วันที่ 24 พฤศจิกายน 2024

“เทวัญ”นำคณะสอบวัดชลบุรี จำหน่ายวัตถุมงคลราคาสูง แก่นักท่องเที่ยว

People Unity News : “เทวัญ” ลงพื้นที่ชลบุรี ติดตามกรณีกลุ่มผู้ประกอบการร้องเรียนการเช่าพื้นที่ธรณีสงฆ์และตรวจสอบการจำหน่ายวัตถุมงคลราคาสูงแก่นักท่องเที่ยว

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะประกอบด้วย นายณัฏฐชัย ศรีรุ่งสุขพินิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธงชัย ลืออดุลย์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  และ นายกิตติศักดิ์ หาญกล้า ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 7 ลงพื้นที่ จ.ชลบุรี ติดตามการแก้ไขปัญหาที่ชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนกรณีวัดอรัญญิกาวาส ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี และกรณีวัดหนองเกตุใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะได้ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ นำโดยนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าว

ในส่วนของกรณีวัดอรัญญิกาวาส ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 3  ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ได้ให้เช่าที่ธรณีสงฆ์ โฉนดที่ดินเลขที่ 901  ในเนื้อที่ซึ่งรวมอาคารและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด ผู้เช่่าซึ่งเคยประกอบธุรกิจในที่ดินแปลงดังกล่าวร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณีค่าเช่าที่สูงกว่าเดิม  ทั้งนี้ เนื่องจากวัดอรัญญิกาวาสได้เปิดโอกาสให้ผู้รับมอบอำนาจดำเนินการเช่าที่ดินพร้อมอาคารในราคาที่ถูก  และได้ให้บริษัท  จีดี โปรเกส จำกัด มาเช่าต่อจากผู้รับมอบอำนาจในราคาที่ไม่เปิดเผย และได้ให้ผู้ประกอบการเช่าในราคาที่สูง พบว่ามีผู้เช่าจำนวน 4  รายไม่เห็นด้วยกับราคาที่เรียกเก็บ จากผู้เช่าทั้งหมด 51 ราย

โอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้นำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ตามที่ประชาชนได้ร้องเรียนมา โดยพบว่าบริเวณดังกล่าวกำลังดำเนินการก่อสร้างอาคาร The New Forum Plaza ซึ่งตั้งอยุ่บนพื้นที่ธรณีสงฆ์ของวัดอรัญญิกาวาส โดยพื้นที่่โดยรอบเป็นร้านค้าของกลุ่มผู้ประกอบการที่เช่าพื้นที่อยู่เดิม

จากนั้น คณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายวัตถุมงคลสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่พบว่ามีการจำหน่ายในราคาสูง ที่วัดหนองเกตุใหญ่ ต.หนองปลาใหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนเดินทางกลับ

120 องค์กรชั้นนำจัดเต็ม! มหกรรมอารยสถาปัตย์ฯปีที่ 4 รวมสุดยอดเทคโนโลยี นวัตกรรมเพื่อสุขภาพ

People Unity News : 120 องค์กรชั้นนำจัดเต็ม! มหกรรมอารยสถาปัตย์ฯปีที่ 4 รวมสุดยอดเทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อสุขภาพผู้สูงอายุ ผู้ป่วย มนุษย์ล้อ ขับเคลื่อนพัฒนาไทยมุ่งสู่ความเป็น “เมืองอายรยสถาปัตย์-เมืองท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล” เน้นสะดวก ทันสมัย ปลอดภัย เป็นธรรม ทั่วถึง เท่าเทียม สสส.หนุนปรับสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน อบรมเครือข่ายแท็กซี่ที่ให้บริการคนพิการ ผู้สูงอายุอย่างเหมาะสม

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ที่ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มีการแถลงข่าวการจัดงาน “งานมหกรรมอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล ปีที่ 4 : Thailand Friendly Design Expo 2019”โดยนายกฤษนะ ละไล ประธานมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล กล่าวว่า มูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล ร่วมกับ สสส. และหน่วยงานภาครัฐ เอกชน กว่า 120 องค์กร จาก 20 ประเทศทั่วโลก ร่วมกันจัดนี้ดังกล่าว เพื่อจัดแสดงสินค้า นวัตกรรม เทคโนโลยีและบริการเพื่อสุขภาพที่ดีกว่าสำหรับคนทุกกลุ่ม ทุกวัย ทุกเพศสภาพ และทุกขสุขภาพร่างกาย (Home Care and Rehabilitation) ในระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-1 ธ.ค. นี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ในปีนี้ได้ยกระดับขึ้นสู่เวทีสากล เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศไทยมุ่งสู่ความเป็น “เมืองอายรยสถาปัตย์” ที่คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกสภาพร่างกาย สามารถเข้าถึงได้ ใช้ประโยชน์ได้ สะดวก ทันสมัย ปลอดภัย เป็นธรรม ทั่วถึง เท่าเทียม และเป็น “เมืองท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล” ที่โดดเด่นชัดเจนในเวทีโลก หากทำได้สำเร็จ ย่อมส่งผลโดยตรงต่อทั้งผู้สูงอายุ ผู้ป่วยพักฟื้น ผู้พิการ มนุษย์ล้อ และครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยรับความสะดวก ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งในการดำเนินชีวิต การทำงานและการเดินทางพักผ่อนท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม การบริการ และหลักคิดการออกแบบที่เป็นมาตรฐานสากล ทุกคนใช้ได้ คนทุกวัยใช้ดี มีความเป็นมิตรกับคนทั้งมวล

ด้าน ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การปรับสภาพแวดล้อมแวดล้อมและการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุตามแนวคิดการออกแบบเพื่อทุกคนนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการดำเนินการ ปัจจุบันประเทศไทยมีคนพิการทั่วประเทศไทยกว่า 1.8 ล้านคน และผู้สูงอายุกว่า 12 คน ที่ได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิต และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างสะดวกปลอดภัย และเอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี

“สสส. เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสนับสนุนการดำเนินงานทั้งการพัฒนาด้านวิชาการและกลไกการทำงานเป็นเครือข่าย ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น การสร้างเครือข่ายวิชาการเพื่อสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน โดยสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ออกแบบเพื่อทุกคน : Universal Design Center หรือ UDC ร่วมกับมหาวิทยาลัย 5 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์” ดร.สุปรีดา กล่าวและว่า

เพื่อให้บริการให้คำปรึกษาในการออกแบบและปรับสภาพแวดล้อมที่พักอาศัย และพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาและขับเคลื่อนให้เกิดระบบขนส่งและบริการสาธารณะเพื่อทุกคน ส่งเสริมให้เกิดเส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลต้นแบบ และเกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในพื้นที่ ต่างๆ การให้ความรู้แก่เครือข่ายแท็กซี่ที่ให้บริการคนพิการ ผู้สูงอายุอย่างเหมาะสม เพื่อให้คนพิการ ผู้สูงอายุ สามารถเดินทาง และใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ซึ่งจะส่งผลต่อการมีสุขภาวะที่ดีได้อีกด้วย

“รมว.พม.”ร่วมกับ”ห้างมาบุญครอง” ชวนผู้ใจบุญมอบของขวัญปีใหม่เด็กสถานสงเคราะห์

People Unity News : “รมว.พม.”ร่วมกับ”ห้างมาบุญครอง” จัดงาน Gift for Give มหกรรมของขวัญถูกใจ…ได้บุญ พร้อมชวนผู้ใจบุญส่งต่อของขวัญปีใหม่ให้เด็กในสถานสงเคราะห์ทั่วประเทศ

วันนี้ 18 พ.ย. 62 เวลา 13.00 น. ที่ห้องรับรอง ชั้น 9 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ร่วมหารือกับตัวแทนบริษัทมาบุญครอง จัดโครงการ Gift for Give มหกรรมของขวัญถูกใจ…ได้บุญ เพื่อนำผลิตภัณฑ์และผลงานจากกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. จัดแสดงในงาน ระหว่างวันที่ 4-6 ธันวาคม 2562 บริเวณลานจำหน่ายสินค้า ชั้นล่าง ห้างมาบุญครอง กรุงเทพฯ

นายจุติ กล่าวว่า ขอขอบคุณบริษัท มาบุญครอง (MBK) ที่มาร่วมงานกับ พม. มาให้โอกาสในการพัฒนาอาชีพของกลุ่มเป้าหมายในกระทรวงฯ เพื่อที่จะนำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ออกมาจำหน่าย เพื่อสร้างอาชีพ สร้างความหวังและสร้างโอกาสให้กับคนพิการ ผู้สูงอายุ และเยาวชน ที่กำลังพัฒนาทักษะเรื่องอาชีพ ซึ่งจะเป็นทางออกในการขายผลผลิตและยังเป็นการพัฒนารายได้ เพราะเงินต่าง ๆ จะกลับไปสู่ผู้ผลิตและเจ้าของ อย่างน้อยจะเป็นการสนับสนุนกิจกรรมที่เขากำลังทำอยู่
นายจุติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทางกระทรวง พม. และบริษัทมาบุญครอง อยากเชิญชวนผู้ที่มาร่วมงานซื้อสินค้าจากบูทเพื่อส่งต่อเป็นของขวัญในเทศกาลปีใหม่ให้กับเด็กที่อยู่ตามสถานสงเคราะห์ต่างๆ ทั่วประเทศ ที่มีกว่า 9,000 คน โดยของที่มอบให้เด็กเหล่านี้ เมื่อของขวัญถูกส่งถึงมือเด็ก ๆ จะได้เขียนการ์ด เพื่อเป็นการขอบคุณให้กับผู้บริจาคแต่ละท่านอีกด้วย

“ฉะนั้นใครที่พร้อมสนับสนุนก็ช่วยแบ่งปันความสุขให้เด็กๆ เหล่านี้ที่ไม่มีผู้ปกครอง อย่างน้อยเขาได้รู้สึกว่าปีใหม่นี้ มีคนคิดถึงเขาและชีวิตเขาก็มีความหวัง มีกำลังใจที่จะเป็นคนดีกับสังคม และสู้กับปัญหาความขาดแคลนของชีวิตต่อไป”

ศาลพระเจ้าตากชาววัดอรุณ แจกทานข้าวสารฟรีแก่ผู้ยากไร้

People Unity News : ศาลพระเจ้าตากชาววัดอรุณ แจกทานข้าวสารฟรีแก่ผู้ยากไร้ งาน 28 ธันวาวันพระเจ้าตากสินปี62

วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2562 ขอเชิญพ่อแม่พี่น้องผู้เคารพรักและศรัทธาในองค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเข้าร่วมพิธีสำคัญอันศักดิ์สิทธิ์ในงาน 28 ธันวาวันพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี 2562 ณ ศาลสมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราชชาววัดอรุณ ปากซอยวังเดิม 3 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ซึ่งปีนี้จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เพื่อเทิดพระเกียรติถวายแด่พระองค์ท่าน โดยในงานจะมีการแสดงของ มังกรทอง สิงโต กระตั้ว กระบี่กระบอง และการแสดงจากผู้ที่มีความรักเคารพและศรัทธาในองค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชอีกมากมาย

สำหรับปีนี้จะมีการแจกทานใหญ่ โดยคณะผู้จัดงานจัดเตรียมข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม จำนวน 1,500 ถุง(เป็นอย่างน้อย) โดยมีพระธรรมรัตนดิลก กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง) เมตตาเดินทางมาเป็นประธานในการแจกทานข้าวสารแก่ผู้เข้าร่วมงานพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ทุกๆท่านฟรีโดยไม่มีมูลค่าใดๆ

นอกจากนี้ คณะผู้จัดงาน 28 ธันวาวันพระเจ้าตากสินมหาราช โดยนายอัครวิทย์ รัตนประสิทธิ์ (วิทย์ วัดอรุณ) นายวันชัย ลาภวิไลพงศ์ (โต วัดอรุณ) และพี่น้องชาววัดอรุณ ยังจัดเตรียมโรงทานอาหารคาวหวานหลากหลายชนิดและเครื่องดื่มชากาแฟ ไว้ให้รับประทานฟรีตลอดงาน โดยมีผู้ให้การสนับสนุนจำนวนมาก อาทิ ก๋วยเตี๋ยวหมู 500 ถ้วย สนับสนุนโดย พระครูธีระธรรมมานันทร์ เจ้าอาวาสวัดบางแวก เจ้าคณะแขวงบางแวก, พ.ต.ท.พจนาจ งบพิมาย รองผกก.จราจร สน.พระโขนง ร่วมบุญกะเพาะปลา 300 ถ้วย ฯลฯ

กำหนดการเริ่มเวลา 09.00 น.เปิดรับบัตรลงทะเบียนแจกข้าวสารฟรีแก่ผู้ยากไร้ เวลา 11.11 น.ประกอบพิธีบวงสรวงดวงพระวิญ ญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพิธียกดาบอันศักดิ์สิทธิ์ เวลา 12.00 น.เปิดโรงทานอาหารคาวหวานทานฟรี

เวลา 13.00 น.ชมการแสดงของ มังกรทอง สิงโต กระตั้วแทงเสือ กระบี่กระบอง เวลา 14.00 น.เริ่มพิธีแจกข้าวสารฟรีแก่ผู้ยากไร้โดย พระธรรมรัตนดิลก กรรมการมหาเถรสมาคม รก.เจ้าคณะภาค 9 เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม

ในงานพิธีศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ ทางคณะกรรมการจัดงานได้เปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพในการแจกทานข้าวสารใหญ่เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลถวายแด่ดวงพระวิญญาณของพระองค์ท่าน โดยท่านสามารถนำข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม จำนวน 2 ถุงมาร่วมบุญ ท่านจะได้รับแจกฟรี 1.เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่น”กรุงธนบุรี” เนื้อทองแดง 1 เหรียญ 2.ผ้ายันต์สมเด็จพระเจ้าตาก สินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่น”กรุงธนบุรี” 1 ผืน 3.สติ๊กเกอร์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่น”กรุงธนบุรี” 1 แผ่นเป็นที่ระลึก (สำหรับท่านที่ไม่สะดวกนำข้าวสารมาร่วมบุญ สามารถฝากร่วมบุญซื้อข้าวสารได้จำนวน 200 บาท ต่างจังหวัดช่วยค่าจัดส่ง 50 บาท)

ทั้งนี้ ผู้ศรัทธาสามารถร่วมบุญเป็นเจ้าภาพในการแจกทานข้าวสารครั้งนี้ได้ด้วยการร่วมบุญเช่าบูชา เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่น”กรุงธนบุรี” ในส่วนของเนื้อพิเศษ(ตามรายการวัตถุมงคล) ซึ่งผ่านพิธีมหาพุทธามหาเทวาภิเษกโดยพลังเวทย์ของพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมแห่งยุคนี้ ณ พระอุโบสถน้อย วัดอรุณราชวราราม ถูกต้องตามประเพณีโบราณทุกประการ ครั้งประวัติศาสตร์อย่างยิ่งใหญ่ในรอบ 250 ปี

ติดต่อร่วมทำบุญได้ที่ ศาลสมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราชชาววัดอรุณ ปากซอยวังเดิม 3 ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กทม.10600 หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ 1.แว่น วัดอรุณ โทร.083-8463033 line : nopparutnong 2.โก วัดอรุณ โทร.085-3634431 line : 0853634431 เข้าชมเพิ่มเติมได้ที่ https://pra.kachon.com/news/detail.asp?id=882

“พิพัฒน์”เป็นสักขีพยาน”ททท.-อพท.” เซ็น MOU ส่งเสริมท่องเที่ยวยั่งยืน

People Unity News : รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ระหว่าง ททท. กับ อพท.

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) เรื่องการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยังยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) โดยนายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการ อพท. ณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

มุ่งมั่นประเด็นสำคัญ ได้แก่ ยกระดับความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว (Safe) ส่งเสริมความสะอาดในแหล่งท่องเที่ยว (Clean) ส่งเสริมความเป็นธรรมในการท่องเที่ยว(Fair) และส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและรักษ์สิ่งแวดล้อม (Sustainability) ส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community Based Tourism) เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนดังนั้น ททท. และ อพท.จึงเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการเตรียมความพร้อมให้กับสินค้าการท่องเที่ยวและพัฒนาสินค้าท่องเที่ยวชุมชนให้มีศักยภาพอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยว

โดยชุมชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจในมิติการท่องเที่ยวมากขึ้น ในการนี้ ททท. และ อพท.จึงได้บูรณาการดำเนินงานส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวอย่างเหมาะสม โดยมีระยะเวลาผูกพันตามข้อตกลง เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งมีขอบเขตความร่วมมือในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านส่งเสริมองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพให้ชุมชน โดยร่วมมือส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพชุมชนด้านการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ Block chain เพื่อการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มความสามารถด้านการแข่งขันและพัฒนาสินค้าสินค้าท่องเที่ยวชุมชนให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ด้านการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ททท. ส่งเสริมชุมชนท่องเที่ยวพร้อมขายในโครงการทัศนศึกษาของบริษัทนำเที่ยวหรือสมาคมท่องเที่ยวทั้งในกลุ่มตลาดในประเทศและต่างประเทศ (Agent Familiarization Trip) ตามความต้องการของกลุ่มตลาด อาทิ Consumer Fair, Travel Fair และ อพท. ส่งเสริมชุมชนท่องเที่ยวพร้อมขายและบริษัทนำเที่ยวเพื่อสังคม เข้าร่วมงานที่ ททท.จัดขึ้นทั้งในและต่างประเทศด้านการประชาสัมพันธ์ ร่วมส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ชุมชนท่องเที่ยวผ่านสื่อทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ส่งเสริมชุมชนท่องเที่ยวพร้อมขายให้อยู่ในโครงการทัศนศึกษาของสื่อมวลชน (Media Familiarization Trip)ที่ตรงตามความต้องการของตลาด

ทั้งนี้ ในปี 2563 ททท. จะดำเนินแผนงานสร้างสรรค์ พัฒนา สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการท่องเที่ยวที่สะท้อนวิถีไทยผ่านภูมิปัญญา วิถีชีวิต กิจกรรม ประเพณี ผลิตภัณฑ์ โดยสร้างสรรค์เรื่องราวให้ประสบการณ์ที่มีคุณคำของสินค้าและบริการท่องเที่ยวในพื้นที่ 5 แห่งได้แก่ ทะเลน้อย จ.พัทลุง, ชุมชนตะเคียนเตี้ย จ.ชลบุรี,ชุมชนบนแหลม จ.สุพรรณบุรี ชุมชนบ้านสนวนนอก จ.บรีรัมย์ และ ชุมชนบ้านสันลมจอย จ.เชียงใหม่ ททท. คาดว่าการดำเนินงานแบบบูรณาการ่วมกันนี้จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ กระจายรายได้สู่ชุมชน ตลอดจนขับเคลื่อนอุสาหกรมท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

“วราวุธ”ท็อปฟอร์ม! ผ่านฉลุยปั่นเมืองสุพรรณบุรีครั้งที่ 8

People Unity News : “วราวุธ” ท็อปฟอร์ม เครื่องฟิต งานราชไม่ติด งานกีฬาไม่สะดุด ปั่นเมืองสุพรรณบุรีครั้งที่ 8 ผ่านฉลุย

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดงาน 100 พลัส สุพรรณบุรีปั่นสไตล์เมืองเหน่อ ครั้งที่ 8 ที่สนามกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีนายภูสิต สมจิตต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี คณะผู้บริหารการกีฬาจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน และนักปั่นทั่วประเทศ ร่วมการแข่งขันกว่า 4,000 คน

การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ส่งเสริมให้เยาวชนประชาชนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีประโยชน์ และเป็นการรณรงค์ประหยัดพลังงาน และลดมลพิษรวมถึงรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อก่อให้เกิดกระแสการตื่นตัวในการปั่นจักรยาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสุพรรณบุรี ที่ต้องการส่งเสริมให้ประชาชนมีทัศนคติที่ดีในการออกกำลังกาย และเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว สถานที่สำคัญต่าง ๆ ใน จ.สุพรรณบุรี ต่อไป

นายวราวุธ กล่าวว่า “ผ่านไปอีก 1 ปี แล้วครับ กับงานปั่นสไตล์เมืองเหน่อปีที่ 8 งานนี้ จัดเอง คุมเอง ดูงานติดตั้งเอง ลงปั่นเองด้วย ปีนี้ขอปั่นแบบเบาะๆ 23 กิโลเมตรพอครับ เพราะไม่ได้ออกกำลังเตรียมความพร้อมร่างกายเลยตลอด 4 เดือนมานี้ ขอบคุณพี่น้องนักปั่นกว่า 4,000 คนจากทั่วประเทศ ที่มาร่วมปั่นด้วยกันในวันนี้มากๆครับ แล้วพบกันใหม่ปีหน้า ที่นี่ ที่เดิม สุพรรณบุรีครับผม”

“พิพัฒน์”ร่วมขบวนแห่ “เจ้าแม่ทับทิม” ย่านเยาวราช

People Unity News : รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาร่วมขบวนแห่ “เจ้าแม่ทับทิม” ย่านเยาวราช พร้อมทัพใหญ่ “ทัวร์ตระกูลแซ่” เชื่อมั่นสัมพันธ์ไทย-จีน แน่นแฟ้น ส่งผลดีต่อภาพรวมด้านท่องเที่ยวทั้งสองประเทศ

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมด้วยผู้บริหารร่วมขบวนแห่ “เจ้าแม่ทับทิม” (หม่าโจ้ว) รอบย่านเยาวราช ตามที่สมาคมตระกูลลิ้มแห่งประเทศไทย ได้อัญเชิญเจ้าแม่ทับทิมจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งไทย-จีนได้เคารพสักการะ

ทั้งนี้ หลังจากเจ้าแม่ทับทิมได้รับการอัญเชิญมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 โดยมีพิธีต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ ณ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิแล้ว ทางสมาคมฯ ได้อัญเชิญองค์เจ้าแม่ทับทิมไปประทับ ณ สมาคมฉวนโจว-จิ้นเจียง ประเทศไทย ถนนราชพฤกษ์-สำเพ็ง 2, สมาคมตระกูลลิ้มแห่งประเทศไทย และวันนี้ได้มีพิธีแห่องค์เจ้าแม่ไปยังถนนย่านเยาวราช เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวไทย-จีนที่มีความเลื่อมใสศรัทธา ได้มีโอกาสกราบสักการะและขอพร ซึ่งเจ้าแม่ทับทิมหรือเจ้าแม่หม่าโจ้วมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพสักการะของคนจีนที่ทำอาชีพประมงหรือออกเดินเรือไปหาปลาเป็นอย่างมาก ถ้าเปรียบกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคนไทยก็จะหมายถึงแม่ย่านางที่เรามักจะกราบไหว้ขอพรก่อนการออกเดินทางทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นทางรถหรือทางเรือ

รมว.พิพัฒน์ กล่าวว่า การเดินทางมาประเทศไทยขององค์เจ้าแม่ทับทิมครั้งนี้ ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวไทยจีน รวมถึงผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในองค์เจ้าแม่ทับทิมได้มีโอกาสกราบสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ยังมีคณะนักท่องเที่ยวตระกูลแซ่จำนวนมากกว่า 600 คน เดินทางมาด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานตามนโยบายที่ผมเคยให้ไว้แก่หน่วยงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพราะในโลกนี้มีคนจีนเป็นจำนวนมาก มีสายสัมพันธ์อันดีกับชาวไทยเรามาช้านาน จึงเป็นกุศโลบายที่ดีที่จะเชื้อเชิญชาวจีนตระกูลแซ่ต่างๆ ได้มาท่องเที่ยวในเมืองไทย มาพบปะเยี่ยมเยียนบรรพบุรุษญาติมิตรเชื้อสายเดียวกันที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทย นอกจากจะเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอันดีงามของทั้งสองเชื้อชาติแล้ว ความอบอุ่นประทับใจที่เกิดขึ้นย่อมได้รับการประชาสัมพันธ์บอกต่อให้ชาวจีนคนอื่นๆ ได้เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย เกิดการจับจ่ายใช้สอยอันจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างรายได้แก่ประเทศไทยโดยรวมต่อไป หน้าที่ของประชาชนคนไทยคือการต้อนรับผู้มาเยี่ยมเยือนเหล่านี้ด้วยการไม่เอารัดเอาเปรียบ ต้มตุ๋นหลอกลวง สร้างความอบอุ่นประทับใจให้เกิดขึ้น เพียงเท่านี้ก็ถือว่าทุกท่านได้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีแล้ว

ชวนเติมแต้มบุญอิ่มใจ! โหวตสาวงาม พช.ชิงตำแหน่ง”ขวัญใจกาชาดปี 2562″

People Unity News : “อธิบดี พช.” ชวนเติมแต้มบุญ อิ่มใจ แต้มโหวตสาวงาม พช. ชิงตำแหน่ง”ขวัญใจกาชาด ปี 2562″

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2562 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า ตามที่สภากาชาดไทยจัดงานใหญ่ “งานกาชาด ประจำปี2562” ภายใต้แนวคิด “เย็นศิระเพราะพระบริบาล เกิดสายธารการให้ที่งดงาม” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย และเพื่อหารายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย ในการบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค กำจัดภัย ระหว่างวันที่ 15- 24 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.30 – 22.30 น. ณ สวนลุมพินี กรุงเทพฯ

ภายในงานมีกิจกรรมการออกร้านกาชาด นิทรรศการของหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ที่สร้างความสนุกเพลิดเพลินให้กับผู้เที่ยวชมงาน และกิจกรรมการประกวดขวัญใจงานกาชาด โดยปีนี้กรมการพัฒนาชุมชนได้ร่วมส่งตัวแทนสาวงาม เข้าร่วมกิจกรรมประกวด จำนวน 3 ราย ได้แก่ 1.ว่าที่ร้อยตรีหญิงปราณี พรมวิชัย (ผู้เข้าประกวด หมายเลข17) 2.น.ส.กุลนิษฐ์ บัวหลวง (ผู้เข้าประกวด หมายเลข16) 3.น.ส.รวินท์อร สัมฤทธิ์กิจเจริญ (ผู้เข้าประกวด หมายเลข18)

อธิบดีกรมการพัฒนาชุมช กล่าวต่อว่า มาร่วมส่งแรงใจโหวตให้ตัวแทนสาวงามจากกรมการพัฒนาชุมชน ชิงตำแหน่ง”ขวัญใจกาชาด ปี2562″ ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้ 1.ติดตั้งแอพพลิเคชั่น “งานกาชาด2562” ด้วยการดาวน์โหลดลงโทรศัพท์เคลื่อนที่ ใช้งานได้ทั้ง ในระบบ Android จาก Goggle Play และใน iOS จาก App Store หรือ คลิกลิงค์เพื่อดาวโหลดแอพพลิเคชั่น-> https://play.google.com/store/apps/details?id=com.ecartstudio.servcard.redcross

2. สมัครสมาชิก (Rigister) ด้วยการกรอกข้อมูล ส่วนบุคคล ให้ครบถ้วน 3.คลิกเลือก “รูปบัตรงานกาชาด” เพื่อเข้าสู่หน้าเมนูหลัก 4. คลิกเลือก คำว่า “โปรโมชั่น/เติมแต้ม” ที่รูปกล่องของขวัญเพื่อทำการเติมเงินเพิ่มแต้มเข้าสู่ระบบ 5. คลิกเลือก ปุ่มสีเขียว ที่มีตัวเลขจำนวนเงิน (บาท) ตามจำนวนที่ท่านต้องการเติมแต้มเข้าสู่ระบบ เช่น หากท่านต้องการเติม 10 แต้ม ให้ท่านคลิกที่ ปุ่มสีเขียว 10 บาท เมื่อกดแล้ว ระบบจะขึ้นกล่องข้อความถามยืนยัน “คุณต้องการเติมแต้ม จำนวน 10 แต้ม” เป็นเงินทั้งสิ้น 10 บาท โดยให้คลิก ที่คำว่า “ตกลง” เพื่อเข้าสู่ระบบการชำระเงิน

6. การชำระเงินเพื่อเติมแต้ม เมื่อท่านเข้าสู่หน้าระบบการชำระเงิน สามารถเลือกวิธีชำระเงิน ได้ 2 วิธี ได้แก่ 6.1 การชำระเงินด้วยพร้อมเพย์คิวอาร์โค้ด ให้ท่านเลือกที่ข้อความ “บันทึกรูปภาพ”คิวอาร์โค้ดเพื่อนำไปใช้ชำระเงินในระบบ อีแบงค์กิ้ง ของท่าน 6.2 การชำระเงินด้วย RABBIT LINE PAY ให้ท่านเลือกกดปุ่มสีเขียว “การชำระเงินด้วย RABBIT LINE PAY”

7.คลิกเลือก “โหวตขวัญใจงานกาชาด” เพื่อเข้าสู่หน้าเมนู “ร่วมโหวตขวัญใจงานกาชาด 2562” 8.คลิกเลือก หน้าที่ 3 ท่านจะพบ ตัวแทนผู้เข้าประกวดสาวงามพช. ทั้ง 3 คน (หมายเลข 16 /หมายเลข 17/ หมายเลข18) 9.คลิกเลือกรูปผู้เข้าประกวด เพื่อโหวตให้คะแนน ระบบจะตัดแต้มของท่านเพื่อทำการโหวตให้สาวงาม
โดยร่วมโหวตได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 23 พ.ย. 2562 เวลา 20.00 น.

นายสุทธิพงษ์ กล่าวเชิญชวนว่า ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน และภาคีเครือข่ายทุกท่าน ตลอดจนชาวพัฒนาชุมชนทั่วประเทศ ร่วมทำบุญกับสภากาชาดไทย ร่วมโหวตคะแนนให้กับตัวแทนกรมการพัฒนาชุมชน ชิงตำแหน่ง ”ขวัญใจกาชาด 2562” 10 แต้ม 10 บาททำบุญกับกาชาด เติมแต้มได้บุญ สมทบทุนสภากาชาดไทย และอย่าลืมมาแวะชมร้านกาชาดกรมการพัฒนาชุมชน บริเวณโซน B 3.16 ประตู 1 วันนี้ จนถึงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.30 -22.00 น. ณ สวนลุมพินี โดยไม่เก็บค่าบัตรผ่านประตู

วัดพระธรรมกายถวายสังฆทาน คณะสงฆ์ 323 วัด 4 จว.ใต้ ปีที่ 15 ครั้งที่ 148

People Unity News : วัดพระธรรมกายจัดพิธีถวายสังฆทานคณะสงฆ์ 323 วัด 4 จังหวัดชายแดนใต้ ปีที่ 15 ครั้งที่ 148

วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 พระภาวนาธรรมวิเทศ ผู้แทนวัดพระธรรมกายและกัลยาณมิตรทั่วทั้งโลก ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดยะลา หน่วยงานภาครัฐ – เอกชน และประชาชน จัดพิธีถวายสังฆทานแด่คณะสงฆ์ 323 วัด พิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้วายชนม์จากเหตุการณ์ความไม่สงบ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา) ปีที่ 15 ครั้งที่ 148 และพิธีมอบกองทุนหนุนแรงใจช่วยครูใต้ ปีที่ 12 ครั้งที่ 113 จำนวน 357 กองทุน ณ ศาลาการเปรียญ วัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง จังหวัดยะลา

พิธีเริ่มเวลา 06.30 น. ประชาชนร่วมทำบุญตักบาตรพระ 100 รูป โดยมีพระราชปัญญามุนี เจ้าคณะจังหวัดยะลา เป็นประธานสงฆ์ นายสุริยา บุญพันธ์ ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองยะลา รักษาการแทนนายอำเภอเมืองยะลา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส จากนั้นเป็นพิธีมอบกองทุนหนุนแรงใจช่วยครูใต้ ปีที่ 12 ครั้งที่ 113 พิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้วายชนม์ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบ และพิธีถวายสังฆทานแด่คณะสงฆ์ 323 วัด 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระโพธาภิรามมุนี เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดยะลาธรรมาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ พ.ต.อ. ธนูศาตนันทน์ ชูสมทิวัตถ์ ผู้กำกับการ กองบังคับการ สืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนใต้ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส จากนั้นพระภาวนาธรรมวิเทศ กล่าวความในใจ พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยเหลือทหาร ตำรวจ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัย

นายสำเริง ดิษฐวิชัย ครูโรงเรียนนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ จ.ยะลา กล่าวว่า “ตนสอนอยู่ในถิ่นทุรกันดารและเสี่ยงภัย การได้รับมอบกองทุนหนุนแรงใจช่วยครูใต้ ทำให้เกิดขวัญและกำลังใจในการที่จะปฏิบัติหน้าที่ การเป็นครูต้องทุ่มเท ต้องมีจิตเมตตา ชาวพุทธต้องมีความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน ท้อได้แต่อย่าท้อถอย ถ้าเราสู้เราต้องชนะ”

พิธีถวายสังฆทานแด่คณะสงฆ์ 323 วัด 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้วายชนม์จากเหตุการณ์ความไม่สงบ จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2548 ณ วัดมุจลินทวาปีวิหาร จ.ปัตตานี ปัจจุบันจัดติดต่อกันเป็นปีที่ 15 ครั้งที่ 148 รวมมูลค่าความช่วยเหลือกว่า 416 ล้านบาท และจัดอย่างต่อเนื่องทุกเดือนจนกว่าเหตุการณ์จะสงบ ส่วนกองทุนหนุนแรงใจช่วยครูใต้ รวม 12 ปี มอบแล้วกว่า 30,000 กองทุน เป็นเงินกว่า 60 ล้านบาท

โฆษณา

ดร.สาธิต ชื่นชม รพ.สวนสราญรมย์ บำบัดผู้ป่วยจิตเวชจากสารเสพติด แห่งเดียวของกรมสุขภาพจิต

People Unity News : รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชื่นชมโรงพยาบาลสวนสราญรมย์ บำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยจิตเวชจากสารเสพติดของกรมคุมประพฤติด้วยแนวคิดชุมชนบำบัดแห่งเดียวของกรมสุขภาพจิต ได้ผลดีไม่กลับไปเสพซ้ำภายใน 1 ปี ถึงร้อยละ 64

เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2562 ที่ จ.สุราษฏร์ธานี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยม “ศูนย์สาธิตจิตสังคมบำบัด” และให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ที่โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จ.สุราษฏร์ธานี ว่า โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ เป็นโรงพยาบาลเดียวของกรมสุขภาพจิตที่มีสถานที่เฉพาะสำหรับบำบัดและฟื้นฟูผู้ป่วยจิตเวชจากการใช้สารเสพติดที่กรมคุมประพฤติส่งมาบังคับบำบัดแบบไม่เข้มงวด ไม่ปะปนกับผู้ป่วยจิตเวชอื่น ด้วยแนวคิดชุมชนบำบัด ใช้ชีวิตร่วมกันในชุมชนจำลองเสมือนบ้าน ช่วยเหลือกันเหมือนคนในครอบครัว มีบทบาทหน้าที่รับผิดชอบตามความสามารถ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม เน้นการจัดการ 4 ด้าน คือ พฤติกรรม อารมณ์ สติปัญญาและจิตวิญญาณ อาชีพและการอยู่รอด มีเป้าหมายกระตุ้นให้ผู้ป่วยมุ่งมั่นในการเลิกยา หยุดการใช้สารเสพติด ป้องกันการกลับไปเสพซ้ำ เพิ่มศักยภาพด้านพฤติกรรม จิตใจ อารมณ์ และสังคม มีแบบแผนการดำเนินชีวิตที่เหมาะสม

โดยผู้ป่วยจากการใช้สารเสพติดที่เข้ารับการบำบัดทุกคน จะต้องเข้ารับการบำบัดนานถึง 4 เดือน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรมได้ โดยผลการดำเนินงานพบว่าได้ผลดี มีผู้บำบัดครบระยะที่กำหนดถึงร้อยละ 87 ที่สำคัญคือผู้ป่วยไม่กลับไปเสพสารเสพติดซ้ำในระยะ 1 ปี คิดเป็นร้อยละ 64

นอกจากนี้ โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ยังเป็นศูนย์เชี่ยวชาญจิตเวชผู้สูงอายุของภาคใต้ เพื่อเตรียมการรองรับสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีปัญหาซับซ้อนกว่าผู้ป่วยกลุ่มอายุอื่น อาการเจ็บป่วยไม่ตรงไปตรงมาจากสภาพร่างกายเสื่อมถอย ต้องให้การบำบัดทั้งการใช้ยาและไม่ใช้ยา เช่น การนวดฝ่าเท้าด้วยลูกแก้ว ศิลปะบำบัด ดนตรีบำบัด สวนบำบัด การบำบัดด้วยแสงสว่าง ปรับสภาพแวดล้อมคล้ายอยู่ที่บ้าน ป้องกันการลื่นล้ม หกล้ม รวมทั้งได้สร้างเครื่องมือคัดกรองโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ รักษาผู้สูงอายุจากจิตเวชเรื้อรังและจิตเวชจากการใช้สารเสพติดอีกด้วย

สำหรับโรงพยาบาลสวนสราญรมย์ เป็นโรงพยาบาล ขนาด 450 เตียง รับดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต ในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน 7 จังหวัด ประกอบด้วย สุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง กระบี่ พังงา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช มีผู้รับบริการแผนกผู้ป่วยนอกเฉลี่ยวันละ 280 คน ผู้ป่วยใน 300 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยเก่าที่อาการซับซ้อนไม่สามารถรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดได้ โดยโรคที่มารับบริการมากที่สุดคือ จิตเภท ร้อยละ 30 รองลงมาโรควิตกกังวล ซึมเศร้า และที่น่าสนใจคือ มีผู้ป่วยที่เป็นผู้ใช้สารเสพติดมีแนวโน้มเข้ารับบริการมากขึ้นทุกปี

โฆษณา

Verified by ExactMetrics