วันที่ 12 ธันวาคม 2024

รัฐบาลปฏิเสธไม่ได้ออกข้อห้าม 9 ข้อในช่วงวันสงกรานต์

People unity news online : 8 เมษายน 2560 โฆษกรัฐบาลออกมาปฏิเสธข่าวสำนักนายกรัฐมนตรีออกข้อห้าม 9 ข้อที่ห้ามเด็ดขาดในวันสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 5-18 เม.ย.นี้ ชี้มีคนบางกลุ่มพยายามลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล

พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีสื่อออนไลน์นำเสนอข่าวว่า สำนักนายกรัฐมนตรีแจ้ง 9 ข้อห้ามที่ห้ามเด็ดขาดในวันสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 5-18 เม.ย.นี้ เช่น ห้ามแต่งกายโป๊รัดรูป เน้นการแต่งกายด้วยผ้าไทย ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่จัดงาน ห้ามเล่นน้ำที่มีสิ่งเจือปน ห้ามใช้ปืนฉีดน้ำที่มีแรงดันสูง ฯลฯ โดยหากฝ่าฝืนจะมีโทษหนัก

“สำนักนายกรัฐมนตรีไม่ได้ออกระเบียบดังกล่าวแต่อย่างใด โดยหากพิจารณารายละเอียดเป็นข้อๆ แล้วจะพบว่า แต่ละข้อเป็นแนวทางที่คณะรัฐมนตรีเคยขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้ร่วมกันรักษาประเพณีไทยด้วยการเล่นน้ำสงกรานต์ตามวิถีไทย เพื่อส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวในปีก่อนๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ดีงาม แต่มีความพยายามของคนบางกลุ่มที่ต้องการลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลด้วยการผนวกเรื่องการห้ามนั่งท้ายรถกระบะและการเล่นน้ำบนถนนหรือสาดน้ำข้างทางเข้าไปด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดคิดว่า รัฐบาลได้ออกมาตรการเข้มงวดซ้ำเติมประชาชน พร้อมกับมีบทลงโทษหนัก เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งๆที่ความเป็นจริงถือเป็นเจตนาดี แต่กลับถูกมองเป็นเจตนาร้าย”

อย่างไรก็ตาม อยากให้พี่น้องประชาชนเลือกนำข้อแนะนำที่ดีไปปฏิบัติ เพื่อรักษาคุณค่าของวัฒนธรรมประเพณีที่งดงามของไทย ให้คนในชาติเกิดความภาคภูมิใจและเป็นที่ชื่นชมของนักท่องเที่ยว รวมทั้งขอความร่วมมือไม่แชร์หรือส่งต่อข่าวที่บิดเบือน ซึ่งอาจเป็นชนวนของความขัดแย้งระหว่างผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยขอให้ช่วยกันนำข้อเท็จจริงไปอธิบายเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในสังคม

People unity news online : post 8 เมษายน 2560 เวลา 22.03 น.

รู้ยัง! ตั้งแต่ 1 เม.ย.เจ็บป่วยฉุกเฉินเข้า รพ.รัฐ-เอกชน 72 ชม.แรกไม่เสียเงิน

People unity news online :  เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2560 พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (1 เมษายน 2560) เป็นวันแรกที่โครงการเจ็บป่วยวิกฤตฉุกเฉิน มีสิทธิทุกที่ หรือ ยูเซป เริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนที่อยู่ใกล้ที่สุด โดยไม่ต้องจ่ายเงินใน 72 ชม.แรก หลังจากที่ ครม.ได้อนุมัติหลักการเรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการส่งผู้ป่วยฉุกเฉินไปแล้ว และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกประกาศ 3 ฉบับให้โรงพยาบาลทุกแห่งต้องปฏิบัติตาม

“ท่านนายกฯ ให้ความสำคัญกับโครงการนี้อย่างมาก เพราะเป็นสิทธิพึงมีพึงได้ขั้นพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนต้องได้รับจากรัฐ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยเน้นย้ำให้โรงพยาบาลทุกแห่งศึกษาข้อมูลตามประกาศที่ สธ.กำหนด และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งระบุด้วยว่า รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างจริงจังและเป็นระบบ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น สงกรานต์ แต่หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นจริง ก็จะต้องดูแลช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่”

สำหรับกลุ่มอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตที่ใช้สิทธิยูเซปได้มี 6 กลุ่ม คือ 1.หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ 2.หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรง หายใจติดขัดมีเสียงดัง 3.ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น หรือมีอาการชักร่วม 4.เจ็บหน้าอกเฉียบพลันรุนแรง 5.แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัดแบบปัจจุบันทันด่วน หรือชักต่อเนื่องไม่หยุด 6.มีอาการอื่นร่วมที่มีผลต่อการหายใจ ระบบการไหลเวียนโลหิต และระบบสมองที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต โดยหากติดต่อรับส่งผู้ป่วยผ่าน 1669 จะช่วยให้เกิดการคัดกรองที่ถูกต้องแต่แรก

ทั้งนี้ เมื่อโรงพยาบาลแต่ละแห่งรับตัวผู้ป่วยฉุกเฉินแล้วจะต้องดูแลรักษา เพื่อให้พ้นจากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพและขีดความสามารถของตน โดยไม่มีเงื่อนไขการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลในระยะ 72 ชม. แต่ให้เรียกเก็บจากกรมธรรม์ประกันภัย หรือกองทุนที่ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลตามกฎหมาย เช่น กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนประกันสังคม กรมบัญชีกลาง ตามบัญชีและค่าอัตราค่าใช้จ่ายที่ภาครัฐกำหนด เช่น ค่าห้องผ่าตัดใหญ่ ชม.ละ 2,400 บาท ค่าอัตราซาวด์ครั้งละ 1,150 บาท ค่า MRI สมองครั้งละ 8,000 บาท ค่าลิ้นหัวใจเทียมอันละ 29,000 บาท ค่าสายยางและปอดเทียมชุดละ 80,000 บาท เป็นต้น

ส่วนการรักษาพยาบาลหลัง 72 ชม.นั้น ให้โรงพยาบาลที่รับตัวผู้ป่วยฉุกเฉินส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยมีสิทธิรับการรักษาอยู่ ซึ่งจะเข้าสู่ระบบปกติ แต่หากผู้ป่วยประสงค์จะรักษาต่อในโรงพยาบาลแห่งนั้นก็จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ทั้งนี้ ประชาชนที่มีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์ประสานงานคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต โทร 0 2872 1669 หรือสายด่วน สปสช.1330

People unity news online : post 3 เมษายน 2560 เวลา 11.03 น.

เสนอชื่อสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ

People unity news online :  เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2560 พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) ครั้งที่ 2/2560 ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี ชั้น 2 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งสรุปสาระสำคัญของการประชุมดังนี้

ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการสรรหาผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม มี นายบรรลุ ศิริพานิช เป็นประธานอนุกรรมการ ซึ่งมีหน้าที่ในการกำหนดหลักเกณฑ์ในการสรรหา และพิจารณาคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และได้เสนอรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกต่อคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ เพื่อให้ความเห็นชอบในการประกาศสดุดีเกียรติคุณยกย่องเป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2560 ซึ่งได้มีการคัดเลือกผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่างดีในสังคม เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา และได้มีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ ให้เสนอชื่อสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ประยุทธ์ ปยุตโต (ป.อ. ปยุต.โต) เป็นผู้สูงอายุแห่งชาติประจำปี 2560

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้รับทราบการจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ภายใต้แนวคิด “สูงวัย สูงคุณค่า ร่วมพัฒนาประเทศไทยสู่ประชารัฐ” ในวันจันทร์ที่ 10 เมษายน 2560  ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมกันผลักดัน ส่งเสริม และยกย่องเชิดชูผู้สูงอายุผู้มีประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ ด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม

People unity news online : post 30 มีนาคม 2560 เวลา 00.18 น.

สุดยอดเกียรติยศตำรวจไทย

People unity news online :  วันนี้ (29 มีนาคม 2560) พล.ต.ต.สุภธัช คำดี รอง ผบช.สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (บร.) อดีตรองจเรตำรวจ หน.ชุดสอบสวนตรวจสอบระบบงานของหน่วยงานภาครัฐ ได้รับเกียรติเข้ารับรางวัลสุดยอดเกียรติยศตำรวจไทย สาขาสอบสวน จัดโดย สมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่สร้างผลงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ

People unity news online : post 29 มีนาคม 2560 เวลา 23.58 น.

ขีดเส้น 31 มี.ค. หน่วยงานรัฐ-เอกชนต้องจ้างคนพิการทำงาน

People unity news online : เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2560 พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดูแลคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยเฉพาะเรื่องการจ้างงานให้คนพิการมีโอกาสประกอบอาชีพสร้างรายได้อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกับคนอื่น ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ

“ในปีนี้รัฐบาลตั้งเป้าส่งเสริมให้คนพิการได้ประกอบอาชีพเพิ่มขึ้นอีก 10,000 คน จากเมื่อปีที่แล้วคนพิการวัยทำงานมีงานทำแล้ว 192,393 คน จากทั้งหมด 799,342 คน โดยจะรณรงค์และบังคับใช้กฎหมายการจ้างงานคนพิการอย่างจริงจัง เพื่อให้ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกันสนับสนุนการสร้างอาชีพให้แก่คนพิการ

ทั้งนี้ แต่ละหน่วยงานมี 3 ทางเลือก ได้แก่ 1) จ้างงานคนพิการในสัดส่วนลูกจ้างคนพิการ 1 คน ต่อลูกจ้าง 100 คน หรือ 2) ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือ 3) ให้สัมปทานแก่คนพิการเข้าไปขายสินค้าและบริการในพื้นที่ของหน่วยงานได้ โดยทางเลือกที่ 3 นี้ ขอให้หน่วยงานหรือองค์กรแจ้งความจำนงกับทางราชการเพื่อบันทึกเป็นข้อมูลไว้ โดยหากอยู่ในเขต กทม.ให้แจ้งต่อกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ส่วนในภูมิภาคแจ้งที่ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ภายใน 31 มี.ค.60 นี้”

สำหรับคนพิการที่กำลังมองหางานสามารถดูข้อมูลหน่วยงานที่เปิดรับสมัครงาน หรือหน่วยงานที่เปิดพื้นที่ให้คนพิการเข้าไปประกอบอาชีพได้ที่ www.ตลาดงานคนพิการ.com และหากต้องการร้องเรียนหรือขอความช่วยเหลือเรื่องการจ้างงานสามารถติดต่อศูนย์บริการคนพิการ โทร.0 2354 4542 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน 1694

“ท่านนายกฯ เน้นย้ำให้หน่วยงานของรัฐไปสำรวจว่าพื้นที่ของตนได้ปรับปรุงให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่คนพิการเพียงพอแล้วหรือยัง เช่น ทางเดิน ทางขึ้นอาคาร ห้องน้ำ ลานจอดรถ ฯลฯ ส่วนสถานที่สาธารณะ แหล่งท่องเที่ยวให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการในลักษณะเดียวกัน เพื่อส่งเสริมให้คนพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีเช่นเดียวกับคนปกติทั่วไป”

People unity news online : post 27 มีนาคม 2560 เวลา 09.55 น.

Verified by ExactMetrics