วันที่ 24 พฤศจิกายน 2024

ประยุทธ์ สั่งเร่งแก้กฎหมายฟอกเงินเอาผิด “บัญชีม้า” สกัดเส้นทางโอนเงินมิจฉาชีพออนไลน์

People Unity News : ประยุทธ์ สั่งเร่งแก้กฎหมายฟอกเงินเอาผิดเครือข่ายบัญชีม้า สกัดเส้นทางโอนเงินแก๊งค์มิจฉาชีพ

10 มี.ค. 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้รับรายงานจาก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ ว่า ขณะนี้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้เสนอแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปรามปรามการฟอกเงิน ซึ่งได้กำหนดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีม้าหรือบัญชีทางผ่านเพื่อรับโอนเงินระหว่างเหยื่อและมิจฉาชีพ จะต้องมีความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน มีทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ ซึ่งหากสามารถแก้ไขปัญหาบัญชีม้าได้จะสกัดเส้นทางการรับและโอนเงินในขบวนการของมิจฉาชีพ

พล.อ.ประยุทธ์  ได้มีข้อสั่งการให้เร่งรัดกระบวนการแก้ไขกฎหมายให้ได้มีผลบังคับโดยเร็ว เพื่อให้เป็นเครื่องมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปราบปรามการกระทำผิด เนื่องจากขณะนี้อาชญากรรมทางออนไลน์เกิดขึ้นในหลายรูปแบบ นอกจากคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินแล้วยังมีรูปแบบอื่นๆ ซึ่งหากแก้ไขปัญหาบัญชีม้าได้ จะลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากอาชญากรรมเหล่านี้ได้มาก

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับว่านอกจากเพิ่มประสิทธิภาพของกฎหมายแล้ว หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องเร่งให้ความรู้กับประชาชนว่าการรับจ้างเปิดบัญชีม้า รวมถึงพฤติการณ์ใดๆ ที่เป็นการเข้าไปสนับสนุนเพื่อให้มีบัญชีม้านั้นเป็นความผิดตามกฎหมาย เพื่อประชาชนจะได้ไม่ทำความผิดหรือระมัดระวังตัวไม่ให้ถูกหลอกลวงให้กระทำผิด

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า พร้อมกับการเพิ่มประสิทธิภาพของกฎหมาย ขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ได้ประสานการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ อาทิ ดีอีเอสได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการอายัดโดยเฉพาะ การจัดตั้งทีมเฉพาะกิจสายตรวจไซเบอร์ ประสานงานระหว่างประเทศในการขอข้อมูล IP Address และข้อมูลผู้กระทำความผิด รวมทั้งการพิจารณาจัดทำบันทึกความร่วมมือร่วมประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย อยู่ระหว่างการวางแนวทางการแจ้งเตือนประชาชนก่อนโอนเงินและมาตรการแก้ปัญหาบัญชีม้า ให้พนักงานสาขาที่รับเปิดบัญชีระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันการหลอกให้เปิดบัญชีเงินฝากเพื่อเป็นบัญชีม้ามีจำนวนมากขึ้น  รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการส่งข้อมูลเพื่อแจ้งอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางออนไลน์

Advertising

ปรับเกณฑ์รับรักษาฉุกเฉินผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเหลือง-แดง เข้าโรงพยาบาลได้ทุกแห่ง เริ่ม 16 มี.ค.

People Unity News : ครม. ปรับเกณฑ์ UCEP Plus ให้ผู้ป่วยโควิด กลุ่มสีเหลือง – แดง รักษาตัวในโรงพยาบาล เริ่ม 16 มี.ค.นี้

9 มี.ค. 2565 ที่ประชุม ครม. เมื่อวาน (8 มี.ค. 65) มีมติเห็นชอบปรับเกณฑ์รักษาป่วยฉุกเฉินวิกฤตโควิด-19 หรือ UCEP Plus (Universal Coverage for Emergency Patients Plus) โดยกำหนดให้ กลุ่มผู้ป่วยสีเหลือง (เสี่ยงอาการรุนแรง) และผู้ป่วยสีแดง (อาการรุนแรง) ให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้ทุกแห่ง โดยไม่กำหนดระยะเวลา 72 ชั่วโมงแรก

นอกจากนี้ ยังสามารถส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินรุนแรงจากโรงพยาบาลหนึ่งไปเข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยฉุกเฉิน (ICU) ของอีกโรงพยาบาลได้ภายหลัง 72 ชั่วโมงแรกด้วย ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าโรคอื่น ๆ ตามนิยามเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต

ส่วนกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว (อาการไม่รุนแรง) ไม่นับเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต แต่สามารถเข้ารับการรักษาฟรีในโรงพยาบาลตามสิทธิของแต่ละคน เช่น สิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า สิทธิประกันสังคม หรือสิทธิรักษาพยาบาลของข้าราชการ และเข้ารับการรักษาที่บ้านหรือชุมชนเป็นหลัก (HI/CI First) ซึ่งถือเป็นการกันเตียงให้ผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดงได้รับการรักษาในโรงพยาบาลได้ดียิ่งขึ้น โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 16 มี.ค. 65 เป็นต้นไป

Advertising

องค์การอนามัยโลกเผยจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งสูงเกือบ 6 ล้านคนแล้ว

People Unity News 6 มี.ค. 2565 องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทั่วโลกพุ่งสูงเกือบ 6 ล้านรายแล้ว

กระดานข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ระบุว่าจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทั่วโลกอยู่ที่ 5,978,096 ราย และจำนวนผู้ป่วยสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 440,807,756 ราย เมื่อนับถึงวันศุกร์ (4 มี.ค.)

ภูมิภาคยุโรปมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมมากที่สุดในโลกด้วยจำนวน 181,275,264 ราย ตามด้วยอเมริกาที่มีผู้ป่วยสะสม 147,655,931 ราย

สหรัฐฯ อินเดีย และบราซิล เป็นประเทศสามอันดับแรกที่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมมากที่สุดในโลก

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกเสริมว่าทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เกือบ 1.06 หมื่นล้านโดสแล้ว เมื่อนับถึงวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา

Advertising

ย้ำอีกครั้ง! ภาษีที่ดินปี 65-66 จัดเก็บอัตราเดิม แต่ไม่ลด 90% บ้านและที่ดินเกษตรได้บรรเทา

People Unity News : รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำอีกครั้ง! ภาษีที่ดินปี 65-66 จัดเก็บอัตราคงเดิม แต่ไม่ลด 90% บ้านและพื้นที่เกษตรยังได้บรรเทา

4 มี.ค. 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงมีการแชร์ข้อมูลคลาดเคลื่อนในโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและการจัดเก็บภาษี จึงขอแจ้งให้ทราบอีกครั้งว่า รัฐบาลได้ประกาศคงอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปีภาษี 2565-2566 ในอัตราเช่นเดียวกับปี 2563-2564 แต่ไม่มีการปรับลดการจัดเก็บลง 90% เหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ผู้เสียภาษียังคงได้รับการบรรเทาภาระภาษีในหลายกรณี อาทิ ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของเป็นบุคคลธรรมดาและใช้ประกอบเกษตรกรรมจะได้รับยกเว้นภาษี

ทั้งนี้ การจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2565 เมื่อคำนวณได้เท่าไร จะต้องจ่ายเต็มจำนวน เนื่องจากกระทรวงการคลังมองว่า การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นรายได้หลักที่นำเข้าสู่ท้องถิ่น ซึ่งจากที่มีการลดภาษีที่ดินฯลง 90% ในช่วง 2 ปีก่อนหน้านี้ ทำให้รายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลดลงปีละประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ทำให้ขาดรายได้ไปพัฒนาพื้นที่

นางสาวรัชดา ยังเผยว่า ตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ต้องประกาศอัตราภาษีที่จะใช้จัดเก็บในปี 2565 เนื่องจากอัตราภาษีเดิมที่กำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลกำหนดให้ใช้ได้เฉพาะปี 2563 – 2564 แต่ด้วยความเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน รัฐบาลจึงคงอัตราภาษีที่ดินฯแบบเดิมเช่นเดียวกับปีภาษี 2563-2564 เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้กับผู้เสียภาษี และเพื่อให้ผู้เสียภาษีได้มีระยะเวลาในการปรับตัวสำหรับการชำระภาษีในอัตราที่แท้จริง

ซึ่งในปี 2565 นี้ ผู้เสียภาษียังคงได้รับการบรรเทาภาระภาษีหลายกรณี ได้แก่ 1) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของเป็นบุคคลธรรมดาและใช้ประกอบเกษตรกรรมได้รับยกเว้นภาษี 2) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยที่เจ้าของเป็นบุคคลธรรมดา และมีชื่อในทะเบียนบ้านในวันที่  1 มกราคม จะได้รับยกเว้นมูลค่าฐานภาษีไม่เกิน 50 ล้านบาท 3) กรณีที่เป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้าง ก็จะได้รับยกเว้นมูลค่าฐานภาษีสำหรับสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท ดังนั้น ผู้ที่เป็นเจ้าของทรัพย์สิน มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท หรือไม่เกิน 10 ล้านบาท แล้วแต่กรณี จะไม่ได้รับผลกระทบ แต่สำหรับบุคคลที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวที่มีมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท หรือเกิน 10 ล้านบาท แล้วแต่กรณี จะเสียภาษีเต็มอัตราเฉพาะส่วนที่เกินเท่านั้น 4) การผ่อนปรนภาระภาษีให้แก่ผู้เสียภาษีกรณีมีภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง สูงกว่าค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินและภาษีบำรุงท้องที่ที่เคยชำระในปี 2562 จะบรรเทาภาระให้โดยเสียภาษีเท่ากับค่าภาษีปี 2562 บวกกับร้อยละ 75 ของส่วนต่างค่าภาษีปี 2565 กับปี 2562

Advertising

ไทยเจ๋ง พัฒนา “สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกยับยั้งโควิด” คาดออกสู่ตลาดไตรมาส 3 ปีนี้

People Unity News : รัฐ – เอกชน จับมือพัฒนา “สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกยับยั้งโควิด” คาดออกสู่ตลาดไตรมาส 3 ปีนี้

1 มี.ค. 2565 องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข และบริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด ลงนาม MOU พัฒนานวัตกรรม “สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด-19” ดันงานวิจัยไทยสู่ระดับโลก ซึ่งผ่านการทดสอบเบื้องต้นในสัตว์ทดลองแล้วได้ผลเป็นที่น่าพอใจ พร้อมเดินหน้าศึกษาทางคลินิกในอาสาสมัครภายในไตรมาสแรกของปี 65

คาดว่าจะสามารถนำผลการศึกษายื่นขอขึ้นทะเบียนต่อสำนักงาน อย. ได้ประมาณเดือน มิ.ย. 65 เพื่อออกสู่ตลาดให้ประชาชนได้เข้าถึงอีกหนึ่งนวัตกรรมสุขภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ราวไตรมาส 3 ปี 65 พร้อมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบันและอนาคตต่อไป

Advertising

1 มี.ค. แจกชุดตรวจ ATK กลุ่มเสี่ยง เฟส 2 ผ่านแอปฯ “เป๋าตัง”

People Unity News : 1 มี.ค. แจกชุดตรวจ ATK กลุ่มเสี่ยง เฟส 2 ผ่านแอปฯ “เป๋าตัง”

28 ก.พ. 65 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เตรียมแจกชุดตรวจโควิดด้วยตนเอง (ATK) สำหรับประชาชนทุกสิทธิที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เริ่ม 1 มี.ค. 65 เป็นต้นไป

แนวทางการรับชุดตรวจ ATK เมื่อคัดกรองความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังแล้ว หากผลประเมินว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง สามารถขอรับชุดตรวจคนละ 2 ชุด ได้ที่หน่วยบริการที่เข้าร่วมกระจายชุดตรวจ ATK ได้แก่ ร้านยา, คลินิกพยาบาล, คลินิกกายภาพบำบัด, หน่วยเทคนิคการแพทย์ฯ หรือหน่วยบริการอื่นกว่า 2,000 แห่ง กรณีไม่มีมือถือสมาร์ทโฟนไปขอรับโดยตรงได้ที่หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ

📍กรณีมีสมาร์ทโฟน

  • เข้าแอปฯ เป๋าตัง เลือก กระเป๋าสุขภาพ เลือก “ฟรี ชุดตรวจโควิด”
  • ทำแบบประเมินความเสี่ยง
  • หากเป็นกลุ่มเสี่ยง ระบบจะให้ค้นหาหน่วยบริการใกล้บ้านภายในวันนั้น
  • เดินทางไปรับพร้อมมือถือที่มีแอปเป๋าตัง เพื่อใช้สแกน QR Code ของหน่วยบริการ
  • จะได้รับชุดตรวจคนละ 2 ชุด นำกลับมาตรวจและบันทึกผลผ่านแอปเป๋าตัง

📍กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน

  • โทร.1330 ตรวจสอบข้อมูลหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ
  • เดินทางไปที่หน่วยบริการพร้อมบัตรประชาชนแล้ว ทำประเมินความเสี่ยง
  • หากเป็นกลุ่มเสี่ยงจะได้รับชุดตรวจ 2 ชุด และนำกลับมาตรวจและแจ้งผลตรวจกับตัวแทนหน่วยบริการเพื่อบันทึกผลตรวจให้

สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง สามารถดาวน์โหลดและลงทะเบียนได้ที่ https://krungthai.com/link/paotang-ktbwallet

Advertising

ดีเดย์! 1 มี.ค.นี้ สธ. จัดบริการ “เจอ แจก จบ” จ่ายยา 3 สูตร แก่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 (ผู้ป่วยนอก)

People Unity News : ดีเดย์! 1 มี.ค. 65 สธ. จัดบริการ “เจอ แจก จบ” จ่ายยา 3 สูตร สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 (ผู้ป่วยนอก)

27 ก.พ. 65 กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยถึงการจัดบริการเพิ่มสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบผู้ป่วยนอก “เจอ แจก จบ” เริ่ม 1 มี.ค. 65 เป็นต้นไป สำหรับประชาชนที่ผลตรวจ ATK เป็นบวก แพทย์จะพิจารณาจ่ายยารักษาตามอาการ 3 สูตร ได้แก่ 1.ยาฟาวิพิราเวียร์ 2.ยาฟ้าทะลายโจร 3.ยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ แก้ไอ ลดน้ำมูก เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ติดเชื้อในการเข้าถึงบริการ โดยขณะนี้มี จ.เชียงใหม่ และภูเก็ต เริ่มดำเนินการไปแล้วและพบว่าได้ผลดี

เป็นการเตรียมแผนการบริหารจัดการให้โรคโควิด-19 ออกจากการเป็นโรคระบาดไปสู่การเป็นโรคติดต่อทั่วไปหรือโรคประจำถิ่น คือ การที่โรคลดความรุนแรงลง ไม่มีภาวะอันตรายมาก มีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่ประชาชนมีภูมิต้านทานมากเพียงพอ

และขอย้ำว่า ระบบการดูแลรักษาที่บ้านหรือชุมชน (HI/CI) ยังคงมีเช่นเดิม เพียงแต่ “เจอ แจก จบ” เป็นการเพิ่มบริการรองรับผู้ป่วยกรณียังเข้าระบบ HI/CI ไม่ได้ หรือยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็วที่สุด

Advertising

พร้อมใช้งานแล้ว‼ ฟังก์ชันคัดกรองผู้ป่วยโควิดภาวะวิกฤต – เร่งด่วน บนหมอพร้อม Chatbot

People Unity News : พร้อมใช้งานแล้วฟังก์ชันคัดกรองผู้ป่วยโควิดภาวะวิกฤต – เร่งด่วน บนหมอพร้อม Chatbot

27 ก.พ. 65 กระทรวงสาธารณสุข เพิ่มฟังก์ชันการประเมินความเสี่ยงด้วยตนเองสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 บนระบบ “หมอพร้อม Chatbot” เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยคัดกรองผู้ที่มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ให้ได้รับคำแนะนำในการเข้ารับการรักษาพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งสามารถประเมินให้ตนเองหรือบุคคลในครอบครัวที่ติดเชื้อได้ โดยมีค่าความแม่นยำ 85%

การประเมินจะแบ่งเป็น 2 ส่วน

1.แบบประเมินตนเองเพื่อคัดกรองภาวะวิกฤต

2.ประเมินตนเองเพื่อคัดกรองความเร่งด่วน

หลังจากที่ผู้ติดเชื้อทำแบบประเมินแล้ว ระบบจะวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพพื้นฐาน อาการและความพร้อมในการรักษาตัวที่บ้าน ซึ่งผลการประเมินเป็นการให้คำแนะนำในเบื้องต้น ไม่ใช่การวินิจฉัยทางการแพทย์ หากมีอาการรุนแรงขอให้รีบเข้ารับการรักษาทันที

สำหรับช่องทางการประเมินความเสี่ยงบนหมอพร้อม Chatbot สามารถใช้งานได้แล้ววันนี้ ทั้ง LINE Official Account, แอปพลิเคชัน และช่องทางแชทบน Facebook Page ของหมอพร้อม

Advertising

สธ.เผยวัคซีนเข็มกระตุ้นลดการเสียชีวิต 41 เท่า ชวนผู้สูงอายุฉีดวัคซีนโควิดก่อนสงกรานต์

People Unity News : กระทรวงสาธารณสุขเผยวัคซีนเข็มกระตุ้นลดการเสียชีวิต 41 เท่า ชวนผู้สูงอายุฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อนสงกรานต์

26 ก.พ. 65 กรมควบคุมโรค เผยการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วยสูงอายุได้ 41 เท่า เมื่อเทียบกับผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีน

จากข้อมูลผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีน อัตราเสียชีวิต 178 คนต่อล้านคน หากรับวัคซีน 1 เข็ม อัตราลดลงเป็น 112 ต่อล้าน รับ 2 เข็ม อัตราลดลงเหลือ 32 ต่อล้าน คือลดลง 6 เท่า และหากรับเข็มกระตุ้น อัตราลดลงเหลือ 4 ต่อล้าน เท่ากับลดลง 41 เท่าของคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งปัจจุบันไทยมีผู้สูงอายุรับวัคซีนแล้ว 82% ถือว่าเปอร์เซ็นต์สูง แต่ควรให้ได้รับเพิ่มอีก

และการติดเชื้อโอมิครอนเฉลี่ย 14 วันที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 70% พบผู้ป่วยปอดอักเสบใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2 เท่า แม้สายพันธุ์โอมิครอนรุนแรงน้อยกว่าเดลตา แต่การติดเชื้อจำนวนมากอาจแพร่ไปสู่ผู้สูงอายุและคนที่มีโรคประจำตัวได้มากขึ้น จึงเร่งค้นหาผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ให้ความรู้ สร้างแรงจูงใจ และกระตุ้นให้รับวัคซีน เพื่อป้องกันความเสี่ยงช่วงสงกรานต์ที่ลูกหลานจะกลับไปเยี่ยม และขอให้ประชาชนยังคงป้องกันตนเอง งดเข้าสถานที่เสี่ยง ช่วยกันลดการติดเชื้อ

Advertising

กรมอุตุฯ เตือน “อากาศแปรปรวน” ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง อุณหภูมิลดลง 2 – 6 องศาฯ

People Unity News : กรมอุตุฯ เตือน “อากาศแปรปรวน” ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง อุณหภูมิลดลง 2 – 6 องศาฯ

21 ก.พ. 65 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน  “อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน” จากคลื่นลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาที่เคลื่อนผ่านเข้าปกคลุมประเทศลาวและเวียดนามตอนบน และมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุม ส่งผลให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันนี้ (21 ก.พ. 65) 🌩☔️

ซึ่งทำให้ประเทศไทยตอนบน มีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 4 – 6 องศาเซลเซียส

ส่วนภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส

ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผู้ที่ต้องการติดตามข้อมูลสภาพอากาศตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง

Advertising

Verified by ExactMetrics