วันที่ 26 พฤศจิกายน 2024

นำร่องจังหวัดอุดรธานี! สภาสตรีฯผนึกพลัง”พช.” รณรงค์ใส่ผ้าไทยทั่วประเทศ หนุนเศรษฐกิจชุมชนกว่า 9 พันล้าน

People Unity : สภาสตรีฯผนึกพลังกับ กรมพัฒนาชุมชน รณรงค์ใส่ผ้าไทยทั่วประเทศหนุนเศรษฐกิจชุมชนกว่า 9 พันล้านบาท ลงพื้นที่นำร่องจังหวัดอุดรธานี

วันที่ 19 ต.ค.2562 เวลา 09.49 น. นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้การต้อนรับ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน และ นางรชตพร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์และที่ปรึกษาประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน และคณะกรรมการจากสภาสตรีแห่งชาติ ฯ

เพื่อร่วมพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือ “โครงการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” ระหว่าง นายนิรัตน์ ดร.วันดี และองค์กรสตรีในจังหวัดอุดรธานี ประกอบด้วยนางกอบแก้ว คงน้อย นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิง จ.อุดรธานี ดร. ประกายแก้ว รัตนะนาคะ นายกสมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชุมชนจังหวัดอุดรธานี แพทย์หญิงเฉลิมวรรณ ศศิประภา นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจหญิง และวิชาชีพแห่งประเทศไทย อุดรธานี นายหมวดตรี ดร. ยงฤดี พูลทรัพย์ นายกสมาคมสตรีอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี รศ. ดร.กฤตติกา แสนโภชน์ นายกสมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติอุดรธานี โดยมีนายอิทธพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุดรธานี นำสตรีในองค์กรมาร่วมงาน 50 คน และหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมด้วยองค์สตรี ในจังหวัดอุดรธานี จากอำเภอต่างๆ จำนวน ๒๕๐ คน เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว ณ ห้อง ประชุมอุดรดุษฎี โรงแรมเจริญโฮเต็ล

โดยเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2562 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พช.) และดร.วันดี ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือ โครงการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน ร่วมกันระหว่างสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ซึ่งมีองค์กรสมาชิก จำนวน ๒๑๒ องค์กร กระจายอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ กับ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ณ ห้องประชุมพระกรุณานิวาสน์ 1 สภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์
ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยการอนุรักษ์ ส่งเสริมและเผยแพร่ผ้าไทยศิลปะอันล้ำค่าของชาติให้ดำรงคงอยู่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ให้ชาวโลกได้ชื่นชม อีกทั้งเพื่อเชิดชูอัตลักษณ์คุณค่าผ้าท้องถิ่นให้เกิดกระแสความนิยมการแต่งกายผ้าไทยแก่ประชาชนทั่วไปทั่วประเทศ และยังสนับสนุนส่งเสริมการสร้างงานสร้างอาชีพและเสริมสร้างรายได้ให้กับกลุ่มสตรีในท้องถิ่นสภาสตรีแห่งชาติฯจึงได้จัดโครงการนี้ขึ้นมา

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า เพื่อรณรงค์ให้คนไทยทั้งประเทศร่วมมือร่วมใจกันใส่ผ้าทอไทย ไม่ว่าจะเป็นผ้าฝ้าย ผ้าไหม เพื่อช่วยกันสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก ลดความเหลื่อมล้ำกระจายรายได้ให้แก่ชุมชน รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม และรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น ทั้งนี้ การใส่ผ้าทอไทยทุกผืน ก่อให้เกิดรายได้กระจายไปยังชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสตรีกว่า 90% รายได้ที่เกิดจากการทอผ้าออกจำหน่ายจะสามารถช่วยสตรียกระดับคุณภาพชีวิต ส่งบุตรหลานให้มีโอกาสเล่าเรียน ดูแลครอบครัวได้เมื่อยามเจ็บป่วย สร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง

ดร.วันดี กล่าวว่า”หากคนไทยทั้งประเทศพร้อมใจกันสวมใส่ผ้าไทยในทุกวันทั้งประเทศ จะช่วยเป็นการส่งเสริมการทอผ้าในชุมชน สร้างงาน สร้างอาชีพ ลดปัญหาการว่างงาน ลดปัญหาการย้ายถิ่นฐาน และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ ถ้าคนไทยร่วมมือร่วมใจกันใส่ผ้าไทย เพียง 30 ล้านคน จะมีความต้องการใช้ผ้าไทยถึง 300 ล้านเมตร/ปี เฉลี่ยราคาเมตรละ 300 บาทจะมีมูลค่ากว่าปีละ 9,000 ล้านบาท” ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯกล่าวเชิญชวน

“วราวุธ”ยันช้างป่าล้ม 11 ตัวไม่ใช่ 13 วอนโซเชียลหยุดแชร์ข้อมูลเท็จ

People Unity : “วราวุธ”ยันช้างป่าล้ม 11 ตัวไม่ใช่ 13 วอนโซเชียลหยุดแชร์ข้อมูลเท็จ จะยิ่งเหมือนซ้ำเติมและบั่นทอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2562 ที่รัฐสภา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวถึงกรณีที่มีการเสนอข้อมูลผ่านโซเชียลระบุพบซากช้างป่าตกเหวนรกที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เพิ่มอีก 2 ซาก รวมเป็นช้างป่าล้ม 13 ตัวนั้น ขอชี้แจงว่า ข้อมูลนั้นไม่เป็นความจริง ยืนยันว่ามีช้างล้มจากกรณีดังกล่าว 11 ตัว ตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว

“การโพสต์หรือแชร์ข้อมูลข่าวช้างป่าตกเหว หากเป็นข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงจะยิ่งเหมือนซ้ำเติมและบั่นทอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่กำลังทำงานอยู่ในพื้นที่ขณะนี้ เรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และช้างที่ตายมีเพียง 11 ตัวเท่านั้น ดังนั้น ผมขอร้องผู้ที่คิดจะโพสต์หรือแชร์ข่าวนี้ กรุณาใช้วิจารณญาณให้มากๆ และตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องด้วย อย่าใจร้อน” นายวราวุธ กล่าวและว่า

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กำลังเร่งทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย จึงขอวอนให้ทุกคนช่วยให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการทุกคน

“นิติม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี-กขป.เขต 11-ภาคีพลเมืองอาสา”บำบัดทุกข์ประชาชนไม่มีบัตรประจำตัว

People Unity : “นิติม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี-กขป.เขต 11-ภาคีพลเมืองอาสา”บำบัดทุกข์ประชาชนไม่มีบัตรประจำตัว อำเภอพระแสง-บ้านตาขุน

วันที่ 18 ตุลาคม 2562 สืบเนื่องจาก ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ร่วมกับคณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน (กขป.) เขต 11 และภาคีพลเมืองอาสาในพื้นที่ ได้ร่วมกันช่วยเหลือผู้ยากลำบากในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น คณะนิติศาสตร์ได้มอบหมายให้ อาจารย์และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เก็บข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้น พบว่า มีผู้ยากลำบากจากเหตุที่ไม่มีบัตรประชาชน จำนวน 43 ราย และเพื่อให้บุคคลเหล่านี้ได้มีบัตรประจำตัวประชาชนได้เข้าถึงสิทธิของรัฐอย่างเท่าเทียม จึงต้องลงพื้นที่เพื่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องต่อไป

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมชาย บุญคงมาก ผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย คณะนิติศาสตร์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ภูภณัชรัตนชัย บรรณาธิการวารสารนิติศาสตร์และสังคมท้องถิ่นพร้อมด้วยนางสาวรุ่งฤทัย เต็มไป หัวหน้าสำนักงานกองบรรณาธิการ และว่าที่ร้อยตรีหญิง เจนจิรา แซ่เตี่ยว เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป ได้ลงพื้นที่พบ นายชัยพัทธ์ ช่วยชู ปลัดอำเภอพระแสง และนางวิภา พงศ์พิสุทธา ผู้ช่วยนายทะเบียนอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนจำนวน 4 ราย และ 1 รายในจำนวนดังกล่าวได้รับการช่วยเหลือ โดยการสืบค้นข้อมูลทะเบียนราษฎรและแก้ไขปัญหาเบื้องต้นจนแล้วเสร็จ เกิดความหวังที่จะได้รับบัตรประจำตัวประชาชนในโอกาสต่อไป สร้างความปิติยินดีแก่ชาวบ้านรายนี้และญาติ ๆ เป็นอย่างยิ่ง ส่วนที่เหลืออีก 3 รายก็จะทยอยให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ของฝ่ายนายทะเบียนอำเภอพระแสงต่อไป

ในวันเดียวกันนี้ คณะทำงาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีได้เดินทางไปยัง ที่ว่าการอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อพบ นางสาวศริญดา ปาลคะเชนทร์ ปลัดอำเภอชำนาญการพิเศษ และนายศรัญญู ยอดสุรางค์ ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียนและบัตร ซึ่งในพื้นที่มีประชาชนที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 2 ราย เบื้องต้นทางอำเภอได้ประสานไปยังชาวบ้านทั้ง 2 ราย เพื่อขอข้อมูลและหลักฐานเกี่ยวกับการร้องขอเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎรไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ถัดจากนี้ก็จะเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังสามารถ ต่อไป

การลงพื้นที่ครั้งนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภูภณัชรัตนชัย กล่าวว่า การทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชน แม้จะยากลำบากที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคสักแค่ไหน แต่ก็มีความสุข และขอขอบคุณปลัดอำเภอพระแสง และผู้ช่วยนายทะเบียนอำเภอพระแสง ที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างจริงจังและจริงใจ ขอขอบคุณปลัดอำเภอบ้านตาขุนทั้ง 2 ท่าน ที่ให้การแนะนำและให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้อย่างดียิ่ง

ฝ่ายผู้ช่วยศาสตราจารย์สมชาย บุญคงมาก ผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ได้กล่าวขอบคุณปลัดอำเภอพระแสงและปลัดอำเภอบ้านตาขุน ที่ปฏิบัติภารกิจให้ความช่วยเหลือและบริการประชาชนให้เกิดสิทธิตามที่รัฐได้มอบให้ เป็นการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข”แก่พี่น้องชาวบ้านอย่างแท้จริง

“จุติ” ระบุงบประมาณของกระทรวง พม. คืองบของชีวิตมนุษย์  สำคัญกว่างบสร้างตึก

People Unity : “จุติ” ย้ำจะไม่ชะลอโครงการ เพราะทุกชีวิตสำคัญเท่าเทียมกัน รอไม่ได้

เมื่อวานนี้ (5 ส.ค. 2562) เวลา 12.00 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 8 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือร่วมกับสำนักงบประมาณ โดยมี นายภูมิรักษ์ ชมแสง รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สำหรับแนวทางการจัดสรรงบประมาณปี 2563 ในการขับเคลื่อนงานของกระทรวง พม. อย่างมีประสิทธิภาพ ว่า กระทรวง พม. มุ่งเน้นการจัดลำดับความสำคัญของงาน และผลลัพธ์ที่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายจะได้รับประโยชน์สูงสุด โดยคำนึงถึงความจำเป็นและความคุ้มค่าของโครงการต่างๆ ภายใต้การพัฒนาคนสู่ศตวรรษที่ 21

นายจุติ กล่าวย้ำถึงการบูรณาการจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการประหยัดงบประมาณ ลดความซ้ำซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานสำหรับผู้รับบริการให้มากที่สุด โดยผู้บริหารของแต่ละหน่วยงานจำเป็นต้องมีการประชุมทำแผนร่วมกันภายในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

ในส่วนของงบประมาณที่ไม่ได้รับจัดสรร ทางกระทรวง พม. ได้ชี้แจงต่อสำนักงบประมาณว่าเนื่องจากภารกิจที่มีมาก แต่งบประมาณที่ได้รับมีจำนวนจำกัด และโครงการใดที่มีการชะลอไม่ได้เป็นโครงการก่อสร้าง แต่เป็นชีวิตมนุษย์ความเป็นความตาย ความเจ็บป่วย และความสุขความทุกข์ ซึ่งไม่สามารถรอได้เหมือนตึกอาคาร โดยขอให้คำนึงถึงความเป็นมนุษย์มากกว่าวัตถุดิบหรือโครงสร้าง ในส่วนของกระทรวง พม. ยืนยันว่าทุกโครงการต้องมีความคุ้มค่าและมีความเร่งด่วนต่อสังคม เช่น การป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยเรียน จำเป็นต้องเร่งดำเนินการยับยั้ง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว จำเป็นต้องสร้างความมั่นคงในชีวิต ด้วยการสร้างอาชีพให้สามารถดูแลตนเองได้ และเปิดโอกาสให้กลับคืนสู่สังคมได้อย่างปกติสุข

“เรื่องของชีวิตมนุษย์ของทุกคนมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน แต่ความเร่งด่วนของปัญหาภายใต้ข้อจำกัดของงบประมาณ นับว่าเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในการดำเนินงาน ดังนั้น กระทรวง พม. จะมีการใช้เงินกองทุนฯที่มีอยู่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ถ้าไม่เพียงพอ ขอให้สำนักงบประมาณช่วยมาเติม และที่สำคัญ สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการแบ่งปัน คือ ใครที่มีมาก สบายแล้ว ก็ขอให้มาช่วยกันเฉลี่ยสุข เฉลี่ยทุกข์ ให้กับคนที่ยังไม่มี จะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้อีกเยอะเช่นกัน” นายจุติ กล่าวในตอนท้าย

สังคม : “จุติ” ระบุงบประมาณของกระทรวง พม. คืองบของชีวิตมนุษย์  สำคัญกว่างบสร้างตึก

People Unity : post 6 สิงหาคม 2562 เวลา 12.50 น.

กอช.ชวนผู้มีอาชีพอิสระและแรงงานนอกระบบออมเงินสะสมขั้นต่ำเพียง 50 บาท

People Unity : กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. ยกระดับอำนวยความสะดวกให้ประชาชนและสมาชิก กอช. ได้เข้าถึงการออมเพื่อเป็นหลักประกันด้านบำนาญมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สมัครสมาชิกและส่งเงินออมสะสมขั้นต่ำเพียง 50 บาท สูงสุด 13,200 บาท ได้ทุกวันในช่วงเวลา 08.30 – 20.30 น. ได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสกว่า 13,000 สาขาทั่วประเทศ เพียงตรวจสอบสิทธิก่อนการสมัครได้ที่แอปพลิเคชัน (Application) “กอช.” หรือ www.nsf.or.th

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. เปิดเผยว่า กอช. ยกระดับอำนวยความสะดวกให้ประชาชนและสมาชิก กอช. ถือเป็นภารกิจสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระและสมาชิก กอช. ได้เข้าถึงการออมเพื่อเป็นหลักประกันด้านบำนาญมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการออมกับ กอช. โดยสามารถสมัครสมาชิกและส่งเงินออมสะสมได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสกว่า 13,000 สาขาทั่วประเทศ ได้ทุกวันในช่วงเวลา 08.30 – 20.30 น. เพียงแสดงบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมเงินออมขั้นต่ำ 50 บาท สูงสุด 13,200 บาท เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้วจะได้รับใบเสร็จเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานในการทำรายการ ซึ่งมีค่าธรรมเนียมการทำรายการละ 5 บาท ทุกประเภทบริการ สำหรับเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่เป็นหน่วยรับสมัคร กอช. จะมีจุดสังเกตโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ที่มีโลโก้สัญลักษณ์ กอช. บริเวณหน้าประตูทางเข้า

สำหรับการดูยอดเงินออมสะสม สมาชิกสามารถดูผ่านแอปพลิเคชัน (Application) “กอช.” ได้ทั้งแอปสโตร์ (App Store) และเพลย์ สโตร์(Play Store) โดยกรอกข้อมูลชื่อบัญชีผู้ใช้ และรหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบ / จากนั้นเข้าสู่หมวด “บัญชีของฉัน” กดเพื่อดู “เงินออมของฉัน” / ข้อมูลจะแสดงเงินออมสะสม ผลประโยชน์เงินออมสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์เงินสมทบ / กดดูรายละเอียดเงินออมสะสม / เมื่อกดเข้าไปดู “เงินออมสะสม” จะปรากฏรายละเอียดการส่งเงิน

ทั้งนี้ประชาชนที่สนใจสามารถสมัครสมาชิกได้ที่ธนาคารของรัฐบาลทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ธ.ก.ส. ธอส. ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทยทุกสาขา เคาน์เตอร์เซอร์วิส เทสโก้โลตัส ตู้บุญเติมทั่วประเทศ รวมทั้งสำนักงานคลังจังหวัด สถาบันการเงินชุมชนที่เข้าร่วม และเครือข่ายรับสมัครทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนเงินออม โทร. 02-049-9000

สังคม : กอช.ชวนผู้มีอาชีพอิสระและแรงงานนอกระบบออมเงินสะสมขั้นต่ำเพียง 50 บาท

People Unity : post 5 สิงหาคม 2562 เวลา 11.30 น.

หวยรูปแบบใหม่! บอร์ดกองสลากเห็นชอบ “สลากรูปภาพ 12 นักษัตร” ระบุเล่นเพื่อเพลิดเพลิน

People Unity : บอร์ดกองสลาก มีมติเห็นชอบกับรูปแบบสลากรูปภาพ 12 นักษัตร หรือ picture 12 ตามที่คณะทำงานเสนอ

วันนี้ (31 กรกฎาคม 2562) เวลาประมาณ 15.00 น. ที่ห้องประชุมอเนกประสงค์ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายพชร อนันตศิลป์ ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วยนายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลในฐานะประธานคณะทำงานศึกษาผลิตภัณฑ์และเกมสลากรูปแบบอื่นๆ และพันตำรวจเอกบุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า จากการที่คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลได้มีมติแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาผลิตภัณฑ์และเกมสลากรูปแบบอื่นๆ โดยให้มีหน้าที่สรุปผลการศึกษาผลิตภัณฑ์ใหม่ตามพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562 จัดทำแผนปฏิบัติ(Action Plan) แนวทางการสื่อสาร และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยให้นำเสนอภายใน 30 วัน แล้วนำเสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลพิจารณานั้น

คณะทำงานได้รวบรวมข้อมูลสลากกินแบ่งและรูปแบบเกมสลากจากประเทศต่างๆที่มีอยู่ในปัจจุบัน มีอยู่ 5 รูปแบบ ได้แก่ (1) สลากแบบดั้งเดิม หรือสลากใบ (2) สลากแบบตัวเลข (3) สลากขูด (4) สลาก LOTTO และ (5) สลากกีฬา มาศึกษาและวิเคราะห์ โดยหลักการคือต้องเป็นไปตาม พระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562 และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักคือ เป็นทางเลือกเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ต้องการเสี่ยงโชคถูกกฎหมายนอกเหนือจากการซื้อสลากกินแบ่ง ในขณะเดียวกันต้องสามารถบรรเทาปัญหาสลากเกินราคา และมีผลข้างเคียงในการสกัดการเล่นหวยใต้ดิน

คณะทำงานฯ ได้ศึกษาและวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆ พบว่า รูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะสม มี 2 ประเภท คือสลากแบบตัวเลข และสลาก Lotto ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นเกมต่างๆ ดังนี้

(1) สลากตัวเลข 3 หลัก (Number3)

(2) สลากตัวเลข 4 หลัก (Number4)

(3) สลากรูปภาพ 12 นักษัตร (Picture12)

(4) สลาก LOTTO 6/43

ผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 แบบ มีราคาจำหน่ายรายการละ 50 บาท เป็นการออกรางวัลใหม่ ไม่อิงผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นการจำหน่ายผ่านออนไลน์หรือแอพพลิเคชั่น หรือระบบใดๆที่สามารถลงทะเบียนแสดงตัวตนของผู้ซื้อได้เท่านั้น ในขณะเดียวกันก็มีวิธีการเล่น และข้อดี-ข้อด้อยต่างกันออกไป โดยสลากตัวเลข 3 หลัก (Number3) ซื้อ 1 รายการมีโอกาสถูกรางวัล 2 แบบ คือ 3 ตัวตรง และ 3 ตัวสลับหลัก ในส่วนของสลากตัวเลข 4 หลัก (Number4) มีโอกาสถูกรางวัลเช่นเดียวกับสลากตัวเลข 3 หลัก ข้อดีของสลากแบบตัวเลข 3 หลัก หรือแบบตัวเลข 4 หลัก คือ สามารถเลือกหมายเลข หรือเลือกภาพตามความต้องการได้ ตอบโจทย์ปัญหาของสลากใบ ในขณะที่มีข้อด้อยคือ เป็นที่รู้จักแพร่หลาย เรียนรู้ง่าย คนไทยคุ้นเคย อาจสุ่มเสี่ยงให้ถูกมองว่าเป็นการมอมเมาได้ สำหรับสลากแบบรูปภาพ 12 นักษัตร (Picture12) มี 4 หลัก วิธีเล่นให้เลือก 1 ภาพต่อ 1 หลัก จาก 12 ภาพนักษัตร มีรางวัลตรงและโต๊ด ข้อดีของสลากประเภทนี้คือ สามารถเลือกเลขได้ตามความต้องการ ไม่มีปัญหาเรื่องตัวเลขที่ไม่ได้รับความนิยม หรือเลขเน่า อีกทั้งเป็นเกมใหม่ ที่เน้นการเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน ไม่อิงผลการออกรางวัลสลากแบบเดิม ในขณะที่ข้อด้อยคือไม่มีรางวัลแจ๊คพอต อาจไม่จูงใจให้มีผู้ซื้อมากพอ ในส่วนของเกมสลาก Lotto 6/43 ราคาจำหน่ายรายการละ 50 บาท เป็นการเลือกชุดตัวเลข 1 ชุด มี 6 ตัวเลือกจาก ตัวเลขทั้งหมด 43 ตัว ผู้ซื้อสามารถเลือกเลขได้ตามความต้องการเป็นเกมสากลที่มีจำหน่ายทั่วโลก แต่ก็ยังมีข้อด้อยคือเป็นเกมที่มีความซับซ้อน ไม่เคยมีมาก่อน แม้จะเป็นเกมที่มีความเป็นสากล และได้รับความนิยมในภูมิภาคต่างๆทั่วโลก

คณะทำงานฯ ได้มีความเห็นเสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลว่ารูปแบบสลากรูปภาพ 12 นักษัตรหรือ picture 12 มีความเหมาะสมกับสภาพสังคมไทยและสอดคล้องกับพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สำหรับการออกรางวัลสลากรูปภาพนี้ จะออกรางวัลในวันที่ 1 และ 16 แต่เป็นการออกรางวัลต่างหาก ไม่ใช้ผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล และมีการจำกัดอายุและความสามารถในการซื้อของผู้ซื้อด้วยการคัดกรองผ่านระบบแอพลิเคชั่นที่จะนำมาใช้ในการจำหน่าย ทั้งนี้ จะคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นสำคัญ แต่ยังคงให้ความเป็นธรรมและเปิดโอกาสให้ผู้ค้ารายย่อยและผู้พิการเข้าถึงการจำหน่ายสลากในรูปแบบใหม่ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ควรนำประเภทและรูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่นำเสนอ หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นเกี่ยวกับการดำเนินการทั้งหมด พร้อมทั้งจัดทำร่างประกาศ/ร่างกฎกระทรวง ให้มีความสอดคล้องและเป็นไปตามพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จากนั้น ให้รับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และศึกษาผลกระทบทางสังคม ตามมาตรา 13(7/1) เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการสลากฯพิจารณาอีกครั้ง หากได้รับความเห็นชอบ จะได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

จากการประชุมในวันนี้ คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มีมติเห็นชอบกับรูปแบบสลากรูปภาพ 12 นักษัตรหรือ picture 12 ตามที่คณะทำงานเสนอ และเพื่อให้เกิดความรอบคอบและเป็นไปตามกฎหมายจึงให้สำนักงานฯหารือกฤษฎีกา พร้อมจัดทำร่างประกาศ/ร่างกฎกระทรวง แล้วนำเสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลพิจารณา หลังจากนั้น ให้นำข้อมูลดังกล่าวไปดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและศึกษาผลกระทบทางสังคม เสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ความเห็นชอบอีกครั้ง ก่อนจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป

สังคม : หวยรูปแบบใหม่! บอร์ดกองสลากเคาะเห็นชอบ “สลากรูปภาพ 12 นักษัตร” ระบุเน้นเล่นเพื่อเพลิดเพลิน

People Unity : post 31 กรกฎาคม 2562 เวลา 22.30 น.

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแถลงโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชนปี 62

People Unity : สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จัดแถลงข่าวโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน ปี 2562

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2562 ณ ศาลาสายลมจอย ตลาดคลองลัดมะยม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร นายธนวรรธน์ พลวิชัย ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน ปี 2562 ว่า วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ สร้างงานสร้างอาชีพให้กับสมาชิกในชุมชนที่มีสมาชิกหลากหลายทั้งผู้พิการ ผู้สูงอายุ เด็กและเยาวชน โดยสำนักงานสลากฯทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ด้วยการนำความรู้ด้านการตลาด และวิชาการต่างๆที่เหมาะสมกับแต่ละชุมชน

สำหรับการดำเนินการนั้น ได้มีการเปิดรับสมัครชุมชนที่มีเอกลักษณ์ของภูมิปัญญาท้องถิ่น มีศักยภาพการบริหารจัดการชุมชน การผลิตสินค้าและบริการของชุมชน และมีสภาพแวดล้อม วิถีชีวิตที่เอื้อต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ชุมชนใกล้เคียงสำนักงานฯ (สนามบินน้ำ) ชุมชนใกล้เคียงสำนักงาน (สำนักการพิมพ์ เอกมัย) และชุมชนในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งมีชุมชนที่สนใจส่งใบสมัครเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 31 ชุมชน ได้ทำการคัดเลือกชุมชนที่มีความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการ 7 ชุมชน ได้แก่

⁃ ชุมชนใกล้เคียงสำนักงานฯ (สนามบินน้ำ) ได้แก่ ชุมชนคนบางกรวย (ปลายบาง) จังหวัดนนทบุรี

⁃ ชุมชนใกล้เคียงสำนักงาน (สำนักการพิมพ์ เอกมัย) ได้แก่ ชุมชนชุมกลุ่มคลองพระโขนง กรุงเทพมหานคร

⁃ ชุมชนตลาดบางหลวง ร.ศ. 122 จังหวัดนครปฐม

⁃ ชุมชนย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร

⁃ ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ตลาดริมน้ำเมืองแพรก จังหวัดชัยนาท

⁃ ชุมชนพิกุลทองสามัคคี จังหวัดสิงห์บุรี

⁃ ชุมชนพุน้ำร้อน จังหวัดสุพรรณบุรี

หลังจากนี้ จะส่งทีมผู้เชี่ยวชาญลงไปในพื้นที่เพื่อวิเคราะห์จัดทำแผนการพัฒนาชุมชน ทั้ง 7 ชุมชน และดำเนินการตามแผนที่วางไว้ โดยจะจัดทำโลโก้รวมถึงสโลแกนของชุมชน จัดทำป้ายบอกทาง จัดทำป้ายบอกเส้นทางท่องเที่ยวในชุมชน จัดทำแผ่นผับประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวชุมชน ฝึกการประชาสัมพันธ์ข่าวสารของชุมชนผ่านสื่อออนไลน์ อาทิ FACEBOOK และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ของสินค้าชุมชน รวมถึงการพัฒนาทักษะคนในชุมชนให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นได้ด้วยตนเอง พร้อมทั้ง  นำเรื่องราวการพัฒนาชุมชนของทั้ง 7 ชุมชน มาผลิตเป็นรายการโทรทัศน์ชื่อ “รายการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน” และเผยแพร่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องอมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 14.00 -14.30 น เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2562 นี้ และสามารถติดตามความคืบหน้าในการดำเนินโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน ได้ที่ facebook สลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน

โฆษกคณะกรรมการสลากฯ กล่าวในตอนท้ายว่า โครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อสังคมนี้ จะสามารถเติมเต็มความรู้ด้านวิชาการระหว่างหน่วยงานของรัฐและชุมชนซึ่งมีทรัพยากร และความมุ่งมั่น ตลอดจนสร้างการรับรู้ในศักยภาพของแต่ละชุมชน และต่อยอดให้ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลให้สมาชิกมีการงานอาชีพ มีรายได้ มีความสุข จากความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของชุมชน สามารถแก้ไขปัญหาสังคม ไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพติดหรือการเล่นพนันออนไลน์ในเด็กและเยาวชน รวมถึงการพนันอื่นๆ  ซึ่งสำนักงานสลากฯ มีความแน่วแน่ในการไม่สนับสนุนให้เล่นการพนันทุกประเภทอยู่แล้ว

สังคม : สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแถลงโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชนปี 62

People unity : post 9 กรกฎาคม 2562 เวลา 21.00 น.

คกก.นโยบายฯต่างด้าว เห็นชอบให้แรงงาน 3 สัญชาติกว่า 2 ล้านคน ทำงานต่อได้อีก 2 ปี

People Unity : ที่ประชุม คกก.นโยบายฯคนต่างด้าว เห็นชอบให้ต่างด้าว 3 สัญชาติกว่า 2 ล้านคน ที่ใบอนุญาตทำงานจะสิ้นสุดในปี 62 และ 63 และการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่หมดอายุ ดำเนินการนำเข้าตามเอ็มโอยู โดยไม่ต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อให้สามารถทำงานอยู่ในราชอาณาจักรได้อีก 2 ปี จนถึง 31 มี.ค.65

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2562 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ครั้งที่ 1/2562 ณ ห้องประชุม ศ.นิคม จันทรวิทุร ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยมี นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ ซึ่งภายหลังการประชุม นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา กลุ่มที่ใบอนุญาตทำงานและการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่หมดอายุ (ไม่รวมถึงกลุ่มที่นำเข้าตามระบบเอ็มโอยู) และกลุ่มที่ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางที่ยังมีอายุเหลืออยู่ในวันที่ไปยื่นขออนุญาตเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว สามารถดำเนินการในลักษณะนำเข้าตามระบบเอ็มโอยู โดยไม่ต้องเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร และอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน 2 ปี โดยประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเพื่อขออยู่ต่อได้ครั้งละไม่เกิน 1 ปี

ส่วนการอนุญาตทำงานจะอนุญาตไม่เกิน 2 ปี โดยแยกเป็น 2 ห้วงเวลา คือ 1.ใบอนุญาตทำงานหมดอายุก่อนวันที่ 31 มี.ค.63 อนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ 30 ก.ย.64 และ 2.ใบอนุญาตทำงานหมดอายุตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.62 เป็นต้นไป อนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ 31 มี.ค.65 สำหรับแรงงานกลุ่มอื่นหรือแรงงานที่ไม่ประสงค์จะดำเนินการตามแนวทางนี้ เมื่อสิ้นสุดการอนุญาตทำงานแล้วต้องเดินทางกลับประเทศ หากประสงค์จะทำงานในประเทศไทยต้องเดินทางเข้ามาทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมายตามระบบเอ็มโอยูเท่านั้น

นายสุทธิกล่าวต่อว่า มีแรงงานต่างด้าวจำนวน 2,056,467 คน ที่จะต้องดำเนินการตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.62 หรือภายใน 15 วัน นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการดำเนินการจนถึงวันที่ 31 มี.ค.62 โดยแรงงานต่างด้าวสามารถยื่นคำขออยู่ต่อในราชอาณาจักรกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ก่อนการอนุญาตสิ้นสุด 90 วัน ณ ที่ตั้งสำนักงานของแต่ละหน่วยงานในลักษณะศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (OSS) สำหรับกรุงเทพมหานครมอบหมายให้อธิบดีกรมการจัดหางานเป็นผู้พิจารณา ส่วนภูมิภาคมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้พิจารณา นอกจากนี้ ให้กระทรวงแรงงานนำแนวทางการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าวปี 2562-2563 ตามมติที่ประชุม เสนอ ครม.พิจารณาต่อไป

สังคม : คกก.นโยบายฯต่างด้าว เห็นชอบให้แรงงาน 3 สัญชาติกว่า 2 ล้านคน ทำงานต่อได้อีก 2 ปี

People unity : post 8 กรกฎาคม 2562 เวลา 22.30 น.

 

ศุลกากรเอาจริงส่งดำเนินคดีทุกรายลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์-เศษพลาสติก

People Unity : ศุลกากร เผยมาตรการเร่งด่วน แก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติก

4 กรกฎาคม 2562 : นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าวเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาการลักลอบหรือหลีกเลี่ยงการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติกที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขอนามัย

นายกฤษฎา กล่าวว่า  จากเดิมจีนเป็นประเทศที่นำเข้าเศษขยะรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยเฉพาะเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์ (พิกัด 84 และ 85 ที่มีการกำหนดรหัสสถิติเป็น 800 และ 899) และเศษพลาสติก (พิกัด 3915) ต่อมาจีนเริ่มมีนโยบายในการห้ามการนำเข้าเศษขยะหลายชนิด ประกอบกับผลการประชุมสนธิสัญญาบาร์เซล (Basel Convention) ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีมติให้เพิ่มความเข้มงวดของชนิดขยะที่สามารถนำเข้าส่งออกระหว่างกันได้ รวมทั้งต้องได้รับความยินยอมในการนำเข้าจากประเทศปลายทางด้วย ส่งผลให้ประเทศอุตสาหกรรม เช่น ประเทศญี่ปุ่น แคนาดา สหรัฐอเมริกา และประเทศในทวีปยุโรป เปลี่ยนจุดหมายการส่งออกเศษขยะมายังประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แทน ซึ่งทำให้มีการนำเข้าเศษขยะมากเกินความจำเป็น ส่งผลให้ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มมีมาตรการตอบโต้การนำเข้าเศษขยะ โดยเฉพาะเศษพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์ไปในทิศทางเดียวกัน คือ ห้ามหรือลดการนำเข้าเศษพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์

สำหรับกรณีขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยนั้น ผู้นำเข้าจะต้องได้รับอนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมก่อนการนำเข้า แต่เนื่องจากคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ที่มี พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2561 มีมติให้ระงับการอนุญาตนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์จากโรงงานที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามอนุสัญญาบาเซล ทำให้เหลือผู้ได้รับอนุญาตนำเข้าเพียง 1 รายเท่านั้น นอกจากนี้ การประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2562 มีมติเห็นชอบมาตรการห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้แล้วเข้ามาในประเทศ โดยได้อนุมัติร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดชนิดและแหล่งกำเนิดวัตถุดิบที่จะทำมาใช้ในโรงงาน พ.ศ. …. เพื่อกำหนดนิยามและข้อห้ามไม่ให้โรงงานใช้ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตของโรงงาน พร้อมมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เร่งรัดการออกประกาศห้ามนำเข้าซึ่งสินค้าอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้แล้วที่จะนำมาถอดแยก เพื่อนำโลหะกลับมาใช้ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา มีการลดโควตาการนำเข้าของเศษพลาสติกจากหลายแสนตัน เหลือเพียง 70,000 ตัน เท่านั้น จากข้อมูลสถิติการนำเข้าของขยะอิเล็กทรอนิกส์ และการนำเข้าเศษพลาสติก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 จนถึงปัจจุบันของประเทศไทย พบว่ามีการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เริ่มมีแนวโน้มลดลงในปี พ.ศ. 2562 เนื่องจากมีการควบคุมการนำเข้าอย่างเข้มงวดจากภาครัฐ

อย่างไรก็ดี คาดว่าความต้องการขยะอิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศยังคงมีอยู่ และอาจมีการลักลอบหรือหลีกเลี่ยงการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์อยู่ ซึ่งจากข้อเท็จจริงดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติกเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขอนามัย และมีแนวโน้มในการนำเข้าโดยไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ จำเป็นต้องมีการกำหนดมาตรการแก้ไขอย่างเร่งด่วน กรมศุลกากรจึงมีมาตรการในการแก้ไขปัญหา ดังนี้

1.กรมศุลกากรได้มีการวิเคราะห์สถานการณ์เกี่ยวกับขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติก ดำเนินการติดตาม กำหนดเป้าหมายต้องสงสัยที่จะกระทำความผิดทางศุลกากร และเข้าตรวจสอบเพื่อติดตามและขยายผลอย่างต่อเนื่อง

2.สั่งการให้ กอง สำนักงาน และด่านศุลกากรทุกแห่ง เข้มงวดในการตรวจสอบของประเภทขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติก หรือของที่มีการสำแดงพิกัด หรือมีรูปลักษณ์ ใกล้เคียงกับขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติกเพื่อป้องกันการลักลอบหรือหลีกเลี่ยงทางศุลกากร

3.กรณีที่ตรวจพบการกระทำความผิดทางศุลกากรที่เกี่ยวกับของประเภทขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติก กรมศุลกากรจะดำเนินการส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป โดยไม่เปรียบเทียบงดการฟ้องร้องในชั้นศุลกากร

ทั้งนี้ ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ถึง 2562 กรมศุลกากรสามารถจับกุมคดีลักลอบและหลีกเลี่ยงนำเข้าเศษพลาสติกได้ทั้งสิ้น 103 คดี คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 17.5 ล้านบาท (น้ำหนักรวม 4,043 ตัน) โดยในปีงบประมาณ 2561 จับกุมได้ถึง 86 คดี คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 14.5 ล้านบาท (น้ำหนักรวม 3,664 ตัน) และในปีงบประมาณ 2562 (ตุลาคม 2561 – พฤษภาคม 2562) สามารถจับกุมได้แล้วถึง 17 คดี คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3 ล้านบาท (น้ำหนักรวม 379 ตัน)

สังคม : ศุลกากรเอาจริงส่งดำเนินคดีทุกรายลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์-เศษพลาสติก

People Unity : post 5 กรกฎาคม 2562 เวลา 10.20 น.

ก.สาธารณสุขชู “อภัยภูเบศร โมเดล” ต้นแบบการใช้กัญชาทางการแพทย์

People Unity : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลอภัยภูเบศร โครงการการผลิตสารสกัดน้ำมันกัญชาภายใต้การรักษาโรคกรณีจำเป็นสำหรับผู้ป่วย “กัญชา อภัยภูเบศร โมเดล” ร่วมกับภาครัฐและเอกชนในการปลูก การผลิต และการใช้รักษาผู้ป่วย เป็นต้นแบบกัญชาทางการแพทย์ เน้นคุณภาพ ความปลอดภัย ตามมาตรฐานทางการแพทย์ ประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์และเหมาะสมกับคนไทยมากที่สุด

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2562 ที่โรงพยาบาลอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้บริหารกระทรวงฯตรวจเยี่ยมโครงการการผลิตสารสกัดน้ำมันกัญชาภายใต้การรักษาโรคกรณีจำเป็นสำหรับผู้ป่วย “กัญชา อภัยภูเบศร โมเดล” โดยกล่าวว่า การนำสารสกัดกัญชามาใช้นั้น ต้องเน้นมาตรฐาน คุณภาพ ความปลอดภัยครบวงจร ตั้งแต่การปลูก การผลิต และการใช้ ซึ่งจะต้องผ่านการตรวจมาตรฐานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่า มีความปลอดภัย ไม่มียาฆ่าแมลง โลหะหนัก สารเคมีตกค้าง และการจ่ายสารสกัดกัญชาให้ผู้ป่วยจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางการแพทย์ ขณะนี้อยู่ในช่วงการทดลองวิจัย ติดตามผล และวางระบบ เพื่อประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์และเหมาะสมกับคนไทยมากที่สุด

ด้าน นายแพทย์นำพล แดนพิพัฒน์  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้ดำเนินการ “กัญชา อภัยภูเบศร โมเดล” ครบวงจร ตั้งแต่การปลูก การผลิต และการใช้ โดยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดหาสารสกัดกัญชาที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาภายใต้การรักษาที่มีมาตรฐานทางการแพทย์ ซึ่งจะมีการคัดกรองผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตามเกณฑ์ที่กำหนด  ตรวจร่างกายและการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆตามความจำเป็น จ่ายยาและให้คำแนะนำแบบเฉพาะราย โดยเภสัชกรผู้ผ่านการอบรม โทรศัพท์ติดตามหลังการใช้ภายใน 24 ชั่วโมง ทุกวันใน 1 สัปดาห์แรก ทุกสัปดาห์ในเดือนแรก และนัดผู้ป่วยกลับมาติดตามทุก 1 เดือน เพื่อประเมินความปลอดภัยและประสิทธิผล

เภสัชกรหญิง ดร.สุภาภร ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า  ในระยะแรก เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2562 ได้คัดกรองและรักษาผู้ป่วยจำนวน 10 ราย โดยใช้สารสกัดกัญชาที่ได้รับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในผู้ป่วยพาร์กินสัน โรคลมชัก อัลไซเมอร์  และมะเร็งลำไส้ใหญ่กระจายไปเยื่อบุช่องท้อง จากการติดตามความปลอดภัยและประสิทธิผลเบื้องต้นใน 24 ชั่วโมง ไม่มีรายใดเกิดผลข้างเคียง และผู้ป่วยบางรายเริ่มเห็นผล เช่น อาการลิ้นคับปาก พูดได้ชัดมากขึ้น บางรายเดินได้มากขึ้น สำหรับระยะที่ 2 ช่วงเดือนกันยายน 2562 จะใช้น้ำมันกัญชาที่ได้จากการการสกัดของกลางของ ปปส. ที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานไทยและสากล ประมาณ 100,000 ขวด นำมาใช้ในการรักษาอาการปวดปลายประสาทที่ไม่ตอบสนองในการรักษา และเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็งระยะที่ 4  โดยจะขยายไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ และในระยะที่ 3 เดือนพฤศจิกายน 2562 จะสกัดน้ำมันกัญชาจากต้นกัญชา 16 ต้นที่ปลูกโดยวิสาหกิจชุมชนสมุนไพร เกษตรอินทรีย์บ้านดงบัง เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2562 คาดว่าจะเก็บเกี่ยวได้ในเดือนตุลาคม และได้สารสกัดกัญชาประมาณ 900 ขวดในเดือนพฤศจิกายน 2562 พร้อมเป็นพี่เลี้ยงให้สถานพยาบาลและวิสาหกิจชุมชนเกษตรที่มีความสนใจต่อไป

เภสัชกรหญิง ดร.สุภาภรกล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้เปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์ ทุกวันจันทร์ที่ 4 ของเดือน เวลา 13.00 น- 16.00 น. ให้บริการผู้ป่วยรักษาแผนปัจจุบันไม่ได้ผล โดยขอให้ผู้ป่วยโทรปรึกษาก่อนเดินทางมารับบริการ ที่หมายเลข 037 211289 หรือ 037 211088 ต่อ 0 ในวันและเวลาราชการ เพื่อนัดหมายวันรับบริการ

สังคม : ก.สาธารณสุขชู “อภัยภูเบศร โมเดล” ต้นแบบการใช้กัญชาทางการแพทย์

People Unity : post 1 กรกฎาคม 2562 เวลา 01.12 น.

 

Verified by ExactMetrics