครองชีพ กรอบวงเงิน 8.38 พันล้านบาท สำหรับผู้สูงอายุ 10.9 ล้านคน ระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน – กันยายน 2565 เฉลี่ยรายละ 100-250 บาท ตามช่วงอายุ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการไปแล้วนั้น โดยให้ความชัดเจนว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นการเสนอขออนุมัติงบกลาง ปี 2565 จากคณะรัฐมนตรี ทางกรมบัญชีกลางคาดว่าจะสามารถโอนเงินช่วยเหลือถึงมือผู้สูงอายุในช่วงกรกฎาคมนี้  ที่จะครอบคลุมเงินช่วยเหลือย้อนหลังตั้งแต่เดือน เมษายน-กรกฎาคม และจะทยอยอีกสองงวดที่เหลือในรอบเดือนต่อๆไป

สำหรับการจ่ายเงินช่วยเหลือเพื่อการยังชีพในครั้งนี้ จะจ่ายเพิ่มจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นรายเดือนตามช่วงอายุ เป็นระยะเวลา 6 เดือน กล่าวคือ

(1) อายุ 60 -69 ปี รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 บ./เดือน รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่ม 100 บ./เดือน รวมเป็น 700 บ./เดือน

(2) อายุ 70 -79 ปี รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 700 บ./เดือน รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่ม 150 บ./เดือน รวมเป็น 850 บ./เดือน

(3) อายุ 80 -89 ปี รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 800 บ./เดือน รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่ม 200 บ./เดือน รวมเป็น 1,000 บ./เดือน

และ (4) อายุ 90 ปีขึ้นไป รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 1,000 บ./เดือน รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่ม 250 บาท/เดือน รวมเป็น 1,250 บ./เดือน

Advertisement

23 – 25 มิ.ย.นี้ ไทยเป็นเจ้าภาพประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก สะท้อนศักยภาพอุตสาหกรรม MICE

People Unity News : 22 มิ.ย. 65 ระหว่างวันที่ 23 – 25 มิ.ย. 65 ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2565 (Global Summit of Women) ภายใต้หัวข้อหลัก “Women: Creating Opportunities in the New Reality” ณ กรุงเทพฯ สะท้อนความเชื่อมั่นของนานาประเทศในการส่งเสริมบทบาทสตรีของไทยในภาคธุรกิจและเศรษฐกิจ รวมถึงศักยภาพในอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) และการเป็นประเทศเป้าหมายในการจัดประชุมระดับนานาชาติ – การท่องเที่ยว

โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะเป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก ในวันที่ 23 มิ.ย. 65 ซึ่งการประชุมดังกล่าวนับเป็นการประชุมระดับนานาชาติขนาดใหญ่ที่จัดขึ้นแบบ face-to-face ในรอบ 2 ปีของไทย และคาดว่าจะสร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 80 ล้านบาท

สำหรับอุตสาหกรรม MICE ในไทย แม้ที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ในปี 2564 ยังคงสร้างรายได้กว่า 33.2 พันล้านบาท สร้างงานกว่า 46,000 ตำแหน่ง ซึ่งในปี 2565 นอกจากการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก อีกหนึ่งการประชุมสำคัญ คือ การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2022 (18 – 19 พ.ย. 65) ที่จะเป็นไฮไลท์ดึงดูดความสนใจของทั่วโลกมายังประเทศไทยได้

Advertisement

อย.เตือน ยาที่มีส่วนประกอบของกัญชา-กัญชง ต้องขออนุญาตก่อน แต่เครื่องสำอางไม่ต้อง

People Unity News : 20 มิถุนายน 65 อย. แจ้งเตือน! การโฆษณายาจากสมุนไพร ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ที่มีส่วนประกอบของกัญชา – กัญชง ต้องขออนุญาตจาก อย. ก่อน ส่วนเครื่องสำอางไม่ต้องขออนุญาตโฆษณา แต่ต้องไม่แสดงสรรพคุณเป็นเท็จ เกินจริง หรือทำให้เข้าใจผิด รายละเอียดตามนี้

Advertisement

เริ่มบังคับใช้แล้ว “กลิ่น – ควัน” กัญชา กัญชง ถือเป็นเหตุรำคาญ ผู้ได้รับผลกระทบแจ้งความเอาผิดได้

People Unity News : เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดให้การกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ. 2565

เนื่องจากการใช้กัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด ในทางที่ไม่เหมาะสม เช่น สันทนาการ อาจส่งผลกระทบต่อสภาวะความเป็นอยู่โดยปกติสุข หรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยควันของพืชดังกล่าว จะมีอนุภาคขนาดเล็กที่สามารถเข้าสู่ปอดได้ด้วยการหายใจเอาควันเข้าไป ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย เช่น โรคปอด หอบหืด หลอดลมอักเสบ

และเพื่อควบคุมและป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง หรือผู้ที่ต้องประสบภัยกับเหตุนั้น จึงกำหนดให้การกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด เป็นเหตุรำคาญ ตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข เริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 15 มิ.ย. 65 เป็นต้นไป (ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535)

Advertisement

ยกเลิกแล้ว! ผู้โดยสารไม่ต้องตรวจโควิด-19 ก่อนบินเข้าสหรัฐฯ

People Unity News : 12 มิ.ย. 65 สหรัฐฯยกเลิกข้อกำหนดที่บังคับให้ผู้โดยสารเครื่องบินต้องมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ ภายในระยะเวลาหนึ่งวันก่อนเดินทางเข้ามายังสหรัฐฯ โดยมีผลเช้าวันอาทิตย์นี้

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งไม่ได้เปิดเผยชื่อ กล่าวว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ​ หรือ ซีดีซี (Centers for Disease Controle and Prevention – CDC) ได้ระบุแล้วว่าการตรวจโควิด-19 ก่อนขึ้นเครื่องนั้นไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป แหล่งข่าวคนดังกล่าวยังได้บอกด้วยว่า ซีดีซี จะประเมินผลจากการยกเลิกข้อบังคับดังกล่าวทุกๆ 90 วัน และอาจจะกลับมาบังคับให้ผู้เดินทางเข้ามาสหรัฐฯ ต้องตรวจหาโควิด-19 อีกครั้ง หากเกิดการระบาดของสายพันธุ์ใหม่ๆ

ที่ผ่านมาสายการบินและกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ได้เดินหน้ากดดันเป็นเวลาหลายเดือน เพื่อให้รัฐบาลของ ปธน.ไบเดนยกเลิกข้อบังคับดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า การกำหนดให้ผู้โดยสารต้องตรวจเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ก่อนขึ้นเครื่องนั้น เป็นการทำลายแรงจูงใจให้ผู้คนเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศ เพราะหากพวกเขาติดโควิด-19 ก่อนบิน พวกเขาอาจจะต้องติดอยู่ในต่างประเทศและไม่สามารถเดินทางเข้าสหรัฐฯ​ได้

โรเจอร์ ดาว (Roger Dow) ประธานสมาคมการเดินทางแห่งสหรัฐฯ (U.S. Travel Association) กล่าวว่าการยกเลิกกฎดังกล่าว “เป็นก้าวใหญ่ก้าวหนึ่งที่จะทำให้การเดินทางทางอากาศเพื่อเข้ามายังสหรัฐฯได้ฟื้นตัว และจะทำให้นักเดินทางจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาในสหรัฐฯอีกครั้ง”

มาร์ติน เฟอร์กุสัน (Martin Ferguson) โฆษกคนหนึ่งของบริษัท Global Business Travel Group Inc. ซึ่งเป็นผู้ให้คำแนะนำแก่บริษัทต่างๆ เกี่ยวกับนโยบายการเดินทาง กล่าวว่าอุตสาหกรรมการเดินทางได้รอคอยคำประกาศนี้มานานแล้ว

สายการบินหลายแห่งได้เคยแย้งว่า กฎดังกล่าวถูกนำมาใช้ตอนที่ยังมีชาวอเมริกันจำนวนน้อยมากที่ได้รับการฉีดวัคซีน ในขณะที่ปัจจุบัน มีชาวอเมริกันที่อายุมากกว่า 5 ปีถึง 71% ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ตามข้อมูลของซีดีซี สายการบินต่างๆ ยังได้ร้องเรียนว่า ผู้คนที่เดินทางเข้ามายังสหรัฐฯ โดยผ่านช่องทางทางบกนั้น ไม่ต้องเข้ารับการตรวจโควิด-19 ก่อนจะเดินทางเข้าประเทศแต่อย่างใด เพียงแต่จะต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนเท่านั้น

โรเบิร์ต ไอซัม (Robert Isom) ผู้บริหารสูงสุดของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลนส์ (American Airlines) กล่าวในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าข้อบังคับตรวจโควิด-19 ก่อนบิน ไม่เพียงแต่จะสร้างความเสียหายให้กับการเดินทางเข้าออกสหรัฐฯเท่านั้น แต่ยังเป็นกฎที่ไม่เข้าท่าอีกด้วย

การเดินทางภายในประเทศในสหรัฐฯ ได้กลับมาสู่สภาวะเกือบปกติก่อนที่จะเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 อีกครั้ง ในขณะที่การเดินทางระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ทำเงินให้กับสายการบินต่างๆยังตามหลังอยู่มาก ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา การเดินทางระหว่างประเทศทางอากาศยังต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี ค.ศ.2019 อยู่ 24% ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางของชาวอเมริกันหรือชาวต่างชาติ ตามข้อมูลของกลุ่ม Airlines for America

หลายประเทศได้พากันยกเลิกข้อกำหนดให้มีการตรวจโควิด-19 ก่อนเดินทางทางอากาศแล้วสำหรับผู้โดยสารที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสและได้รับเข็มบูสเตอร์ เพื่อช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการเดินทางท่องเที่ยว

สหรัฐฯบังคับใช้กฎที่กำหนดให้ผู้โดยสารต้องตรวจโควิด-19 ก่อนที่จะบินเข้าประเทศตั้งแต่เดือนมกราคมของปีที่ผ่านมา และยังคงเป็นกฎของสหรัฐฯ ที่ถูกมองว่าเป็นการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศในปัจจุบัน

ในขณะนั้น รัฐบาลของ ปธน.ไบเดน ได้เริ่มยกเลิกการจำกัดการเดินทางที่ไม่จำเป็นจากหลายประเทศทั่วโลก เช่น ประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป จีน บราซิล แอฟริกาใต้ อินเดีย และอิหร่าน โดยในระยะแรกนั้น ได้กำหนดให้ผู้ที่จะเดินทางเข้าสหรัฐฯ ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วต้องแสดงหลักฐานว่ามีผลตรวจโควิดเป็นลบ ภายใน 3 วันก่อนเดินทางโดยเครื่องบิน

ในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา เมื่อมีการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนทั่วโลก รัฐบาลสหรัฐฯได้เพิ่มความเข้มข้นของกฎดังกล่าว โดยบังคับให้ผู้โดยสารทุกคน ไม่ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนหรือไม่ ต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบภายในหนึ่งวันก่อนเดินทางเข้าสหรัฐฯ ซึ่งทำให้นักเดินทางบางคน หันไปใช้วิธีอื่นๆในการเลี่ยงข้อบังคับดังกล่าว เช่น การนั่งรถเมล์จากแคนาดาข้ามพรมแดนเข้ามายังสหรัฐฯ เป็นต้น

ถึงแม้ว่าจะมีการยกเลิกข้อบังคับตรวจโควิดก่อนการบิน ทางซีดีซียังจะแนะนำให้ผู้โดยสารเครื่องบินทุกคนตรวจโควิดก่อนขึ้นเครื่อง เพื่อความปลอดภัยของทุกคน

สายการบินต่างๆในสหรัฐฯ คาดการว่าการยกเลิกกฎดังกล่าวจะทำให้มีผู้โดยสารกลับมาเดินทางระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 4.3 ล้านคนภายในหนึ่งปี

ที่มา: เอพี

Advertisement

ปลดล็อก พรุ่งนี้! 9 มิ.ย.  ปชช. ปลูก – เสพ – จำหน่าย “กัญชา – กัญชง” ได้แล้ว 

People Unity News : 8 มิถุนายน 2565 ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ 9 มิ.ย. 65 เป็นต้นไป ประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบธุรกิจ หน่วยงานรัฐ เอกชน สามารถปลูกกัญชา กัญชง ได้โดยลงทะเบียนจดแจ้งกับ อย. ทางเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน “ปลูกกัญ” ให้ข้อมูลผู้ปลูกแจ้งวัตถุประสงค์ เช่น เพื่อดูแลสุขภาพ เพื่อการพาณิชย์ และรับเอกสารจดแจ้งอิเล็กทรอนิกส์ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน อย. 1556 กด 3 นอกจากนี้ การผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย เสพ หรือมีไว้ในครอบครอง ไม่มีความผิดอีกต่อไป เพื่อเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจแก่ประชาชน

เนื่องจากประกาศ สธ. เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มิ.ย. 65 ทำให้ทุกส่วนของกัญชาและกัญชง ไม่เป็นยาเสพติดอีกต่อไป ยกเว้นสารสกัดที่มีสาร THC เกิน 0.2% โดยน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม การนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ ยังต้องได้รับอนุญาตตามกฎหมายของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เช่น อาหาร ยา เครื่องสำอาง

Advertisement

อย. เผยมีมาตรการดูแลอาหารจีเอ็มโอ เพิ่มความปลอดภัยผู้บริโภค สับปะรดสีชมพู ต้องห้ามนำเข้า

People Unity News : 3 มิถุนายน 2565 อย. เผยมีมาตรการกำกับดูแลพืชผักจีเอ็มโออย่างเข้มงวด และได้ออกประกาศเพิ่ม 2 ฉบับ ขณะนี้อยู่ระหว่างประกาศในราชกิจจานุเบกษา

นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่สภาองค์กรของผู้บริโภคได้จัดแถลงข่าว “ผักผลไม้ GMOs บุกไทย หน่วยงานรัฐใดต้องรับผิดชอบ หวั่นปนเปื้อนผลไม้พื้นถิ่น ผู้บริโภคเสี่ยง กระทบการส่งออกผลไม้” ซึ่งเรียกร้องให้ภาครัฐจัดการปัญหาลักลอบนำเข้าผักผลไม้จีเอ็มโอ โดยเฉพาะสับปะรดสีชมพูนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิ่มมาตรการกำกับดูแลตามกฎหมาย โดยกำหนดให้อาหารที่ได้จากเทคนิคการดัดแปรพันธุกรรมหรือ GMO เป็นอาหารห้ามผลิต นำเข้าหรือจำหน่าย เว้นแต่ผ่านการประเมินความปลอดภัยตามเกณฑ์ที่กำหนด และแก้ไขให้อาหาร GMO ทุกชนิดต้องแสดงฉลากตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องอาหารจากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม และประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องการแสดงฉลากครอบคลุมอาหารที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ขณะนี้ ประกาศฯ ทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว อยู่ระหว่างประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลใช้บังคับทางกฎหมายต่อไป

สับปะรด จัดเป็นอาหารทั่วไป ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 การนำเข้าซึ่งอาหารเพื่อจำหน่ายต้องมีใบอนุญาตนำเข้า และผ่านการตรวจสอบของด่านอาหารและยา แต่สับปะรดสีชมพู เป็นสิ่งต้องห้ามตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 การนำเข้าจึงต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายดังกล่าว

อย. ร่วมกับกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เฝ้าระวังการนำเข้าสับปะรดสีชมพูอย่างเข้มงวด และจากการตรวจสอบของทั้ง 2 หน่วยงาน ไม่พบข้อมูลการนำเข้าสับปะรดสีชมพู แต่จากการที่พบมีการจำหน่ายเชื่อว่าไม่ผ่านตามขั้นตอนของกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 หน่วยงานจะประสานกับกรมศุลกากรเพื่อเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าสับปะรดสีชมพูเข้ามาในประเทศต่อไป รองเลขาธิการฯ กล่าวในที่สุด

Advertisement

นายกฯ สั่งเข้มติดตามผลเปิดสถานบันเทิง ย้ำมาตรการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่

People Unity News : 2 มิถุนายน 2565 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม  กำชับหน่วยงานติดตาม ตรวจสอบสถานประกอบการหลัง ศบค. มีมติให้ สถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน เปิดให้บริการเป็นวันแรก โดยยังต้องผ่านมาตรฐาน Thai Stop COVID 2Plus และที่ยื่นขออนุญาตกับสำนักงานเขตพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ต้องปฏิบัติตาม COVID Free Setting ได้แก่

1.เปิดให้บริการและจำหน่าย และบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่เกิน 24.00 น. งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความแออัด

2.ผู้ประกอบการหรือผู้ให้บริการ ต้องได้รับวัคซีนตามเกณฑ์และเข็มกระตุ้นตรวจ ATK ทุก 7 วัน

3.ผู้ประกอบการต้องตรวจสอบประวัติการรับวัคซีนของผู้รับบริการ โดยต้องได้รับวัคซีนตามเกณฑ์และเข็มกระตุ้นเท่านั้น

พร้อมกำชับทั้งผู้ให้บริการและผู้เข้ารับบริการ ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดด้วย แม้ภาพรวมของสถานการณ์จะมีแนวโน้มดีขึ้นแต่ยังต้องเฝ้าระวัง ไม่ให้กลับมาระบาดจากคลัสเตอร์ใหม่โดยเด็ดขาด

Advertisement

 

Verified by ExactMetrics